ใครจะไปรู้ว่าไข่ไก่จะเอามาทำเมนูขนมไข่ได้หลากแบบและอร่อยด้วย ถ้าไม่เชื่ออยากให้มาลองทำกัน กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำขนมไข่ เช่น ขนมไข่กรอบ ขนมไข่เต่าหรือขนมไข่นกกระทา ขนมไข่หงส์ ขนมไข่ไต้หวัน อย่าแอบมองอย่างเดียวนะคะ เพราะจะไม่ฟินเหมือนใครเขา เอาล่ะ… เข้าครัวเลยดีกว่า

- ไข่ไก่ 3 ฟอง (แยกไข่ขาว+ไข่แดง)
- ครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือน้ำมะนาว) 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 100-110 กรัม (สามารถลดหรือเพิ่มได้ค่ะ)
- กลิ่นวานิลลา
- น้ำเปล่า 1-2 ช้อนชา
- แป้งเค้กหรือแป้งสาลีอเนกประสงค์ 65 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- เกลือป่นเกือบ ๆ 1/4 ช้อนชา หรือประมาณ 1/8 ช้อนชากว่า ๆ หรือถ้าไม่ชอบเค็มก็ใส่ประมาณ 1/8 ช้อนชา
- นำพิมพ์ขนมไข่ไปอุ่นในเตาอบที่อุณหภูมิประมาณ 180-190 องศาเซลเซียส
- ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์หรือน้ำมะนาวลงไปตีพอเข้ากัน หลังจากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3-4 รอบ ตีจนเมอแรงค์ตั้งยอด (ป้าแยกไข่ตีเพราะมันขึ้นฟูเร็ว แต่สามารถตีไข่ทั้งฟองตามสูตรทั่วไปได้ ที่สำคัญคือ ต้องตีให้ฟู)
- ทยอยใส่ไข่แดงลงไป ตามด้วยกลิ่นวานิลลาและน้ำเปล่า ตีจนฟู สังเกตจากการยกหัวตะกร้อขึ้น ถ้าส่วนผสมหยดลงและลอยบนผิวไม่จมลงถือว่าใช้ได้แล้ว
- ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือป่นลงไป แล้วตะล่อมอย่างเบามือจนเข้ากัน (แบ่งร่อนสัก 2 รอบ) แล้วนำไปใส่ถุงบีบ ถ้าไม่มีถุงบีบก็ตักหยอดเอาก็ได้
- นำพิมพ์ขนมไข่ออกจากเตา รีบทาไขมันและหยอดขนมตอนที่พิมพ์ยังร้อนอยู่ ถ้าพิมพ์เย็นจะทำให้ขนมติดพิมพ์ พอหยอดเสร็จก็นำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 180-190 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-12 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ถ้าอยากให้กรอบนอกนุ่มในก็อบสัก 200-220 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 10-12 นาที พออบเสร็จรีบแซะขนมออก แล้วทาไขมัน หยอดขนมต่อจนแป้งหมด

2. ขนมไข่กรอบนุ่ม
มาต่อกันอีกสูตรขนมไข่กรอบนุ่ม สูตรนี้ตีไข่ไก่ผสมกับแป้ง และน้ำตาล เติมกลิ่นวานิลลา หยอดใส่พิมพ์แล้วเอาไปอบจนสุก
ส่วนผสม ขนมไข่
- แป้งเค้ก 90 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา (หรือครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา)
วิธีทำขนมไข่
- ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง เตรียมไว้
- ตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู
- ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อเร็วสูงจนตั้งยอดอ่อน (เป็นรอยตะกร้อ) จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไปตีต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
- ค่อย ๆ แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนตะล่อมเบา ๆ จนแป้งไม่เป็นเม็ด สุดท้ายเติมกลิ่นวานิลลาลงไปคนเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักส่วนผสมใส่ลงพิมพ์ประมาณ 3/4 พิมพ์
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15-20 นาทีจนขนมเป็นสีน้ำตาลและกรอบ นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

3. ขนมไข่นกกระทา
เอาใจลูกรักกันด้วยขนมไข่นกกระทา สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ จับแป้งผสมมันเทศปั้นเป็นก้อนกลม เอาไปทอดจนสุกกรอบ
ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา
- แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 25 กรัม (ถ้าชอบแบบเหนียวนุ่ม ก็สามารถใช้แป้งข้าวโพดแทนได้ค่ะ)
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ 1/2+1/4 ช้อนชา
- มันเทศนึ่งบดละเอียด 350 กรัม
- น้ำปูนใสประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ (ค่อย ๆ ใส่แล้วนวดจนแป้งไม่ร่วนและปั้นเป็นลูกได้ จะน้อยหรือมาก บวก-ลบน้ำเอาได้เลย)
วิธีทำขนมไข่นกกระทา
- ร่อนแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ และผงฟู หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- นำแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไปในมันเทศที่นึ่งบดแล้ว แบ่งแป้งใส่สัก 3 รอบ นวดขยำจนเข้ากัน หลังจากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใสลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดจนแป้งเนียนไม่ร่วน สามารถปั้นเป็นก้อนได้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ
- ตั้งน้ำมันให้ร้อน แล้วนำไข่นกกระทาลงไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ คนไปด้วยขนมจะได้ไม่ไหม้ พอทอดจนขนมเริ่มเหลืองฟูขึ้น ก็นำตะหลิวกดยีขนม เพื่อให้ขนมฟูขึ้นจากขนาดเดิมประมาณ 1.5-2 เท่า ฟูมากก็กลวงมาก พอพองเหลืองแล้วก็ต้องทอดต่อไปอีกสัก 4-5 นาที เพื่อให้ผิวขนมเซตตัวกรอบดีก่อน ถ้าตักขึ้นมาเร็วก็จะยุบและแฟบ พอสุกพองเหลืองได้ที่แล้วก็ตักมาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน

4. ขนมไข่นกกระทามันม่วง
ใครอยากกินขนมไข่เก๋ ๆ ขอนำเสนอขนมไข่นกกระทามันม่วง สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับมันม่วงผสมกับแป้งและผงฟู เติมความหอมมันจากกะทิ ปั้นเป็นก้อนกลมแล้วเอาไปทอดจนสุกกรอบ
ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทามันม่วง
- มันเทศญี่ปุ่นนึ่ง 2 ถ้วย
- แป้งมันสำปะหลัง 3/4 ถ้วย
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือเล็กน้อย
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 1 ฟอง
วิธีทำขนมไข่นกกระทามันม่วง
- ปอกเปลือกมันเทศญี่ปุ่นออก ล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จัดเรียงใส่ภาชนะเพื่อนำไปนึ่ง นำไปนึ่งในหม้อหุงข้าว ใช้เวลานึ่งประมาณ 30 นาที ใช้ส้อมบดมันเทศญี่ปุ่นให้ละเอียด ตามด้วยใช้กระชอนบดให้เนียน
- ร่อนแป้งและผงฟูลงในอ่างผสม ใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไป ใส่มันเทศญี่ปุ่นลงไปนวดให้เข้ากัน
- ผสมกะทิและไข่แดงให้เข้ากัน เทลงไปในส่วนผสมมันเทศญี่ปุ่นแล้วนวดต่อให้เข้ากันดี ปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ
- ตั้งกระทะใช้ไฟกลางใส่น้ำมันลงไปพอท่วม รอจนน้ำมันร้อนนำขนมไข่นกกระทามันเทศญี่ปุ่นลงไปทอด หมั่นคนเรื่อย ๆ จนสุก

5. ขนมไข่นกกระทามันม่วงไส้ชีส
แค่เห็นภาพก็ชวนหิว พบกับไข่นกกระทามันม่วงไส้ชีส สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือสอดไส้ชีสลงไปในขนมไข่นกกระทา อูย... ชีสเยิ้มน่าลอง
ส่วนผสม ไข่นกกระทามันม่วง
- มันม่วงนึ่ง 500 กรัม
- แป้งมัน 50 กรัม
- แป้งหมี่ 15 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 1 ฟอง
- มอสซาเรลล่าชีส (หั่นเต๋า) ตามชอบ
วิธีทำไข่นกกระทามันม่วง
- เอามันม่วงนึ่งสุก 15-20 นาทีก่อนแล้วปอกเปลือก บดมันให้ละเอียด ใส่ส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นชีส นวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม เตรียมไว้
- คลึงแป้งให้แบนแล้วสอดไส้ชีสลงไป เสร็จแล้วปั้นเป็นก้อนกลม เอาไปทอดน้ำมันท่วมจนสุก ระหว่างทอดคอยคนด้วย

6. ขนมไข่หงส์
แอบกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ เพราะอยากกินเมนูขนมไข่หงส์ สูตรจาก คุณแม่หญิงกระจิดริด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำแป้งและไส้ถั่วเค็ม เพิ่มความอร่อยจากน้ำตาลเคลือบ
ไข่หงส์ 1 ใบ ให้พลังงานประมาณ 58 กิโลแคลอรี
ส่วนผสม แป้งขนมไข่หงส์
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- มันเทศ (ต้มสุกแล้วบด) 1/3 ถ้วย (หรือใช้มันฝรั่งแทนได้)
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
- กะทิสำเร็จรูปกล่องเล็ก 1 กล่อง
- น้ำเย็น
ส่วนผสม ไส้ขนมไข่หงส์
- ถั่วทองนึ่งบด (ปริมาณตามชอบ)
- เกลือป่น (ปริมาณตามชอบ)
- น้ำตาลทราย (ปริมาณตามชอบ)
- รากผักชี กระเทียม และพริกไทย โขลกเข้าด้วยกัน (ปริมาณตามชอบ)
- หอมแดงเจียว (อย่าทิ้งน้ำมันที่ใช้เจียว)
ส่วนผสม น้ำตาลสำหรับเคลือบ
- น้ำ 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
วิธีทำแป้งขนมไข่หงส์
- ผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ถ้าจะให้น้ำตาลปี๊บละลายง่าย ให้เอาเข้าไมโครเวฟก่อน อุ่นให้น้ำตาลนิ่ม ๆ ก่อน ค่อย ๆ ใส่กะทิลงไป ควรจะยีของแห้งให้กระจายก่อนแล้วค่อยใส่กะทิลงไป ถ้ากะทิหมดแต่ส่วนผสมยังแห้งอยู่ให้เติมน้ำเพิ่มได้ ถ้าใครทำเหลวไปก็ไม่ต้องเททิ้ง ให้เพิ่มแป้งข้าวเหนียวเข้าไป แต่ทางที่ดีค่อย ๆ เติมน้ำ
- พักแป้งเป็นเวลา 1 ชั่วโมงขึ้นไป ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะการพักแป้งทิ้งไว้จะทำให้น้ำตาลกับแป้ง เชื่อมโครงสร้างผสานตัวเข้าหากัน ทำให้เวลาทอดไม่ระเบิดนั่นเอง
วิธีทำไส้ขนมไข่หงส์
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันที่เจียวหอมไว้ ใส่ส่วนผสมรากผักชีกระเทียมพริกไทยที่โขลกไว้ลงไปผัดให้หอม ระวังอย่าให้ไหม้ พอได้กลิ่นหอมแล้วใส่ถั่วทองลงไปผัดให้เข้ากันและได้รับความร้อนทั่วถึง
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายและเกลือป่น ผัดพอเข้ากัน ใส่หอมแดงเจียว จากนั้นตักขึ้นพักไว้ให้เย็นตัวลง
- ปั้นไส้ โดยวิธีการบีบไส้ให้พอแน่น แล้วค่อยคลึงให้เป็นลูกกลม เตรียมไว้
- ห่อไส้ด้วยแป้ง โดยใช้น้ำมันทาที่มือและทาถาด ขนมจะได้ไม่ติดกัน นำแป้งที่พักไว้มาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วกดให้เป็นลักษณะแบน ๆ วางไส้ใส่ลงไป แล้วห่อให้มิด จากนั้นคลึงให้เป็นก้อนกลมอีกครั้ง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันเปิดไฟแรงให้น้ำมันร้อนจัด ก่อนจะทอดให้ลดไฟลงเป็นไฟปานกลาง (ก่อนใส่ให้คลึงแป้งอีกครั้งเพื่อเช็ครอยแตกและจะทำให้รอยกดทับที่เราวางบนถาดหายไป) แล้วใส่ไข่หงส์ลงไปทอดจนได้สีเหลืองนวล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
วิธีทำน้ำตาลเคลือบขนม
- ทำน้ำตาลเคลือบ โดยใส่น้ำ 1/4 ถ้วยกับน้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คนผสมจนน้ำตาลทรายละลายจนเป็นน้ำเชื่อมและตกทราย (ตกผลึก) ข้าง ๆ กระทะ
- จากนั้นใส่ไข่หงส์ที่ทอดแล้วพักไว้ลงไป คนไปสักพักน้ำตาลจะเริ่มเคลือบไข่หงส์ และตกทราย (ตกผลึก) จากนั้นตักขึ้นพักไว้ รอให้เย็น เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ

7. ขนมไข่ไต้หวัน
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมไข่ไต้หวัน สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ เนื้อขนมเด้งฟูหวานน้อยนุ่มลิ้น เอาล่ะ... แบ่งกันไปคนละชิ้นสองชิ้นได้เลยจ้า
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง (เบอร์ 2) 7 ฟอง
- แป้งเค้ก 150 กรัม
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- นมข้นจืด 145 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 100 กรัม
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว (เบอร์ 2) 7 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือน้ำมะนาว) 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 100-120 กรัม (สามารถเพิ่ม-ลดน้ำตาลได้ค่ะ)
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
วิธีทำเค้กไข่ไต้หวัน
- แยกไข่แดงกับไข่ขาว เตรียมไว้
- ทำส่วนผสมไข่แดงโดยร่อนแป้งเค้กกับเกลือป่น ถ้าอยากได้เค้กที่เนื้อละเอียดก็ร่อนสัก 2 รอบ การร่อนแป้งจะทำให้กรองเศษฝุ่น และระหว่างที่ร่อนแป้ง อากาศจะเข้าแทรกระหว่างเนื้อแป้งทำให้แป้งฟูและเบาขึ้นไปอีก
- ตวงส่วนผสมที่เป็นของเหลว ได้แก่ นมข้นจืด และน้ำมันพืช น้ำตาลทราย และแยกไข่เอาไว้
- เทน้ำมันพืชใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนน้ำมันร้อน เสร็จแล้วปิดเตา (หรือนำน้ำมันพืชเข้าไมโครเวฟประมาณ 30 วินาที) จากนั้นแป้งเค้กใส่ลงไปผสมกับน้ำมัน ใช้ไม้พายคนให้คลายร้อนลงบ้าง หลังจากนั้นใส่นมข้นจืด เพื่อเพิ่มความหอมนุ่มและรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น หลังจากนั้นคนหรือตะล่อมให้เข้ากัน ใส่ไข่แดงลงไป เพิ่มความหอมด้วยกลิ่นวานิลลา ตะล่อมให้เข้ากันและพักไว้
- ทำส่วนผสมไข่ขาวโดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบ หลังจากนั้นใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ (ครีมออฟทาร์ทาร์จะช่วยทำให้ไข่ตีขึ้นฟูง่าย และทำให้ฟองอากาศที่ตีอัดเข้าไปมีความอยู่ตัวมากขึ้น ไม่ยุบตัวง่าย) ตีพอเข้ากัน ใส่แป้งข้าวโพด (เพื่อเพิ่มความนุ่มและยืดหยุ่นให้กับเค้ก) ตีพอเข้ากัน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป (น้ำตาลทรายแบ่งใส่สัก 3 รอบ ถ้าใส่ไปทีเดียวฟองอากาศอาจจะยุบตัวได้ และน้ำตาลก็จะละลายช้าด้วย) ตีจนตั้งยอด ตักเมอแรงค์หรือไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามส่วนผสมไข่แดง (ถ้าใส่ไปทีเดียวหมดจะผสมเข้ากันยากกว่า และทำให้เสียฟองอากาศเยอะ เป็นสาเหตุที่ทำให้เค้กไม่ขึ้นฟู) ตะล่อมเบาจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน
- เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ (พิมพ์รองด้วยกระดาษไข ก่อนเอากระดาษไขรองอย่าลืมทาไขมันหรือเนยบนถาดด้วย) เคาะพิมพ์เพื่อไล่ฟองอากาศสัก 1-2 ครั้ง ถ้ายังมีฟองอยู่ก็เอาไม้จิ้มฟันเจาะฟองออก เค้กอบมาหน้าจะได้สวย ๆ ไม่มีรูพรุน
- นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส บนถาดน้ำร้อน อบเป็นเวลา 35-40 นาที แล้วแต่เตาแต่ละบ้านด้วยนะคะ บางเตาอาจจะอบนานถึง 50 นาที (การอบบนถาดน้ำร้อนจะทำให้เค้กมีความชุ่มชื้นขึ้น) เปิดไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม หลังจากนั้นอบไล่ความชื้นเอาถาดรองน้ำร้อนออก อบต่อด้วยอุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 8-10 นาที เปิดไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม (เช็กความสุกโดยเอาไม้ปลายแหลมจิ้มลงไป ถ้าไม่มีเศษเค้กแฉะ ๆ ติดออกมา แสดงว่าเค้กสุกดีแล้วค่ะ) ถ้าไม่สะดวกรองด้วยถาดน้ำก็สามารถอบแบบธรรมดาที่อุณหภูมิ 150-160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30-35 นาที
- พออบเสร็จพักให้อุ่นลงประมาณ 10 นาที แล้วค่อยเอาเค้กออกจากพิมพ์ ลอกกระดาษไขออก พลิกเค้กอีกด้านขึ้นมา และตัดขนาดตามชอบใจ
ว้าว ! ขนมไข่น่ากิน ๆ ทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะขนมไข่นกกระทามันม่วงและขนมไข่ไต้หวัน ขอลิสต์ส่วนผสมเพื่อไปจ่ายตลาดก่อนนะคะ