ได้เวลาข้าวเที่ยงพอดี พบกับเมนูแกงคั่วปูม้า สูตรอาหารไทยรสเผ็ดร้อนหอมกะทิ ใส่สับปะรดตัดรสหน่อย มาพร้อมวิธีทำน้ำพริกแกงคั่วรสร้อนแรง
แกงคั่วไก่หรือแกงคั่วหมูใคร ๆ ก็ทำกินกันเยอะแล้ว ถ้าไม่อยากซ้ำใครลองทำ
เมนูแกงคั่วปูม้ากันดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำแกงคั่วปูม้า สูตรจาก
คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่ปูม้าสด ๆ พร้อมกับสับปะรด จุดเด่นคือน้ำพริกแกงคั่วใส่ดีปลี และเติมน้ำตาลมะพร้าวเพิ่มความกลมกล่อม
หมายเหตุ : แกงคั่วกุ้ง 1 ชาม ให้พลังงานประมาณ 395 กิโลแคลอรี ตะโกน้อยชวนฝอย อร่อยกับแกงคั่วปูม้า โดย คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สิ้นกุมภาพันธ์ ชาวประมงก้าวผ่านช่วงฤดูของความโหดร้ายไปได้อีกปี การทำประมงชายฝั่งเขตน้ำตื้นเริ่มฤดูกาลใหม่ แม้ว่าจะยังไม่สดใสเท่าใดนัก แต่เพื่อปากท้อง และอีก 3-4 ชีวิตที่กำลังรอ เสมือนกับการต่อลมหายใจให้มีชีวิตได้ต่อสู้กับการค้นหาอาหารมาประทังชีวิต ที่ธรรมชาติประทานให้ในท้องทะเล เครื่องมือทำกินเดินทางสู่ท้องทะเลอีกครั้ง โขนเรือฝ่าฟันสายน้ำในยามค่ำคืน พรายน้ำสะท้อนแสงจันทร์ในคืนก่อนที่พระจันทร์จะเต็มดวงระยิบระยับเป็นทาง เหมือนจะส่งสัญญาณให้ทะเลรับรู้ในการเดินทางค่ำคืนนี้ เมื่อเข้าสู่แหล่งอาหารอันกว้างใหญ่ พื้นที่เฉพาะสำหรับชาวประมงพื้นบ้าน อวน 3 ชั้นก็ถูกจมลงและวางกลางผืนน้ำด้วยความเงียบสงัด ปล่อยให้อวนล่องลอยทำหน้าที่เป็นกับดักจับปูปลาในแหล่งนี้และจะรอกู้อีกทีในช่วงหัวรุ่งยามฟ้าสาง
ราวตีห้าก่อนฟ้าจะสว่าง อวนก็กู้เสร็จเรียบร้อย รอคอยเพียงวิ่งเข้าฝั่ง คลื่นลมดีได้กุ้งร่วม 2 เข่ง มีใหญ่ปนหนาตัว กุ้งใหญ่จะปลดอวนง่ายแค่เพียงสะบัด ต่างจากปลาและปูต้องใช้เวลา
กาแฟดำถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมปาท่องโก๋หน้าหาด เรียกพลังงานคืนมา หูตาก็สว่าง แม่ค้าคนกลางจัดแจงสะเด็ดน้ำในตัวกุ้ง พร้อมชั่งได้กุ้งรวม 20 กว่ากิโล ขายกุ้งได้ราคา 480 บาท มีกุ้งคอหัก ตัวไม่สวยราวครึ่งกิโล คงเป็นกับข้าวเช้าตะโกน้อยพร้อมปูม้า 4-5 ตัว เก็บมาแกงช่วงสาย
แวะตลาดซื้อกะทิสดกับสับปะรดสุก ถึงบ้านจัดการปูเตรียมรอแกง เครื่องแกงหาได้ในครัวและข้างบ้าน ทั้งตะไคร้ ขมิ้น พริกและดีปลี สำคัญที่ผิวมะกรูด
ส่วนผสม แกงคั่วปูม้า
• กะทิสด
• สับปะรดสุก
• พริกสด
• ตะไคร้
• ขมิ้น
• ดีปลี
• ผิวมะกรูด
• กระเทียม
• พริกไทยดำ
• น้ำปลา
• น้ำตาลมะพร้าว
• ใบมะกรูด
วิธีทำแกงคั่วปูม้า
ชาวใต้นิยมใช้กะทิคั้นสด ๆ ไม่ว่าจะแกงหรือทำขนม ไม่นิยมกะทิกล่อง บางยี่ห้อกลิ่นแปลก ๆ แถมแกงแล้วไม่ได้กลิ่น อาหารไทยที่ใช้กะทิส่วนใหญ่ต้องการกลิ่นและความหวานมันในมะพร้าว ซึ่งอาจจะไม่สะดวกนักสำหรับคนที่ต้องการเวลาหัวกะทิเคี่ยวพอข้นยังไม่แตกมันมาก แล้วใส่เครื่องแกงที่ปั่นพร้อมหัวกะทิ
ผัดจนเครื่องแกงสุกหอม กะทิเริ่มงวดก็ใส่สับปะรดลงไป
เคี่ยวจนสับปะรดกลมกลืนกับน้ำแกง
แล้วแต่งแต้มรสชาติด้วยน้ำปลากับน้ำตาลมะพร้าว
เมื่อชิมรสชาติได้ที่ มีเปรี้ยวเค็มหวาน ตามด้วยเผ็ดแผ่ว ๆ ก็ใส่ปูลงไป
ทิ้งไว้สัก 6-7 นาที พอไข่ปูเป็นตานีไม่แห้งแข็ง เนื้อปูด้านในก็จะสุกพอดี
ชิมน้ำแกงอีกทีเผื่อเหลือเผื่อขาด แล้วใส่ใบมะกรูดปิดไฟเป็นเสร็จสิ้น
ตักแกงให้คลายร้อน แล้วชิมน้ำแกงอีกที
จะได้ความมันในตัวกะทิและมีความหอมมะพร้าว สับปะรดฉ่ำแบบเปรี้ยวหวาน
ผสานกับน้ำแกงกะทิ มีรสชาติหวานมัน ตักข้าวสวยร้อน ๆ เตรียมตั้งโต๊ะรอ
ตะโกน้อยทำจมูกฟุตฟิตเพราะกินไม่ได้ ต้องต้มปูแล้วแกะเนื้อไว้ให้ บรรจงกินแบบสองมือ
ตักน้ำแกงราดลงบนข้าวร้อน ๆ ยิ่งส่งกลิ่นหอมของแกงคั่ว
ไข่ปูมาแบบกึ่งสุกกึ่งตานี รสชาติจะมัน ๆ น้ำแกงราดบนข้าวชุ่มฉ่ำ
กินแล้วหอมมัน ไม่ติดคอ แกงแบบนี้ กินทีไรก็อร่อย
ยิ่งหิวก็ยิ่งช่วยให้อร่อยขึ้น ครบรสชาติของแกงคั่ว
และถ้าให้ดีต้องค้างคืนสักคืน เช้ามาอร่อยได้อีกรอบ
มาถึงตอนนี้ 11.00 น. กว่า ๆ พาลหิวข้าว ตะโกขออนุญาตลาไปกินข้าวเที่ยงก่อนนะครับ พบกับตะโกน้อยใหม่คราวหน้า นะครับ กราบสวัสดี
ตะโกน้อยเดี๋ยวนี้รู้มาก ท่าเริ่มเยอะ
อูย… ท้องร้องหิวเลยพอเห็นภาพเมนูแกงคั่วปูม้า แต่ถ้าไปซื้อปูช่วงกลางเดือนคงไม่เหมาะ รอเงินเดือนออกก่อนเถอะจะจัดสักกิโล
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม