ไม่นานมานี้เราได้เสนอ
เมนูอร่อย ๆ จากปลาทู ที่ไม่ใช่แค่ทอดกินกับน้ำพริก อย่างเมนูต้มส้มปลาทู อาหารไทยพื้นบ้านรสเปรี้ยวเค็มหวาน อร่อยกลมกล่อมมาฝาก แล้วในเมื่อมีต้มส้มก็ต้องมาคู่กับต้มหวาน เราจึงขอหยิบยกสูตรปลาทูต้มหวานน่ากิน ๆ จาก
คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ทำง่าย ๆ แถมออกมาดูน่ากินมากเลยทีเดียว
คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม บอกว่า ปลาทูต้มหวานทำง่าย เก็บไว้กินได้นาน เพราะว่ายิ่งอุ่น ยิ่งเคี่ยว ยิ่งนานก็ยิ่งอร่อย เพราะน้ำจะซึมเข้าตัวปลา ก้างปลาจะนิ่ม กินง่าย แค่มีข้าวสวยร้อน ๆ ก็พร้อมกินแล้ว ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากอะไรเลย เป็นแค่การต้มไม่ซับซ้อน และหลายขั้นตอน เหมาะสำหรับแม่บ้านยุคใหม่ ไม่ต้องมาคอยเฝ้า พลิกกลับอาหาร หรือต้องคอยคนบ่อย ๆ วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรเยอะ ดัดแปลงมา รสชาติใช้ได้ รวม ๆ คล้ายปลาทูต้มอ้อย ปลาทูต้มส้ม แต่นี่เราใส่น้ำตาลปี๊บเยอะหน่อยเลยกลายเป็นปลาทูต้มหวานนั่นเอง รู้อย่างนี้แล้วก็ลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะส่วนผสมปลาทูต้มหวาน • ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
• พริกไทยเม็ด 50 กรัม
• ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
• หอมแดง 1 ขีด
• เกลือป่น หยิบมือ
• มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
• ตะไคร้ 2 หัว (ไม่มีไม่ได้ใส่ )
วิธีทำปลาทูต้มหวาน • เครื่องปรุงเอาเท่าที่มี ตามภาพ
• ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย รองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้
• นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป (เรียงไม่สวย ปลาแช่แข็งตัวเล็กไปหน่อยรอบนี้ แถมไม่สด ทำให้ต้มแล้วท้องปลาเละ)
• คั้นน้ำมะขามเปียก กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป (ที่ใส่น้ำมะขามเปียก คือตัดรสหวาน จะได้ไม่หวานเลี่ยน รสชาติจะอร่อยมีรสอมเปรี้ยวนิด)
• ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด
• ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมดูว่า หวานพอใจเราหรือยัง (เติมได้) เค็มหรือจืดไปไหม (เติมได้) ปรุงได้ ไม่ต้องตามสูตรเป๊ะ รสที่ได้จะ หวาน ๆ อมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย
แค่นี้ก็ได้ปลาทูต้มหวานที่อร่อย ๆ แล้ว ยิ่งอุ่นบ่อยยิ่งเข้าเนื้อยิ่งอร่อยขอขอขคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก