ปลาหิมะนึ่งราดซอสผัดผงกะหรี่ สูตรอาหารไมโครเวฟ เพิ่มออปชั่นให้เมนูปลานึ่ง ด้วยซอสฉ่ำ ๆ แบบไทย ๆ เคล้ากลิ่นเครื่องเทศ อร่อยได้ง่าย ๆ แบบไม่น่าเชื่อ
สำหรับเด็กหอ หรือมนุษย์คอนโดที่อยากกินเมนูปลานึ่งอร่อย ๆ ในวันหยุด เราสามารถทำปลานึ่งแคลอรี่ต่ำกินเองได้ นั่นแน่สนใจกันใช่ไหมล่ะ ไม่ต้องมีชุดนึ่ง หรือเตาแก๊สก็ทำได้ค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำปลาหิมะนึ่งราดซอสผงกะหรี่ไมโครเวฟสูตรจาก อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita จับปลาเข้าไมโครเวฟจนสุก เสร็จแล้วก็ราดซอสผงกะหรี่สูตรไมโครเวฟได้เลยค่ะ เห็นไหมคะว่ามีแค่ไมโครเวฟก็เอาอยู่ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงเป็นเมนูปลานึ่งมะนาว ปลานึ่งบ๊วย หรือปลานึ่งสมุนไพรก็ได้เช่นกัน ลองทำดูนะคะ ง่ายจริง ๆ ไม่ได้โม้
• ปลาหิมะนึ่งราดซอสผงกะหรี่ By ไมโครเวฟ โดย อาหารง่าย ๆ สไตล์ Rita
ไม่มีเตาแก๊สมีแต่ไมโครเวฟแต่อยากกินผัดผงกะหรี่ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นลองฉีกแนวจับเข้าไมโครเวฟก่อน ราดด้วยซอสผงกะหรี่กันเถอะ รับรองอร่อยเหอะ
ส่วนผสม ปลาหิมะนึ่งราดซอสผงกะหรี่
• ปลาหิมะ หรือปลาเนื้อขาว 300 กรัม
• หอมหัวใหญ่ (หั่นแว่น) 1/2 ลูก
• กระเทียมบุบ 2-3 กลีบ
• น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
• นมสด หรือนมข้นจืด (แบบกระป๋อง) 1/2 ถ้วยตวง
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• ผงกะหรี่ 1-2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำพริกเผา 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกชี้ฟ้าสีแดง (หั่นเส้น)
• ขึ้นฉ่ายหั่นท่อน 1-2 ต้น
• ต้นหอมหั่นท่อน 1-2 ต้น
วิธีทำปลาหิมะนึ่งราดซอสผงกะหรี่
• 1. ผสมหอมหัวใหญ่ กระเทียม และน้ำมันพืช นำเข้าไมโครเวฟใช้กำลังไฟ 800 วัตต์ เป็นเวลา 3 นาที
• 2. เทนมลงไปในชามแล้วตอกไข่ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน
• 3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ผงกะหรี่ และน้ำพริกเผา คนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่พริกชี้ฟ้าลงไป ปิดฝาแล้วนำเข้าไมโครเวฟใช้กำลังไฟ 300 วัตต์ เป็นเวลา 10 นาที
• 4. นำออกมาใส่ขึ้นฉ่ายกับต้นหอม ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟต่ออีก 2 นาที
• 5. นำซอสผงกะหรี่ออกมาคนพอเละ พักไว้
• 6. นำปลาหิมะเข้าไมโครเวฟใช้กำลังไฟ 600 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที จึงนำออกมาเปลี่ยนจาน แล้วราดด้วยซอสผงกะหรี่ เป็นอันเสร็จจ้า
ขอขยี้ตาแป๊บ เย้ย ! ตาไม่ฝาด เคยใฝ่ฝันว่าอยากทำเมนูปลานึ่งกินเองมานานแล้ว แต่อยู่คอนโดแบบนี้อุปกรณ์ไม่พร้อมเลยต้องหยุดความคิดไว้ แต่แล้วพออ่านเจอเมนูปลาหิมะราดซอสผงกะหรี่ไมโครเวฟก็เหมือนมาจุดประกายฝันอีกครั้ง วันหยุดนี้เจอกันแน่น จะกินให้อิ่มแปล้พุงปลิ้นกันไปเลย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก