เคยไหม ? ซื้อผลไม้มาเยอะมากแต่กินไม่หมดจนต้องทิ้ง สำหรับใครที่อยากเก็บผลไม้ไว้กินนาน ๆ ลองทำผลไม้อบแห้งดูสิ วิธีถนอมอาหารง่าย ๆ ด้วยการใช้เตาอบ รับรองว่าคุณจะมีผลไม้ไว้กินตลอดปีเชียวล่ะ
ประเทศไทยมีผลไม้ให้กินตลอดทั้งปีก็จริงอยู่ แต่ผลไม้แต่ละชนิดก็มีรอบฤดูกาล ไม่ได้มีผลผลิตทั้งปีเสียหน่อย ถ้าหากซื้อนอกฤดูกาลราคาแพงลมแทบจับ ทำอย่างไรถึงจะเก็บผลไม้ที่ชอบไว้กินได้ตลอดปีล่ะ กระปุกดอทคอมขอแนะนำวิธีทำผลไม้อบแห้ง เคล็ดลับถนอมอาหารง่าย ๆ เพื่อให้สามารถเก็บรักษาผลไม้ที่ชื่นชอบไว้ได้นาน แค่มีเตาอบก็ทำได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาหาแดดตากแห้งอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้า เรามาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ
เคล็ดลับในการทำผลไม้อบแห้ง
1. ผลไม้ที่จะนำไปอบแห้งอาจเป็นผลไม้ที่สุกหรือสุกมากก็ได้ รวมถึงผลไม้ตระกูลเบอร์รี
2. นำผลไม้ไปล้างในน้ำเย็น ทำความสะอาดเปลือกให้สะอาดเสียก่อน
3. หั่นผลไม้เป็นชิ้น ๆ ที่มีขนาดเท่า ๆ กัน เพื่อที่เวลาอบออกมาจะได้แห้งพร้อมกัน
4.
ผลไม้บางชนิดที่ต้องปอกเปลือกและเอาเม็ดออกเวลากิน เช่น แอปเปิล ลูกพีช
เป็นต้น ถ้าต้องการนำมาอบแห้งควรใช้มีดบั้งทำเป็นเครื่องหมายกากบาท (x)
ด้านบน แล้วคว้านเม็ดออกมา เสร็จแล้วก็นำลงไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 30
วินาที
5. นำผลไม้ไปแช่ในอ่างน้ำแข็งจะช่วยให้ผิวของผลไม้ลื่นหลุดออกมาได้ง่ายโดยไม่ต้องใช้มีดปอกเปลือก 6.
ถ้าต้องการให้ผลไม้สดที่ปอกเปลือกออกมาแล้วดูสวยและสีไม่เปลี่ยน
ควรแช่ไว้ในน้ำเปล่าผสมน้ำมะนาวประมาณ 10 นาที แล้วนำขึ้นมาสะเด็ดน้ำ
และซับน้ำออกด้วยกระดาษอเนกประสงค์
7. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 130-160 องศาฟาเรนไฮต์
ควรใช้อุณหภูมิต่ำสำหรับผลไม้ที่หั่นบาง ๆ เช่น แอปเปิลหรือลูกพีช
ส่วนสตรอว์เบอร์รีและผลไม้ตระกูลเบอร์รีสามารถใช้อุณหภูมิสูงได้
เสร็จแล้วนำมาวางเกลี่ยให้กระจายบนถาดซิลิโคนหรือภาชนะทนความร้อนที่ปูแผ่นกระดาษรองอบไว้แล้ว
นำผลไม้เข้าเตาอบและนำออกมากลับด้านทุก 2 ชั่วโมง (ถ้าผลไม้มีชิ้นที่บางลง จับแล้วมีลักษณะนิ่ม ๆ หยุ่น ๆ เป็นอันใช้ได้)+++++++++++++++++
เวลาที่ใช้อบผลไม้แต่ละชนิด
ลูกพลัม, ลูกแพร์, ลูกพีช, กล้วย และแอปเปิล ใช้เวลาในการอบแห้ง ประมาณ 6 ชั่วโมง
องุ่นและเปลือกส้มซิตรัส ใช้เวลาในการอบแห้ง ประมาณ 8-10 ชั่วโมง
เชอร์รี, สตรอว์เบอร์รี และแอปริคอต ใช้เวลาในการอบแห้ง ประมาณ 12 ชั่วโมง
1. เมื่อนำผลไม้อบแห้งออกจากเตาอบแล้ว ควรบรรจุในโหลแก้วหรือภาชนะพลาสติก และเปิดฝาไว้ประมาณ 4-5 วัน เพื่อให้ความชื้นระเหยออกมา และเขย่าภาชนะทุกวันเพื่อให้ผลไม้อบแห้งโดนอากาศให้ทั่ว
2. หลังจากผ่านพ้นไป 5 วัน ก็สามารถปิดฝาภาชนะได้ ระยะเวลาการเก็บผลไม้อบแห้งประมาณ 10 เดือน
+++++++++++++++++
1. ผลไม้กวน
ส่วนผสม
• ผลไม้สับ 2 ชนิด จำนวน 2 ถ้วย
• ลูกเบอร์รี 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ใส่น้ำเปล่า ตามด้วยผลไม้ 2 ชนิด และลูกเบอร์รี ลงไปในกระทะ เคี่ยวด้วยไฟปานกลางจนส่วนผสมเนียนละเอียด
2. นำออกจากเตา เทใส่ถาดภาชนะ เตรียมไว้ (ปล่อยให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง)
3. ใส่น้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน
4. เทส่วนผสมลงไปบนถาดที่ปูแผ่นกระดาษรองอบไว้แล้ว นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 140 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 5-6 ชั่วโมง หากเอาออกจากเตาอบแล้วส่วนผสมยังเหนียวอยู่ให้ปล่อยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นใช้กรรไกรตัดเป็นรูปทรงที่ต้องการ
+++++++++++++++++
2.ซอสมะเขือเทศแบบเข้มข้น
อีกหนึ่งวิธีถนอมอาหารจากผักเหลือ ๆ ในเมื่อมะเขือเทศเมื่อวางทิ้งไว้นานเปลือกจะเหี่ยวทำให้ไม่น่ากิน ลองจับมาถนอมอาหารด้วยการทำมะเขือเทศราดสลัดหรือโรยหน้าพิซซ่ากันดีกว่า
ส่วนผสม
• มะเขือเทศสับละเอียด
• น้ำเปล่า
• น้ำผึ้ง
• น้ำเลมอน
วิธีทำ
1. ใส่น้ำเปล่าตามด้วยมะเขือเทศลงไปในกระทะ เคี่ยวด้วยไฟปานกลางจนส่วนผสมเนียนละเอียด
2. นำออกจากเตา เทใส่ถาดภาชนะ เตรียมไว้ (ปล่อยให้เย็นที่อุณหภูมิห้อง)
3. ใส่น้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน
4. เทส่วนผสมลงไปบนถาดที่ปูแผ่นกระดาษรองอบไว้แล้ว นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากเอาออกจากเตาอบแล้วส่วนผสมยังเหนียวอยู่ให้ปล่อยทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องอีกประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำไปใส่ในอาหารตามที่ต้องการ
ไม่น่าเชื่อว่าวิธีทำผลไม้อบแห้งจะง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
แค่เอาผลไม้ไปจัดการล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเท่ากัน นำเข้าเตาอบ เพียงเท่านี้ก็ได้ผลไม้อบแห้งไว้กินฟิน ๆ เก็บได้นานเกือบปี
ต่อไปนี้ถ้าซื้อผลไม้มาเยอะก็ไม่ต้องทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ให้เสียดายแล้วค่ะ