ข้าวโพดมีประโยชน์อะไรบ้าง
-
มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนซึ่งย่อยสลายช้า ทำให้ร่างกายอิ่มนานและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
-
มีสารอาหารที่ร่างกายต้องการทั้งฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส ซีลีเนียม สังกะสี และเหล็ก มีส่วนช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต และยังช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรง
-
อุดมไปด้วยวิตามินมากมาย โดยเฉพาะวิตามินบีหลายชนิด ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง และช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
-
มีลูทีนและซีแซนทิน เป็นสารที่ช่วยปกป้องดวงตาให้ห่างไกลจากโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ และยังมีสารเบต้าแคโรทีนที่ช่วยผลิตวิตามินเอ ทำให้การมองเห็นดีขึ้นได้
-
มีไฟเบอร์ดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้
-
มีธาตุเหล็กที่สำคัญต่อการสร้างเม็ดเลือด ป้องกันโรคโลหิตจาง
-
ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในร่างกายได้
ตะโก้ข้าวโพด
ส่วนผสม ตัวขนม
-
ข้าวโพดดิบฝาน 250 กรัม
-
น้ำตาลทราย 100 กรัม
-
แป้งข้าวเจ้า 70 กรัม
-
แป้งมัน 10 กรัม
-
น้ำสะอาด 450 มิลลิลิตร
ส่วนผสม หน้าขนม
-
หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
-
น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
-
น้ำตาลทราย 50 กรัม
-
แป้งข้าวเจ้า 30 กรัม
-
แป้งมันสำปะหลัง 15 กรัม
-
เกลือ 1 ช้อนชา
-
ข้าวโพดต้มสุก (สำหรับแต่งหน้าขนม)
วิธีทำตะโก้ข้าวโพด
-
ทำตัวขนม โดยใส่ส่วนผสมของแห้ง คนพอเข้ากัน เติมน้ำเปล่า คนพอเข้ากัน กรองผ่านตะแกรง เทใส่กระทะ ใช้ไฟอ่อน
-
ใส่ข้าวโพดดิบลงไป กวนจนแป้งข้นสุกและข้าวโพดสุกสีเหลือง ปิดไฟ ตักใส่กระทงใบตองประมาณ 1/2 ส่วน พักไว้
-
ทำหน้าขนม โดยใส่ส่วนผสมของแห้ง คนพอเข้ากัน เติมน้ำเปล่าและกะทิ คนพอเข้ากัน กรองผ่านตะแกรง เทใส่กระทะ ใช้ไฟอ่อน กวนจนข้น ปิดไฟ
-
หยอดหน้ากะทิลงไปบนหน้าขนม แต่งด้วยเม็ดข้าวโพดต้มสุก
จะว่าไปทุกวันนี้ก็หาซื้อตะโก้ข้าวโพดยากเหมือนกัน ถ้าพอมีเวลาอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำกินเอง จะเปลี่ยนเป็นตะโก้แห้วหรือตะโก้เผือกก็ได้เช่นกัน