รู้จักประวัติของ ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมหวานไทยยอดฮิต ที่ผสมผสานความหวาน หอม และมันได้อย่างลงตัว
ข้าวเหนียวมะม่วง ภาษาอังกฤษคือ
Sticky Rice with Mango
สร้างความฮือฮาให้กับโลกออนไลน์ไม่น้อย กับกระแสสุดปังจาก มิลลิ (MILLI) ดนุภา แรปเปอร์สาวชาวไทย จากค่าย YUPP ที่ไปสร้างชื่อเสียงให้ต่างชาติได้รู้จักประเทศไทย กับการเป็นศิลปินเดี่ยวไทยคนแรกที่ได้ขึ้นโชว์บนเวทีเทศกาลดนตรีดังระดับโลกอย่าง Coachella (โคเชลลา) โดยได้แสดงผลงานทั้งร้อง แรป เอนเตอร์เทนคนดูจนอยู่หมัด ก่อนจะซัดปิดท้ายโชว์สุดเจ๋งด้วยการกินข้าวเหนียวมะม่วงไปแบบคูล ๆ งานนี้ทำเอาโลกโซเชียลต้องลุกเป็นไฟ เพราะเว็บไซต์ Google เผยสถิติคำค้นหาคำว่า “mango sticky rice” และ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ยอดพุ่งติดอันดับค้นหาเยอะที่สุดในช่วงเที่ยงของวันที่ 17 เมษายน 2022 ซึ่งเป็นวันที่เธอทำการแสดงนั่นเอง เรียกว่าเป็นการสื่อสารผ่านทางเสียงเพลงที่ทรงพลัง สร้างกระแสความตื่นตัวได้อย่างมากเลยทีเดียว
ข้าวเหนียวมะม่วง ฟีเว่อร์ หลังมิลลิกินโชว์ ยอดค้นหาทั่วโลกพุ่ง - นวยโพสต์ชวนอีก
จากกระแสข้าวเหนียวมะม่วงฟีเว่อร์ ประกอบกับช่วงนี้เป็นช่วงหน้าร้อน ซึ่งเป็นฤดูกาลของมะม่วง ทำให้นักกินทั้งหลายไม่พลาดที่จะลองลิ้มชิมรสข้าวเหนียวมะม่วงแสนอร่อย และหลายคนก็เกิดความสงสัยว่าประวัติศาสตร์ของขนมไทยขึ้นชื่อที่อยู่คู่กับครัวไทยมาช้านานอย่างข้าวเหนียวมะม่วงนี้ถือกำเนิดมาตั้งแต่เมื่อไร วันนี้กระปุกดอทคอมเลยมีข้อมูลบางส่วนมาแบ่งปันกันค่ะ
ถ้าจะให้อ้างอิงจากบันทึกประวัติศาสตร์และพงศาวดารไทยนั้น ไม่มีบันทึกชี้ชัดว่าข้าวเหนียวมะม่วงถือกำเนิดมาตั้งแต่ยุคสมัยใด แต่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเป็น “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ปรากฏในรัชกาลที่ 2 ของกรุงรัตนโกสินทร์ มีความตอนหนึ่งระบุว่า
หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา
คิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร
ซึ่งพูดถึงทุเรียนพันธุ์หมอนทองกับมะม่วงพันธุ์อกร่อง
และความอีกตอนหนึ่งระบุว่า
สังขยาหน้าตั้งไข่ ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดง
เป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ
ซึ่งพูดถึงข้าวเหนียวที่คลุกเคล้ากับน้ำกะทิ โดยยังไม่มีการพูดถึงว่ามีการนำทั้งสองอย่างนี้มากินด้วยกัน
ต่อเนื่องมาในรัชกาลที่ 5 จึงได้เริ่มมีการเอ่ยถึงเมนูมะม่วงกินคู่กับข้าวเหนียวมูน (ซึ่งก็ไม่มีหลักฐานยืนยันการปรากฏตัวของข้าวเหนียวมะม่วงอย่างเป็นทางการ) โดยมะม่วงที่เป็นสูตรดั้งเดิมในสมัยก่อนจะนิยมใช้พันธุ์อกร่องที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และข้าวเหนียวจะเลือกใช้พันธุ์เขี้ยวงู ที่ตัวเมล็ดมีลักษณะเรียวยาว นำมาคลุกเคล้ากับน้ำกะทิ ราดด้วยน้ำกะทิปรุงรสเข้มข้น ใส่เกลือและน้ำตาลทรายขาวเพิ่มเติม โรยหน้าด้วยถั่วทองทอดหรือถั่วเขียวซีกทอดเพิ่มความกรุบกรอบ จากนั้นเมนู ข้าวเหนียวมะม่วง ก็กลายมาเป็นของหวานที่คนไทยนิยมกินเพื่อความสดชื่นคลายร้อนมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยรสชาติหอม หวาน และมัน ผสมกันอย่างลงตัว ถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินั่นเอง
ปัจจุบัน มะม่วงสายพันธุ์อกร่อง ให้ผลเล็ก หาซื้อยาก ทำให้มีราคาสูง นักกินทั้งหลายจึงหันมาใช้พันธุ์น้ำดอกไม้ ที่ผลใหญ่ เนื้อเยอะ หวาน หอม และที่สำคัญราคาไม่สูงมากนักแทน
ติดอันดับ 1 ใน 50 ของหวานแสนอร่อยจากทั่วโลก
เท่านั้นยังไม่พอ ความโด่งดังของข้าวเหนียวมะม่วงได้รับการการันตีความอร่อยจากเว็บไซต์ CNN Travel ที่จัดอันดับให้ข้าวเหนียวมะม่วงติด 1 ใน 50 สุดยอดอาหารหวานแสนอร่อยจากทั่วโลก (50 of the world's best desserts) ทำให้ชาวต่างชาติรู้กันดีว่าเมื่อมาเยือนประเทศไทย จะต้องมาลิ้มลองและตกหลุมรักในรสชาติความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของข้าวเหนียวมะม่วงกันอย่างแน่นอน
ประโยชน์-ข้อควรระวัง
ของการกินข้าวเหนียวมะม่วง
ข้าวเหนียวมะม่วง มีส่วนประกอบเป็นข้าวเหนียวที่ให้พลังงานสูง สามารถกินเป็นมื้อหลักแทนข้าวได้เลย และมะม่วงสุก เป็นผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย อีกทั้งอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินเอ และวิตามินอี ที่บำรุงร่างกาย แก้ไอ และช่วยขับลมได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการบำรุงผิวพรรณและมีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ขนมหวานชนิดนี้มีแคลอรีสูง คนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคเบาหวาน โรคกระเพาะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ควรกินในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ เพราะถ้ากินมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง และอาหารย่อยยากมากขึ้นได้
โอ้โห ! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเมนูของหวานอย่าง ข้าวเหนียวมะม่วง จะมีประวัติศาสตร์ความอร่อยที่ยาวนานมากว่า 100 ปีแล้วนะเนี่ย ว่าแล้วก็หิว ขอตัวไปหาข้าวเหนียวมะม่วงฉ่ำ ๆ ราดกะทิชุ่ม ๆ มาเติมพลังก่อนนะคะ
สายหวานทั้งหลายที่อยากลองทำเมนู ข้าวเหนียวมะม่วง อร่อย ๆ ลองดูสูตรอื่น ๆ ได้ตามลิงก์ที่เรานำมาฝากกันได้เลยค่ะ