ได้เวลานับถอยหลังอำลาปี 2015 กันแล้ว อายุมากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาเนอะ แต่สำหรับเรื่องปากท้องนี่สิเรื่องใหญ่ เห็นด้วยไหมคะ (ฮา) ตั้งแต่ต้นปี 2015 มีอาหารเด็ด ๆ มากมายที่ดังในกระแส ด้วยความที่ชอบทำอาหารมากเลยติดตามมาตลอดว่ามีอาหารอะไรฮิต โดยเฉพาะเมนูอาหารคาวนี่แหละทำให้มีเรี่ยวแรงทำงาน กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำ 10 สูตรอาหารสุดฮิต เชื่อเถอะว่าบางเมนูเพื่อน ๆ ต้องเคยลองทำมาก่อน มาลองทายกันดูเลยจ้า
1. อาหารคลีนเมนูข้าวกล่องปี 2015 กระแสการกินอาหารคลีนมาแรงอย่างมาก ซึ่งอาหารคลีนมาโด่งดังได้เพราะทุกวันนี้มีคนหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพพร้อมกับการลดน้ำหนักกันมากขึ้น เราจึงได้รู้จักคำนี้ อีกทั้งเซเลบและดาราส่วนใหญ่ก็หันมาทานอาหารคลีน และบางคนก็ทั้งทานและขายไปพร้อม ๆ กันทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นด้วย [คลิกอ่าน 20 เมนูข้าวกล่องแบบคลีน ๆ ภารกิจนี้เพราะมีแฟนอ้วน]
ส่วนอาหารคลีนที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นวิธีทำอาหารคลีนเมนูข้าวกล่องสูตรจากคุณสมาชิกหมายเลข 1596675 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เหมาะสำหรับพกเอาไปกินที่ทำงานมากเลยค่ะ มื้อเช้าคือ อกไก่สับผัดหน่อไม้ฝรั่ง ส่วนมื้อเที่ยงคือ ต้มยำปลานิล และมื้อเย็นคือ แซลมอนย่าง แต่ละมื้อใช้ข้าวกล้อง หรือข้าวไรซ์เบอร์รีก็ได้ค่ะ ถ้ากินได้ทุกมื้อก็เก๋เลยค่ะ
เมนูอกไก่สับผัดหน่อไม้ฝรั่ง ต้มยำปลานิล และปลาแซลมอนย่าง
ส่วนผสม อกไก่สับผัดหน่อไม้ฝรั่ง (อาหารเช้า)
เนื้ออกไก่สับ หน่อไม้ฝรั่ง น้ำมันมะกอก น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว วิธีทำอกไก่สับผัดหน่อไม้ฝรั่ง ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะ นำอกไก่สับลงไปผัด ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่ง ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและซีอิ๊วขาว ส่วนผสม ต้มยำปลานิล (อาหารเที่ยง) ปลานิล เห็ดตามชอบ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ น้ำมะนาว พริกขี้หนู วิธีทำต้มยำปลานิล ตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าลงไป ใส่ข่า ตะไคร้ และใบมะกรูด ตามด้วยปลานิล รอจนน้ำเดือดใส่เห็ด ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะนาว และพริกขี้หนู พร้อมเสิร์ฟ ส่วนผสม ปลาแซลมอนย่าง (อาหารเย็น) ปลาแซลมอน ผักสดตามชอบ วิธีทำ ปลาแซลมอนย่าง เอาปลาแซลมอนนาบบนกระทะไม่ปรุงอะไรเลยค่ะ พอสุกตักขึ้นใส่ภาชนะ จัดเสิร์ฟกับผักสด
2. น้ำจิ้มซีฟู้ดมาต่อกันที่สูตรอาหารสุดฮิตอีกเมนู ได้แก่ น้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูเครื่องจิ้มที่กินคู่กับอาหารทะเลปิ้งย่าง หรือเมนูลวกจิ้ม ฮิตเพราะทำง่าย แถมยังมีรสจัดจ้านถูกปากคนไทยอีกด้วย [คลิกดู 6 สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ด รวมความแซ่บจัดจ้านที่ใคร ๆ ก็ทำกินได้ ] และน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นสูตรโบราณ ใส่พริกขี้หนู กระเทียม น้ำส้มสายชู และเกลือ เพิ่มน้ำตาลปี๊บลงไปให้พอหวาน รสชาติโดยรวมเผ็ดจัดจ้าน ใครไม่ชอบกินเผ็ดลดปริมาณพริกขี้หนูลงมาได้นะคะ
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด (สูตรโบราณ) พริกขี้หนู 1 กำมือ กระเทียม 5 กลีบ เกลือป่น ปลายช้อน น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด 1. โขลกพริกขี้หนู กระเทียม และเกลือป่นพอหยาบ 2. เติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลปี๊บลงไป คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
3. อาหารลดน้ำหนักสงสัยปี 2015 จะมีคนจ้ำม่ำเยอะ อาหารลดน้ำหนักก็เลยติดโผฮอตตลอดทั้งปีกับเขาด้วย อาหารลดน้ำหนักที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้งสูตรจากอินสตาแกรม simplydesigncooking มีความพิเศษที่ใช้ข้าวโอ๊ตเป็นโจ๊กแทนข้าวขาว และเอากุ้งไปผัดจนหอมกลิ่นกระเทียมแซมรสเผ็ดนิด ๆ จากปาปริก้า ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทยตามชอบ เหมาะทำเสิร์ฟเป็นอาหารเช้ามากเลยจ้า [คลิกดู 35 เมนูอาหารลดน้ำหนัก หน้าตาดีสีสันเริด กินให้ดีลดไป 10 กิโลกรัม]
ส่วนผสม โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง กุ้ง ผงกระเทียม ปาปริก้า ข้าวโอ๊ต น้ำเปล่า หรือน้ำซุป ซีอิ๊วขาว พริกไทย วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง 1. ใส่กุ้งลงไปในกระทะ ปรุงรสด้วยผงกระเทียมกับปาปริก้า พอสุกตักขึ้น เตรียมไว้ 2. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำเปล่าหรือน้ำซุป (ตามปริมาณข้างกล่อง แต่ละยี่ห้ออาจจะไม่เท่ากัน) ตั้งไฟกลางคนจนเริ่มข้น ตักใส่ชาม วางกุ้งที่ผัดแล้วลงไป ก่อนเสิร์ฟใส่ซีอิ๊วขาวนิดและพริกไทยหน่อย 
4. อาหารลดน้ำหนัก สูตรไมโครเวฟ ความแรงของอาหารลดน้ำหนักยังอยู่นะคะ แต่คราวนี้วิธีทำไม่ยุ่งยากเพราะใช้ไมโครเวฟ เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนมีอุปกรณ์ไม่พร้อม อาหารลดน้ำหนักสูตรไมโครเวฟที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นผัดยอดคะน้าน้ำมันหอยสูตรจากคุณ in_runk สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นนอกจากใช้ไมโครเวฟในการทำให้สุกแล้ว ยังใช้น้ำเปล่าผัดอีกด้วย เพิ่มโปรตีนจากเนื้อไก่ เสิร์ฟคู่กับข้าวกล้องและไข่ดาวน้ำ ลองทำกันดูค่ะ [คลิกดู 23 เมนูอาหารลดน้ำหนัก สูตรไมโครเวฟทำง่าย ลดได้ 8 กิโลกรัม]
ส่วนผสม ผัดยอดคะน้าน้ำมันหอย คะน้าหั่นท่อน เนื้อไก่ น้ำมันหอย น้ำเปล่า วิธีทำผัดยอดคะน้าน้ำมันหอย นำคะน้าและเนื้อไก่ใส่ชามทนความร้อน เทน้ำมันหอยลงไปพอเหมาะ เติมน้ำเปล่าลงไป แล้วเอาเข้าไมโครเวฟรอจนสุก พร้อมเสิร์ฟ
5. ข้าวมันไก่สูตรอาหารสุดฮิตที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับปี 2015 คือ ข้าวมันไก่ แม้จะมีขายทั่วไป แต่เชื่อไหมว่ามีคนทำกินเองที่บ้านด้วยค่ะ ทำครั้งเดียวแบ่งกินได้ทั้งครอบครัว คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ขอแนะนำข้าวมันไก่สูตรจากคุณมันแกวกะแห้วหมู สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำข้าวมัน น้ำซุป และน้ำจิ้ม ขอให้ทุกคนเพลิดเพลินกับข้าวมันไก่จานนี้นะคะ
ส่วนผสม น้ำต้มไก่ ผักกาดขาว หรือผักหางหงส์สด 1 หัว (ต้องเลือกที่สด ๆ เพื่อให้หวาน) กระเทียม 3-4 หัว (ประมาณ 30 กลีบ) รากผักชี 5-6 ราก ขิงแก่ (หั่นเป็นแว่นบาง) 5–6 แว่น ขิงทุบเล็กน้อย พริกไทยขาวทุบหยาบ 20–30 เม็ด เกลือสมุทร 1-2 ช้อนโต๊ะ (ได้ดอกเกลือยิ่งดี เพื่อให้มีรสเค็มขึ้นมาบ้าง ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ) น้ำตาลกรวด 1/2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 2–3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 1/2 ช้อนโต๊ะ โครงไก่ หรือเนื้อไก่ ส่วนผสม น้ำซุป น้ำต้มไก่ น้ำเปล่า ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวมันไก่ เต้าเจี้ยว 6 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ ขิงแก่สับละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ ขิงแก่ ตำแหลก 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูสดเขียว-แดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ น้ำส้มพริกดองแบบปั่น 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วหวานสูตร 1 1 ช้อนโต๊ะ มะนาว 1 ซีก ส่วนผสม ข้าวมัน ข้าวหอมเก่า (ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้ข้าวหอมเก่าก็จะดี ที่ไม่ใช่ข้าวหอมใหม่ต้นฤดู หรือข้าวนาปีเสาไห้ อะไรประมาณนี้) น้ำมันพืช กระเทียม ขิงฝานแว่น เกลือสมุทร 1/2-1ช้อนชา น้ำตาลกรวด 1 ช้อนชา น้ำซุป 1 ทัพพี วิธีทำน้ำต้มไก่
1. ใส่ผักกาดขาว กระเทียม รากผักชี ขิงแก่ ขิงทุบ พริกไทยขาว เกลือสมุทร น้ำตาลกรวด ซีอิ๊วขาว และน้ำมันพืชลงในหม้อ (ควรใส่น้ำเผื่อไว้หน่อยกันน้ำแห้งเกินไป) นำขึ้นตั้งไฟแรง (ไม่ต้องปิดฝา) ต้มให้เดือดนานอย่างน้อย 30 นาที 2. พอครบเวลาใส่โครงไก่ หรือเนื้อไก่ลงไปจนหมด (ถ้าหม้อใบเล็กเกินจะเอาผักกาดขาวออกให้หมดก่อนก็ได้) พอใส่ไก่ชิ้นสุดท้ายลงไป ให้ลดไฟอ่อนลง จากนั้นต้มไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเดือด หมั่นช้อนฟองอากาศทิ้ง วิธีทำน้ำซุป น้ำซุปต้มไก่จะมีรสจัดเกินไปกว่าที่จะนำมาเป็นน้ำซุปที่กินกับข้าวมันไก่ได้ทันที ต้องเติมน้ำลงไปให้รสอ่อนลงแล้วนำไปต้มให้เดือดอีกครั้ง ถึงเอามารับประทานคู่กับข้าวมันไก่ได้ (ถ้าน้ำซุปต้มไก่รสอ่อนพอดีก็นำมาทานเป็นน้ำซุปได้เลย แต่ก็แปลว่าไก่เรารสจะจืดไปนิดนะครับ) วิธีทำน้ำจิ้มข้าวมันไก่
1. ใส่เต้าเจี้ยวลงในถ้วย (ควรชิมก่อนด้วยว่า เต้าเจี้ยวที่เราซื้อมามีความเค็มมากน้อยแค่ไหน บางยี่ห้อก็เค็มจัด บางยี่ห้อก็มีติดหวานเล็ก ๆ ปริมาณส่วนผสมมาก-น้อย ลดลงตามส่วนนะครับ) ตามด้วยน้ำตาลทราย 2. ใส่ขิงแก่ตำแหลกและขิงแก่สับละเอียด (ขิงแก่ตำแหลกนี่สำคัญนะครับ ตำให้แหลกเลย นำน้ำขิงในครกใส่ไปด้วย เวลาผสมกันเป็นน้ำจิ้มแล้วจะได้มีรสและกลิ่นขิงแทรกอยู่อย่างทั่วถึง) 3. ใส่พริกขี้หนูเขียว-แดงซอย (ถ้าชอบเผ็ดก็เอาส่วนหนึ่งไปปั่นหรือตำให้แหลกก่อนเลยแล้วค่อยเอามาใส่) 4. ตามน้ำส้มพริกดอง (ที่เหลือมาจากการกินข้าวขาหมู เย็นตาโฟ หรือก๋วยเตี๋ยวเรือก็ได้) บีบน้ำมะนาวใส่ลงไป (เพื่อเอากลิ่น) 5. ใส่ซีอิ๊วหวาน (ถ้าไม่ต้องการให้สีเข้มมากก็ลดเหลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แนะนำให้ใช้สูตร 1 นะครับ พวกง่วนเชียงฝาสีครีมก็ดี ไม่ควรใช้น้ำตาลโมลาส หรือซีอิ๊วหวานสูตร 5 ได้สีเข้มก็จริง แต่เดี๋ยวจะทำให้เสียรส เสียกลิ่น) 6. คนผสมให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ไม่ต้องใส่น้ำซุปลงไปให้เจือจาง แต่ถ้าเห็นว่าข้นมากเพราะใส่ขิงมากไปก็เติมน้ำซุปลงไปสัก 1 ช้อนโต๊ะ) วิธีทำข้าวมัน 1. ซาวข้าวให้เรียบร้อย เทน้ำออกให้แห้ง พักไว้ (อย่าซาวข้าวทิ้งไว้ล่วงหน้านานนัก ถึงเวลาจะหุงแล้วค่อยซาวข้าว และควรเตรียมการหุงเมื่อไก่ต้มสุกพอดี เพราะต้องใช้น้ำต้มไก่มาหุงข้าว)
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมสับและขิงฝานแว่นลงไปเจียวพอหอม 3. ใส่ข้าวที่ซาวแล้วลงไปผัด 4. ช้อนน้ำมันไก่จากหม้อต้มไก่ลงไปผัดกับข้าว 5. ใส่เกลือสมุทร น้ำตาลกรวด และน้ำซุป แล้วผัดให้เข้ากัน ใช้ไฟกลาง ผัดให้เมล็ดข้าวจากเดิมที่ใส ๆ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขุ่นเหมือนเมล็ดข้าวเหนียว และข้าวเริ่มแห้งติดกระทะ ปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปใส่หม้อหุงข้าว
6. ตักน้ำต้มไก่ใส่ลงไปในหม้อหุงข้าว ใส่น้ำให้น้อยกว่าปกติที่เคยหุงเล็กน้อย กดปุ่มหุงข้าว เมื่อข้าวสุกแล้ว อุ่นทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 20 นาที 7. เปิดฝาหม้อหุงข้าวแล้วใช้ช้อนคุ้ยข้าวเบา ๆ เพื่อให้น้ำมันที่ตกอยู่ก้นหม้อหุงข้าวขึ้นมาคลุกกับข้าวให้ทั่ว (หุงครั้งแรกถ้าเค็มหรือจืดไป ครั้งต่อไปก็ปรับสัดส่วนเอานะครับ เหตุเพราะรสชาติของน้ำต้มไก่ที่เราเอามาหุงข้าว รสจัดมากน้อยแค่ไหนนั่นเอง) วิธีเตรียมไก่ก่อนเสิร์ฟ
1. ช็อกไก่ด้วยน้ำเย็น โดยใส่น้ำแข็งก้อนลงในภาชนะแล้วเติมน้ำลงไป จากนั้นใส่ไก่ที่ต้มไว้ลงไปในอ่างน้ำเย็น (วิธีคือ เมื่อต้มเสร็จให้เอาขึ้นจากหม้อแล้วแช่ในน้ำเย็นทันที) แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5–10 นาที 2. ตักขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วเอาน้ำมันพืชมาทาหนังไก่ไว้ให้ทั่ว ๆ (จะใช้แปรงหรือมือก็ได้ แล้วแต่สะดวก) พักทิ้งไว้ประมาณ 3–4 ชั่วโมง (ผิวไก่ก็ยังคงมีสีขาวอมเหลืองสวย เต่งตึงอยู่ตลอดเวลา ไม่แดง ช้ำ กระดำกระด่าง หรือมีกลิ่นหืนแต่ประการใด) 3. หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟพร้อมข้าวมัน น้ำซุป และน้ำจิ้ม
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวมันไก่ พร้อมสูตรน้ำจิ้ม เคล็ดไม่ลับที่ทำเองได้
6. เมนูหม้อหุงข้าวสงสัยคนจะอยู่คอนโดและหอพักมากขึ้น อยากทำกับข้าวก็ลำบากเลยต้องทำอาหารในหม้อหุงข้าวแทน [คลิกดู 7 เมนูจากหม้อหุงข้าว ทำอาหารง่าย ๆ อร่อยจบในหม้อใบเดียว] วันนี้เราเลยมีเมนูจากหม้อหุงข้าวมาฝากเป็นต้มซุปเปอร์ขาไก่สูตรจากคุณ LoVe นาย My Sweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เชื่อเถอะว่า หม้อหุงข้าวต้มจนขาไก่เปื่อยได้ แถมน้ำซุปยังเดือดปุด ๆ อีกด้วย ใครยังไม่เคยลองจัดเลยจ้า
ส่วนผสม ต้มซุปเปอร์ขาไก่ น้ำเปล่า ตะไคร้ทุบพอแตก ข่าหั่นแว่น หอมใหญ่ เกลือป่น ขาไก่ (ตัดเล็บและปลายเท้า ล้างให้สะอาด) ปีกกลางไก่ เครื่องต้มยำสำเร็จรูป ใบมะกรูดฉีก พริกสดหั่นท่อน ผักชีฝรั่งหั่นท่อน หม้อหุงข้าว
วิธีทำต้มซุปเปอร์ขาไก่ 1. เติมน้ำเปล่าใส่ในหม้อหุงข้าว กดปุ่มหุงข้าวรอจนน้ำเดือด 2. ใส่ตะไคร้ ข่า หอมใหญ่ และเกลือลงไป ตามด้วยขาไก่และปีกไก่ ปิดฝาหม้อหุงข้าว รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง 3. เปิดฝาหม้อ ใส่เครื่องต้มยำสำเร็จรูปลงไปคนสักพัก ใส่ใบมะกรูด พริกสด และผักชีฝรั่งลงไป ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ 
7. หมูทอดน้ำปลาเมนูหมูทอดน้ำปลายังคงครองใจมหาชนในปี 2015 มาอย่างยาวนาน เป็นสูตรอาหารสุดฮิตที่ทำง่ายเว่อร์ โดยใช้หมูสามชั้นหั่นหนาหน่อยเวลาทอดจะได้ไม่หดมากไป แล้วจัดการเอาไปหมักกับน้ำปลาและส่วนผสมอื่น ๆ ก่อนเอาไปทอด อูย… ระหว่างทอดกลิ่นหอมฉุยเชียว แบบนี้ถ้าให้กินทุกวันก็ไม่เบื่อหรอกนะ
ส่วนผสม หมูทอดน้ำปลา หมูสามชั้น 500 กรัม น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่นเล็กน้อย ผงปรุงรสเล็กน้อย แป้งโกกิ 5-7 ช้อนโต๊ะ ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำเย็น น้ำมันพืช สำหรับทอด น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น เล็กน้อย
วิธีทำหมูทอดน้ำปลา 1. ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้ทั่ว 2. หมักหมูกับน้ำปลา พริกไทยป่น และผงปรุงรสหมู เติมแป้งโกกิ และไข่ไก่ลงไปนวดให้เข้ากัน ระหว่างนวดหมูให้ค่อย ๆ เติมน้ำเย็นลงไปนวดด้วย หมักทิ้งไว้ 30 นาที 3. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ (กะให้ท่วมชิ้นหมู) ใส่น้ำส้มสายชู และเกลือเล็กน้อยลงในน้ำมันพืช (เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันกระเด็นและไม่ให้หมูติดกระทะขณะทอด) 4. เปิดไฟแรง พอน้ำมันร้อนให้นำเนื้อหมูลงทอดทีละด้านจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน 5. หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมูทอดน้ำปลา สูตรหมูทอดง่าย ๆ ท้าให้ลอง นานแค่ไหนก็ยังฮิต
8. กะหล่ำปลีทอดน้ำปลากะหล่ำปลีทอดน้ำปลา เมนูง่าย ๆ บ้าน ๆ แบบนี้ก็ติดโผอาหารสุดฮิตปี 2015 ด้วย ความที่ส่วนผสมไม่มีอะไรมาก มีเพียงกะหล่ำปลี กระเทียม และน้ำปลา ขั้นตอนการทำก็ไม่ยาก ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม ตามด้วยกะหล่ำปลีและน้ำปลา เชื่อเถอะว่าของเขาดีจริง เพื่อน ๆ อาจใส่เนื้อสัตว์เพิ่มเข้าไปได้ด้วยนะคะ
ส่วนผสม กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา กะหล่ำปลี 1 หัว กระเทียม 2 หัว น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืชเล็กน้อย (สำหรับผัด) วิธีทำกะหล่ำปลีทอดน้ำปลา 1. หั่นกะหล่ำปลีเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วดึงแยกออกจากกัน นำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
2. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟแรง พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวจนหอม 3. ใส่กะหล่ำปลีลงไปในกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) ให้ทิ้งไว้ 10 วินาทีก่อน จากนั้นค่อย ๆ ผัดให้กะหล่ำปลีโดนความร้อนทั่ว ๆ แต่ยังไม่ต้องสุกมาก 4. ราดน้ำปลาลงไปรอบ ๆ ขอบกระทะ (ยังไม่ต้องผัด) รอจนมีกลิ่นน้ำปลาหอม ๆ ลอยขึ้นมาก่อน แล้วค่อยผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน 5. พอผัดจนกะหล่ำปลีสุกแล้ว ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา อาหารไทยสุดง่าย อร่อยได้ไม่ยุ่งยาก
9. หมูปิ้งเนื้อหมูหาซื้อง่ายและเอามาทำอาหารได้หลากหลายจึงไม่แปลกใจเลยที่วิธีหมักหมูจะฮิตในปี 2015 [อ่าน 10 วิธีหมักหมู เคล็ดลับเด็ดสุดง่ายใช้วัตถุดิบใกล้ตัว] ถ้ายิ่งเอาหมูไปหมักก่อนปรุงอาหารจะทำให้หมูนุ่มมากขึ้น วิธีหมักหมูที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นหมูปิ้งสูตรจากเฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา จุดเด่นคือ ใส่กะทิและน้ำตาลมะพร้าวกับเครื่องปรุงรสต่าง ๆ จนได้เนื้อหมูนิ่ม รสชาติเข้มข้น ยิ่งกินคู่กับข้าวเหนียวนิ่ม ๆ ฟินน่าดูเชียว
ส่วนผสม หมูปิ้ง เนื้อหมู (ส่วนสะโพกหรือสันนอก) 1 กิโลกรัม รากผักชี 25 กรัม กระเทียมไทย (แกะเปลือก) 2 หัว พริกไทยเม็ด 1 1/2 ช้อนชา น้ำตาลมะพร้าว 180 กรัม หัวกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง ซีอิ๊วดำ 3 ช้อนชา ซีอิ๊วขาว 8 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรสฝาเขียว 6 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ ไข่แดง 1 ฟอง น้ำมันพืช 5 ช้อนโต๊ะ ไม้สำหรับเสียบหมู วิธีทำหมูปิ้ง 1. แล่เนื้อหมูให้เป็นแผ่นหนาประมาณ 1/2 ซ.ม. กว้างประมาณ 4-5 ซ.ม. ส่วนความยาวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของไม้เสียบ (หรือหั่นตามความถนัด) 2. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดจนละเอียดเข้าด้วยกัน
3. ผสมเครื่องที่โขลกไว้กับน้ำตาลมะพร้าว กะทิ 1 ถ้วยตวง (ส่วนกะทิที่เหลืออีก 1/2 ถ้วยเก็บไว้ใช้ทาตอนย่าง) ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส แป้งข้าวโพด และไข่แดง คนผสมจนน้ำตาลมะพร้าวละลายดี จึงนำเนื้อหมูที่หั่นไว้ลงไปเคล้าผสมให้เข้ากัน สุดท้ายใส่น้ำมันพืชลงไปเคล้าผสมให้เข้ากันอีกครั้ง หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 1 คืน หรืออย่างน้อย 3 ชั่วโมงขึ้นไป
4. หลังจากหมักหมูทิ้งไว้ครบเวลาแล้ว นำเนื้อหมูออกจากตู้เย็นมาเสียบด้วยไม้ นำน้ำที่เหลือจากหมักหมูไปผสมกับกะทิที่เหลือให้เข้ากัน เตรียมไว้
5. เปิดเตาสำหรับปิ้งหมูให้ร้อนก่อน ใช้ไฟอ่อน ๆ จากนั้นนำหมูขึ้นปิ้งบนเตา (หมั่นคอยดู) พอด้านที่สัมผัสความร้อนเริ่มเหลืองแล้วให้พลิกเอาอีกด้านลง แล้วใช้แปรงจุ่มส่วนผสมกะทิที่ผสมไว้ทาให้ทั่วด้านบน พอหมูอีกด้านเริ่มเหลืองก็พลิกกลับมาทาซอสอีกครั้ง ปิ้งจนหมูสุกทั้งสองด้าน แต่ไม่ควรปิ้งให้แห้ง เพราะน้ำในเนื้อหมูจะระเหยไปกับความร้อน ทำให้หมูเหนียวและแข็งค่ะ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 วิธีหมักหมู เคล็ดลับเด็ดสุดง่ายใช้วัตถุดิบใกล้ตัว
10. ต้มข่าไก่ ต้มข่าไก่ก็เป็นอาหารสุดฮิตที่สุดแห่งปี 2015 เช่นกันค่ะ ด้วยวิธีทำที่ง่าย สีสันสวยจัดจ้าน และรสหอมหวานมันจึงเป็นที่ติดใจของหลายคน ขอแนะนำต้มข่าไก่สูตรจาก คุณ Rins CookBook นอกจากใส่เนื้อไก่แล้ว ยังสามารถประยุกต์ใส่เนื้อกุ้ง ปลาสลิด หรือปลาหมึกก็ได้ค่ะ
ส่วนผสม ต้มข่าไก่ น้ำซุปไก่ หรือน้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย ข่าหั่นเป็นแว่น 3-4 แว่น ตะไคร้ซอยบาง 1 ต้น ใบมะกรูดหั่นครึ่ง 2 ใบ ก้านและใบผักชีซอย 1/2 ถ้วย เนื้ออกไก่หั่นเต๋า 6 ออนซ์ (หรือใช้อาหารทะเลอื่น ๆ ก็ได้ตามชอบ) น้ำปลา 1/3 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 1/2 ช้อนโต๊ะ กะทิ 1 1/2 ถ้วย เห็ด ตามชอบ 1/2 ถ้วย น้ำมะนาว (หรือน้ำเลมอน) 1/3 ถ้วย พริกขี้หนูสดทุบพอแตกหั่นครึ่ง 4 เม็ด น้ำมันน้ำพริกเผา 1-2 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย 1 ต้น วิธีทำต้มข่าไก่
1. ใส่น้ำซุปไก่ (หรือน้ำเปล่า) ลงในหม้อ ตามด้วยข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และก้านผักชีที่ซอยเตรียมไว้ลงไป นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มนานประมาณ 5-6 นาทีจนน้ำเดือดและหอม 2. ใส่เนื้ออกไก่ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย (จะยังไม่ใส่กะทิลงไปในขั้นตอนนี้ เพราะถ้าต้มกะทินาน ๆ กะทิจะแตกมันและไม่สวยงาม) ต้มจนเดือด ประมาณ 5-6 นาที 3. เมื่อต้มจนไก่สุกขาวแล้ว ใส่กะทิลงไป 4. ใส่เห็ดที่เตรียมไว้ลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ 
5. ใส่น้ำมะนาวลงในหม้อหรือชาม ตามด้วยพริกที่ทุบไว้ น้ำมันน้ำพริกเผา พริกขี้หนูสด ต้นหอมและผักชีซอย 6. จากนั้นตักส่วนผสมต้มข่าไก่ลงไป ตกแต่งให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำต้มข่าไก่ เมนูอาหารไทยรสกลมกล่อม แซ่บไม่แพ้ใครตลอดทั้งปี 2558 มีอาหารสุดฮิตเกิดขึ้นมากมาย แต่ที่เด็ด ๆ คือ 10 สูตรข้างต้นที่อร่อยอย่างแรง ใครที่ยังไม่เคยลองเมนูไหนรีบทำก่อนจะข้ามปีกันนะคะ เพราะปีหน้าก็ต้องมีอาหารผุดขึ้นมาให้ได้เข้าครัวอีกเยอะ รับรองทำกันไม่หวาดไม่ไหวอิ่มจนพุงปลิ้นแน่นอนค่ะ
