เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ไก่ทอด เมนูอร่อย ๆ ยอดฮิตที่ใครต่อใคร ๆ ก็ต่างคิดว่า จะสามารถเนรมิตให้กลายเป็นจานโปรดสุดอร่อยได้ แค่นำเนื้อไก่ไปชุบแป้งแล้วจับลงทอดในน้ำมันร้อน ๆ เท่านั้น โดยที่ไม่รู้ว่า แท้จริงแล้วการทำไก่ทอดนั้นมีเคล็ดลับกับส่วนผสมอีกมากมายที่ต้องใส่ใจ
วันนี้เราขอนำเทคนิควิธีการทำไก่ทอดมาฝากกัน ซึ่งขอการันตีความอร่อยด้วยส่วนผสมอันเลิศรสและขั้นตอนการทำไก่ทอดให้อร่อย ไปดูกันเลยค่ะ
เคล็ดลับการทำไก่ทอด 
หากต้องการทอดไก่ทั้งตัวควรเลือกไก่ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 3.5 ปอนด์หรือประมาณ 1.5 กิโลกรัม แต่ไก่น้ำหนักขนาดนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เนื้อไก่ทุกส่วนจะเหมาะกับการนำมาทอด หากต้องการไก่ที่สามารถนำมาทอดได้ทุกส่วนนั้น ควรเลือกไก่ที่มีน้ำหนัก 3 ปอนด์หรือประมาณ 1.3 กิโลกรัม

การทอดอกไก่นั้น ควรแบ่งเนื้อหน้าอกออกเป็น 3 ส่วน เพื่อลดระยะเวลาในการทอด ป้องกันไม่ให้เนื้อบางส่วนแห้ง และแข็งจนเกินไป

หากก่อนหน้านี้เคยนำไก่ลงไปแช่ในน้ำเกลือเพื่อเพิ่มรสชาติ ให้ลองเปลี่ยนวิธีการโดยการใส่แฮม หรือเบคอนลงไปทอดในน้ำมันก่อนทอดไก่ ความเค็มจากแฮม หรือเบคอนจะคงอยู่ในน้ำมัน จากนั้นค่อยใส่เนื้อไก่ลงไป รับรองว่า ไก่ทอดจะอร่อย และกลมกล่อมไม่แพ้การแช่น้ำเกลือเลย

ก่อนนำไก่ไปทอดควรทาเกลือให้ทั่วตัวไก่ก่อน จากนั้นหมักทิ้งไว้ประมาณอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือ 1 คืน เพื่อรักษาความชุ่มชื่นของเนื้อไก่เอาไว้

การใส่น้ำมันลงในกระทะเพื่อทอดไก่นั้น ระดับน้ำมันจากก้นหม้อหรือก้นกระทะไม่ควรสูงเกิน 1.5 นิ้ว เพราะหลังจากที่ใส่เนื้อไก่ลงไปนั้น ปริมาณน้ำมันก็จะเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวไก่ จะทำให้คุณได้เนื้อไก่ที่สุกกรอบเท่ากันทุกส่วน

หลังจากที่คลุกไก่กับแป้งทอดกรอบครบ 2 ครั้งแล้ว ให้นำไก่ที่คลุกแป้งแล้ววางพักไว้บนตะแกรงประมาณ 20 นาทีก่อนนำไปทอด เพื่อให้อุณหภูมิของเนื้อไก่เท่ากับอุณหภูมิห้อง จะทำให้การทอดไก่ของคุณง่ายดาย และทำให้ไก่สุกเร็วขึ้น

หากคุณอยากให้ไก่ทอดนั้นกรอบมากยิ่งขึ้น ให้คุณไก่เข้าไมโครเวฟ และอบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 250 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 132 องศาเซลเซียสประมาณ 20 นาทีก่อนนำไปรับประทาน

อย่าลืมนำเครื่องในไก่ไปชุบแป้งทอด พร้อมกับทอดให้กรอบ และเสิร์ฟพร้อมกับเนื้อไก่ รับรองว่ามื้ออาหารนี้จะครบเครื่องความอร่อยอย่างแน่นอน

เลือกชิ้นส่วนไก่ที่ต้องใช้ระยะเวลาทอดนานลงทอดก่อน ซึ่งระหว่างที่รอคุณสามารถจะทำอย่างอื่นไปพร้อม ๆ กันได้ อย่างเช่น จัดจาน หรือเตรียมน้ำจิ้ม

เลือกแป้งอเนกประสงค์แบบที่ไม่ผสมกลูเตน (Gluten-free flour) จะทำให้ได้เนื้อไก่ทอดที่นุ่มกรอบ
สูตรการทำไก่ทอดแสนอร่อย
สิ่งที่ต้องเตรียม (สำหรับ 6-8 ที่) 
ไก่สด 2 ตัว (น้ำหนักประมาณตัวละ 1.5 กิโลกรัม)

เกลือป่น 1 ช้อนชา

แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 2 ถ้วย

แป้งข้าวโพด 1/4 ถ้วย (จะช่วยให้ไก่กรอบยิ่งขึ้น)

ผงปาปริก้า 1 ช้อนโต๊ะ

ผงกระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ

ผงปรุงรสไก่ 1/2 ช้อนชา

ใบไทม์แห้ง 1 ช้อนชา

พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา

เกลือป่น ปริมาณเล็กน้อย

โยเกิร์ต (หรือบัตเตอร์มิลค์ หรือซาวร์ครีม) 2 ถ้วย

ไข่ไก่ 2 ฟอง

น้ำมันพืช สำหรับทอด 1/2 ถ้วย

เบคอน 2 แผ่น
วิธีทำ 
1. แบ่งเนื้อไก่ 1 ตัวออกเป็น 9 ชิ้น จากนั้นทาเกลือลงบนชิ้นเนื้อไก่ให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ในช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืนหรืออย่างน้อย 2 ชั่วโมง

2. ผสมแป้งทอดกรอบ แป้งข้าวโพด ผงปาปริก้า ผงกระเทียม ผงปรุงรสไก่ ใบไทม์ พริกไทยดำบด และเกลือป่น ใส่ลงในถุงพลาสติก เขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันทั้งหมด เตรียมไว้

3. ตีผสมไข่ไก่กับโยเกิร์ตให้เข้ากัน นำเนื้อไก่ลงชุบให้ทั่ว จากนั้นนำใส่ในถุงส่วนผสมแป้ง ปิดปากถุงให้สนิท จากนั้นเขย่าถุงพลาสติกให้แป้งเกาะติดกับเนื้อไก่จนทั่ว ทำซ้ำจนหมด

4. นำเนื้อไก่ที่ได้ชุบลงในส่วนผสมไข่อีกครั้ง และนำไปเขย่าในถุงส่วนผสมแป้งอีกครั้ง จากนั้นพักไว้บนตะแกรงประมาณ 20 นาที

5. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 250 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้ (อบเพื่อความกรอบมากยิ่งขึ้น หากไม่ต้องการข้ามวิธีนี้ได้)

6. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืช ตั้งไฟปานกลางจนน้ำมันร้อนจัด (สังเกตุจากคลื่นบนผิวน้ำมัน ถ้าน้ำมันร้อนได้ที่ผิวน้ำมันจะนิ่ง) จากนั้นใส่เบคอนลงทอด (เบคอนก็จะช่วยให้ไก่ออกมาเหลืองกรอบ รสกลมกล่อม และน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น) เมื่อเบคอนกรอบ ตักออกจากกระทะ

8. นำเนื้อไก่ลงทอดในน้ำมันที่เดือดจัด ครั้งละ 5-7 ชิ้น ประมาณ 15-30 วินาที จากนั้นค่อย ๆ พลิกเนื้อไก่อีกด้าน (เพื่อให้ด้านนอกสุกกรอบเท่า ๆ กันทั่วทั้งชิ้น) จนสุกเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้สักครู่
Tip : ดูจากฟองอากาศในน้ำมัน หากฟองอากาศในน้ำมันเริ่มน้อยลงแล้ว จึงจะพลิกเนื้อไก่เพื่อทอดอีกด้าน และไม่ควรจะใส่น้ำมันเพิ่มในระหว่างที่ทอด 
9. นำไก่เข้าเตาอบ นานประมาณ 15-20 นาที จากนั้นนำไก่ทอดออกจากเตาอบ จัดใส่จาน พร้อมรับประทาน
การทำไก่ทอดให้กรอบอร่อยนั้นอาจต้องใช้เวลาสักนิด แต่ถ้าทำไปตามขั้นตอนที่บอกมาแล้ว รสชาติของไก่ทอดที่ได้จะต้องอร่อย หอมกรอบ และนุ่มอย่างแน่นอน อย่าลืมนำเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะคะ