แจกสูตรน้ำกระเจี๊ยบ เครื่องดื่มน้ำสมุนไพรรสเปรี้ยวหวาน ช่วยดับกระหาย เติมความสดชื่น แถมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ กระเจี๊ยบแดง (Jamaica sorrel, Roselle) สมุนไพรที่นิยมนำมาทำเครื่องดื่มด้วยเพราะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ใครอยากทำน้ำกระเจี๊ยบ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ วันนี้เรามีหลากหลายสูตร ได้แก่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน น้ำกระเจี๊ยบโซดา และชากระเจี๊ยบ ไว้ดื่มหลังมื้ออาหาร ก่อนที่จะไปดูสูตรต้มน้ำกระเจี๊ยบ เรามาดูประโยชน์กันก่อนดีไหม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบและลดไข้ มีวิตามินซี ชวยเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ มีส่วนช่วยล้างสารพิษออกจากไต ขับกรดยูริก ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่ว มีธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยละลายเสมหะ บรรเทาอาการไอ การดื่มน้ำกระเจี๊ยบติดต่อกันทุกวันและเป็นเวลานานอาจทำให้โลหิตจาง เกิดอาการท้องเสีย ความดันโลหิตต่ำมากเกินไป น้ำตาลต่ำมากเกินไป อาจเป็นอันตรายสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน และเนื่องจากมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะอาจทำให้ไตเสื่อมได้ น้ำกระเจี๊ยบควรนำมาล้างก่อนแล้วสะเด็ดให้แห้ง จากนั้นนำไปต้มประมาณ 20-40 นาที หรือจนน้ำเป็นสีแดง หรือดอกกระเจี๊ยบมีสีซีด พอต้มเสร็จควรกรองเศษสกปรกออกก่อนดื่ม กระเจี๊ยบส่วนใหญ่จะนำมาต้มน้ำกระเจี๊ยบหรือน้ำกระเจี๊ยบผสมพุทราจีน ถ้าใครชอบความซ่าใส่โซดาผสมกับน้ำกระเจี๊ยบก็ได้เช่นกัน หรือนำดอกกระเจี๊ยบไปคั่วจนแห้งชงเป็นชาดื่ม น้ำกระเจี๊ยบ ใส่น้ำตาลทรายกับเกลือ ต้มจนสีสวยและน้ำตาลละลาย สุดท้ายกรองเอากากและสิ่งสกปรกออกอีกครั้ง จัดเสิร์ฟแบบอุ่น ๆ หรือใส่น้ำแข็งเติมความสดชื่น ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 50 กรัม น้ำ 2 ลิตร น้ำตาลทราย 200 กรัม (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) เกลือป่น 1-2 ช้อนชา (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) ล้างดอกกระเจี๊ยบแห้งในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร) ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่นและน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ต้มต่อจนน้ำงวดและดอกกระเจี๊ยบนิ่ม ประมาณ 15 นาที ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม น้ำกระเจี๊ยบพุทราจีน ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น รสชาติเปรี้ยวหวานหอม ดื่มแบบใส่น้ำแข็งคลายร้อน ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 50 กรัม พุทราจีนแห้ง 50 กรัม น้ำ 2 ลิตร น้ำตาลทราย 200 กรัม (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) เกลือป่น 1-2 ช้อนชา (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) ล้างดอกกระเจี๊ยบแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร) ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบและพุทราลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่นและน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ต้มต่อจนน้ำงวดและดอกกระเจี๊ยบนิ่ม ประมาณ 15 นาที ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม น้ำกระเจี๊ยบโซดา รสหวานปรับหรือลดได้ตามชอบ ใส่โซดาอร่อยซาบซ่า เติมน้ำแข็งเพิ่มความชื่นใจ ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 50 กรัม น้ำ 2 ลิตร น้ำตาลทราย 200 กรัม (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) เกลือป่น 1-2 ช้อนชา (เพิ่ม-ลด ตามชอบ) โซดาแช่เย็นจัด น้ำแข็ง ล้างดอกกระเจี๊ยบแห้งในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร) ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบและพุทราลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่นและน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ต้มต่อจนน้ำงวดและดอกกระเจี๊ยบนิ่ม ประมาณ 15 นาที ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทน้ำกระเจี๊ยบใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ค่อย ๆ เทโซดาผ่านช้อนลงไปเพื่อให้เป็นชั้นสวยงาม พร้อมดื่ม ชากระเจี๊ยบ จับดอกกระเจี๊ยบตากแห้งไปคั่วจนแห้งกรอบ ใส่ลงในแก้วชงดื่มร้อน ๆ ทั้งนี้ อาจเติมน้ำตาลทรายเพิ่มความหวานก็ได้เช่นกัน ดอกกระเจี๊ยบแดงตากแห้ง มะนาวหรือเลมอนฝานเป็นชิ้น ๆ น้ำตาลทราย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ) สับดอกกระเจี๊ยบแดงเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั่วในกระทะจนแห้งกรอบ ใส่ลงในแก้ว เทน้ำร้อนใส่ลงไป ชงดื่มเป็นชา (หรือนำไปใส่ในกาสำหรับชงชา) แช่ทิ้งไว้สักครู่ บีบน้ำมะนาว หรือฝานชิ้นเลมอนลงไป หากต้องการความหวานก็เติมน้ำตาลทรายลงไปตามความชอบ จบไปแล้วสำหรับสูตรน้ำกระเจี๊ยบที่น่าสนใจ เติมรสหวานได้ตามชอบ ต้มหม้อเดียวกินได้หลายมื้อเลยจ้า น้ำสมุนไพรลดอาการนอนกรน หลับไม่สนิท ทำง่ายด้วยส่วนผสม 4 อย่าง น้ำสมุนไพร 3 อย่าง แก้อาการมือเท้าชา สร้างภูมิต้านโรค 10 สูตรทำน้ำสมุนไพร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดนิยมเติมความสดชื่น 10 สูตรน้ำสมุนไพรขวด มาขายเครื่องดื่มสร้างรายได้กัน วิธีต้มน้ำสมุนไพร 3 สูตร กิน ดื่ม สูดดม เสริมภูมิคุ้มกันต้านโรค
แสดงความคิดเห็น