เกือบจะเป็นเปรี้ยวหวาน (Health & Cuisine)
เรื่องและสูตร : อาจารย์วันทนี ธัญญา เจตนธรรมจักร เรียบเรียง : สิทธิโชค ศรีโช ภาพ : อัศวิน นรินท์ชัยรังษี สไตล์ : พิมฝัน ใจสงเคราะห์
หลายท่านคงเคยได้ยินว่า "ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ที่เป็นเช่นนั้นเพราะแววตาของเราสามารถแสดงออกถึงความรู้สึก แต่เหนือกว่านั้นแววตายังสะท้อนถึงสุขภาพเจ้าของดวงตาได้อีกด้วย อาทิ ถ้าตาแดงจัดอาจเกิดจากดวงตาอักเสบ หากมีน้ำตาออกตลอดเวลาอาจมีสาเหตุจากท่อน้ำตาอุดตัน หากตาขาวมีสีเหลืองอาจเป็นเพราะตับหรือถุงน้ำดีผิดปกติ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เราสามารถสังเกตเองได้ หากรู้ว่าผิดปกติก็ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้สายตากลับมาใช้งานได้ตามปกติ
สำหรับผู้สูงอายุมักมีปัญหาเกี่ยวกับสายตาเนื่องมาจากการเสื่อมของเลนส์ตาทำให้ยืดหยุ่นได้ไม่ดี ส่งผลให้มองเห็นสิ่งของระยะใกล้ไม่ชัด แต่ชัดในระยะไกล หรือที่เราเรียกว่า สายตายาว กลุ่มนี้ต้องอาศัยการสวมแว่นสายตาเพื่อประสิทธิภาพการมองเห็น แต่สำหรับบุคคลทั่วไปและผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน หากการมองเห็นผิดปกติไป ไม่ควรซื้อยามาหยอดตาเอง เพราะเราอาจไม่รู้ว่าอาการเหล่านั้นเกิดจากสิ่งใด หากกรณีต้องทำการผ่าตัด หรือต้องลอกตา ก็จะได้รักษาอย่างทันท่วงที
สำหรับบุคคลสูงอายุทั่วไป สามารถใช้อาหารช่วยชะลอการเสื่อมและช่วยบำรุงสุขภาพดวงตาให้ดีขึ้นได้ โดยเลือกบริโภคกลุ่มอาหารที่อุดมด้วยวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึ่งสามารถชะลอความเสื่อมของดวงตา ยกตัวอย่างอาหารกลุ่มนี้ได้แก่ เม็ดเก๋ากี้ แครอท ผักบุ้ง หรือทับทิม เป็นต้น โดยวิตามินชนิดนี้จะละลายได้ดีในน้ำมัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการรับประทานจึงควรเติมน้ำมันลงในขั้นตอนการปรุงอาหารเล็กน้อยเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุด
นอกเหนือจากเรื่องอาหาร เรายังมีวิธีบริหารกล้ามเนื้อตาแบบง่าย ๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาแข็งแรงและกระตุ้นให้ประสาทตาทำงานดีขึ้น เลือดไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงดวงตาได้มากขึ้น โดยวิธีกลอกตาเป็นวงกลมช้า ๆ ร่วมกับมองบนและล่างสลับกัน มองซ้ายมองขวาสลับกัน นับการบริหารทั้งสามแบบนี้เป็น 1 ยก โดยควรบริหารดวงตาครั้งละ 3 ยก วันละสองครั้งเช้าและเย็น ก็จะช่วยให้สุขภาพดวงตาของคุณดีขึ้นได้ หรืออาจใช้การนวดดวงตา โดยใช้นิ้วกดนวดเบา ๆ บริเวณเปลือกตาบนและขอบตาล่าง ในทิศทางเริ่มจากหัวตาไปทางหางตา ทำเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนมาหล่อเลี้ยงดวงตาได้ดีขึ้น
เพื่อประโยชน์สูงสุดสำหรับหน้าต่างของหัวใจคุณผู้อ่านทุกท่าน ดิฉันมีเมนูซึ่งไม่ว่าเป็นผู้สูงอายุหรือบุคคลทั่วไปก็สามารถได้รับประโยชน์จากวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนในผักผลไม้นานาชนิดจากอาหารจานนี้ แต่ด้วยวิธีปรุงที่แบ่งเป็นหลายส่วน ทั้งทอด และผัดแบบเปรี้ยวหวานก่อนจัดประกอบลงในจาน จึงไม่สามารถเรียกว่า เป็นผัดเปรี้ยวหวานได้อย่างเต็มปากเต็มคำดิฉันเลยขออนุญาตตั้งชื่อว่า "เกือบจะเป็นเปรี้ยวหวาน" แทน ถึงที่มาของชื่อดูไม่ชัดเจนแต่ถ้าได้ปรุงรับประทานกัน ดิฉันก็เชื่อว่าจะช่วยให้ทุกการมองเห็นของคุณคมชัดขึ้นไม่มากก็น้อยแน่นอนค่ะ
สิ่งที่ต้องเตรียม
เนื้อปูต้มสุก 30 กรัม
กุ้งทะเลแกะเปลือกเหลือหาง 4 ตัว
เนื้อปลาทับทิมหั่นเป็นชิ้นขนาด 2x4 นิ้ว จำนวน 6 ชิ้น
ผักบุ้งไทยเจียนเป็นเส้น 60 กรัม
พริกหวานสีแดง เขียวและเหลืองหั่นเต๋าชนิดละ 2 ช้อนโต๊ะพูน
เม็ดทับทิม 4 ช้อนโต๊ะ
สับปะรดหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงห่ามหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
แครอทหั่นเต๋า 3 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 2 ช้อนโต๊ะ
เม็ดเก๋ากี้ 2 ช้อนชา
ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
เนื้อเสาวรสสด 2 ผล
น้ำเลมอน 1-2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทรายสีรำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสต๊อกไก่ 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1-2 ช้อนชา
แป้งทอดกรอบสำหรับชุบทอด 1 ถ้วย
น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำเย็นสำหรับผสมแป้ง 3-4 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันรำข้าวสำหรับผัดและทอดปลาเล็กน้อย
ผิวเลมอนขูดฝอยและพริกไทยป่นเล็กน้อย
วิธีทำ
ละลายแป้งทอดกรอบกับน้ำเย็นและน้ำปูนใส เตรียมไว้ ใส่เนื้อปลา กุ้ง ผักบุ้งที่เจียนไว้ทีละชนิดลงชุบแป้งแล้วใส่ลงทอดในกระทะด้วยน้ำมันร้อนใช้ไฟกลาง พอสุกเหลืองและแป้งกรอบดีแล้วตักขึ้นพักสะเด็ด น้ำมันไว้
ใส่น้ำมันรำข้าวสำหรับผัดลงในกระทะ ใส่กระเทียม ขิงสับ หอมหัวใหญ่ ผัดจนมีกลิ่นหอม ใส่แครอต พริกหวาน ตามด้วยมะม่วง ทับทิม แล้วปรุงรสด้วยเกลือน้ำตาล พริกไทย เนื้อในเสาวรส น้ำเลมอน เติมน้ำซุป ชิมรสให้เปรี้ยวหวาน เค็ม กลมกล่อมใส่เม็ดเก๋ากี้ แล้วจึงใส่แป้งมันที่ละลายน้ำไว้ลงคนให้เหนียวดี ปิดไฟ
นำของทอดทุกอย่างจัดใส่จานให้สวยงามตักส่วนผสมข้อ 2 ราดลงไป โรยหน้าด้วยเนื้อปู พริกไทยป่น และผิวเลมอนขูดเล็กน้อย จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหรือก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลวกสุกก็ได้
Tip
ผู้สูงอายุที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง ขอแนะนำให้ปรุงปลา กุ้ง และผักบุ้งด้วยวิธีลวกสุกแทนการทอด เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะไขมันเกิน
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 481.95 กิโลแคลอรี, โปรตีน 39.60 กรัม, ไขมัน 4.77 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 69.54 กรัม, ไฟเบอร์ 4.43 กรัม
สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน ลองนำเมนูผัดเปรี้ยวหวานจานนี้ไปทำให้กินเพื่อบำรุงสายตา ยืดอายุการมองเห็นของพวกเขาให้นานยิ่งขึ้นกันดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ปีที่ 14 ฉบับที่ 159 เดือน เมษายน 2557
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 481.95 กิโลแคลอรี, โปรตีน 39.60 กรัม, ไขมัน 4.77 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 69.54 กรัม, ไฟเบอร์ 4.43 กรัม
สำหรับใครที่มีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน ลองนำเมนูผัดเปรี้ยวหวานจานนี้ไปทำให้กินเพื่อบำรุงสายตา ยืดอายุการมองเห็นของพวกเขาให้นานยิ่งขึ้นกันดีกว่า
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
ปีที่ 14 ฉบับที่ 159 เดือน เมษายน 2557