คนที่ชอบกินไข่เจียวก็มักจะสรรหาวิธีทอดไข่เจียวซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาปรับใช้อยู่เสมอ วันนี้กระปุกดอทคอมก็มีอีกหนึ่งกลเม็ดเคล็ดลับทอดไข่อย่างไรให้ฟู หนา และน่ากินสุด ๆ มาฝาก เป็นเทคนิคมาจาก เว็บไซต์ easycookingmenu.com โดยเฉพาะไข่เจียวชะอมที่ไว้กินกับน้ำพริกกะปิก็ดี ใส่ในแกงส้มก็อร่อย เผื่อเอาไว้เป็นทางเลือกให้คนที่ชอบกินไข่เจียวฟู ๆ ได้ลองนำไปทำดู แล้วก็ไม่แน่นะว่า วิธีทอดไข่ให้ฟูวิธีนี้อาจจะใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ไปตรงกับข้าวของเครื่องครัวที่มีอยู่ในบ้านเข้าให้ จะได้มีไข่เจียวชะอมฟูหนาเป็นนิ้ว ๆ ไว้กินกันให้อร่อยไปเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
ชะอม 1/2 ถ้วย
น้ำปลา
หม้อเทฟลอนขนาดเล็ก เส้นผ้าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ลึก 3 นิ้ว (ซื้อจากแมคโครนานมากแล้วค่ะ ราคา 79 บาท)
วิธีทำ
1. เด็ดชะอมเฉพาะยอดอ่อน ๆ นำมาหั่นหยาบ ๆ นำไปตีผสมกับไข่ให้เข้ากัน ใส่น้ำปลาลงไปนิดหน่อยตามชอบ เตรียมไว้
เคล็ดลับทอดไข่เจียวให้ฟูและหนา คือ ...
ภาชนะที่ใช้ทอดต้องเป็นทรงแคบที่มีก้นแบนราบ ด้านข้างตรงไม่โค้งหรือบานออก เช่น หม้อ หรือกระทะเทฟลอน (หากเป็นหม้อหรือกระทะเทฟลอนจะดีมากค่ะ แต่คงต้องใช้ไข่จำนวนมากหน่อยจึงจะได้ปริมาณที่หนาเพียงพอ)
2. ใส่น้ำมันลงในภาชนะ (ใส่ให้มากหน่อยเหมือนทอดไข่เจียวปกติ) นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำมันร้อน ใส่ไข่ผสมชะอมลงไป เกลี่ยชะอมให้ทั่ว พอไข่เริ่มเซตตัวให้กลับด้านแล้วเบาไฟลงนิดหน่อย
3. พอไข่เริ่มสุกทั้งสองด้าน แต่ตรงกลางยังไม่สุกให้เบาไฟลงอีกเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่เจียวไหม้ **ใช้ทัพพีกดไข่เจียวเพื่อให้ความร้อนเข้ามาถึงกึ่งกลางไข่ ทำแบบนี้ทั้งสองด้าน ไม่ต้องกลัวว่าไข่เจียวจะยุบ**
4. ระหว่างนี้ให้สังเกตไข่เจียวกับไฟให้พอดีกัน อย่าให้ไฟแรงกินเดี๋ยวไข่เจียวไหม้ แต่อย่าเบาเกินไป (ต้องสังเกตุด้วยนะคะ ปรับตามสถานการณ์) ใช้ทัพพีลองกดดู ถ้าไข่ไม่นิ่มยวบลงไปแปลว่าสุกแล้ว ตักไข่ขึ้นจากกระทะ นำมาสะเด็ดน้ำมันทิ้งไว้สักครู่ให้ตัวไข่ระอุความร้อนให้ทั่วอีกนิดหนึ่ง พอเริ่มคลายร้อนแล้ว หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดเสิร์ฟ
เคล็ดลับหากต้องการให้ไข่ฟูกรอบอยู่ตัวมากขึ้น คือ ให้ผสมแป้งโกกิใส่ลงไปนิดหน่อยจะช่วยได้ค่ะ แต่ทดลองครั้งนี้ไม่ได้ใส่นะคะ แต่ผลคือ ไม่ยุบค่ะ
เอาล่ะ ! ใครมีหม้อเทฟลอนใบเล็ก ๆ ก็สบายแล้วล่ะคราวนี้ แต่ถ้าใครไม่มีแต่อยากกินไข่เจียวฟู ๆ หนา ๆ แบบนี้ก็คงต้องลงทุนซื้อมาเก็บไว้หน่อยแล้วล่ะ ราคาใบละไม่กี่บาท แต่เก็บไว้ใช้ได้นาน คุ้มเกินคุ้ม !
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
เว็บไซต์ Easy Cooking