น่าสงสารชีวิตคนทานคลีนเหมือนกันนะคะ แต่ละมื้อต้องมากินแต่อาหารคาวจืด ๆ ใครอยากกินของหวานบ้างคะ ? ขอเสียงหน่อย อาหารคลีนฟู้ดไม่ได้มีแต่อาหารคาวอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ รู้ไหมว่าของหวานแบบคลีน ๆ ก็มีเหมือนกันค่ะ วันนี้กระปุกดอทคอมแนะนำ 4 เมนูของหวานแบบคลีน ๆ ที่ใช้ส่วนผสมหลัก ๆ คืออัลมอนด์ เป็นสูตรจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่สามารถเนรมิตเมนูของหวานออกมาได้แบบคลีน ๆ เอาใจคนอยากกินหวานใจแทบขาดกันค่ะ
4 เมนูของหวาน เอาใจคนทานคลีน โดย คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกแล้ว คราวนี้ขอเปลี่ยนจากการรีวิววิธีการทำมาการองน้องหมีริลัคคุมะ มาเป็นขนมทานเล่นแบบคลีน ๆ กันบ้าง ช่วงนี้หันไปทางไหน ใคร ๆ ก็หันมาใส่ใจสุขภาพ ทั้งออกกำลังกาย เล่นเวท คาร์ดิโอ และปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเรื่องอาหาร ครั้นจะให้กินอกไก่ต้มกับผักลวกไปตลอดชีวิตคงไร้รสชาติ ครั้นจะแตะของหวานก็อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ความอุตสาหะที่กินคลีนมาทั้งหมดก็สูญเปล่า แล้วคนที่ชอบทานขนมเป็นชีวิตจิตใจจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไง คนติดขนมหวานก็เศร้า ด้วยความอุตสาหะด้านการทำขนมและความอยากที่จะกินของหวานแม้ทานคลีน จึงปิ๊งเมนู 4 เกลอนี้ออกมา
เห็นภาพแล้วอย่าเพิ่งกรีดร้องนะ อาจมีคำถามว่าคลีนหรือ ? ก็อย่างบวดฟักทองอุดมด้วยกะทิ คุกกี้เต็มไปด้วยเนยหลายร้อยกรัม หลายคนอาจตั้งคำถามว่า เธอจะมาหลอกอะไรฉัน แต่คุณคะ มันคลีนจริง ๆ ค่ะ เพราะงานนี้ เราใช้วัตถุดิบหลักในการเนรมิตเมนู 4 เกลอนี้ขึ้นมาด้วยอัลมอนด์ ใคร ๆ ก็รู้ว่าอัลมอนด์มีประโยชน์มากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งให้พลังงานชั้นเยี่ยมและมีปริมาณไฟเบอร์มาก ทานแล้วอยู่ท้อง
เมนู 4 เกลอ ประกอบไปด้วย
1. นมอัลมอนด์ (เมนูพื้นฐานที่จะนำไปประกอบเมนูได้หลากหลาย)
2. ฟักทองบวดใช้นมอัลมอนด์แทนกะทิ
3. สมูทตี้เพิ่มพลัง
4. คุกกี้สูตรไร้แป้ง
+++++
1. นมอัลมอนด์ (Almond Milk)
ส่วนผสม
• อัลมอนด์ 1 ถ้วย
• น้ำสะอาด (สำหรับแช่อัลมอนด์)
• น้ำต้มสุก 4 ถ้วย
• น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนชา
• กลิ่นวานิลลา 1/4 ช้อนชา
• คอร์นเฟล็ก
• สตรอว์เบอร์รีอบกรอบ
วิธีทำ
1. นำอัลมอนด์แช่น้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างต่ำ 8 ชั่วโมง (หรือข้ามคืน)
2. กรองน้ำที่แช่อัลมอนด์ทิ้งไป เอาแต่เมล็ดอัลมอนด์ (เม็ดอวบอ้วน) ใส่ลงไปในโถปั่น เติมน้ำต้มสุกอุณหภูมิห้องลงไป ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเนียนละเอียด (จะได้น้ำลักษณะสีขาวข้นเหมือนน้ำนมและมีกากอัลมอนด์นอนเต็มก้นโถปั่น)
3. นำน้ำนมอัลมอนด์มากรองผ่านกระชอนตาถี่ (หรือนำผ้าขาวบางมารองก่อนแล้วคั้นน้ำออกจนหมดก็ได้ (ส่วนกากอัลมอนด์ให้เก็บไว้ทำคุกกี้้สูตรไร้แป้งในเมนูที่ 4 หากทานไม่หมดในครั้งเดียว สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ 3-4 วัน) นมอัลมอนด์ที่ได้จะมีรสจืด หอม และมัน หากชอบหวานสามารถเติมน้ำผึ้ง หรือใส่กลิ่นวานิลลาลงไปเพื่อแต่งกลิ่นได้ตามใจชอบ
4. ราดนมอัลมอนด์ลงในถ้วยที่มีคอร์นเฟล็ก สตรอว์เบอร์รีอบกรอบ (สีแดง ๆ ในภาพ) และราดน้ำผึ้งลงไปอีกเล็กน้อย
+++++
2. แกงบวดฟักทองนมอัลมอนด์
เมนูฟักทองบวดใช้นมอัลมอนด์แทนกะทิ รสชาติที่ได้ออกมาหอม มัน และหวานกลมกล่อมมาก ๆ เลยค่ะ ทำเองยังเซอร์ไพรส์ ไม่คิดว่า นมอัลมอนด์มันมีเนื้อสัมผัสคล้าย ๆ กะทิ ขาดแค่ความมันแบบ Full Fat เท่านั้น
ส่วนผสม
• ฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอคำ 1 ถ้วย
• นมอัลมอนด์ 2 ถ้วย
• ใบเตย 1 ใบ
• น้ำตาลโตนด 1 ช้อนชา (ปรับรสได้ตามใจชอบ)
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา (ปรับรสได้ตามใจชอบ)
วิธีทำ
1. นำใส่นมอัลมอนด์ ฟักทอง และใบเตยลงไปในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟกลาง ต้มจนเนื้อฟักทองสุก
2. จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลโตนดและเกลือป่น คนให้ละลาย ปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟ
++++++
3. สมูทตี้นมอัลมอนด์กล้วยหอมช็อกโกแลต (Smoothie Almond Milk Banana Chocolate)
ส่วนผสม
• นมอัลมอนด์ 1 ถ้วย
• ผงโกโก้ 1 ช้อนชา
• กล้วยหอมขนาดใหญ่ หั่นเป็นแว่นแช่แข็ง 1 ลูก (แบบไม่แช่ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ แต่แบบแช่แข็ง เวลาปั่นออกมา เนื้อมันเหนียวข้นมากกว่า)
• น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำแข็ง 4-5 ก้อน
วิธีทำ
• นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในโถปั่น ปั่นจนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน รินใส่แก้ว พร้อมเสิร์ฟ
++++++
4. คุกกี้สูตรไร้แป้ง (Gluten-Free Cookies)
คุกกี้ชนิดนี้ เป็นคุกกี้แบบเนื้อเค้ก ตอนหักคุกกี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อบราวนี มันแน่น หนึบ ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำมันมะพร้าวผสมกับผงโกโก้ และมีกลิ่นกล้วยหอมโดดเด่น รสสัมผัสแรกที่กัดเข้าไป เหมือนทานเค้กกล้วยหอมเนื้อหนึบ ๆ คิดว่า ถ้านำไปใส่ถ้วยคัพเค้กใบเล็ก ๆ นำเข้าเตาอบ คงจะได้รสสัมผัสไม่ต่างจากเค้กกล้วยหอมมากนัก
ส่วนผสม (สูตรนี้ทำได้ 14 ชิ้น)
• กล้วยหอมสุกงอมลูกใหญ่ 1 ลูก
• ไข่ไก่ (เบอร์ 0) จำนวน 1 ฟอง
• น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงโกโก้ 2 ช้อนชา
• กากอัลมอนด์ 1 ถ้วยตวง (จากเมนูที่ 1 นมอัลมอนด์)
• ผงฟู 1/4 ช้อนชา
• เบกกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
• อัลมอนด์สไลซ์ หรือ ถั่วตามชอบ (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำ
2. บดกล้วยหอมด้วยส้อมให้เละ
3. ใส่ไข่ลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากันจนไม่เห็นไข่เป็นลิ่ม ๆ
4. ใส่น้ำมันมะพร้าว เกลือป่น น้ำตาลทรายแดง ผงโกโก้ กากอัลมอนด์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
5. นำช้อนกินข้าวตักส่วนผสมหยอดลงบนแผ่นรองอบ ทิ้งระยะให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว โรยอัลมอนด์สไลซ์หรือถั่วชนิดอื่นตามใจชอบ
6. นำเข้าอบเป็นเวลา 20-25 นาที
7. นำออกมาพักนอกเตา ตักคุกกี้เรียงบนตะแกรง พักให้เย็น เก็บใส่กล่องได้นาน 1 สัปดาห์
+++++++
วิธีเก็บกากอัลมอนด์และวิธีนำมาใช้
1. นำผ้าขาวบางมาห่อกากอัลมอนด์เอาไว้ รีดน้ำที่หลงเหลืออยู่ในกากอัลมอนด์ออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
2. นำกระดาษซับน้ำมันมารองก้นภาชนะที่จะเก็บแล้วนำกากอัลมอนด์บรรจุลงไป
3. นำไปแช่ช่องแช่แข็งจะช่วยขจัดน้ำส่วนเกินในกากอัลมอนด์ออกไปได้บางส่วน (หรือจะนำไปตากแดดให้แห้งก็ได้)
4. ก่อนนำกากอัลมอนด์มาใช้ ให้อบไล่ความชื้นที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที กากอัลมอนด์จะแห้งขึ้น ลักษณะจะเป็นผง ๆ คล้าย ๆ ขุยมะพร้าว นำมาใช้งานได้
จบลงไปแล้วกับสูตรขนมแบบคลีน ๆ ใครจะไปเชื่อว่าแบบนี้ก็มีด้วย อ๊ะ อ๊ะ ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องลงแดงอยากกินขนมหวานอีกต่อไปแล้ว หรือใครสนใจสูตรอาหารดี ๆ ที่มีทั้งคลีนและไม่คลีน ก็สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Kat Bake Club รับรองว่าต้องถูกอกถูกใจแน่ ๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และที่ เฟซบุ๊ก Kat Bake Club