กล้วยบวชชีหลบไปเจอกล้วยบวชพระถ้วยนี้เข้าไป ก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน จับขนมไทยมาแหวกแนวใส่ไอเดียใหม่ ๆ เข้าไป ต้องลองสักครั้ง
เคยกินแต่กล้วยบวชชีสีขาว ๆ หวานหอมกะทิ พอมาเจอกล้วยบวชพระถ้วยนี้เข้าไปถึงกับอึ้ง เป็นไอเดียมาจาก เฟซบุ๊ก เมนูดีที่บ้าน "บ.บวม" ที่ลองออกนอกกรอบกล้วยบวชชีเดิม ๆ ด้วยการเติมสีสันจากฟักทองให้กลายเป็นสีเหลือง ๆ คล้ายจีวรพระ เลยกลายเป็นไอเดียขนมไทยใหม่ ๆ เล่นคำให้พอสวยงาม เรียกความสนใจได้มากเลยทีเดียว ว่าแต่กล้วยบวชพระถ้วยนี้เขาทำกันอย่างไร มาดูกันเลยจ้า
กล้วยบวชชีมีเยอะแล้ว ผมนี่...เลยจัด "กล้วยบวชพระ" แบบหวานธรรมชาติเลยครับ ส่วนหน้าตาจะเป็นอย่างไรนั้นตามมาเลยครับ <3 จาก เฟซบุ๊ก เมนูดีที่บ้าน "บ.บวม"
เนื่องด้วยเพื่อนผมกลับบ้านที่ปากช่องแล้วเอากล้วยน้ำว้ามาฝาก 2 หวีใหญ่ ๆ เมนูกล้วยบวชชีก็แว๊บเข้ามาในหัวทันที แต่ด้วยเมนูกล้วยบวชชีเดิม ๆ จะทั้งหวาน ทั้งเลี่ยนกะทิ ผมเลยนึกว่าจะทำยังไงดีให้เมนูนี้คนกินจะกินได้แบบเลียชามโดยไม่รู้สึกเลี่ยน ทันใดนั้นก็เหลือบไปเห็นฟักทองครับ ไอเดียมาเลยครับ โดยที่ผมชอบกิน ซุปฟักทองและฟักทองแกงบวดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลย บู้ม !!! กลายเป็น "กล้วยบวชพระ" เตรียมรับศีลรับพรกันได้เลยครับ ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง (ยัง... ยังไม่หยุดมุขอีก) หน้าตาเมนู กล้วยบวชพระครับ
เมนูนี้แทบจะไม่ต้องใช้น้ำตาลเลยครับ ผมใช้ฟักทองมาเป็นตัวให้ความหวานแทนน้ำตาล และทำให้น้ำเข้มข้น แบบว่าซดกินได้หมดทั้งน้ำทั้งเนื้อโดยไม่รู้สึกเลี่ยนเลยครับ กล้วยมีรสเปรี้ยวนิด ๆ ตามด้วยความหอมของกะทิและความหวานบวกกับกลิ่นของฟักทองเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ จะแบบร้อนหรือจะกินแบบเย็นก็อร่อยครับ แต่กินแบบเย็น ๆ ผมว่าอร่อยกว่า เหมือนไอศกรีมเลยครับ เพราะด้วยความเข้มข้นของเนื้อฟักทองครับ ส่วนสูตรและวิธีทำของผม ท่านสมาชิกจะสามารถทำได้ทั้งกล้วยบวชชีและกล้วยบวชพระภายในกระทู้เดียวเลยครับ
• กล้วยน้ำว้า 8 ลูก (เคล็ดลับ: เลือกแบบที่สุกแล้วแต่ยังไม่สุกมากยังมีเขียว ๆ อยู่ครับ เพราะถ้าเอาสุกกว่านี้มาทำ กล้วยอาจจะเละได้ครับ)
• ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ครับ)
• กะทิ 800 มิลลิลิตร (ผมใช้กะทิกล่องเพราะหาง่ายดีครับ)
• น้ำตาลมะพร้าว 2-3 ช้อนโต๊ะ (ใช้แค่นี้พอครับ เอาแค่มาช่วยความหอมกลมกล่อม ความหวานหลักจะมาจากฟักทองครับ)
• เกลือ
วิธีทำกล้วยบวชชี
►
ขั้นแรกเอาฟักทองที่เราหั่นรอไว้แล้วไปนึ่งประมาณ 15 นาทีครับ ผมใช้หวดนึงข้าวเหนียวในการนึ่งครับ
►
นึ่งเสร็จแล้วนำไปใส่ในโถปั่นพักรอไว้ก่อนครับ
►
หั่นกล้วยส่วนหัวและท้ายทิ้งไม่ต้องปอกเปลือก แล้วผ่า 4 ส่วน แช่น้ำไว้ก่อนป้องกันกล้วยดำ
►
ใส่น้ำลงในหม้อ ตามด้วยเกลือเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟ รอจนน้ำเดือด นำกล้วยที่หั่นไว้ลงต้มในน้ำเดือด ๆ ประมาณ 30 นาที
►
ทำไมต้องต้มกล้วย ? คำตอบ : ต้มเพื่อเอายางกล้วยออกและทำให้รสฝาดของกล้วยหายไปครับ
►
เมื่อครบประมาณ 30 นาทีแล้วจะเห็นว่า มียางกล้วยออกมาและเนื้อกล้วยกับเปลือกกล้วยจะล่อนออกมาครับ
►
เมื่อต้มได้ที่แล้วก็นำมาล้างน้ำเย็นเพื่อนำสิ่งสกปรกและลอกเปลือกกล้วยออก
►
พอล้างออกมาแล้วก็จะได้กล้วยเนื้อนุ่ม ๆ หนึบ ๆ ไม่เละ แบบนี้ครับ พักไว้
►
ใส่กะทิลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาล และเกลือป่นเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟต้มจนกะทิเดือด และหมั่นคนเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน
►
เมื่อกะทิเดือด นำกล้วยลงไปต้มในน้ำกะทิ ประมาณ 15 นาที สีกล้วยจะเปลี่ยนเป็นขาว ๆ ใส ๆ ขึ้นมา
►
เมื่อจบขั้นตอนนี้แล้วก็จะได้กล้วยบวชชีอร่อย ๆ แล้วครับ แต่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่มนะครับ ถ้าจะทำเป็นกล้วยบวชชีครับ แต่สำหรับผมยังไม่จบครับ ผมจะพากล้วยไปบวชพระต่อครับ
►
มาทำกล้วยบวชพระกันต่อครับ
►
ไม่ยากครับก็นำกล้วยบวชชีที่เราเสร็จแล้ว ตักใส่ชามเดินแห่รอบโบสถ์ 3 รอบ เข้าโบสถ์แล้วบวชได้เลยครับ เออ... มุข ? ล้อเล่นนะครับ ^__^ เมื่อเราได้กล้วยบวชชีมาแล้วก็นำน้ำกล้วยบวชชี มาเทใส่โถปั่นที่เรามีฟักทองรอไว้อยู่แล้ว เอาให้เกลี้ยงหม้อเหลือแต่กล้วยไว้ครับ
►
หลังจากนี้ก็ปั่นเลยครับ ปั่นให้ละเอียดจนได้เป็นเนื้อซุปเนียน ๆ เลยครับ แล้วก็มาเทกลับลงหม้อ แล้วเปิดเตาไฟอ่อนต้มต่อสัก 10-15 นาที ก็จะได้กล้วยห่มจีวรเหลือง ๆ ตามภาพแล้วครับ
►
เมื่อได้ตามนี้ก็ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลยครับ