ใครที่ชื่นชอบความหวานของมาการองแล้วอยากหาความแปลกใหม่ไอเดียแจ่ม ลองจับมาการองชิ้นกลม ๆ มาแปลงร่างเป็นตัวการ์ตูนสุดน่ารักอย่าง ทิกเกอร์ (Tigger) เจ้าเสือตัวป่วน จากการ์ตูนวินนี เดอะ พูห์เสียเลยดีกว่า รับรองว่าใครเห็นก็ต้องตะลึงไปตาม ๆ กัน กระปุกดอทคอมก็ขอนำเสนอวิธีทำมาการองรูปทิกเกอร์ตัวส้มน่ารัก ๆ แบบนี้ สูตรจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สีสันสดใส น่าหม่ำไม่แพ้มาการองแบบดั้งเดิมเลยค่ะ
[CR] เผยเทคนิคขั้นเทพ ทิกเกอร์มาการอง สูตรจาก คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้ว วันนี้แคทมี How to make มาการองรูปแบบใหม่ ๆ มาฝาก นั่นคือ "มาการองทิกเกอร์" ทิกเกอร์คือหนึ่งในตัวการ์ตูนตัวโปรด ช่างเป็นเสือที่แสบสันและน่ารักเสียนี่กระไร รอช้าทำไม ไปทำกันเลย
ส่วนผสม ฝามาการอง (ใช้สูตรเดียวกับ Hamburger Macaron แต่ครั้งนี้จะทำแบบพักหน้ามาการองให้แห้ง)
ส่วนผสม ฝามาการอง
อัลมอนด์ป่น 105 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
น้ำเปล่า 25 กรัม
ไข่ขาวเก่า (ส่วนที่1) 36.6 กรัม (อุณหภูมิห้อง)
ไข่ขาวเก่า (ส่วนที่2) 36.6 กรัม (อุณหภูมิห้อง)
สีผสมอาหารสีน้ำตาล (ชนิดเจลหรือผง)
สีสมอาหารสีชมพู
สีผสมอาหารสีส้ม
ส่วนผสม ไส้ออเรนท์เคิร์ด (แบบง่าย ๆ)
ไข่แดง (ที่เหลือจากไข่ขาว) 2 ฟอง
น้ำตาลทรายป่น 33 กรัม
น้ำส้มซันคิสแบบเข้มข้น 33 กรัม
เนยจืด 20 กรัม
กลิ่นส้ม 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งไปปั่นรวมกันให้ละเอียด จากนั้นนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที (นำเข้าเตาอบเพื่อไล่ความชื้น) นำออกมาพักให้เย็นสนิทแล้วร่อนส่วนผสม 1 รอบ พักไว้
2. ทำน้ำเชื่อมสำหรับทำเมอแรงค์ โดยเทน้ำตาลทรายและน้ำใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน (ถ้าเปิดไฟแรงน้ำตาลจะเดือดก่อนในขณะที่เกล็ดน้ำตาลยังไม่ละลาย)
3. ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิ หากต้มน้ำเชื่อมถึง 107 องศาเซลเซียส ให้เริ่มตีไข่ขาว (ส่วนที่ 1) ให้ตั้งยอดอ่อน
4. ต้มน้ำเชื่อมให้ได้อุณหภูมิ 118 องศาเซลเซียส ปิดไฟ ค่อย ๆ เทน้ำเชื่อมเป็นสายลงในชามไข่ขาวที่เราตีไว้ เปิดเครื่องตีแป้งมือถือใช้ความเร็วปานกลางค่อนไปทางสูงตีไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดจนน้ำเชื่อมหมดก็เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุด ตีต่อจนให้ได้ยอดแข็ง วัดอุณหภูมิให้ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส แล้วจึงนำไปใช้ได้
5. นำไข่ขาว (ส่วนที่ 12) ลงไปคนผสมกับผงอัลมอนด์และน้ำตาลไอซิ่งที่ร่อนไว้ คนผสมจนเข้ากันดี แบ่งออกมา 1/4 ส่วน เพื่อนำมาผสมสีทั้งหมด 3 สี คือ สีส้ม สีน้ำตาล และสีชมพู
6. ผสมสีจนเนื้อเนียนเข้ากันก่อนนำอิตาเลียนเมอแรงมาผสมโดยแบ่งเป็นสองรอบ วิธีผสมคือ กวาดก้นโถขึ้นมาทั้งหมด ใช้พายบี้ลงไปตรงกลางเบา ๆ ทำแบบนี้สลับกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่วนผสมเงางาม เมื่อตักขึ้นเทลงจะไหลย้อยลงมาเป็นลาวา (ทำแบบเดียวกันกับทั้งสามสี เตรียมใส่ถุงบีบ)
วิธีบีบฝามาการอง
เติมหูและขาให้ทิกเกอร์ (ไม่เคาะถาด)
บีบส่วนผสมสีน้ำตาลเป็นโครงหน้า 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ด้านบน บีบให้โค้ง ๆ คล้ายที่ปัดน้ำฝนของกระจกรถยนต์ และส่วนล่างบีบเป็นทรงกลมเล็ก ๆ (เคาะก้นถาดเบา ๆ ให้หน้าเนียน ๆ) ใช้ส่วนผสมสีชมพูวาดเป็นจมูกเล็ก ๆ (ไม่เคาะถาดค่ะ อยากให้เขาแบ่งชั้นเป็นเลเยอร์) เสร็จแล้วค่ะ
พักหน้ามาการองให้แห้ง 20 นาที ลองเอามือแตะดู จะไม่มีอะไรติดมือค่ะ
ขั้นตอนการอบ
เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที นำถาดมาการองเข้าอบพร้อมลดอุณหภูมิลงเหลือ 140 องศาเซลเซียส อบนาน 13-15 นาที (ขึ้นอยู่กับขนาดของมาการอง)
วิธีเช็กว่าฝามาการองสุกหรือยัง เปิดเตาอบออกมาแล้วนำมือจับตรงฝาลองโยกดู ถ้าขามันยังขยับได้ก็อบต่ออีกประมาณ 2 นาที แต่ถ้าไม่ขยับให้นำออกจากเตาได้
พักไว้ให้เย็นบนตะแกรง แกะมาการองออกมาจับคู่ที่มีขนาดเท่า ๆ กัน
เติมตา คิ้ว หนวดให้ทิกเกอร์โดยการเอาพู่กันจุ่มลงไปในสีผสมอาหารสีดำ วาดโลด
วิธีทำไส้ออเร้นท์เคิร์ด
นำไข่แดง น้ำตาลทรายป่น และน้ำส้มซันคิสเทใส่ลงในชามผสม คนผสมให้เข้ากันบนน้ำร้อน (นำอ่างผสมวางลงบนหม้อที่มีน้ำเดือด) คนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเหนียวข้น ยกออกจากเตา ใส่เนยและกลิ่นส้มลงไปคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
ใช้พลาสติกถนอมอาหารคลุมหน้าส่วนผสมเอาไว้ นำไปแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมง
ก่อนนำมาบีบให้เอาช้อนคนให้คลายตัวเล็กน้อย ใส่ถุงบีบแล้วบีบใส่ฝามาการอง
นำฝาทิกเกอร์มาการองอีกชิ้นประกบลงไป
รสเปรี้ยวตัดรสหวาน กินแล้วไม่เลี่ยนเลย
สูตรนี้ทำได้ทั้งหมด 22 คู่ ถ้ากินไม่หมดก็นำฝามาการองใส่กล่องแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น พอถึงเวลาจะกินค่อยเอาออกมาบีบไส้ใส่ลงไป หากเก็บในช่องแช่แข็งตัวฝามาการองจะอยู่ได้นานประมาณ 1 เดือนค่ะ
จับทิกเกอร์มาการองวางตั้งได้ด้วย น่ารักไหมล่ะ
มาการองหน้าตาธรรมดาคงต้องหลบให้ทิกเกอร์มาการองสุดฮอต นอกจากหน้าตาของทิกเกอร์จะน่าหม่ำแล้วยังใส่ไส้ออเร้นท์เคิร์ดรสหวานอมเปรี้ยว ทำให้การกินมาการองไม่หวานเลี่ยนอีกต่อไป สำหรับใครอยากพูดคุยหรือสอบถามเรื่องทำขนมเข้าไปได้ที่เฟซบุ๊ก Kat Bake Club หรือ Kat Bake Club
world_id:559645094d265a19108b456c
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณ Kat Bake Club สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Kat Bake Club