1. พิซซ่าเกาหลีซีฟู้ด
เริ่มต้นกันด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยกันก่อนกับเมนูพิซซ่าเกาหลี ถาดนี้เสิร์ฟความพิเศษด้วยหน้าซีฟู้ด เน้น ๆ เครื่องแน่นเต็มถาด และที่สำคัญคือทำง่ายมาก ๆ แค่มีกระทะใบเดียวจบ ! (สูตรจาก คุณ RinS CookBook สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม)
ส่วนผสม แป้งพิซซ่า
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงฟู 1/4 ช้อนชา
• พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
• เกลือป่น เล็กน้อย
• พริกชี้ฟ้า (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• น้ำเย็นจัด 1/2 ถ้วย
ส่วนผสม หน้าซีฟู้ด
• ต้นหอม (หั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว) 1 ถ้วย
• กุยช่าย (หั่นท่อนขนาด 1 นิ้ว) 1 ถ้วย
• อาหารทะเลตามชอบ หั่นเป็นชิ้น ๆ 1 1/2 ถ้วย (เช่น หอยแมลงภู่, หอยเชลล์, ปลาหมึกสาย, ปลาหมึกกล้วย, กุ้ง, หอยนางรม)
• น้ำมันพืชสำหรับทอด
ส่วนผสม น้ำจิ้ม
• ซอสปรุงรส 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
• งาขาวคั่ว 1/2 ช้อนชา
• ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกป่น หรือพริกชี้ฟ้าสับ 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมน้ำจิ้มทั้งหมดเข้าด้วยกัน คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย เตรียมไว้
7. ปิดฝาทอดด้วยไฟปานกลางประมาณ 10 นาที ในระหว่างทอดให้เขย่ากระทะบ้างเพื่อไม่ให้พิซซ่าติดกระทะและสุกอย่างทั่วถึง พอครบ 10 นาทีให้เพิ่มไฟแรงขึ้นแล้วทอดต่ออีก 5 นาที พอครบเวลาใช้จานวางคว่ำลงไปในกระทะ แล้วคว่ำกระทะนำพิซซ่าออก
2. บูเดชิเก (Budaejjigae) มาม่าหม้อไฟเกาหลีแบบไทย ๆ
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ไส้กรอก (หรือผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปตามชอบ)
• มาม่ารสต้มยำกุ้ง
• ไข่ไก่
• ผักตามชอบ (เช่น ต้นหอมญี่ปุ่นซอย, แครอต หั่นเป็นแว่น, เห็ด, ผักกาดขาว, กะหล่ำปลี เป็นต้น)
• สาหร่าย
• โคชูจัง
• น้ำมันงา
เคล็ดลับ:
• การทำบูเดชิเกเนี่ยถ้าให้เนียนคล้ายมาม่าเกาหลี แนะนำให้ใช้มาม่าโอเรียนทอลแบบซองค่ะ (เพราะมาม่าเกาหลีเส้นจะเป็นแป้งมันฝรั่ง เด้ง ๆ หนึบ ๆ คนละแบบกับมาม่าไทย ของโอเรียนทอลนี้คล้ายสุดในราคาเบา ๆ) แต่... ราคามัน 10 กว่าบาทอะคุณ แถมคุณชายบ่นว่า "มันไม่แซ่บ" ได้ค่ะ จัดไป มาม่าไทย รสต้มยำบิ๊กแพคนี่ล่ะค่ะ !!! รับรองแซ่บอีหลีโล้ดดดดด โดยเครื่องในวันนี้ก็มีดังที่เห็นนี้เลยค่ะ
• ส่วนอื่น ๆ ที่ควรมีคือผักตามชอบค่ะ แต่ในตู้เย็นมีแค่นี้ ก็อย่าช้าค่ะ ใส่ไป หากใครมีเห็ด ผักกาดขาว กะหล่ำปลี อะไรก็ใส่ได้นะคะ ตามชอบ
• โคชูจัง อันนี้เป็นตัวหลักที่ให้รสชาติค่ะ แนะนำว่าลองใส่น้ำมันงาเพิ่มจะความแซ่บนะตัวเอง
• สารพัดไส้กรอก และผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูปค่ะ เพราะหม้อไฟนี้เกิดจากที่ทหารอเมริกันเขาเข้ามาตั้งค่าย ส่วนใหญ่เนื้อสัตว์ที่ใส่เลยเป็นเนื้อสัตว์แปรรูปแบบนี้ค่ะ และจะยิ่งแซ่บมาก หากเป็นพวกไส้กรอกรมควันและเบคอน ใส่แล้วเพิ่มกลิ่นหอมอบอวลน้ำลายไหลค่ะ
• ส่วนอื่น ๆ ที่สามารถเพิ่มได้ถ้ามีคือพวกไข่ค่ะ และแป้งต๊อกโบกี (Topokki) นี่ถ้าไม่เกรงว่าไอ้ที่มีคล้าย ๆ อยู่ในตู้เย็นดันเป็นขนมเข่งแบบมะพร้าว อิฉันก็ใส่จริง ๆ นะคะ
วิธีทำ
1. ใส่เส้นมาม่าลงตรงกลางของกระทะ ตามด้วยเครื่องเคราอื่น ๆ ที่หั่นเตรียมไว้วางเรียงลงไปให้ทั่ว ปกติถ้าใช้มาม่าเกาหลี เรจะใส่ผงปรุงรสลงไปด้วย วันนี้มาม่าไทยก็ใส่ค่ะ แต่มีข้อควรระวัง ดังนี้
• ถ้าชอบแบบแซ่บเหมือนต้มยำ ให้ใส่ผงมาม่า 2 ซอง + โคชูจัง 1 ช้อนค่ะ
• ถ้าชอบแบบมีรสผสม ให้ใส่ผงมาม่าแค่ 1/2 ซอง + โคชูจัง 1 ช้อนค่ะ
• ถ้าชอบแบบเกาหลีมากกว่า ให้ใส่แต่โคชูจังโปะไปราว 1 1/2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ ราดน้ำมันงาและพริกขี้หนู แล้วใส่น้ำซุปหรือน้ำผสมผงซุปนิดหน่อยแทนค่ะ
• ซึ่งสูตรนี้เป็นแบบแรก คือใส่ทั้งผงมาม่าและเครื่องมาม่าลงไป
2. ตักโคชูจังช้อนใหญ่ ๆ ใส่ลงไปตรงกลางมาม่า
3. ใส่น้ำลงไปจนเกือบท่วมเส้นมาม่า นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำลงไปราวครึ่งหนึ่งพอท่วมเส้นครึ่งหนึ่งค่ะ (ไม่พอเดี๋ยวใส่เพิ่มได้นะคะ แต่หากใส่เยอะจะจืด เจือจางรสไม่เข้มแก้ยากกว่า) หลังจากใส่น้ำเสร็จแล้วนำไปต้ม
4. ต้มไปสักครู่จนเส้นมาม่าเริ่มนิ่ม และน้ำเดือด ตามต้องการ
• ถ้าเป็นมาม่าไทย ต้มราว 3 นาที หรือพอให้เส้นนุ่มตามชอบได้นะคะ
• ระหว่างต้มถ้ากลัวน้ำแห้งสามารถใส่เพิ่มได้นะคะ แต่อย่าให้ท่วม ไม่อย่างนั้นจะเจือจางค่ะ หม้อไฟแบบนี้ใส่น้ำแค่พอขลุกขลิกค่ะ ไม่เยอะ (ระวังมาม่าไทย พอเอาขึ้นแอบดูดน้ำด้วยนะคะ เผื่อไว้หน่อย)
• และแล้วหลังจากต้มไปจนเส้นนุ่มตามความชอบ ก็ยกขึ้นแล้วเตรียมตัวล้อมหม้อกันเลยค่ะ เสร็จแล้วลองตักขึ้นมาดู ถ้าชอบแบบเส้นนิ่มมากนิ่มน้อย ปรับเวลาต้มเอาได้นะคะ
3. บิบิมบับ (Bibimbub)
หรือถ้าอยากกินเป็นเมนูจานเดียวแบบหนักท้องหน่อยก็แนะนำนี่เลย ข้าวยำเกาหลี หรือบิบิมบับแน่นเครื่อง ซึ่งวิธีทำไม่ได้ยากเลย แค่ไปซูเปอร์มาร์เกตแล้วซื้อวัตถุดิบมาให้ครบถ้วน รับรองฟิน
สิ่งที่ต้องเตรียม
• ผักปรุงรส
• เนื้อหมูหมัก
• โคชูจัง
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันพืช
• ข้าวสวยหุงสุก
• ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง)
ส่วนผสม ผักปรุงรส
• ถั่วงอก
• หัวไชเท้า หั่นเป็นเส้น
• ปวยเล้ง หั่นเป็นท่อน
• แครอต ซอยเป็นเส้น
• เห็ดเข็มทอง
• เกลือ
• น้ำมันงา
• งาขาวคั่ว
• ซีอิ๊วขาว
วิธีทำ
1. เริ่มจากทำผักปรุงรส โดยใส่น้ำลงในหม้อแล้วนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ผักทีละอย่างลงไปลวกจนสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ปรุงรสผักทีละอย่าง (ยกเว้นปวยเล้ง) ด้วยเกลือ น้ำมันงา และงาขาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน เตรียมไว้
3. ส่วนปวยเล้งจะปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันงา และงาขาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน เตรียมไว้
4. หั่นเนื้อหมูหมักเป็นเส้น ๆ ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่เนื้อหมูหมักลงไปผัดจนสุก ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
5. ผสมโคชูจังกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน (สำหรับคนที่ชอบกินหวาน)
6. จัดจานโดยตักข้าวสวยลงในถ้วย วางผักปรุงรสและหมูเกาหลีลงไปให้สวยงาม ราดโคชูจังลงไป สุดท้ายตักไข่แดงวางลงไปตรงกลาง พร้อมเสิร์ฟ
4. ไก่ทอดเกาหลี
ไก่ทอดเกาหลี หรือ Yangnyeom-Tongdak ไก่ทอดคลุกซอสรสจัดจ้านที่ฮอตฮิตมากถึงขนาดที่ว่าไปยืนรอต่อคิวยาว ๆ ก็ยอม แต่วันนี้เรานำวิธีทำไก่ทอดเกาหลีแบบง่าย ๆ มาฝาก รสชาตินี่ดีไม่แพ้ตำรับเกาหลีแท้ ๆ เลย ต่อไปนี้ไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ไปกินที่ร้านแล้วล่ะ (สูตรจาก คุณ Sickpuppy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม)
ส่วนผสม ไก่ทอด
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
• ผงกระเทียมป่น
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
• แป้งชุบทอด 1/2 ถ้วย
• แป้งมัน 1/2 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• น้ำมันพืช (1 ลิตร) 1 ขวด
• ซอสมะเขือเทศ 1/3 ถ้วย
• โคชูจัง 1/4 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1/3 ถ้วย
• น้ำส้มสายชูแอปเปิล 1 ช้อนโต๊ะ
• งาขาว
วิธีทำ
2. ใส่เกลือป่น พริกไทยป่น และผงกระเทียมป่น ลงไปคลุกให้เข้าเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
3. ระหว่างรอหมักไก่มาทำซอส สับกระเทียมให้ละเอียด แล้วนำไปเจียวกับน้ำมันในกระทะ ใช้ไฟอ่อน ๆ
4. เติมซอสมะเขือเทศ น้ำผึ้ง โคชูจัง และน้ำส้มสายชู ลงไปผัดผสมให้เข้ากัน ปิดไฟ เตรียมไว้
5. หลังจากหมักไก่ได้ที่แล้วใส่น้ำมันพืชลงในหม้อสำหรับทอด
7. ผสมแป้งทอดกรอบกับแป้งมันและผงฟูให้เข้ากัน
8. นำไก่ลงไปคลุกกับส่วนผสมแป้งให้ทั่วทั้งชิ้น ให้แป้งเคลือบไก่จนขาว
9. นำไก่ลงทอดในหม้อ ใช้ไฟปานกลาง ทอดนานประมาณ 10 นาที แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นวางพักทิ้งไว้อีก 10 นาที
10. นำไก่ลงทอดอีกครั้งโดยใช้ไฟแรงสุด ทอดจนไก่กรอบและมีสีสวย ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
11. นำส่วนผสมซอสที่เตรียมไว้ขึ้นตั้งไฟ จากนั้นนำไก่ที่ทอดไว้ลงไปคลุกให้ซอสเคลือบไก่จนทั่วทั้งชิ้น สุดท้ายโรยงาขาวคั่วลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
5. ไก่ทอดซอสเกาหลี
อีกหนึ่งวิธีทำไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่น่าลองทำมากเลยทีเดียว สูตรนี้จะคล้ายกับต้นตำรับจากร้านดังที่เราเคยกินกัน สูตรเลยจะซับซ้อนกว่าสูตรไก่ทอดเกาหลีสูตรที่แล้ว แต่เห็นแล้วน้ำลายจะไหล แผล็บ ๆ
ส่วนผสม
• ปีกไก่ 500 กรัม
• เกลือและพริกไทย สำหรับปรุงรส
• แป้งข้าวโพด 2 ถ้วย
• หอมใหญ่สับ 1/4 ลูก
• กระเทียมสับ 4 กลีบ
• ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย
• เหล้ามิริน 1/4 ถ้วย
• น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
• ผงกระเทียม 1/2 ช้อนชา
• แป้งข้าวโพด 1 ช้อนช้า
• ขิงหั่นเป็นชิ้นขนาด 1 นิ้ว (สับละเอียด)
• งาขาวคั่ว
วิธีทำ
1. ล้างปีกไก่ให้สะอาด พักทิ้งไว้จนแห้งสนิท
2. โรยเกลือและพริกไทยให้ทั่วปีกไก่ จากนั้นนำไปชุบแป้งข้าวโพดให้ทั่ว แล้วนำปีกไก่ลงทอดจนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันให้แห้ง
3. ทำน้ำจิ้ม โดยผสมหัวหอมสับ กระเทียมสับ ซีอิ๊วขาว เหล้ามิริน น้ำตาลทรายแดง ผงกระเทียม และขิงสับ ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานอ่อน เคี่ยวจนส่วนผสมละลายเข้ากัน ปิดไฟ
4. ใส่แป้งข้าวโพดลงในถ้วย ตักส่วนผสมซอสใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียวและมีลักษณะเหนียว
5. นำไก่ที่ทอดไว้ไปชุบลงในน้ำมันร้อน
6. กิมจิ
ในเมื่อเป็นเกาหลีจะไม่มีกิมจิได้อย่างไร ซึ่งกิมจิสูตรนี้ใส่โคชูจังแทนพริกเกาหลี ได้รสชาติแปลกใหม่ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็นเกาหลีให้เราได้ลองลิ้มชิมรสกัน ใครสนใจก็จัดไปให้ไวเลยจ้า (สูตรจาก คุณ Giftzy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม)
ส่วนผสม
• ผักกาดขาว 2 หัว
• น้ำส้มสายชู
• หัวไชเท้า 1 หัว (หั่นเป็นแว่น)
• เกลือ
• แครอต
• ต้นหอม (หั่นเป็นท่อน) 3 ต้น
• กระเทียมโขลกละเอียด
• พริกชี้ฟ้าปั่นละเอียด
• ขิงบดละเอียด
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะพูน ๆ
• น้ำปลา
วิธีทำ
2. นำขิงบด กระเทียมบด และพริกชี้ฟ้า ไปปั่นเข้าด้วยกันจนละเอียด
3. เมื่อครบ 4 ชั่วโมง นำผักมาล้างน้ำ 3 ครั้ง ให้หายเค็ม (เด็ดใบผักกาดมาชิมดูนะ อาจจะหลงเหลือความเค็มนิดหน่อยไม่ว่ากัน)
4. บีบน้ำออกจากผักให้หมด ใส่แครอต ต้นหอม และส่วนผสมพริกปั่น ตามด้วยน้ำตาลทราย โคชูจัง และน้ำปลา (ไม่ต้องใส่เยอะมาก ถ้าเค็มไปมันจะแก้ไม่ได้)
5. คลุกเคล้าให้เข้ากัน (แนะนำคนที่มือแพ้ง่าย แสบง่าย ให้หาถุงมือใส่ดีกว่านะคะ) ชิมรสตามชอบ (ดูว่าขาดอะไร อยากเพิ่มเติมอะไรก็สามารถใส่เพิ่มได้ตามความต้องการ ถ้าไม่เผ็ดก็ใส่พริกป่นของไทยเรานี่แหละเพิ่มลงไป ถ้าไม่เข้มข้นก็ใส่โคชูจังเพิ่ม สีอาจจะดูไม่แซ่บไม่จี๊ดจ๊าดเหมือนพริกเกาหลี แต่รับรองว่าอร่อยนะฮ้าา)
6. จัดเก็บใส่กล่องหรือภาชนะที่มีฝาปิด วางทิ้งไว้โดยไม่ต้องแช่เย็นประมาน 14-18 ชั่วโมง (จะได้รสเปรี้ยวกำลังดี หรือพอครบ 14 ชั่วโมง แล้วเราก็ชิมก่อนว่าเปรี้ยวพอใจเราหรือยัง ถ้ายังไม่เปรี้ยวก็อย่าเพิ่งเอาเข้าตู้เย็นนะคะ จำได้ว่าเขาบอกมันเป็นหลักการเดียวกับแหนม ถ้าเอาเข้าตู้เย็นแล้วจะหยุดเปรี้ยว อาจจะไม่ถึงกับหยุดซะทีเดียว กิมจิยิ่งถ้าเก็บไว้นาน ๆ ยิ่งอร่อย น้ำจะซึมเข้าถึงเนื้อผักเลย)
7. หมูผัดกิมจิ
หมูผัดกิมจิ เมนูกับแกล้มสไตล์เกาหลี ที่จับเอาหมูนุ่ม ๆ ชิ้นบาง ๆ ไปผัดกับกิมจิ ได้อารมณ์เกาหลีสุด ๆ ไปเลยล่ะ เจอแบบนี้หุงข้าวรอได้เลย ทำแป๊บเดียวก็ได้กินแล้ว
สิ่งที่ต้องเตรียม
• น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
• เนื้อหมูสไลซ์บาง 300 กรัม
• กิมจิ 200 กรัม
• เกลือป่น สำหรับปรุงรส
• พริกไทยดำป่น สำหรับปรุงรส
• พริกป่นเกาหลี สำหรับปรุงรส
• ผงฮอนตาชิ (หรือผงซุปผัก) สำหรับปรุงรส
• ต้นหอมหั่นเป็นท่อนสั้น 1 ต้น
• ต้นหอมญี่ปุ่นขูดฝอย และต้นหอมซอย สำหรับแต่ง
วิธีทำ
1. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่เนื้อหมูลงผัดสักครู่จนหมูเริ่มสุก (อย่าผัดนานจะทำให้เนื้อหมูแข็ง)
2. เพิ่มไฟแรง ใส่กิมจิลงผัด ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยดำป่น พริกป่นเกาหลี และผงฮอนตาชิ ผัดให้เข้ากัน ใส่ต้นหอมลงผัดพอเข้ากัน ตักใส่จาน โรยด้วยต้นหอมญี่ปุ่นขูดฝอยและต้นหอมซอยให้สวยงาม พร้อมรับประทาน
8. เนื้อย่างบูลโกกิ
มาเบนเข็มไปทางเมนูปิ้งย่างสไตล์เกาหลีกันบ้าง เอาใจคนชอบกินเนื้อวัวด้วยเนื้อบูลโกกิหมักเข้าถึงเครื่อง นุ่ม ๆ หอม ๆ กินกับเครื่องเคียงอย่างกิมจิ ผักดอง ข้าวสวยร้อน ๆ ไม่ไหวจะฟิน พูดเลย !!
สิ่งที่ต้องเตรียม
• เนื้อบูลโกกิ (หรือเนื้อหมู) หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
• ซีอิ๊วญี่ปุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
• เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
• งาเกลือ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ (งาขาวคั่วผสมเกลือป่นเล็กน้อย)
• กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
• ขิงสับละเอียด 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำบด เล็กน้อย
• ต้นหอมซอย สำหรับโรยหน้า
• กิมจิ และผักสด สำหรับรับประทานคู่
วิธีทำ
1. ใส่เนื้อวัวลงในอ่างผสม ตามด้วยซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำตาลทราย น้ำมันงา เหล้าจีน งาเกลือ กระเทียมสับ ขิงสับ และพริกไทยดำ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น ประมาณ 30-40 นาที เตรียมไว้
2. นำกระทะสำหรับย่างขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่เนื้อที่หมักไว้ลงย่างจนสุกหอมทั้ง 2 ด้าน ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมญี่ปุ่น พร้อมรับประทานคู่กับกิมจิ ผักสด และน้ำจิ้มสูตรเกาหลี ตามชอบ
เป็นไงล่ะ หิวกันไหม ? อยากกินกันรึเปล่า ? บอกแล้วว่าเจอเมนูอาหารเกาหลีง่าย ๆ แบบนี้เข้าไป จะติ่งหรือไม่ติ่งก็ฟินกันทั้งนั้นแหละ เลือกชมเลือกชิมกันให้หนำใจไปเลยค่ะ ^^