รู้จักประวัติของ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานไทยยอดฮิต ที่ผสมผสานความหวาน หอม และมันได้อย่างลงตัว จากกระแสข้าวเหนียวมะม่วงฟีเว่อร์ ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลของมะม่วง ทำให้นักกินทั้งหลายไม่พลาดที่จะลองลิ้มชิมรสข้าวเหนียวมะม่วงแสนอร่อย และหลายคนก็เกิดความสงสัยว่าประวัติศาสตร์ของขนมไทยขึ้นชื่อที่อยู่คู่กับครัวไทยมาช้านานอย่างข้าวเหนียวมะม่วงนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไร วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมีข้อมูลบางส่วนมาแบ่งปันกันค่ะ ถ้าจะให้อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์และพงศาวดารไทยนั้น ไม่มีบันทึกชี้ชัดว่าข้าวเหนียวมะม่วงถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคสมัยใด แต่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็น “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ปรากฏในรัชกาลที่ 2 ของกรุงรัตนโกสินทร์ มีความตอนหนึ่งระบุว่า ซึ่งพูดถึงทุเรียนพันธุ์หมอนทองกับมะม่วงพันธุ์อกร่อง และความอีกตอนหนึ่งระบุว่า ซึ่งพูดถึงข้าวเหนียวที่คลุกเคล้ากับน้ำกะทิ โดยยังไม่มีการพูดถึงว่ามีการนำทั้งสองอย่างนี้มากินด้วยกัน ต่อเนื่องมาในรัชกาลที่ 5 จึงได้เริ่มมีการเอ่ยถึงเมนูมะม่วงกินคู่กับข้าวเหนียวมูน (ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานยืนยันการปรากฏตัวของข้าวเหนียวมะม่วงอย่างเป็นทางการ) โดยมะม่วงที่เป็นสูตรดั้งเดิมในสมัยก่อนจะนิยมใช้พันธุ์อกร่องที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และข้าวเหนียวจะเลือกใช้พันธุ์เขี้ยวงู ที่ตัวเมล็ดมีลักษณะเรียวยาว นำมาคลุกเคล้ากับน้ำกะทิ ราดด้วยน้ำกะทิปรุงรสเข้มข้น ใส่เกลือและน้ำตาลทรายขาวเพิ่มเติม โรยหน้าด้วยถั่วทองทอดหรือถั่วเขียวซีกทอดเพิ่มความกรุบกรอบ จากนั้นเมนู ข้าวเหนียวมะม่วง ก็กลายมาเป็นของหวานที่คนไทยนิยมกินเพื่อความสดชื่นคลายร้อนมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยรสชาติหอม หวาน และมัน ผสมกันอย่างลงตัว ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินั่นเอง ปัจจุบัน มะม่วงสายพันธุ์อกร่อง ให้ผลเล็ก หาซื้อยาก ทำให้มีราคาสูง นักกินทั้งหลายจึงหันมาใช้พันธุ์น้ำดอกไม้ ที่ผลใหญ่ เนื้อเยอะ หวาน หอม และที่สำคัญราคาไม่สูงมากนักแทน เท่านั้นยังไม่พอ ความโด่งดังของข้าวเหนียวมะม่วงได้รับการการันตีความอร่อยจากเว็บไซต์ CNN Travel ที่จัดอันดับให้ข้าวเหนียวมะม่วงติด 1 ใน 50 สุดยอดอาหารหวานแสนอร่อยจากทั่วโลก (50 of the world's best desserts) ทำให้ชาวต่างชาติรู้กันดีว่าเมื่อมาเยือนประเทศไทย จะต้องมาลิ้มลองและตกหลุมรักในรสชาติความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของข้าวเหนียวมะม่วงกันอย่างแน่นอน ข้าวเหนียวมะม่วง มีส่วนประกอบเป็นข้าวเหนียวที่ให้พลังงานสูง สามารถกินเป็นมื้อหลักแทนข้าวได้เลย และมะม่วงสุก เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย อีกทั้งอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ และวิตามินอี ที่บำรุงร่างกาย แก้ไอ และช่วยขับลมได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณและมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ขนมหวานชนิดนี้มีแคลอรีสูง คนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน โรคกระเพาะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ควรกินในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ เพราะถ้ากินมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง และอาหารย่อยยากมากขึ้นได้ โอ้โห ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมนูของหวานอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง จะมีประวัติศาสตร์ความอร่อยที่ยาวนานมากว่า 100 ปีแล้วนะเนี่ย ว่าแล้วก็หิว ขอตัวไปหาข้าวเหนียวมะม่วงฉ่ำ ๆ ราดกะทิชุ่ม ๆ มาเติมพลังก่อนนะคะ ◆ ข้าวเหนียวมะม่วง วิธีทำข้าวเหนียวมูน ขนมไทยรับหน้าร้อนหวานมัน ◆ 8 เมนูข้าวเหนียวมะม่วง วิธีทำขนมหน้าร้อนเอาใจสายหวาน ◆ เครปข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานหน้าตาดีที่ต้องฟาดให้เรียบ ◆ วิธีทำข้าวเหนียวมะม่วงดอกกุหลาบ เสกขนมไทยเป็นดอกไม้สวยเก๋ ◆ ข้าวเหนียวมะม่วง สูตรเร่งด่วนด้วยไมโครเวฟ อยู่ต่างแดนก็อร่อยได้ ขอบคุณข้อมูลจาก sumaboutthailand.com, juleeho.com, edition.cnn.com, โรงเรียนสายปัญญารังสิต
แสดงความคิดเห็น