3 สูตรขนมไหว้พระจันทร์ เสริมความมงคล ทำเองได้ไม่ต้องซื้อ

          สูตรขนมไหว้พระจันทร์ รสชาติหวานหอมกินเพลิน สำหรับไหว้พระจันทร์เพื่อขอพรและเสริมสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว 
          เทศกาลไหว้พระจันทร์ มีเพียงปีละครั้ง นอกจากไหว้อาหารและผลไม้แล้ว ขนมไหว้พระจันทร์ก็ขาดไม่ได้เลย ใครอยากจะทำขนมไหว้พระจันทร์ ทั้งไหว้เองและกินเอง เรามีมาแนะนำ ได้แก่ ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม ไส้คัสตาร์ด และขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย

วันไหว้พระจันทร์

ประวัติวันไหว้พระจันทร์

          ต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ไม่เป็นที่ปรากฏแน่ชัด บ้างก็ว่า จักรพรรดิวู แห่งราชวงศ์ฮั่น เป็นผู้ริเริ่มการฉลองเพื่อกราบไหว้พระจันทร์เป็นเวลา 3 วัน ในฤดูใบไม้ร่วงนี้

          ขณะที่บางประวัติศาสตร์กล่าวว่า เทศกาลไหว้พระจันทร์ เกิดขึ้นในราวปี พ.ศ. 1911 ในช่วงมองโกลยึดครองจีน ขนมเค้กที่ทำขึ้นก็เพื่อซุกซ่อนข้อความลับของพวกกบฏ ที่มีถึงประชาชนทั่วทั้งประเทศให้มาชุมนุมกันครั้งใหญ่ โดยทหารมองโกลไม่ได้ระแวงถึงจุดประสงค์ของพวกกบฏ เพราะคิดว่าขนมเค้กเหล่านั้นเป็นการทำตามประเพณีดั้งเดิมของชาวจีน ด้วยเหตุนี้ในคืนนั้นเองทหารมองโกลจึงถูกปราบเสียราบคาบ หลังจากที่ราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์หมิงได้ถูกจัดตั้งขึ้นแล้ว วันไหว้พระจันทร์จึงถือปฏิบัติกันมาจนถึงทุกวันนี้
 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ วันไหว้พระจันทร์ 2566 ตรงกับวันศุกร์ที่ 29 กันยายน

ไหว้พระจันทร์ ทำอย่างไร

          การไหว้พระจันทร์ จะเริ่มต้นตอนหัวค่ำ ซึ่งดวงจันทร์เริ่มปรากฏบนท้องฟ้า และถึงแม้ปีไหนหรือสถานที่แห่งใดมองไม่เห็นพระจันทร์ แต่การไหว้พระจันทร์ของชาวจีนก็จะยังต้องมีการไหว้พระจันทร์ในค่ำคืนนั้นเหมือนเดิม พิธีจะดำเนินไปจนถึงประมาณ 4-5 ทุ่ม หลังเสร็จพิธีทุกคนในครอบครัวจะตั้งวงแบ่งกันกินขนมไหว้พระจันทร์ โดยขนมต้องนำมาหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว ห้ามเกินหรือขาด และแต่ละชิ้นต้องมีขนาดที่เท่ากัน ขนมไหว้พระจันทร์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี ความกลมเกลียวของคนในครอบครัว ดังนั้น รูปลักษณ์ของขนมไหว้พระจันทร์จะต้องทำเป็นก้อนวงกลมเท่านั้น

ไหว้พระจันทร์ ทำอย่างไร

          ไหว้พระจันทร์ใช้ธูปกี่ดอก ? ส่วนใหญ่ตำราต่าง ๆ มักแนะนำให้จุดธูป 3 ดอก หรือ 5 ดอก ก็ได้ โดยมีคำแนะนำว่า หากไหว้ด้วยผลไม้ 5 ชนิด ก็ควรใช้ธูป 5 ดอก แต่ถ้าบ้านไหนใช้ธูปพิเศษ เช่น ธูปมังกร ก็จุดธูปดอกใหญ่ดอกเดียวได้ โดยไหว้เป็น 3 ช่วงด้วยกัน คือ

  • ช่วงเช้า จัดของไหว้เจ้าเหมือนปกติ แต่เพิ่มขนมไหว้พิเศษ คือ ขนมไหว้พระจันทร์, ขนมโก๋, ขนมเปี๊ยะต่าง ๆ

  • ไหว้บรรพบุรุษ จัดของไหว้บรรพบุรุษเหมือนปกติ แต่เพิ่มขนมไหว้พิเศษ คือ ขนมไหว้พระจันทร์, ขนมโก๋, ขนมเปี๊ยะต่าง ๆ

  • ไหว้เจ้าแม่ในตอนค่ำ เมื่อดวงจันทร์เริ่มปรากฏบนท้องฟ้า 

          สำหรับสถานที่ไหว้พระจันทร์ในตอนค่ำ ควรเลือกที่กลางแจ้ง อาจเป็นลานบ้าน หน้าบ้าน หรือดาดฟ้าก็ได้ เตรียมทุกอย่างให้เสร็จก่อนพระจันทร์ขึ้น หันหน้าไปทางทิศตะวันออก จุดธูปเทียนอธิษฐานขอพรจากพระจันทร์ และควรเก็บโต๊ะก่อนที่พระจันทร์จะเลยศีรษะไป หรือเมื่อเทียนดอกใหญ่ดับลง เมื่อเสร็จสิ้นพิธีก็นำขนมไหว้พระจันทร์มากิน โดยหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว

สูตรขนมไหว้พระจันทร์

1. ขนมไหว้พระจันทร์ ไส้ทุเรียนไข่เค็ม

ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม

ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์

          ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ตัวแป้งใช้แป้งเค้กผสมน้ำเชื่อม สอดไส้ทุเรียนกวน ทาหน้าด้วยไข่และน้ำเชื่อม ทั้งนี้ สามารถดัดแปลงไส้ได้ตามชอบเลย

ส่วนผสม แป้งขนมไหว้พระจันทร์ (พิมพ์ขนาด 3 นิ้ว)

  1. แป้งเค้ก (แป้งส่วนที่ 1) 240 กรัม 

  2. น้ำเชื่อม 250 กรัม

  3. น้ำมันถั่วลิสง 80 กรัม 

  4. น้ำด่าง 2 ช้อนชา

  5. แป้งขนมปัง 125 กรัม (แป้งส่วนที่ 2)

ส่วนผสม ไส้ขนมไหว้พระจันทร์ (ไส้ทุเรียน)

  1. ทุเรียนกวน 1,500-1,600 กรัม 

  2. ไข่แดงเค็ม 15 ลูก

ส่วนผสม ไข่ทาหน้าขนมไหว้พระจันทร์

  1. ไข่แดง 1 ฟอง

  2. ไข่ไก่ 1 ฟอง

  3. นม 1 ช้อนชา

  4. น้ำเชื่อม 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสม น้ำเชื่อมทาหน้าขนมไหว้พระจันทร์

  1. น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 1 กิโลกรัม

  2. น้ำ 600 มิลลิลิตร

  3. น้ำมะนาวหรือน้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ

  4. เปลือกเลมอน (ใส่หรือไม่ก็ได้)

วิธีทำขนมไหว้พระจันทร์ ไส้ทุเรียนไข่เค็ม

  1. ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลงไปในหม้อต้ม เติมน้ำมะนาวและเปลือกเลมอนลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างต้มก็คนเป็นพัก ๆ 

  2. พอผ่านไป 1 ชั่วโมง ลองตักมาเช็กดูว่าน้ำเชื่อมได้ที่หรือยัง น้ำเชื่อมที่ได้จะมีลักษณะข้นหนืดคล้าย ๆ น้ำผึ้ง

  3. พอน้ำเชื่อมได้ที่แล้วดับเตา ตักเปลือกเลมอนออก จากนั้นพักให้เย็นลง พอเย็นลงแล้วเทใส่ขวด เก็บไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ก่อนนำมาใช้

  4. ทำเปลือกขนมไหว้พระจันทร์ โดยใส่น้ำเชื่อม น้ำมันถั่วลิสง และน้ำด่าง ลงไปในชามผสม แล้วคนให้เข้ากัน เทแป้งเค้กส่วนที่ 1 ใส่ในชามผสม แบ่งใส่ทีละครึ่งจะได้ตะล่อมง่าย ๆ พักแป้งไว้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง หรือพักค้างคืน 

  5. พอพักแป้งแล้วใส่แป้งขนมปัง (แป้งส่วนที่ 2) ลงไป นวดจนแป้งเนียนเข้ากัน จากนั้นพักแป้งอีกประมาณ 30 นาที (เอาผ้าคลุมไว้ด้วย)

  6. นำไข่แดงเค็มไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที

  7. ห่อขนมไหว้พระจันทร์ โดยแบ่งแป้งเป็นก้อนละ 45-50 กรัม

  8. เตรียมไส้ทุเรียนกับไข่แดงเค็ม ชั่งรวมกันประมาณ 120-125 กรัม ใส่ไข่แดงลงไปในทุเรียนกวนแล้วห่อให้แน่น รีดแป้งเป็นแผ่น นำแป้งมาห่อไส้ 

  9. ทาน้ำมันลงไปในพิมพ์ให้ทั่ว กดพิมพ์ลงไปบนขนมไหว้พระจันทร์ พอกดเสร็จหมดแล้วก็พรมน้ำให้ทั่ว นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-15 นาที พออบเสร็จก็พรมน้ำให้ทั่วแล้วพักให้อุ่นลง

  10. ใส่นมกับน้ำเชื่อมลงไปผสมในไข่ไก่กับไข่แดง (น้ำเชื่อมจะทำให้สีขนมเข้มสวยขึ้น) ทาไข่ให้ทั่ว อบต่อด้วยอุณหภูมิ 190-200 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20 นาที อบเสร็จแล้วพักให้ขนมเย็นแล้วก็เก็บไว้อีก 3 วัน จัดเสิร์ฟ
     

ดูวิธีทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม

2. ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด

ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด

ภาพจาก : นิตยสาร Gourmet & Cuisine

          ขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด สูตรจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine ตัวแป้งใช้แป้งสาลีและผงคัสตาร์ดสีสวย สอดไส้คัสตาร์ดหอมนุ่ม

ส่วนผสม แป้งขนมไหว้พระจันทร์

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 

  2. ผงคัสตาร์ด 

  3. ไข่ไก่ 

  4. น้ำตาลทราย 

  5. นมสด 

  6. เนยสด

  7. ไข่ไก่ (สำหรับทาหน้าขนม)

ส่วนผสม ไส้คัสตาร์ด

  1. แป้งข้าวโพด

  2. ไข่ไก่

  3. เนยสด

  4. น้ำตาลทราย

  5. ผงคัสตาร์ด

  6. แป้งสาลีอเนกประสงค์

  7. นมสด

วิธีทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด

  1. ทำไส้คัสตาร์ดด้วยการผสมแป้งข้าวโพด ไข่ไก่ เนยสด น้ำตาลทราย ผงคัสตาร์ด แป้งสาลีอเนกประสงค์ และนมสด ในเครื่องผสมจนเข้ากัน นำไปนึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วแช่ช่องแช่แข็ง 1 คืน จากนั้นนำมาตีในเครื่องผสมอีกครั้งให้คลายตัว

  2. ทำแป้งขนมไหว้พระจันทร์ด้วยการผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงคัสตาร์ด ไข่ไก่ น้ำตาลทราย นมสด และเนยสด ด้วยเครื่องผสมให้เข้ากัน แช่ตู้เย็น 1 คืน

  3. ปั้นไส้คัสตาร์ดเป็นแท่งยาว แบ่งไส้เป็นชิ้นหนัก 21 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลม เรียงใส่ถาด คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แช่ในช่องแช่แข็งไว้ จะทำให้อยู่ทรงและหุ้มแป้งได้ง่าย

  4. แบ่งแป้งขนมไหว้พระจันทร์และชั่งน้ำหนักให้ได้ 19 กรัม ปั้นเป็นก้อนกลม ใช้สันมือกดแป้งให้แบน นำแป้งมาหุ้มไส้ให้มิดและปั้นเป็นก้อนกลม

  5. โรยแป้งสาลีเล็กน้อยที่พิมพ์ขนมและเคาะออก เพื่อป้องกันขนมติดพิมพ์ ใส่ขนมลงในพิมพ์ ใช้มือกดให้แน่นและแนบกับพิมพ์ 

  6. รองผ้าที่โต๊ะแล้วเคาะพิมพ์ด้านซ้ายและขวาอย่างละ 1 ครั้ง คว่ำพิมพ์แล้วเคาะอีก 1 ครั้ง ขนมจะหลุดออกจากพิมพ์ง่าย เรียงขนมไหว้พระจันทร์ใส่ถาด ทาด้วยไข่ไก่บนหน้าขนมให้ทั่ว

  7. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 5 นาที จนแป้งสุกเหลือง พักไว้ให้เย็นแล้วเก็บใส่กล่อง
     

ดูวิธีทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้คัสตาร์ด

3. ขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย

ขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย

ภาพจาก : คุณ Rin's Cookbook

          ขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย สูตรจาก คุณ Rin's Cookbook แปลงร่างจากขนมเปี๊ยะเป็นวุ้นสอดไส้กะทิลอดช่องและวุ้นไข่แดง นำไปแช่เย็นจนเซตตัว

ส่วนผสม วุ้นชาไทย (เปลือกนอก)

  1. ชาไทย 3/4 ถ้วย (วิธีทำชาไทย คลิกที่นี่)

  2. นมข้นจืด (ฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟหรือนมสด) 1/2 ถ้วย

  3. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย

  4. ผงวุ้น 3/4 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสม วุ้นไข่แดง (ตรงกลาง)

  1. น้ำแครอต (หรือชาไทย หรือกะทิใส่สีผสมอาหาร) 1+1/3 ถ้วย

  2. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย

  3. ผงวุ้น 3/4 ช้อนโต๊ะ

  4. พิมพ์วุ้นแบบวงกลม

ส่วนผสม ไส้วุ้นกะทิลอดช่อง (ตรงกลาง)

  1. ลอดช่อง 1/3 ถ้วย (วิธีทำลอดช่อง คลิกที่นี่)

  2. กะทิ 1 ถ้วย

  3. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย

  4. ผงวุ้น 3/4 ช้อนโต๊ะ

  5. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย

  1. ทำวุ้นไข่แดง โดยใส่ผงวุ้นลงไปผสมกับน้ำแครอต คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ผงวุ้นดูดซึมน้ำได้อย่างเต็มที่ เทลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลางสูง คนไปในทิศทางเดียวกันจนไม่มีผงวุ้นติดช้อน

  2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป คนไปในทิศทางเดียวกัน ประมาณ 7 นาที หรือจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน พอเริ่มเดือดปิดเตาไฟ พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หรือจนเย็นตัวลง เทใส่พิมพ์วุ้นลูกแก้วจนถึงขอบ ปิดฝาพิมพ์วุ้นลูกแก้วทับลงไป หาอะไรหนัก ๆ มาทับ ปล่อยทิ้งไว้จนเย็นสนิทประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้าอยากย่นเวลาก็เอาไปใส่ในตู้เย็น

  3. พอวุ้นเซตตัวแล้วเปิดพิมพ์ออก แกะลูกวุ้นออกจากพิมพ์ ใส่ภาชนะ คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่เย็นจนกว่าจะใช้

  4. ทำตัวไส้วุ้นกะทิลอดช่อง โดยใส่ผงวุ้นลงในกะทิ คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เทใส่หม้อนำไปตั้งบนเตาใช้ไฟกลางอ่อน หมั่นคนในทิศทางเดียวกันจนเริ่มเดือดเล็กน้อย ถ้าช้อนไม่มีเกล็ดวุ้นแล้วให้ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนผสมให้เข้ากันจนทุกอย่างละลาย รอจนกะทิเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ

  5. พักวุ้นกะทิประมาณ 10 นาที กรองด้วยกระชอน เทใส่ลงในลอดช่อง คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ถ้วยพลาสติกที่สามารถใส่ลงไปในพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ได้ เทใส่ประมาณ 1/2 ถ้วย ตามด้วยวุ้นไข่แดงลงไปตรงกลางตามชอบ เสร็จแล้วเทส่วนผสมวุ้นกะทิลงไปเพื่อกลบไข่แดง พักทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เพื่อให้เย็นตัวลง แล้วเอาไปใส่ตู้เย็นเพื่อให้แข็งตัว

  6. ทำวุ้นชาไทยเปลือกนอก โดยใส่ผงวุ้นลงไปในชาไทย คนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เทใส่หม้อใช้ไฟกลางสูง พอเริ่มเดือดและวุ้นไม่เป็นเกล็ดติดช้อนแล้วใส่น้ำตาลทรายและนมข้นจืด คนให้เข้ากัน พอเริ่มเดือดปิดไฟ พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีจนวุ้นเย็นตัวลง

  7. เทส่วนผสมชาไทยใส่ลงไปในพิมพ์ขนมไหว้พระจันทร์ ประมาณ 1/4 ของตัวพิมพ์ พักทิ้งไว้ประมาณ 3 นาทีจนวุ้นเริ่มแข็งตัวเล็กน้อย วิธีสังเกตคือเอานิ้วสะอาดจิ้มลงไปบนผิววุ้น ถ้ามีเยื่อบาง ๆ ยังไม่แข็งก็ใส่ไส้ลงไปได้เลย

  8. ใส่ไส้วุ้นกะทิลอดช่องลงไปตรงกลาง ราดด้วยวุ้นชาไทยที่เหลือลงไป ราดให้ท่วมตัวไส้ ถ้ามีส่วนวุ้นเลอะออกมาเกินตัวพิมพ์อย่าเพิ่งทำความสะอาดตอนนี้ เอาไว้ทำทีหลังได้ พักทิ้งไว้จนเริ่มแข็ง คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แช่เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง แกะพลาสติกออก ตัดแต่งขอบให้สวยงามด้วยมีด แกะออกจากพิมพ์ โดยใช้ไม้จิ้มฟันแซะตรงขอบพิมพ์เล็กน้อยเพื่อให้มีอากาศเข้าไปในตัวพิมพ์ จะได้เอาออกจากพิมพ์ได้ง่ายขึ้น
     

ดูวิธีทำขนมไหว้พระจันทร์วุ้นชาไทย

ร้านขนมไหว้พระจันทร์

          วันไหว้พระจันทร์ปีนี้ ลองทำขนมไหว้พระจันทร์สอดไส้สุดโปรดกันเลย นอกจากปั้นไหว้แล้วยังปั้นแจกหรือขายก็น่าสนใจไม่น้อยเลยนะคะ

บทความเกี่ยวกับวันไหว้พระจันทร์ วิธีไหว้พระจันทร์ และร้านขนมไหว้พระจันทร์

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
3 สูตรขนมไหว้พระจันทร์ เสริมความมงคล ทำเองได้ไม่ต้องซื้อ อัปเดตล่าสุด 8 สิงหาคม 2567 เวลา 22:56:33 61,364 อ่าน
TOP
x close