x close

9 สูตรทำไอศกรีมเบอร์รี หวานซ่อนเปรี้ยว แคลอรีต่ำจากผลไม้

          ความสดชื่นเกิดขึ้นได้ทุกวันถ้าได้กินไอศกรีมเบอร์รี รสชาติเปรี้ยวหวานเย็นฉ่ำได้คุณค่าจากเนื้อผลไม้เต็ม ๆ ใครกลัวอ้วนอยากให้ลองเลยเพราะแคลอรีต่ำจริง ๆ นะ ไม่ได้โม้
          เบอร์รีทำอะไรได้บ้าง ? ครั้นกินสด ๆ ก็รสเปรี้ยวเหลือเกิน ลองดัดแปลงเป็นเมนูไอศกรีมคลายร้อนกันหน่อยดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำไอศกรีมเบอร์รี เช่น ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต ไอศกรีมบลูเบอร์รี ไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้ก ไอศกรีมราสป์เบอร์รี เป็นต้น
 

1. ไอศกรีมราสป์เบอร์รี

          ใครมีเครื่องทำไอศกรีมมาทำไอศกรีมราสป์เบอร์รีกันไหม มาพร้อมวิธีทำน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รี รสหวานน้อยเพื่อสุขภาพ พอครบเวลาก็ตักเสิร์ฟได้เลยจ้า
 

ส่วนผสม ไอศกรีมราสป์เบอร์รี

  • ราสป์เบอร์รีแช่แข็ง
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำเปล่า
  • เกลือป่น
     

วิธีทำไอศกรีมราสป์เบอร์รี

     1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักไว้
เคล็ดลับ : น้ำหนักน้ำตาลทรายเท่าไรก็ตาม ปริมาณน้ำเปล่าก็ให้หนักเท่านั้นก็จะออกมาเป็นน้ำเชื่อมระดับมาตรฐาน
     2. นำราสป์เบอร์รีไปปั่นจนละเอียด (ใครไม่มีเครื่องบดอาหาร หรือ Food Processor ก็ใช้เครื่องปั่นเอาก็ได้ กะเอาปริมาณตามต้องการได้เลย คงไม่ต้องมากเพราะราสป์เบอร์รีมีรสเปรี้ยวมาก)
     3. เทส่วนผสมราสป์เบอร์รีปั่นลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน
เคล็ดลับ : หากหวานมากไปก็เติมน้ำเปล่าได้ วิธีชิมรส ไม่ว่าจะอาหารคาวหรือหวาน ควรตักขึ้นมาเป่าให้เย็นก่อนจะเจอรสที่แท้จริง หากมันร้อน เวลาชิมแล้วปรุง ลิ้นเราอาจจะเพี้ยนได้
     4. นำส่วนผสมมากรองเอาเม็ดออก
เคล็ดลับ : ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เป็นเมล็ดหรือว่าตาของราสป์เบอร์รี แต่รู้ว่ามันแข็งเกินไปที่จะเอามาเป็นของหวานชนิดนี้ หากเอามาทำแยมก็คงไม่มีปัญหา เพราะแยมใช้ความร้อนนาน ตามันจะนิ่มไปเอง
     5. นำน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีไปบ่มพักไว้ในตู้เย็นในช่องปกติ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน (ยิ่งดี)
     6. นำโถปั่นชั้นในที่มีเจลทำความเย็นไปแช่ช่องฟรีซ อย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนนำมาปั่นไอศกรีม (หากแช่น้อยกว่านั้น จะไม่เกิดเป็นไอศกรีม)
     7. เทส่วนผสมน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีลงไปในเครื่อง เปิดเครื่องปั่นจนเป็นเนื้อไอศกรีม ประมาณ 30 นาที ปิดเครื่องดึงใบพัดออกแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอีก 3 ชั่วโมง ตักไอศกรีมใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมราสป์เบอร์รี เพิ่มเติมคลิก

2. ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี

          ไม่มีเครื่องทำไอศกรีมก็ไม่เป็นไร เพราะไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีสูตรนี้ไม่ใช้ค่ะ แค่มีเครื่องตีไฟฟ้าตีผสมวิปปิ้งครีมกับซอสตรอว์เบอร์รี เทใส่พิมพ์แล้วนำไปแช่แข็ง สุดท้ายแต่งหน้าด้วยสตรอว์เบอร์รี
 

ส่วนผสม ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี (ประมาณ 255 กรัม)

  • สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 100 กรัม
  • น้ำตาลทรายป่น 55 กรัม
  • น้ำมะนาว 1/2 กรัม
  • วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  • สตรอว์เบอร์รีแต่งหน้าไอศกรีม (จะใส่ก็ได้หรือไม่ใส่ก็ได้) 20 กรัม
     

วิธีทำไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี

     1. นำสตรอว์เบอร์รีแช่แข็งกับน้ำตาลใส่ในหม้อ เปิดไฟอ่อน คนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลและน้ำแข็งในสตรอว์เบอร์รีละลาย ปิดไฟ ไม่ต้องให้รอให้เดือด และเวลาคน ไม่ต้องใช้ไฟแรง เพราะสตรอว์เบอร์รีจะไหม้ และทำให้สีไอศกรีมไม่สวย นำสตรอว์เบอร์รีมาใส่ชามพักไว้ แล้วเติมน้ำมะนาวลงไป เพื่อตัดให้มีความเปรี้ยวนิดหนึ่ง พักไว้ให้เย็น
     2. ตีวิปปิ้งครีมให้ตั้งยอด เพราะถ้าครีมเหลวไปเวลาใส่สตรอว์เบอร์รีซอส จะทำให้ครีมเหลวได้ จะใช้เครื่องตีมือไฟฟ้าช่วยก็ได้ แต่ในสูตรที่ทำให้ดูมันน้อย ตีมือธรรมดาเลยง่าย แต่ถ้าใครทำ 1 เท่าของสูตรขึ้นไปแนะนำว่า ให้ใช้เครื่องตีมือไฟฟ้าจะสะดวกกว่า นำซอสสตรอว์เบอร์รีมาผสมกับครีม นำไปใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
     3. นำสตรอว์เบอร์รีที่เตรียมไว้ไปละลายในไมโครเวฟ 20 วินาที แล้วนำมาตัดให้เป็นชิ้นเล็ก โดยใช้ช้อนกินข้าว ตักราดบนหน้าไอศกรีมแล้วคนผสมเล็กน้อย เพื่อจะได้เป็นลายซอสสตรอว์เบอร์รี นำไปแช่ในช่องแข็ง ประมาณ 4 ชั่วโมงขึ้นไปเพื่อให้เซตตัว ตักเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี เพิ่มเติมคลิก

3. ไอศกรีมบลูเบอร์รีโยเกิร์ต

ไอศกรีมเบอร์รี

          ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตก็ทำบ่อยแล้ว ลองเปลี่ยนมาทำไอศกรีมบลูเบอร์รีโยเกิร์ตกันเถอะ ความพิเศษคือใส่โยเกิร์ตรสธรรมชาติผสมกับบลูเบอร์รี เทส่วนผสมใส่พิมพ์ไอศกรีมแท่งแล้วไปแช่แข็ง
 

ส่วนผสม ไอศกรีมบลูเบอร์รีโยเกิร์ต

  • โยเกิร์ตรสบลูเบอร์รี 2 ถ้วย
  • วิปปิ้งครีม 1/4 ถ้วย
  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/4 ถ้วย
  • บลูเบอร์รีแช่แข็ง 1/2 ถ้วย
     

อุปกรณ์

  • พิมพ์ไอศกรีมแบบแท่ง
     

วิธีทำไอศกรีมบลูเบอร์รีโยเกิร์ต

     1. ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเข้ากันดี
     2. เทใส่พิมพ์ นำเข้าแช่แข็งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมบลูเบอร์รีโยเกิร์ต เพิ่มเติมคลิก

4. ไอศกรีมมิกซ์เบอร์รี

ไอศกรีมเบอร์รี

          สำหรับสาว ๆ ที่กลัวหุ่นพังเหมาะมากกับไอศกรีมมิกซ์เบอร์รี ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ส่วนผสมมีน้ำผลไม้และผลไม้ตระกูลเบอร์รี เทใส่พิมพ์แล้วนำไปแช่จนแข็ง
 

ส่วนผสม ไอศกรีมมิกซ์เบอร์รี

  • น้ำผลไม้ (ตามชอบ)
  • ผลไม้ตามชอบ เช่น แอปเปิล กีวี สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี
     

อุปกรณ์

  • พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
     

วิธีทำไอศกรีมมิกซ์เบอร์รี

     1. หั่นผลไม้ต่าง ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ใส่ผลไม้ลงในพิมพ์ เทน้ำผลไม้ลงไป
     2. เสียบไม้ไอศกรีม นำไปแช่ช่องแข็งประมาณ 5 ชั่วโมง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมมิกซ์เบอร์รี เพิ่มเติมคลิก

5. ไอศกรีมพาร์เฟ่ต์โยเกิร์ตเบอร์รี

ไอศกรีมเบอร์รี

          ทำทั้งทีต้องจัดเต็มกับไอศกรีมพาร์เฟ่ต์โยเกิร์ตเบอร์รี ใส่เบอร์รีสารพัดสลับชั้น เติมน้ำผึ้งและกลิ่นวานิลลา ใส่นมสดหน่อย เพิ่มความกรุบกรอบจากกราโนลา
 

ส่วนผสม ไอศกรีมพาร์เฟ่ต์โยเกิร์ตเบอร์รี

  • เบอร์รีแช่แข็ง 3 ถ้วย
  • น้ำผึ้ง 2-4 ช้อนโต๊ะ
  • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
  • กรีกโยเกิร์ต 1+1/2 ถ้วย
  • นมสดรสจืด 1/4 ถ้วย
  • กราโนลา 2/3 ถ้วย
     

วิธีทำไอศกรีมพาร์เฟ่ต์โยเกิร์ตเบอร์รี

     1. ตั้งกระทะใส่เบอร์รีแช่แข็งและน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ ลงไป เคี่ยวจนเนื้อเนียนและเหนียวข้น ปิดไฟ เติมกลิ่นวานิลลา คนจนเข้ากัน พักไว้จนเย็น
     2. เตรียมอ่างผสมขนาดเล็ก ใส่กรีกโยเกิร์ต นมสด และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ คนผสมจนเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
     3. เตรียมพิมพ์ไอศกรีม ตักส่วนผสมหยอดเป็นเลเยอร์ เริ่มตั้งแต่โยเกิร์ต ตามด้วยกราโนลา และส่วนผสมซอสเบอร์รี ตักหยอดสลับไปจนกว่าจะเต็มพิมพ์
 

6. ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต

ไอศกรีมเบอร์รี

          ใครจะไปรู้ว่าไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ตทำไม่ยากอย่างที่คิด เริ่มจากทำซอสสตรอว์เบอร์รี เสร็จแล้วก็คนผสมกับโยเกิร์ต สุดท้ายเทใส่พิมพ์และเอาไปแช่แข็ง
 

ส่วนผสม ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต

  • สตรอว์เบอร์รีสับ 4 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • น้ำเลมอน 1 ช้อนชา
  • กรีกโยเกิร์ต 1 ถ้วย
     

วิธีทำไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต

     1. เตรียมชามผสมขนาดเล็ก ใส่สตรอว์เบอร์รีกับน้ำตาลทราย คนผสมประมาณ 20 นาทีจนเหนียวข้น เทใส่เครื่องปั่น เติมน้ำเลมอน ปั่นจนเนียนละเอียด
     2. ผสมโยเกิร์ตกับซอสสตรอว์เบอร์รีจนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ไอศกรีมแท่ง นำไปแช่แข็งประมาณ 8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
 

7. ไอศกรีมแท่งโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี

          มาต่อกันที่อีกสูตรไอศกรีมแท่งโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี ทีเด็ดคือใส่เนื้อผลไม้ลงไปด้วย และใช้โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รีเพิ่มความฟิน จะทำเป็นแท่งหรือเทใส่พิมพ์ถ้วยก็ตามสะดวกเลยค่ะ
 

ส่วนผสม ไอศกรีมแท่งโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี

  • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ถ้วยตวง
  • โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี 1/2 ถ้วยตวง
  • สตรอว์เบอร์รี 100 กรัม
  • ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
     

วิธีทำไอศกรีมแท่งโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี

     1. หั่นครึ่งสตรอว์เบอร์รี วางลงในพิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
     2. เทโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่ในพิมพ์ไอศกรีมประมาณ 3/4 พิมพ์ นำเข้าแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 30 นาที
     3. นำส่วนผสมออกจากตู้เย็นใส่โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รีด้านบน นำเข้าช่องแช่แข็งต่อจนแข็งตัว นำออกจากพิมพ์ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมแท่งโยเกิร์ตสตรอว์เบอร์รี เพิ่มเติมคลิก

8. ไอศกรีมบลูเบอร์รี

          ใครมีบลูเบอร์รีเหลือ ๆ จับมาทำไอศกรีมบลูเบอร์รีกันสักครั้ง เริ่มจากทำซอสบลูเบอร์รีกันก่อนค่ะ เสร็จแล้วผสมกับนมสด เฮฟวี่ครีม เติมกลิ่นวานิลลา สุดท้ายเอาไปแช่แข็ง
 

ส่วนผสม ไอศกรีมบลูเบอร์รี

  • บลูเบอร์รี 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  • น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
  • เฮฟวี่ครีม 2 ถ้วย
  • นมสด 1 ถ้วย
  • เกลือป่น 1/4 ถ้วย
  • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
  • ไข่แดง 3 ฟอง
     

วิธีทำไอศกรีมบลูเบอร์รี

     1. ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ใส่น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย บลูเบอร์รี และน้ำเลมอนลงไปกวนจนเดือด และบลูเบอร์รีกลายเป็นซอส เตรียมไว้
     2. ผสมเฮฟวี่ครีม 1 ถ้วยกับกลิ่นวานิลลาให้เข้ากัน เตรียมไว้
     3. ผสมนมสด ครีมที่เหลือ น้ำตาลทราย และเกลือป่นในกระทะขนาดกลาง นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลาย พักทิ้งไว้จนอุ่น
     4. ตีไข่แดงให้พอเข้ากัน พอส่วนผสมนมเริ่มร้อน ค่อยเทส่วนผสมนมสดอุ่นลงในไข่ไก่ที่ตีไว้ พร้อมตีผสมอย่างต่อเนื่องจนเข้ากัน จากนั้นเทส่วนผสมกลับลงในกระทะอีกครั้ง
     5. เทส่วนผสมซอสบลูเบอร์รีลงไปผสมให้เข้ากัน พอส่วนผสมเริ่มเหนียวข้นแล้วเทใส่ลงไปผสมกับส่วนผสมเฮฟวี่ครีมที่เตรียมไว้ คนผสมให้เข้ากัน คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่แข็งประมาณ 4-6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน
     6. นำออกมาปั่นจนละเอียด นำไปแช่จนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
 

9. ไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้ก

ไอศกรีมเบอร์รี

          ใครชอบกินบลูเบอร์รีชีสเค้กเป็นทุนเดิม อยากลองดัดแปลงเป็นไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้กกันไหม รสชาติหวานหอมมันผสมกับเนื้อบลูเบอร์รีเน้น ๆ พอแช่จนแข็งก็จัดเสิร์ฟได้เลยจ้า
 

ส่วนผสม ไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้ก

  • บลูเบอร์รีสด 2 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว  2 ช้อนชา
  • วิปปิ้งครีม 2 ถ้วยตวง
  • นมข้นหวาน 400 กรัม
  • ครีมชีส 200 กรัม
  • กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
     

อุปกรณ์

  • พิมพ์สี่เหลี่ยมยาว
     

วิธีทำไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้ก

     1. กวนผสมบลูเบอร์รีกับน้ำตาลทราย และน้ำมะนาวในกระทะด้วยไฟปานกลางจนเข้ากันดี พักทิ้งไว้สักครู่ จนส่วนผสมเหนียว เตรียมไว้
     2. ตีครีมชีสจนขึ้นฟู ค่อย ๆ เติมนมข้น และวานิลลา ตีผสมจนเนื้อเนียน เติมวิปปิ้งครีม ตีจนส่วนผสมขึ้นฟู เตรียมไว้
     3. ตักส่วนผสมครีมชีสหนึ่งส่วนลงในพิมพ์ สลับกับส่วนผสมบลูเบอร์รีกวนหนึ่งส่วนจนเต็ม จากนั้นใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มแล้ววนเบา ๆ จนเป็นลวดลาย ปิดด้วยกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์ นำเข้าตู้เย็นประมาณ 6 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ
 

ดูวิธีทำ ไอศกรีมบลูเบอร์รีชีสเค้ก เพิ่มเติมคลิก

          แม้ผลไม้ตระกูลเบอร์รีจะแอบราคาสูงไปหน่อย แต่ถ้าอยากกินไอศกรีมเบอร์รีก็ต้องยอมเนอะ โดยเฉพาะไอศกรีมมิกซ์เบอร์รีที่ส่วนผสมน้อยเว่อร์ และทำง่ายสุด ๆ ต้องลองหน่อยล่ะคราวนี้
 

สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 สูตรทำไอศกรีมเบอร์รี หวานซ่อนเปรี้ยว แคลอรีต่ำจากผลไม้ อัปเดตล่าสุด 4 มีนาคม 2563 เวลา 10:49:26 44,308 อ่าน
TOP