ถ้าเคยลองทำเมนูชีสเค้ก ไม่อบมาหลายครั้งแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำเมนูชีสเค้กแบบอบกันบ้างดีไหม แค่มีเตาอบหรือหม้อหุงข้าวก็ทำได้แล้วค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำชีสเค้กอบ เช่น ชีสเค้กญี่ปุ่น ชีสเค้กช็อกโกแลต และชีสเค้กอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ลองทำเลยอร่อยจริง ๆ นะ
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงได้ลองชิมเมนูชีสเค้กญี่ปุ่น (Japanese Souffle Cheesecake) มาบ้างแล้ว ถ้าหากอยากลองทำเองบอกเลยว่าไม่ยาก สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ หน้าเค้กเนื้อเนียนมาก ก่อนเสิร์ฟโรยไอซิ่งให้สวยหน่อย ชวนเพื่อนมากินด้วยกันเถอะ
ส่วนผสม ไข่แดง
• ครีมชีส 125 กรัม
• น้ำมันคาโนลา (หรือน้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันพืช) 30 กรัม
• นมสด หรือนมจืด 85 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
• แป้งข้าวโพด 30 กรัม
• ไข่แดงเบอร์ 2 3 ฟอง
• น้ำมะนาว 20 มิลลิลิตร หรือประมาณ 15 กรัม (หรือน้ำเลมอน)
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
ส่วนผสม เมอแรงค์ไข่ขาว
• ไข่ขาวเบอร์ 2 3 ฟอง
• น้ำตาลไอซิ่ง 35 กรัม
วิธีทำชีสเค้กญี่ปุ่น
1. ทำตัวเค้ก โดยนำครีมชีส น้ำมันคาโนลา นม และน้ำตาลไอซิ่งใส่ในชามแล้วนำไปอังกับหม้อไอน้ำที่ใส่น้ำต่ำกว่าครึ่งหม้อ อย่าให้น้ำเดือด แล้วใช้ตะกร้อคนจนทุกอย่างละลายเข้ากัน ยกลงจากหม้อไอน้ำ และนำมาคนต่อจนคลายร้อน หลังจากนั้นใส่ไข่แดงไปทีละฟอง คนผสมจนเข้ากัน พอใส่ไข่จนครบแล้วเติมน้ำมะนาว คนจนเข้ากัน ร่อนแป้งข้าวโพดลงไป แล้วใช้ตะกร้อหรือไม้พายตะล่อมจนเข้ากันแล้วก็กรองให้เนื้อเนียน
2. ทำเมอแรงค์ไข่ขาว โดยตีไข่ขาวกับน้ำตาลไอซิ่งแบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอดอ่อนหรือตั้งยอดกลาง ตักลงไปผสมกับส่วนผสมเค้ก แบ่งมาประมาณ 1/3 ส่วน แล้วตะล่อมจนเข้ากัน พอเข้ากันดีแล้วก็ใส่ส่วนที่เหลือทั้งหมด แล้วตะล่อมจนเนื้อเนียนเข้ากัน
3. พอเข้ากันแล้วก็เทใส่พิมพ์ เคาะไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 145 องศาเซลเซียส ประมาณ 80-90 นาที เปิดไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม อบบนถาดน้ำร้อนกึ่งนึ่ง โดยวางพิมพ์ในถาดน้ำร้อนจัด ควรจะต้มน้ำไว้ ใส่กาแล้วเทใส่ถาดตอนที่วางพิมพ์ลงไป พออบเสร็จแล้วนำออกมาพักให้คลายร้อนในพิมพ์สัก 10 นาที หรือจนเย็น แล้วค่อยนำออกจากพิมพ์ และนำไปแช่เย็นจนเซตตัวประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก่อนนำมาตัดแบ่ง
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กญี่ปุ่น เนื้อฟูนุ่มเด้ง สูตรเค้กที่ใครก็อยากลองทำ
++++++++++++++
2. ชีสเค้กสีพาสเทล (สูตรใช้หม้อหุงข้าว)
ใครจะไปเชื่อว่าหม้อหุงข้าวจะเอามาทำชีสเค้กได้ด้วย ขอนำเสนอเมนูชีสเค้กพาสเทล สูตรจาก คุณ Poppy farm สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กสีฟรุ้งฟริ้งอบด้วยหม้อหุงข้าวจนสุก หั่นแบ่งเป็นชิ้นกินกับบลูเบอร์รีหรือสตรอว์เบอร์รี
ส่วนผสม ชีสเค้กหม้อหุงข้าว
• ครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) 200 กรัม
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• วิปปิ้งครีม 200 มิลลิลิตร
• แป้งเค้ก 40 กรัม
• สีผสมอาหารตามชอบ
วิธีทำชีสเค้กหม้อหุงข้าว
1. เอาครีมชีสที่อ่อนตัวแล้วตีให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ไข่ไก่ น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย ตีผสมให้เข้ากัน ค่อย ๆ ใส่วิปปิ้งครีม และแป้ง คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แบ่งแป้งที่ผสมแล้วออกเป็นสามส่วน ผสมสีตามชอบ
2. กรุกระดาษไขแล้วเทส่วนผสมแต่ละสีลงตรงกลางหม้อ จากนั้นกดปุ่มหุงตามปกติ ถ้าหุงรอบแรกแล้วยังไม่สุกให้รอสักครู่แล้วหุงอีกรอบ เช็กความสุกโดยใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู ถ้าไม่มีอะไรติดไม้แสดงว่าสุกแล้ว พักไว้จนเค้กเย็นตัว ถึงคว่ำหม้อแล้วค่อยเอาเค้กออกมาตัดแบ่ง จะเพิ่มความอร่อยด้วยการกินกับบลูเบอร์รีหรือสตรอว์เบอร์รีก็ได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กหม้อหุงข้าว สีพาสเทลมุ้งมิ้ง หวานนุ่มเนียนไม่ง้อเตาอบ
++++++++++++++
3. ชีสเค้กซูเฟล่ ชีสเค้กญี่ปุ่น
มาต่อกันที่เมนูซูเฟล่ชีสเค้ก สูตรจาก คุณ AdrenalineRush สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อเค้กเด้งมากใส่เนยสดเพิ่มความหอมมัน กินชิ้นเดียวไม่พอแน่นอน
ส่วนผสม ชีสเค้กญี่ปุ่น (สูตรสำหรับเค้ก 2 ปอนด์ ปรับสูตรนิดหน่อย)
• แป้งเค้ก 50 กรัม
• แป้งข้าวโพด 15 กรัม
• นมสด 80 กรัม
• ครีมชีส 140 กรัม
• เนยสด 40 กรัม
• ไข่แดง 75 กรัม
• ไข่ขาว 180 กรัม
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 120 กรัม
วิธีทำชีสเค้กญี่ปุ่น
1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่างอย่างเดียวเตรียมไว้ และทาไขมันที่พิมพ์ รองด้วยกระดาษไขที่ก้นพิมพ์และรอบ ๆ พิมพ์
2. ร่อนแป้งเค้กและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน 1 ครั้ง เตรียมไว้
3. นำนมสดใส่ถ้วย นำเข้าไมโครเวฟ 1.30 นาที (หรือนำไปต้มจนเดือด) จากนั้นใส่ครีมชีสและเนยสดลงไป คนผสมแรง ๆ จนส่วนผสมเข้ากัน ใส่ไข่แดงและน้ำมะนาวลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันแล้วนำไปกรองผ่านกระชอน 2 รอบ เพื่อให้ได้ส่วนผสมเนื้อเนียน ใส่แป้งลงไป ใช้ตะกร้อมือตะล่อมหรือคนจนส่วนผสมเข้ากัน พักไว้
4. ตีไข่ขาวจนฟองอากาศเนียนละเอียด ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน แบ่งใส่ไข่ขาวลงไปผสมกับส่วนผสมไข่แดง 3 ส่วน แต่ละครั้งตะล่อมให้เข้ากัน กระแทกอ่างผสมเบา ๆ 2-3 ครั้งให้ฟองอากาศลอยขึ้นมา ค่อย ๆ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าอบแบบเทน้ำร้อนใส่ลงในถาด (Water Bath) อบนานประมาณ 1 ชั่วโมง - 1 ชั่วโมง 15 นาที ถ้าอบปอนด์เดียวประมาณ 45-50 นาทีก็สุกแล้ว (เช็กสุกด้วยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเค้ก ถ้าดึงออกแล้วไม้จิ้มฟันแห้ง ๆ ไม่มีขนมเหนียว ๆ เกาะแสดงว่าใช้ได้แล้ว) ก่อนครบเวลาประมาณ 5 นาที เปิดไฟบนด้วยถ้าชอบให้หน้าด้านบนมีสีเข้มหน่อย
5. นำขนมออกจากเตาแล้วนำออกจากพิมพ์ทันที (ไม่เช่นนั้นเค้กจะหด) คว่ำเค้กก่อน แล้วค่อยหงายอีกรอบ ตัดเป็นชิ้นกินเลยหรือแช่เย็นก็ได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Japanese Souffle Cheesecake ชีสเค้กญี่ปุ่น เนื้อนุ่มฟู ละลายในปาก
++++++++++++++
4. ชีสเค้กม้าลาย
ชีสเค้กญี่ปุ่นทั่วไปก็เคยทำมาแล้ว คราวนี้ลองใส่ลวดลายเพิ่มความเก๋กันเถอะ ขอนำเสนอเมนูชีสเค้กญี่ปุ่นม้าลาย สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นคือ เป็นเค้กสองสีในชิ้นเดียว จะทำกินเองหรือทำเป็นของขวัญวันเกิดคนพิเศษก็เจิดค่ะ
ส่วนผสม ชีสเค้กม้าลาย
• ครีมชีส 125 กรัม
• น้ำตาลทรายป่น 30 กรัม
• น้ำมันพืช 40 กรัม
• นมสด 60 กรัม
• ไข่แดง 3 ฟอง
• แป้งข้าวโพด 30 กรัม
• น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
• ไข่ขาว 3 ฟอง
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายป่น 50 กรัม
• ผงโกโก้ 10 กรัม
วิธีทำเค้กม้าลาย
1. ตีผสมครีมชีส น้ำตาลทรายป่น และน้ำมันพืชให้เข้ากัน
2. คนผสมนมสด ไข่แดง แป้งข้าวโพด และน้ำมะนาว ให้เข้ากันดีพักไว้
3. ตีไข่ขาวด้วยความเร็วต่ำจนเกิดฟอง แล้วใส่น้ำมะนาวลงไป จากนั้นก็เพิ่มความเร็วขึ้น แบ่งใส่น้ำตาลทรายป่น 3 รอบ ตีให้ไข่ขาวตั้งยอดอ่อน ตักใส่ลงในส่วนผสมครีมชีส โดยแบ่งใส่ไข่ขาว 3 รอบ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน แบ่งครึ่งส่วนผสมแล้วนำผงโกโก้ไปผสมส่วนที่แบ่งไว้ คนให้เข้ากัน
4. เตรียมพิมพ์สปริงฟอร์ม 18 ซม. ใช้ฟอยล์ห่อตรงก้นพิมพ์เพื่อกันน้ำซึมเข้า จากนั้นใช้เนยขาวทาให้ทั่วแล้วใช้กระดาษไขทับอีกที ใช้ช้อนตักส่วนผสมแป้ง 2-3 ช้อน หยอดลงในพิมพ์โดยสลับสีกันจนหมด พอใส่สลับสีจนหมดแล้วก็เคาะ ๆ พิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศ 3-4 ครั้ง เติมน้ำร้อนลงไปในถาดรองอบ
5. ก่อนนำเค้กเข้าเตาอบให้วอร์มก่อน โดยเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส อบไฟบน-ล่าง นำส่วนผสมเค้กไปอบนาน 80 นาที พอครบเวลา นำออกจากเตาอบ รอให้เค้กม้าลายเย็นแล้วค่อยแกะออกจากพิมพ์
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชีสเค้กญี่ปุ่นม้าลาย สูตรทำเค้กสุดคิวท์ เชิญแบ่งปันความอ้วน
++++++++++++++
5. ชีสเค้กช็อกโกแลต
ใครที่ชอบกินเค้กช็อกโกแลตเป็นทุนเดิม ลองมาทำเมนูชีสเค้กช็อกโกแลต สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับครีมชีสช็อกโกแลตอบจนสุกเข้ากันดีกับฐานพายกรอบผสมผงโกโก้ แต่งหน้าด้วยท็อปปิ้งตามชอบ
ส่วนผสม ฐานชีสเค้ก (ครัสท์ Crust)
• แครกเกอร์ หรือคุกกี้บดละเอียด 150 กรัม
• เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
• ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ครีมชีสช็อกโกแลต
• ครีมชีส (อุณหภูมิห้อง) 500 กรัม
• น้ำตาลทราย (ชนิดละเอียด) 1 ถ้วย
• แป้งข้าวโพด หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
• ไข่ไก่ (ขนาดใหญ่) 3 ฟอง
• วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
• กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
• ดาร์กช็อกโกแลต (ความเข้มข้น 75%) 250 กรัม
วิธีทำฐานชีสเค้ก
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้ไฟล่าง วางถาดใส่น้ำในเตาอบด้วย เตรียมไว้
2. บดคุกกี้หรือแครกเกอร์ให้ละเอียดผสมกับเนยละลายแล้วนำมากรุลงในพิมพ์ แล้วนำแช่เย็นเพื่อให้อยู่ตัว หรือใส่ในเตาอบประมาณ 10 นาที นำออกมาพักให้เย็น
3. นำช็อกโกแลตไปละลายด้วยไมโครเวฟ หรือใช้วิธีตุ๋นบนไอน้ำ
วิธีทำชีสเค้กช็อกโกแลต
1. ทำครีมชีสช็อกโกแลต โดยหั่นครีมชีสเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในโถผสมแล้วใช้ตะกร้อตีให้ขึ้นฟู พอได้ครีมชีสสีอ่อน ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายป่น ตามด้วยใส่แป้ง ตีต่อจนส่วนผสมเนียน ใส่ไข่ไก่ทีละฟองจนครบ ใส่กลิ่นวานิลลา ใส่วิปปิ้งครีม หรือซาวร์ครีม ตีผสมให้เข้ากันจนเนียนดี ใส่ช็อกโกแลตตุ๋นลงไป คนผสมด้วยพายยางแบบเบามือ
2. การตีครีมชีสให้เนียนค่อนข้างยากทีเดียว ดังนั้นต้องหมั่นปาดรอบ ๆ อ่างด้วย ถ้าเป็นครีมชีสสูตรใส่น้ำมะนาว ควรตีให้เนียนก่อนแล้วค่อยใส่น้ำมะนาว ไม่เช่นนั้นจะทำให้ครีมชีสจับตัวเป็นก้อนทรายเล็ก ๆ ทำให้ละลายตัวยาก
3. การตักใส่พิมพ์ควรตักใส่ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ อย่าให้น้อยเกินไป ในขณะที่อบไม่ต้องตกใจหากครีมชีสฟูขึ้นมามาก หรือปริ่ม ๆ ขอบพิมพ์ เพราะเวลาสุกและเย็นตัวแล้วครีมชีสจะยุบตัวลงอีกเยอะ จะไม่สวย
4. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างอย่างเดียว สำหรับชีสเค้กทุกชนิด อย่าลืมถาดใส่น้ำวางไว้ในเตาอบด้วย พอสุกนำออกมาเติมท็อปปิ้งด้วยบรรดาแยมเบอร์รีต่าง หรือใช้สตรอว์เบอร์รีสดชนิดพันธุ์สีขาว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ช็อกโกแลตชีสเค้ก รับไปชิมสักชิ้นไหมคะ
บ้านใครมีเตาอบหรือหม้อหุงข้าวอย่ารอช้ามาทำเมนูชีสเค้กแบบอบกันดีกว่า รับรองว่าอร่อยและถูกปากทั้งครอบครัว ขอแต่งตัวออกไปซื้อวัตถุดิบก่อนนะคะ บ่ายนี้จะได้ลงมือทำได้เลย