เอ่ยถึงเมนูโจ๊ก หลายคนมักจะซื้อกินเป็นอาหารเช้ามากกว่าทำเองแน่ ๆ แต่เชื่อเลยว่าบ่อยครั้งต้องอารมณ์บ่จอยที่เจอโจ๊กน้ำใสบ้าง หมูก้อนเล็กบ้าง และเครื่องในเหม็นคาวอีก วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 7 วิธีทำโจ๊กให้ลองทำเองเลย ได้แก่ โจ๊กหมูทรงเครื่อง โจ๊กหมูสับ โจ๊กไข่ขาว โจ๊กข้าวโอ๊ต โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง โจ๊กสาคู และทาโกะยากิโจ๊กลาวา รับรองเด็ดทุกชาม อร่อยจนต้องเบิลเลยล่ะ
1. โจ๊กหมูทรงเครื่อง
เห็นภาพเมนูโจ๊กหมูทรงเครื่องถ้วยนี้แล้วอยากบอกว่านี่เป็นโจ๊กในฝันเลยล่ะ เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยเจอโจ๊กหน้าตาแบบนี้เลย อะไรจะครบเครื่องปานนั้น แต่ไม่เป็นไรทำเองก็ได้เนอะ มาพบกับโจ๊กหมูทรงเครื่องสูตรจากเฟซบุ๊ก กินดี อยู่ดี By เนรัญชลา มาพร้อมสูตรข้าวโจ๊ก หมูบดหมัก น้ำซุป เครื่องเคราแน่นไม่เหม็นคาว หน้าตาดูดี๊ดูดีเนอะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน !
ส่วนผสม เครื่องในสำหรับใส่โจ๊ก
- ตับหมู 300 กรัม
- เซี่ยงจี๊ 300 กรัม
- ไส้อ่อน 500 กรัม
- กระเพาะหมู
- แป้งมันสำปะหลัง
- น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น
- ขิงแก่ทุบ 1 ท่อน
ส่วนผสม หมูบดหมัก
- หมูบด 600 กรัม
- กระเทียมจีนแกะเปลือก 10 กลีบ
- พริกไทยขาว 40 เม็ด
- ซีอิ๊วขาว (สูตร 5) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม น้ำซุป
- น้ำเปล่า 12 ลิตร
- กระดูกหมูคาตั๊ง ทุบให้หักครึ่ง 4 ท่อน
- รากผักชี 5 รากใหญ่
- ขิงแก่ (น้ำหนักชิ้นละ 50 กรัม) 2 ชิ้น
ส่วนผสม หมี่กรอบสำหรับโรยหน้า
- เส้นหมี่ขาวอบแห้ง
- น้ำมันพืช
ส่วนผสม ข้าวโจ๊ก
ปลายข้าวหอมมะลิใหม่ 450 กรัม (แต่วันนี้ดิฉันใช้เป็นข้าวกล้องปั่นหยาบ ๆ นะคะ)
น้ำซุป 30 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยว ซองสีเขียวอ่อน 4 ช้อนโต๊ะ (ยี่ห้อไปตามหาเอาที่ตลาดและซูเปอร์มาร์เกตเอานะคะ)
หมูบดปรุงรสที่เตรียมไว้
เครื่องเคียงอื่น ๆ
ต้นหอมซอย
ขิงซอย
ไข่ลวก
พริกไทยป่น
วิธีเตรียมเครื่องในสำหรับใส่โจ๊ก
1. แล่ตับให้เป็นชิ้นบาง ๆ นำไปคลุกเคล้ากับแป้งมันสำปะหลัง (สัดส่วนโดยประมาณคือ ตับ 300 กรัม ต่อแป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะพูน) ขยำให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 30 นาทีแล้วนำมาล้างแป้งออกให้สะอาด จากนั้นจึงนำไปลวก
2. นำเซี่ยงจี๊มาผ่าครึ่งตามยาว ใช้ปลายมีดเลาะเอาพังผืดสีขาวด้านในออก ล้างให้สะอาด แล่เป็นชิ้นบาง ๆ นำไปคลุกเคล้ากับแป้งมันสำปะหลัง (สัดส่วนโดยประมาณคือ เซี่ยงจี๊ 300 กรัม ต่อแป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะพูน) ขยำให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 30 นาที แล้วนำมาล้างแป้งออกให้สะอาด จากนั้นจึงนำไปลวกรอไว้เช่นเดียวกันกับตับ หรืออาจจะทำความสะอาดให้เสร็จทีเดียว แล้วตั้งน้ำลวกพร้อม ๆ กันก็ได้ค่ะ
3. ไส้อ่อน ใช้สายยางสะอาดต่อกับก๊อกน้ำ สวมไส้อ่อนเข้ากับปลายสายยางด้านหนึ่ง บีบให้แน่นแล้วเปิดน้ำแรง ๆ เพื่อให้แรงดันน้ำชะล้างไขมันและความสกปรกออกมาจากไส้ จากนั้นบีบเอาน้ำออก ขยำไส้กับแป้งมันสำปะหลังและน้ำส้มสายชู (สัดส่วนโดยประมาณคือ ไส้อ่อน 1/2 กิโลกรัม ต่อน้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ และแป้งมันสำปะหลัง 5 ช้อนโต๊ะ) ขยำทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยวิธีใช้สายยางเหมือนครั้งแรกให้สะอาด จากนั้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
4. ผ่าครึ่งกระเพาะหมูแล้วแบะข้างในออก ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้นใช้เกลือป่นขัดถูให้ทั่ว ตามด้วยการถูด้วยแป้งมันสำปะหลัง จากนั้นล้างน้ำออกให้สะอาด นำไปต้มในน้ำเดือดที่ใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย พร้อมกับขิงแก่ทุบ 1 ท่อน โดยอาจต้มพร้อมกับไส้อ่อน พอเปื่อยนุ่มจึงนำขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ
เตรียมหมูบดหมัก
โขลกกระเทียมจีนกับพริกไทยขาวให้ละเอียด จากนั้นใส่เนื้อหมูบดลงไปโขลกให้เหนียวเข้ากันดี ใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และเบกกิ้งโซดาลงไปโขลกนวดให้เข้ากัน ใส่ภาชนะปิดฝาหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
เตรียมน้ำซุป
1. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือด
2. พอน้ำเดือดแล้วใส่กระดูกหมูลงไป ปิดฝาต้มให้เดือดอีกครั้ง
3. ลดไฟลงให้เหลือไฟอ่อน ใส่รากผักชีลงไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ ต่อไปอีก 60 นาที
4. พอครบเวลาจึงใส่ขิงแก่ลงไปแล้วปิดฝาต้มไฟอ่อนต่ออีก 30 นาที (ต้มไปเรื่อย ๆ กะว่าให้น้ำลดลงเหลือประมาณ 8-10 ลิตร) จึงยกลงจากเตา พักทิ้งไว้ให้เย็น
หมายเหตุ : สูตรนี้เราจะไม่ใช้น้ำตาลเพราะเราจะใช้ความหวานจากการเคี่ยวกระดูกหมูแทน แต่ถ้าใครชอบใส่ก็สามารถใส่ได้แต่ไม่ควรเกิน 40 กรัม
เตรียมหมี่กรอบไว้โรยหน้าโจ๊ก
คลี่เส้นหมี่อบแห้งออกจากกัน จากนั้นนำกระทะตั้งบนเตา ใส่น้ำมันพืชลงไป (ในปริมาณที่ค่อนข้างมากสักหน่อย) รอจนน้ำมันร้อนจัดแล้วหรี่ไฟลง นำเส้นหมี่ลงทอดอย่างรวดเร็ว แล้วนำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักรอไว้
ขั้นตอนการต้มโจ๊ก
ล้างปลายข้าวให้พอหมดฝุ่น จากนั้นตักน้ำซุปที่เย็นแล้วใส่ลงไป 30 ถ้วยตวง นำขึ้นตั้งไฟต้มให้เดือด ระหว่างนี้ให้หมั่นคนเป็นระยะ ๆ พอเดือดแล้วจึงหรี่ไฟอ่อน ตุ๋นข้าวให้เมล็ดบานสุกนุ่มและมีลักษณะเหนียวข้น หากรู้สึกว่างวดเกินไปให้เติมน้ำซุปทีละน้อย เวลาที่โจ๊กของเราข้นแล้วตอนนี้ให้คอยหมั่นคนหน่อยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นมันจะติดก้นหม้อและไหม้ได้
หมายเหตุ : แต่ถ้าเป็นข้าวกล้องแบบเต็มเมล็ดจะต้องล้างข้าวก่อนแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นจึงนำมาปั่นหยาบ ๆ แล้วจึงนำไปต้มค่ะ
ใส่เกลือป่นลงไป ตามด้วยผงปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยว
ปั้นหมูที่เราหมักไว้เป็นก้อน ๆ ใส่ลงไป คอยคนไปเรื่อยจนกระทั่งหมูสุก ชิมรสชาติดูให้พอดีก็ใช้ได้ค่ะ
ตักโจ๊กใส่ชาม ใส่ตับหมูลวกสุก เซี่ยงจี๊ลวกสุก ไส้อ่อนต้ม กระเพาะต้ม และไข่ลวกลงไป โรยด้วยต้นหอมซอย ขิงซอย พริกไทยป่นเล็กน้อย และหมี่กรอบตามชอบใจ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำโจ๊ก แบบครบเครื่อง วิธีทำชัด ๆ ทุกขั้นตอน
2. โจ๊กหมูสับ
เมนูโจ๊กคุ้นลิ้นอย่างโจ๊กหมูสับกินมาตั้งแต่เด็ก แม้โตจนป่านนี้ก็ยังโหยหาอยู่เหมือนกัน แต่ถ้ามีเวลาว่างก็ทำกินเองอยู่บ่อย ๆ ก็วิธีทำง่ายดายปานนี้ แค่หมักหมูสับให้เรียบร้อย เอาไปต้มพร้อมกับโจ๊ก ใส่เครื่องในได้ตามชอบ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวนิดหน่อย โรยพริกไทยอีกเล็กน้อย ใส่ไข่ลวกสักฟองก็ดีนะคะ มื้อนี้อิ่มเปรม
ส่วนผสม โจ๊กหมูสับ
ปลายข้าว 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 5 ถ้วย
หมูสับ 200 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำซุปหมู 3 ถ้วย
ตับหมูลวกสุกหั่นบาง 100 กรัม
ไข่ลวก
ต้นหอมซอย (สำหรับโรยหน้า)
ขิงซอย (สำหรับโรยหน้า)
พริกไทยป่น (สำหรับโรยหน้า)
วิธีทำโจ๊กหมูสับ
1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ จากนั้นใส่ปลายข้าวลงต้มนานประมาณ 10-20 นาที คนผสมตลอดเวลาจนข้าวสุก และข้น เตรียมไว้
2. นวดผสมเนื้อหมูกับกระเทียมสับ ซีอิ๊วขาว และพริกไทยป่นให้เข้ากันดี เตรียมไว้
3. ใส่น้ำซุปหมูลงในหม้อ ตามด้วยส่วนผสมโจ๊กที่ต้มเตรียมไว้ ใช้ไฟปานกลางต้มจนเดือด ตักหมูสับ และตับหมูลวกลงต้มจนสุก ตักใส่ถ้วย ตอกไข่ลวกลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอม ขิงซอย และพริกไทยป่นเล็กน้อย พร้อมรับประทาน
หากใครที่ชอบแบบหนักเครื่องก็สามารถเพิ่มเติมลงไปทั้งเนื้อสัตว์ ผัก หรือไข่ ให้มื้อเช้าของคุณได้อร่อยครบรสยิ่งขึ้นนะคะ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โจ๊กหมูสับ อาหารเช้าแบบเบา ๆ อิ่มท้องทั้งครอบครัว
3. โจ๊กไข่ขาว
เอาใจคนกำลังไดเอตกันหน่อยด้วยโจ๊กไข่ขาวสูตรจากคุณสมาชิกหมายเลข 1474198 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เป็นเมนูโจ๊กที่ทำง่ายใช้ผงไข่ขาว โดยอ้างอิงมาจากวิธีทำโจ๊กไข่ขาวโดยดีเจภูมิ เพิ่มเนื้อปลาและผักลวกลงไป ชามนี้แคลอรีต่ำ กินทุกเช้าไม่ต้องกลัวอ้วน เบิลได้ด้วยนะ
ส่วนผสม โจ๊กไข่ขาว
ไข่ขาวสำเร็จรูป (จะซื้อไข่ไก่เป็นแพ็กแล้วมาแยกไข่ขาวเองก็ได้ไม่ว่ากัน)
เครื่องเคียงที่อยากใส่ (ในสูตรเราใส่ผักต้ม, ทอดมันเจ, แซลมอนรมควัน)
เครื่องปรุงรสตามชอบ เช่น ซีอิ๊วขาว หรือซอสแม็กกี้
น้ำร้อน
วิธีทำโจ๊กไข่ขาว
เริ่มจากต้มผักและผัดเครื่องเคียงตามใจชอบ จากนั้นพักไว้
มาถึงขั้นตอนสำคัญคือ เทไข่ขาวลงในชามแล้วเติมน้ำร้อนลงไป (อัตราส่วนของไข่ขาวต้องมากกว่าน้ำร้อนประมาณครึ่งหนึ่ง) และคนให้เข้ากัน ก่อนนำเข้าไมโครเวฟแนะนำให้ปิดภาชนะด้วยพลาสติกถนอมอาหาร (เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่ขาวแตกกระจายเวลานำเข้าไมโครเวฟจนร้อนเกินไป) ซึ่งระหว่างนี้ต้องคอยสังเกตดูเนื้อของโจ๊กเรื่อย ๆ (ประมาณทุก ๆ 2 นาที)
พอเราได้เนื้อโจ๊กที่ต้องการก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เติมเครื่องเคียงและปรุงรสได้ตามต้องการเลย
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำโจ๊กไข่ขาว อาหารเช้าเพื่อสุขภาพ แคลอรีต่ำ เน้นโปรตีน อิ่มสบายท้อง
4. โจ๊กข้าวโอ๊ต
สำหรับคนกินอาหารคลีนคงนึกน้อยใจถ้าไม่มีเมนูโจ๊กมาให้ลิ้มลองกันใช่ไหมคะ โอ๋เอ๋นะ แต่ช้าแต่ เราจัดมาสำหรับคุณโดยเฉพาะกับเมนูโจ๊กข้าวโอ๊ตสูตรจากเฟซบุ๊ก Homemade Clean Food สูตรนี้ใช้ข้าวโอ๊ตแทนปลายข้าว ใส่เนื้อไก่สับลงไป ปรุงรสตามชอบ ลองทำแล้วจะไม่ผิดหวัง เพราะทั้งหอมอร่อยและได้สุขภาพ ของดี ๆ แบบนี้พลาดแล้วจะเสียดาย
ส่วนผสม โจ๊กข้าวโอ๊ต
ไก่สับ
ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา
พริกไทยป่น (ปรุงรส)
น้ำมันงา 1-2 หยด
น้ำซุปกระดูกไก่
ข้าวโอ๊ต 50-100 กรัม
ขิงซอย
ต้นหอมซอย
วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ต
2. ต้มน้ำซุปกระดูกไก่ จากนั้นตักใส่ถุงแล้วนำไปแช่เย็นจนไขมันจับเป็นก้อน จากนั้นนำออกมาตักหรือกรองเอาไขมันแข็ง ๆ ออก
3. นำน้ำซุปที่ตักไขมันออกมาต้มอีกครั้ง ใส่ไก่สับที่หมักไว้ลงต้มจนสุก
4. ใส่ข้าวโอ๊ตลงไปต้มจนสุก ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกไทยป่น
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โจ๊กข้าวโอ๊ต อาหารคลีนเพื่อสุขภาพฮอตฮิตของเหล่าฮิปสเตอร์
5. โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
เมื่อวานเพิ่งกินโจ๊กข้าวโอ๊ตใส่เนื้อไก่ไป วันนี้ไม่อยากกินซ้ำเดิมลองเปลี่ยนมากินโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้งกันดีกว่าค่ะ สูตรจากอินสตาแกรม simplydesigncooking เนื้อโจ๊กหอมฉุย โปะกุ้งหมักรสเผ็ดนิด ๆ ใส่ผักลวกได้ตามชอบ ชามนี้คงโดนใจหลายคนแน่นอน
ส่วนผสม โจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
กุ้งสด (ปอกเปลือกเหลือหาง)
ผงกระเทียม
ปาปริก้า
ข้าวโอ๊ต
น้ำเปล่า หรือน้ำซุป (ตามปริมาณข้างกล่องของข้าวโอ๊ต แต่ละยี่ห้ออาจจะไม่เท่ากัน)
ซีอิ๊วขาว
พริกไทย
วิธีทำโจ๊กข้าวโอ๊ตกุ้ง
1. เอากุ้งไปหมักกับผงกระเทียมและปาปริก้า ผัดให้พอสุก
2. ผสมข้าวโอ๊ตกับน้ำเปล่า หรือน้ำซุป เทใส่ลงในหม้อตั้งไฟกลางคนจนเริ่มข้น ตักใส่ถ้วย โปะกุ้งลงไปด้านบน ก่อนเสิร์ฟปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 35 เมนูอาหารลดน้ำหนัก หน้าตาดีสีสันเริด กินให้ดีลดไป 10 กิโลกรัม
6. โจ๊กสาคู
ถ้าหากอยากได้สูตรโจ๊กแนว ๆ นอกจากโจ๊กไข่ขาว โจ๊กข้าวโอ๊ตแล้ว ขอแนะนำโจ๊กสาคูสูตรจากคุณเนินน้ำ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่สาคูแทนปลายข้าว เครื่องเคราก็มีเนื้อไก่และกุ้ง โรยหมี่ขาวทอดกรอบ ดูแปลกใหม่ไม่น่าเบื่อต้องลองสักหน่อยแล้ว
ส่วนผสม โจ๊กสาคู
น้ำซุปไก่
สาคูเม็ดเล็ก
เนื้อไก่หั่นชิ้นเล็ก
ซีอิ๊วขาว
เนื้อกุ้งหั่นชิ้นเล็ก
ต้นหอมซอย
ผักชีซอย
ขิงอ่อนซอย
หมี่ขาวทอดกรอบ
พริกไทยป่น
วิธีทำโจ๊กสาคู
ก่อนอื่นเราก็มาทำน้ำซุปไก่กันก่อนค่ะ (ถ้าขยันน้อยใช้ซุปก้อนแทนก็ได้ค่ะ) ล้างโครงไก่ให้สะอาด ใส่ลงในหม้อน้ำ ใส่หัวไช้เท้า ตามด้วยรากผักชี พริกไทยบุบ กระเทียม และเกลือ ยกขึ้นตั้งบนไฟกลางพอเดือด ลดเป็นไฟอ่อน หมั่นช้อนฟองทิ้ง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำตาลกรวด ต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อน จนน้ำซุปหอมหวาน ปิดไฟ เตรียมไว้
ตั้งหม้อน้ำซุปบนไฟกลางจนเดือด ล้างสาคู นำลงต้มจนสุกแต่ยังเป็นตากบ ระหว่างต้มให้หมั่นคน อย่าให้จับตัวเป็นก้อน (ระวังอย่าต้มนานเกินไป เพราะจะกลายเป็นแป้งเปียกนะคะ)
ใส่เนื้อไก่ลงต้มจนสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวคนพอทั่ว
จากนั้นใส่เนื้อกุ้งลงต้มพอสุก ปิดไฟ ตักใส่ถ้วย โรยต้นหอม ผักชี ใส่ขิงซอย หมี่ขาวทอดกรอบ ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เสิร์ฟร้อน ๆ โจ๊กสาคูเมื่อปรุงเสร็จควรรับประทานร้อน ๆ ทันที หากปล่อยทิ้งไว้จะอืดไม่อร่อยค่ะ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ โจ๊กสาคู อาหารเช้าสไตล์ใหม่ชวนลิ้มลอง
7. ทาโกะยากิโจ๊กลาวา
แม่เจ้า ! เมนูโจ๊กธรรมดา ๆ แปลงร่างเป็นทาโกะยากิโจ๊กลาวาได้ด้วยหรอเนี่ย กัดออกมาเนี่ยโจ๊กเต็ม ๆ คำเลยล่ะ ถ้าอยากรู้ว่าทำอย่างไรเข้าไปดูคลิปวิธีการทำ "ทาโกะยากิโจ๊กลาวา" ได้ที่นี่ และดูส่วนผสมพร้อมขั้นตอนการทำโดยละเอียดได้ที่นี่ แอบกระซิบว่า ในเนื้อโจ๊กมีปลาหมึกยักษ์ด้วยนะ ลองทำไปให้คุณลูกกินดูสิคะ คงถูกใจไม่น้อย
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แฟนคลับญี่ปุ่นห้ามพลาด ทาโกะยากิโจ๊กลาวา เด็ดจริงต้องลอง !
จบไปแล้วสำหรับ 7 วิธีทำโจ๊ก อาหารเช้าย่อยง่าย แต่ละเมนูแจ่ม ๆ ทั้งนั้น แค่เห็นหน้าตาก็เดาได้ว่าต้องอร่อย บางสูตรก็แนวอีกด้วย ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แบบนี้ต้องพิสูจน์กันหน่อยแล้วล่ะ