เทศกาลกินเจนอกจากทำอาหารเจไว้กินเป็นมื้อหลักแล้ว อย่าลืมจัดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสูตรเจไว้เสริมทัพเบา ๆ ระหว่างวันด้วย แต่ละแก้วเด็ด ๆ ทั้งนั้น พี่แนะนำเลย

อาหารเจเมนูต้ม อาหารเจเมนูเส้น อาหารเจรสแซ่บ และเมนูของทอดเจจัดพร้อมเสิร์ฟทุกมื้อหมุนเวียนตลอดช่วงเทศกาลกินเจแล้ว แต่ยังขาดเมนูเครื่องดื่มเอาไว้ดื่มตบท้ายหลังมื้ออาหาร หรือเอาไว้ดื่มระหว่างวันยามท้องว่าง วันนี้กระปุกดอทคอมขอแนะนำ 11 สูตรเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ แต่ละเมนูแคลอรีต่ำ เลือกทำได้ตามชอบ เอาไว้ดื่มเพลิน ๆ ช่วงกินเจ หรือนอกช่วงกินเจอยากดื่มก็ได้เหมือนกันจ้า
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
1. น้ำเต้าหู้
เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพเมนูแรกที่ต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้นการทำน้ำเต้าหู้ ใครเคยลองทำน้ำเต้าหู้แล้วรสชาติไม่ถูกจริตบ้างคะ ? มีทั้งกลิ่นเหม็นเขียวและออกขมด้วยซ้ำ ต้องมาดูวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรจาก RinS CookBook แบบโฮมเมดไว้กินเอง แล้วจะพบว่า น้ำเต้าหู้ทำอร่อยได้ง่าย ๆ สูตรนี้พิเศษที่มีการใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันและความเข้มข้น ลองทำดื่มนะคะ ได้สุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
• ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
• ถั่วลิสง 1 ถ้วย
• อัลมอนด์ 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3)
• น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้น ทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
2. น้ำเต้าหู้งาดำ
มาเพิ่มประโยชน์ให้กับน้ำเต้าหู้เพียว ๆ ด้วยงาดำลงไปหน่อยดีกว่า สีสันจะได้สวยงามและมีกลิ่นหอมอีกด้วย ทำง่าย ๆ เหมือนการทำน้ำเต้าหู้ทั่ว ๆ ไปแต่ใส่งาดำลงไปเพิ่มเท่านั้น สำหรับใครที่อยากใส่เครื่องอื่น ๆ เช่น เม็ดแมงลัก ถั่วแดงต้ม ก็จัดไปได้เลย อิ่มสบายท้องชัวร์
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้งาดำ
• ถั่วเหลือง 500 กรัม
• งาดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำอุ่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2. ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม
3. ใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยงาดำคั่ว และน้ำอุ่นจนท่วม ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ
4. เทน้ำเต้าหู้งาดำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ คนผสมให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม หรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่ม
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
3. น้ำเต้าหู้แครอท
ลองทำมาหมดแล้วทั้งน้ำเต้าหู้ และน้ำเต้าหู้งาดำ มื้อต่อไปขอเป็นน้ำเต้าหู้แครอทบ้างดีกว่า อีกหนึ่งเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ สูตรนี้เพิ่มน้ำแครอท และกลิ่นหอมของใบเตยเข้าไป ถ้าใครไม่อยากดื่มรสต้นตำรับก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไปก็ได้นะคะ อยากให้ลองทำกันค่ะ
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้แครอท
• ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
• น้ำเปล่า 3 ลิตร
• น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
• ใบเตยมัดเป็นปม
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำน้ำเต้าหู้แครอท
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นจนละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
3. ใส่น้ำเต้าหู้ที่ได้ผสมกับน้ำแครอท คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตย ต้มจนเดือด (หมั่นคนตลอดเวลาไม่ให้ไหม้)
4. พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
4. น้ำลูกเดือย
ทุกคนก็รู้ว่าลูกเดือยมีคุณค่ามากมายทั้งบำรุงตับ ป้องกันมะเร็ง และอื่น ๆ จนทำให้คนจีนยกให้ลูกเดือยเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยความที่ลูกเดือยมีคาร์โบไฮเดรตสูง ไม่มีคอเลสเตอรอล ทำให้คนที่อยากลดน้ำหนักก็หันมากินลูกเดือยต้ม หรือถ้าหากไม่อยากเคี้ยวก็ทำเป็นน้ำลูกเดือยกันเลยค่ะ ดื่มง่ายลื่นคอ จับธัญพืชที่ชอบลงไปใส่ด้วยก็เก๋ดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำลูกเดือย
• ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
• ธัญพืชตามชอบ เช่น งาขาว งาดำ เม็ดบัว ถั่วอัลมอนด์
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (เพิ่ม-ลดได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)
• น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำลูกเดือย
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำเปล่า 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นน้ำ จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)
3. เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลายแล้วชิมรสตามชอบ รอจนส่วนผสมเดือดแล้วปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
5. น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
ถ้าเอ่ยชื่อน้ำข้าวกล้องงอกบางคนอาจส่ายหน้าเพราะรสชาติจืดชืดไม่อร่อย แต่ถ้าได้เพิ่มมะม่วงเข้าไปกลายเป็นน้ำมะม่วงข้าวกล้องงอกสูตรจากนิตยสาร Foodstylist เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ รสชาติจะอร่อยหอมหวานมากยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลองทำ
ส่วนผสม น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
• ข้าวกล้องขาว (ข้าวใหม่ดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1) 500 กรัม
• น้ำสะอาด
• ใบเตย 2-3 ใบ
• มะม่วงสุกเลือกหวาน ๆ ปั่น 1 ลูก
• สะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
1. นำข้าวกล้องมาล้างทำความสะอาด เติมน้ำให้ท่วมข้าว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง เทน้ำออกแล้วนำไปห่อด้วยผ้าขาวบาง ใส่กล่องทิ้งไว้อีกประมาณ 10-24 ชั่วโมง เมล็ดข้าวจะงอกออกมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ (ได้ข้าวกล้องงอก) ที่มีสารกาบา จึงนำมาผสมกับน้ำประมาณ 1 ลิตร ปั่นให้ละเอียด
2. นำไปกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นจึงนำไปต้มกับใบเตยจนเดือด พักไว้ให้อุ่น ๆ นำมาผสมกับน้ำมะม่วงในปริมาณตามต้องการดื่มทันที ถ้าต้องการเพิ่มความหวานสามารถเติมน้ำเชื่อมได้ตามชอบ
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()
6. นมอัลมอนด์
ช่วงเทศกาลกินเจแบบนี้คงจะดีไม่น้อยที่ได้เครื่องดื่มอุ่น ๆ มาดื่มรองท้องคลายหิวอย่างนมอัลมอนด์ก็น่าสนใจไม่น้อย ทำง่าย ๆ แค่ซื้ออัลมอนด์ดิบมาแช่น้ำร้อนและปั่นพร้อมกับน้ำสะอาด กรองเอาเฉพาะน้ำนม ถ้าใครอยากดื่มเพียว ๆ ก็ได้ หรือใส่แปะก๊วยเพิ่มลงไปก็อร่อย
ส่วนผสม นมอัลมอนด์
• อัลมอนด์ 100 กรัม
• น้ำร้อนจัด (สำหรับแช่อัลมอนด์)
• น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• แปะก๊วยต้มสุก 100 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
วิธีทำนมอัลมอนด์
1. แช่อัลมอนด์ในน้ำร้อนจัด ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ลอกเปลือกออกให้หมด เตรียมไว้
2. ใส่อัลมอนด์ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำสะอาดลงไปปั่นผสมให้เข้ากันจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำนม
3. นำน้ำนมอัลมอนด์ขึ้นตั้งไฟต้ม ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนเดือด และน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา เทใส่แก้ว ใส่แปะก๊วย พร้อมดื่ม
![11 สูตรเครื่องดื่มเจ 11 สูตรเครื่องดื่มเจ]()

1. น้ำเต้าหู้
เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพเมนูแรกที่ต้องนึกถึงคงหนีไม่พ้นการทำน้ำเต้าหู้ ใครเคยลองทำน้ำเต้าหู้แล้วรสชาติไม่ถูกจริตบ้างคะ ? มีทั้งกลิ่นเหม็นเขียวและออกขมด้วยซ้ำ ต้องมาดูวิธีทำน้ำเต้าหู้สูตรจาก RinS CookBook แบบโฮมเมดไว้กินเอง แล้วจะพบว่า น้ำเต้าหู้ทำอร่อยได้ง่าย ๆ สูตรนี้พิเศษที่มีการใส่ถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปเพิ่มความหอมมันและความเข้มข้น ลองทำดื่มนะคะ ได้สุขภาพอีกด้วย
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้
• ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (ประมาณ 453 กรัม)
• ถั่วลิสง 1 ถ้วย
• อัลมอนด์ 1 ถ้วย
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3)
• น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)
2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด
3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้
4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ
5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้น ทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์
+++++++++++++++++++++

2. น้ำเต้าหู้งาดำ
มาเพิ่มประโยชน์ให้กับน้ำเต้าหู้เพียว ๆ ด้วยงาดำลงไปหน่อยดีกว่า สีสันจะได้สวยงามและมีกลิ่นหอมอีกด้วย ทำง่าย ๆ เหมือนการทำน้ำเต้าหู้ทั่ว ๆ ไปแต่ใส่งาดำลงไปเพิ่มเท่านั้น สำหรับใครที่อยากใส่เครื่องอื่น ๆ เช่น เม็ดแมงลัก ถั่วแดงต้ม ก็จัดไปได้เลย อิ่มสบายท้องชัวร์
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้งาดำ
• ถั่วเหลือง 500 กรัม
• งาดำ 1-2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำอุ่น
• น้ำตาลทราย
วิธีทำน้ำเต้าหู้งาดำ
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วในกระทะจนแห้งและมีกลิ่นหอม แล้วนำไปแช่ในน้ำสะอาดทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง
2. ล้างงาดำให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จากนั้นนำไปคั่วจนมีกลิ่นหอม
3. ใส่ถั่วเหลืองที่แช่น้ำจนนิ่มแล้วลงในเครื่องปั่น ตามด้วยงาดำคั่ว และน้ำอุ่นจนท่วม ปั่นจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ
4. เทน้ำเต้าหู้งาดำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือด หมั่นคนสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้ก้นหม้อไหม้ เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามชอบ คนผสมให้เดือดอีกครั้ง ยกลงจากเตา ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม หรือนำไปแช่เย็นก่อนดื่ม
+++++++++++++++++++++

3. น้ำเต้าหู้แครอท
ลองทำมาหมดแล้วทั้งน้ำเต้าหู้ และน้ำเต้าหู้งาดำ มื้อต่อไปขอเป็นน้ำเต้าหู้แครอทบ้างดีกว่า อีกหนึ่งเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ สูตรนี้เพิ่มน้ำแครอท และกลิ่นหอมของใบเตยเข้าไป ถ้าใครไม่อยากดื่มรสต้นตำรับก็ไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายลงไปก็ได้นะคะ อยากให้ลองทำกันค่ะ
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้แครอท
• ถั่วเหลืองซีก 500 กรัม
• น้ำเปล่า 3 ลิตร
• น้ำแครอทคั้นเข้มข้น 1 ถ้วย
• ใบเตยมัดเป็นปม
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
วิธีทำน้ำเต้าหู้แครอท
1. ล้างถั่วเหลืองให้สะอาด แช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ถั่วเหลืองลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า ปั่นจนละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้
3. ใส่น้ำเต้าหู้ที่ได้ผสมกับน้ำแครอท คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่ใบเตย ต้มจนเดือด (หมั่นคนตลอดเวลาไม่ให้ไหม้)
4. พอน้ำเต้าหู้เดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ตักใบเตยออก ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟ ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
++++++++++++++++++++

4. น้ำลูกเดือย
ทุกคนก็รู้ว่าลูกเดือยมีคุณค่ามากมายทั้งบำรุงตับ ป้องกันมะเร็ง และอื่น ๆ จนทำให้คนจีนยกให้ลูกเดือยเป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยความที่ลูกเดือยมีคาร์โบไฮเดรตสูง ไม่มีคอเลสเตอรอล ทำให้คนที่อยากลดน้ำหนักก็หันมากินลูกเดือยต้ม หรือถ้าหากไม่อยากเคี้ยวก็ทำเป็นน้ำลูกเดือยกันเลยค่ะ ดื่มง่ายลื่นคอ จับธัญพืชที่ชอบลงไปใส่ด้วยก็เก๋ดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำลูกเดือย
• ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
• ธัญพืชตามชอบ เช่น งาขาว งาดำ เม็ดบัว ถั่วอัลมอนด์
• น้ำเปล่า 6 ถ้วย (เพิ่ม-ลดได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)
• น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำลูกเดือย
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำเปล่า 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นน้ำ จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)
3. เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลายแล้วชิมรสตามชอบ รอจนส่วนผสมเดือดแล้วปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่แก้ว พร้อมดื่ม
+++++++++++++++++++

5. น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
ถ้าเอ่ยชื่อน้ำข้าวกล้องงอกบางคนอาจส่ายหน้าเพราะรสชาติจืดชืดไม่อร่อย แต่ถ้าได้เพิ่มมะม่วงเข้าไปกลายเป็นน้ำมะม่วงข้าวกล้องงอกสูตรจากนิตยสาร Foodstylist เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ รสชาติจะอร่อยหอมหวานมากยิ่งขึ้น ถ้าอยากรู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไรต้องลองทำ
ส่วนผสม น้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
• ข้าวกล้องขาว (ข้าวใหม่ดอกมะลิ 105 หรือปทุมธานี 1) 500 กรัม
• น้ำสะอาด
• ใบเตย 2-3 ใบ
• มะม่วงสุกเลือกหวาน ๆ ปั่น 1 ลูก
• สะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
วิธีทำน้ำข้าวกล้องงอกมะม่วง
1. นำข้าวกล้องมาล้างทำความสะอาด เติมน้ำให้ท่วมข้าว แช่ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 ชั่วโมง เทน้ำออกแล้วนำไปห่อด้วยผ้าขาวบาง ใส่กล่องทิ้งไว้อีกประมาณ 10-24 ชั่วโมง เมล็ดข้าวจะงอกออกมาเป็นตุ่มเล็ก ๆ (ได้ข้าวกล้องงอก) ที่มีสารกาบา จึงนำมาผสมกับน้ำประมาณ 1 ลิตร ปั่นให้ละเอียด
2. นำไปกรองเอาแต่น้ำ จากนั้นจึงนำไปต้มกับใบเตยจนเดือด พักไว้ให้อุ่น ๆ นำมาผสมกับน้ำมะม่วงในปริมาณตามต้องการดื่มทันที ถ้าต้องการเพิ่มความหวานสามารถเติมน้ำเชื่อมได้ตามชอบ
++++++++++++++++

6. นมอัลมอนด์
ช่วงเทศกาลกินเจแบบนี้คงจะดีไม่น้อยที่ได้เครื่องดื่มอุ่น ๆ มาดื่มรองท้องคลายหิวอย่างนมอัลมอนด์ก็น่าสนใจไม่น้อย ทำง่าย ๆ แค่ซื้ออัลมอนด์ดิบมาแช่น้ำร้อนและปั่นพร้อมกับน้ำสะอาด กรองเอาเฉพาะน้ำนม ถ้าใครอยากดื่มเพียว ๆ ก็ได้ หรือใส่แปะก๊วยเพิ่มลงไปก็อร่อย
ส่วนผสม นมอัลมอนด์
• อัลมอนด์ 100 กรัม
• น้ำร้อนจัด (สำหรับแช่อัลมอนด์)
• น้ำสะอาด 500 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• แปะก๊วยต้มสุก 100 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
วิธีทำนมอัลมอนด์
1. แช่อัลมอนด์ในน้ำร้อนจัด ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ลอกเปลือกออกให้หมด เตรียมไว้
2. ใส่อัลมอนด์ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำสะอาดลงไปปั่นผสมให้เข้ากันจนละเอียด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบางเอาเฉพาะน้ำนม
3. นำน้ำนมอัลมอนด์ขึ้นตั้งไฟต้ม ใส่น้ำตาลทราย คนผสมจนเดือด และน้ำตาลทรายละลาย ยกลงจากเตา เทใส่แก้ว ใส่แปะก๊วย พร้อมดื่ม
++++++++++++++++++++++

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยเห็นฟักข้าวลูกสีส้มเหลือง มีหนามเล็ก ๆ อยู่รอบผล รู้ไหมว่า ฟักข้าวมีทั้งวิตามินซี แคลเซียม เหล็ก ไฟเบอร์ และมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก [คลิกอ่าน ฟักข้าว ประโยชน์ของพืชพื้นบ้านลูกจิ๋ว สรรพคุณแจ๋ว] หลายคนอยากลองซื้อมาแต่ไม่รู้จะซื้อมาทำอะไรกินได้บ้าง ต่อไปนี้ถ้าเห็นลองซื้อมาทำเป็นน้ำฟักข้าว เครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพได้นะคะ
ส่วนผสม น้ำฟักข้าวเสาวรส
• ฟักข้าว 1 ลูก
• น้ำต้มสุก (สำหรับปั่นฟักข้าว) 3 ถ้วย
• เสาวรส 2-3 ลูก
• น้ำต้มสุก (สำหรับปั่นเสาวรส) 3 ถ้วย
• เกลือป่นเล็กน้อย
• น้ำเชื่อม
วิธีทำน้ำฟักข้าวเสาวรส
1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เทใส่ภาชนะ เตรียมไว้
3. ตักเนื้อเสาวรสใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี ยกลงกรองเอาเฉพาะน้ำ
4. ผสมน้ำฟักข้าวและน้ำเสาวรสเข้าด้วยกัน เติมเกลือป่นและน้ำเชื่อมลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ พร้อมดื่ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำฟักข้าว เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิต ทำอย่างไร ดื่มแบบไหนให้อร่อย
++++++++++++++++++++

8. น้ำฟักเขียว
เหลือเชื่อ ฟักเขียวที่เอามาทำเป็นแกงจืดฟัก หรือแกงกะทิฟักไก่จะกลายร่างเป็นเครื่องดื่มเย็น ๆ อย่างน้ำฟักเขียว สูตรจาก คุณ RinS CookBook จะดื่มแบบเย็น หรือแบบร้อนก็ได้ ถ้าพร้อมแล้วเข้าครัวพร้อมกันได้เลยจ้า
ส่วนผสม น้ำฟักเขียว
• ฟักเขียว (ฟักแฟง) 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลทรายแดง 145 กรัม (5 ออนซ์)
• น้ำตาลกรวด 145 กรัม (5 ออนซ์)
• น้ำดื่ม
วิธีทำน้ำฟักเขียว
1. ล้างทำความสะอาดฟักเขียวทั้งเปลือกให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ (ทั้งเปลือกและเม็ด) ใส่ลงในหม้อ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป คนผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที (จนน้ำจากฟักเริ่มออกมา) นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟ เติมน้ำตาลกรวดลงไป ใช้ไฟแรงต้มจนเดือด พอน้ำเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน ต้มทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง พอครบเวลา กรองส่วนผสมเอาเฉพาะน้ำเชื่อม พักทิ้งไว้จนอุ่น
3. ถ้าต้องการดื่มแบบร้อนให้ใส่น้ำเชื่อมฟักลงในแก้ว 1 ส่วน (1/4 แก้ว) ตามด้วยน้ำเปล่า 3 ส่วน คนผสมให้เข้ากัน ถ้าต้องการดื่มแบบร้อนให้ใส่น้ำเชื่อมเพิ่มแล้วใส่น้ำแข็งตามลงไป พร้อมดื่ม
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำฟักเขียว เครื่องดื่มดับร้อน คลายความหงุดหงิด
++++++++++++++++++++

9. น้ำกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีน
ดื่มน้ำกระเจี๊ยบที่เขาขายมาก็เยอะแต่ยังไม่เคยเจอที่ผสมกับพุทราจีนเลย ช่วงเทศกาลเจแบบนี้ลองทำน้ำกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีนดื่มดูดีกว่า ทำเองรับรองว่าเข้มข้นกว่าเยอะ แถมได้ลิ้มรสเนื้อพุทราจีนอีกด้วย ดื่มแบบอุ่น ๆ หรือใส่น้ำแข็งก็อร่อยจ้า
ส่วนผสม น้ำกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีน
• ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1 กำมือ
• พุทราจีน 1 กำมือ
• น้ำสะอาด 1-1.5 ลิตร
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบแดงกับพุทราจีน
1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร)
2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทเก็บใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม
+++++++++++++++++++

ภาพจาก ifoodreal.com
10. สมูทตี้เมล็ดเจีย
ใคร ๆ ก็รู้ว่า เมล็ดเจียมีประโยชน์อนันต์ [คลิกดู เมล็ดเจีย (เมล็ดเชีย) ธัญพืชมากประโยชน์ ขุมทรัพย์แห่งสุขภาพ] เอามาทำเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพได้อย่างสมูทตี้สีเขียวกับเมล็ดเจีย เหมาะสำหรับดีท็อกซ์ช่วงกินเจมาก ๆ สูตรนี้พิเศษตรงที่นอกจากใส่เมล็ดเจียแล้วยังใส่สารพัดผัก ทั้งผักโขม ใบคะน้า และซูกินี ทำให้เครื่องดื่มแก้วนี้มีสีเขียว รวมถึงใส่แอปเปิลและเลมอนอีกด้วยทำให้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวตามธรรมชาติ ลองจัดสักแก้วดีไหม
ส่วนผสม สมูทตี้เมล็ดเจีย
• น้ำเย็น 2 ถ้วย
• ผักโขม 2 กำมือ
• ใบคะน้าขนาดกลาง 1 ต้น
• ซูกินีหั่นแว่น 1/2 ลูก
• แอปเปิลหั่นชิ้น 1/2 ลูก (ไม่ปอกเปลือกไม่เอาเม็ด)
• เมล็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเลมอน 1/2 ลูก
วิธีทำสมูทตี้เมล็ดเจีย
1. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ จากนั้นปั่นให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
2. เทใส่แก้ว โรยเมล็ดเจีย พร้อมเสิร์ฟ
11. น้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดา
เกิดมาเคยกินแต่น้ำมะนาวโซดารสเปรี้ยวซาบซ่า แต่ถ้าใครเริ่มรู้สึกเบื่อลองมาดื่มน้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดากันบ้างดีกว่า แค่จับน้ำจับเลี้ยงมาผสมกับน้ำมะนาวโซดา ทำไว้ดื่มดับกระหายคลายร้อนในช่วงกินเจนี้เข้าท่าดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดา
• น้ำจับเลี้ยง 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาวคั้น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น เล็กน้อย
• โซดา 3/4 แก้ว
• น้ำแข็ง
วิธีทำน้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดา
1. ใส่น้ำมะนาว น้ำเชื่อม เกลือป่น และน้ำจับเลี้ยงลงในแก้ว คนผสมให้เข้ากัน
2. เติมโซดาลงไป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งเตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ
เอาใจคนกินเจในช่วงเทศกาลเจสักหน่อยด้วยเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ 11 สูตร แต่ละเมนูน่าลิ้มลองทั้งนั้น ทำไว้ดื่มรองท้องก็ได้ หรือดื่มดับกระหายคลายร้อนก็เลิศ พร้อมเข้าครัวหรือยังสำหรับเมนูแรกช่วงบ่ายนี้
++++++++++++++++++++++++
เกิดมาเคยกินแต่น้ำมะนาวโซดารสเปรี้ยวซาบซ่า แต่ถ้าใครเริ่มรู้สึกเบื่อลองมาดื่มน้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดากันบ้างดีกว่า แค่จับน้ำจับเลี้ยงมาผสมกับน้ำมะนาวโซดา ทำไว้ดื่มดับกระหายคลายร้อนในช่วงกินเจนี้เข้าท่าดีเหมือนกัน
ส่วนผสม น้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดา
• น้ำจับเลี้ยง 4 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาวคั้น 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น เล็กน้อย
• โซดา 3/4 แก้ว
• น้ำแข็ง
วิธีทำน้ำจับเลี้ยงมะนาวโซดา
1. ใส่น้ำมะนาว น้ำเชื่อม เกลือป่น และน้ำจับเลี้ยงลงในแก้ว คนผสมให้เข้ากัน
2. เติมโซดาลงไป คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งเตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟ
เอาใจคนกินเจในช่วงเทศกาลเจสักหน่อยด้วยเครื่องดื่มเจเพื่อสุขภาพ 11 สูตร แต่ละเมนูน่าลิ้มลองทั้งนั้น ทำไว้ดื่มรองท้องก็ได้ หรือดื่มดับกระหายคลายร้อนก็เลิศ พร้อมเข้าครัวหรือยังสำหรับเมนูแรกช่วงบ่ายนี้