
นาทีนี้ต้องยอมรับว่า อาหารญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในวิถีการกินของบ้านเราไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเมนู "ซูซิ" และเชื่อว่า ซูชิเป็นอาหารญี่ปุ่นเมนูโปรดในดวงใจใครหลายคนแน่ ๆ พอเงินเดือนออกทีไรเป็นต้องจัดสักหน่อย กินกันอย่างเอร็ดอร่อย สั่งซูชิหน้านั้นทีหน้านี้ที อิ่มหนำสำราญกันไป แต่เคยรู้กันบ้างหรือเปล่าว่า ซูซิที่เรากิน ๆ กันเนี่ย มีประวัติความเป็นมาอย่างไร เชื่อเลยว่าหลายคนคงยังไม่รู้ ถ้าอย่างนั้น เรามาเปิดกรุดูกันซิว่า ซูซิแสนอร่อยมีที่มาจากไหนกัน และใครเป็นคนคิดค้นกันแน่
"ซูซิ" เป็นคำเรียกอาหารประเภทข้าวกับปลาของชาวญี่ปุ่น ที่ผ่านการหมักน้ำส้มสายชูเพื่อถนอมอาหารให้มีอายุได้นานขึ้น ซึ่งอาหารชนิดนี้ก็มีมาตั้งแต่หลายร้อยกว่าปีแล้ว แถมยังมีข้อสันนิษฐานไว้อีกด้วยว่า พี่ยุ่นเขาเลียนแบบสไตล์การกินของหมักอย่างนี้มาจากชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย และประเทศลาวด้วยนะ
แต่ถึงอย่างนั้นเหตุผลที่ซูซิเป็นอาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งของคนทั้งโลกได้ก็เพราะรสชาติของ ข้าวญี่ปุ่นที่เหนียวนุ่ม หมักกับน้ำส้มสายชู วางทับหน้าด้วยปลาดิบที่แร่มาสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งในยุคนั้นซูชิมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ ซูชิรูปแบบคันไซ (Kansai Style) มีต้นกำเนิดจากจังหวัดโอซาก้า ต้นแบบของ "โอชิซูชิ" ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน และซูชิรูปแบบเอโดะ (Edo Style) มาจากโตเกียว ที่มาของ "นิงิริซูชิ" อันโด่งดังในทุกวันนี้นั่นเองค่ะ จนเมื่อศตวรรษที่ 18 คุณโยเฮอิ (Yohei) พ่อครัวชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งก็ได้คิดค้นซูซิรูปแบบใหม่ขึ้นมา โดยดัดแปลงให้มีความสด สะอาด และรสชาติถูกปากคนในยุคปัจจุบันมากขึ้น ส่งให้ซูชิเป็นหนึ่งในอาหารของครัวโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เอาล่ะ ! ต่อจากนี้เราจะมาทำความรู้จักซูชิแบบต่าง ๆ ให้มากขึ้น โดยซูชิที่มีให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้ดังนี้เลยจ้า

ข้าวปั้นเป็นรูปวงรี มีปลาดิบ ปลาหมึกสดวางอยู่ด้านบน และอาจจะมีสาหร่ายวางตกแต่งทับบนเนื้อปลาเพื่อเพิ่มรสชาติด้วยก็ได้ ซึ่งถือว่านิงิริซูชิเป็นซูชิยอดนิยมอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ

ข้าวห่อสาหร่ายที่ฮอตไม่แพ้นิงิริซูชิ สามารถทำออกมาได้ถึง 3 แบบด้วยกัน คือ ห่อข้าวด้วยสาหร่าย กลับเอาสาหร่ายม้วนเข้าไปไว้ในข้าวปั้น หรือห่อสาหร่ายเป็นรูปกรวย แล้วสอดไส้ข้าวไว้ด้านใน

ถือว่าเป็นซูชิที่ทำง่ายที่สุด เพียงแค่จัดปลาดิบ กุ้ง ปลาหมึกสด และผัก วางเรียงบนข้าวที่ใส่ในกล่องอย่างเรียบร้อย

ซูชิแบบดั้งเดิมที่ดัดแปลงเครื่องเล็กน้อย ซูชิสไตล์นี้จะอัดข้าวปั้นลงในพิมพ์รูปสี่เหลี่ยม จากนั้นจึงหั่นให้มีขนาดพอดีคำ แล้ววางเนื้อปลาดิบไว้ด้านบนสุด

หรือซูชิเต้าหู้ทอด ที่นำข้าวปั้นสอดไส้ไปในเต้าหู้ อาจจะกินแกล้มกับสาหร่ายและ ไข่ม้วนก็ได้
อย่างไรก็ตามทีเด็ดของซูชิไม่ได้อยู่ที่ความสดใหม่ของเนื้อปลา และการปั้นซูชิแบบสด ๆ ร้อน ๆ คำต่อคำเท่านั้น แต่ยังมีไม้ตายอยู่ที่วาซาบิรสจี๊ดจ๊าด ที่จิ้มนิดเดียวก็ปรี๊ดโล่งไปทั้งสมองด้วยนะคะ แหม ว่าแล้วก็นึกอยากกินซูชิขึ้นมาทันทีเลยนะเนี่ย
adosushi.com, www.student.chula.ac.th, NaNa Cooking