หมอกควันไฟจากประเทศอินโดนีเซียปกคลุมทั่วท้องฟ้าทั้งบนฝั่งและในทะเล ท้องฟ้ามืดสลัว ควันปกป้องพรางแดดไว้ยิ่งทำให้หายใจลำบากขึ้น แม้จะมีลมพัดพามาบ้างก็เหมือนกับยิ่งพัดหอบเอาควันไฟป่ามาในปริมาณมากขึ้น ชาวเรือเล็กไม่ออกวางอวนวางลอบเพราะไม่ได้ตัว บางครอบครัวก็ป่วยจากภาวะการหายใจ จับไข้ ทั้งไอทั้งจาม อากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงปลายปี หรือที่เรียกกันว่า ปลายฝนต้นหนาวกำลังเริ่ม เมื่อไม่มีอาหารทะเลให้ทำกับข้าว ก็ต้องขึ้นบกกินหมูกินไก่ และอาหารที่เหมาะสำหรับอากาศในข่วงนี้คงหนีไม่พ้นอาหารที่มีไขมันสูง เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น มีพลังงานไว้ต่อสู้กับสภาพอากาศในยามนี้
เศรษฐกิจบ้านเราในช่วงนี้มันเหมือนกับการขาดสภาพคล่อง เงินทองหายาก สินค้ากลุ่มยางและปาล์มมีราคาตกต่ำ สวนทางกับค่าเงินบาทที่แข็งดั่งภูเขา เมื่อก่อน 1$ มีค่าถึง 32 บาทกว่า ๆ มาตอนนี้เหลือเพียง 30.38 บาท การส่งออกพากันตายเป็นแถบเพราะเรทเงินบาทแข็งค่า แต่ก็ยังแอบดีใจเมื่อมีโรคอหิวาต์หมูระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน ทำเอาราคาหมูและไก่ในบ้านเราเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาพุ่งไป 30-40% จากเดิม ผู้ที่ได้ประโยชน์รายใหญ่ก็คงไม่พ้นกลุ่มเจ้าสัวและผู้ประกอบธุรกิจหมูไก่ นี่แหละมั้งที่เขาบอกกันว่า “รวยกระจุก จนกระจาย” ประชาชนแทนที่จะได้รับอานิสงส์ กลับกลายเป็นต้องซื้อหมูแพงขึ้นตามกลไกตลาดที่เอื้อเฉพาะนายทุน ถึงอย่างไรเราก็ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ ทั้งสภาพอากาศที่เลวร้ายและเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง
ส่วนผสม หมูต้มซีอิ๊ว
- หมูสามชั้น
- พริกไทย
- รากผักชี
- กระเทียม
- เม็ดผักชี
- น้ำปู 2-3 ช้อน
- น้ำเปล่า
- โป๊ยกั๊ก 1-2 แท่ง
- ดอกจันทน์ 2-3 ดอก
- สับปะรด
- น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำหมูต้มซีอิ๊ว
► หลังจากนั้นใส่น้ำพอท่วม ใส่โป๊ยกั๊ก 1-2 แท่ง และดอกจันทน์ 2-3 ดอก ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่นะครับ
สามชั้นมันน้อยกินแล้วไม่เลี่ยน เพราะมีเครื่องเทศและสับปะรดมาตัด เมื่อตักราดบนข้าวสวยร้อน ๆ ไอความร้อนพัดกลิ่นให้หอมขึ้น เหมือนกับจะบอกว่า ให้รีบตักเข้าปาก เพราะหอมยั่วยวน ชวนทรมานความหิว
ใครกลัวอ้วนคงไม่เหมาะกับเมนูหมูต้มซีอิ๊วสูตรนี้ แต่ทั้งนี้ก็สามารถดัดแปลงเป็นปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว ปลาทูต้มซีอิ๊ว ไก่ต้มซีอิ๊ว หรือกุ้งต้มซีอิ๊วก็ได้เช่นกันจ้า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม