หวานเป็นลม ขมเป็นยา ! ถ้าพูดถึงเมนูผักที่มีรสขม หลายคนคงนึกถึงมะระเป็นอันดับหนึ่ง แต่จะยิ่งดี ถ้าลดความขมของมะระลงได้ เพราะยิ่งขมน้อยก็ยิ่งกินง่าย วันนี้กระปุกดอทคอมมีเคล็ดลับการต้มมะระไม่ให้ขมมาฝากกัน หากรู้วิธีจัดการกับมะระขม ๆ แล้ว ยังสามารถนำไปทำเมนูอร่อย มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่ใครได้ชิมต้องติดใจแน่นอน ตามไปดูกันได้เลยจ้า

มะระ (Bitter Melon) เป็นผักพื้นบ้านที่ขึ้นได้ทั่ว ๆ ไป รสชาติขม มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค นิยมนำมาประกอบอาหาร ดีต่อสุขภาพและช่วยบำรุงร่างกาย เช่น ช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น
ประโยชน์ของมะระ
-
มีสารกระตุ้นที่ส่งผลให้ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดลงได้
-
ช่วยย่อยอาหาร บรรเทาอาการท้องผูก ช่วยดูดซึมอาหารได้ดี
-
ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
-
ลดน้ำหนัก ช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดี
-
ดีต่อตับ ช่วยเพิ่มเอนไซม์ตับ และเป็นยาแก้เมาค้างได้อย่างดี
-
รักษาบาดแผล ช่วยในการสมานแผลและลดการติดเชื้อได้เร็วขึ้น
-
เสริมภูมิต้านทาน ปกป้องจากการติดเชื้อและการเจ็บป่วยต่าง ๆ ทำให้ร่างกายแข็งแรง
-
มีวิตามินเอ บำรุงสายตา ป้องกันภาวะต้อกระจก และเสริมสร้างการมองเห็น
-
แก้อาการไข้ มีสรรพคุณใช้ดับพิษร้อน แก้ไข้ แก้บิด โดยนำเถามะระตากแห้งแล้วต้มดื่มเป็นชา
-
ช่วยให้เจริญอาหารจากสารโมโมดิซีนที่มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากอาหารมากขึ้น
-
มะระช่วยขับถ่าย แก้อาการท้องผูก ทำให้อุจจาระอ่อน ขับถ่ายสะดวก อีกทั้งยังใช้เป็นยาระบายได้ดี
โทษของมะระ
-
มะระมีสรรพคุณในการลดน้ำตาลในเลือดก็จริง แต่คนที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำไม่ควรกินมากเกินไป
-
ผลสุกของมะระ มีสารซาโปนิน (Saponin) ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
-
ไม่ควรกินเยื่อหุ้มเมล็ดมะระที่มีสีแดง เพราะเป็นพิษต่อร่างกาย
-
สตรีมีครรภ์ ไม่ควรกินมะระ เพราะอาจทำให้มีเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ และอาจเป็นสาเหตุของการแท้งได้
-
ผู้ที่มีภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD) ไม่ควรกินเมล็ดมะระ ซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น โลหิตจาง ปวดศีรษะ มีไข้ และอาจมีภาวะโคม่าได้ในบางรายอีกด้วย
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมกินมะระดิบเนื่องจากมีรสชาติขมมาก มักจะนำไปทำให้สุกก่อน เพื่อให้รสชาติอ่อนลง ส่วนการกินมะระทั้งแบบดิบหรือปรุงสุกแล้ว ค่อนข้างปลอดภัย แต้ก็ไม่ควรกินติดต่อกันนานเกิน 3 เดือน เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลด้านความปลอดภัยมารองรับ

-
เลือกซื้อมะระที่มีสีเขียวอ่อนและผิวตึง
-
ล้างมะระให้สะอาด นำมาหั่นเป็นท่อน คว้านไส้ให้สะอาด แล้วนำไปแช่ในน้ำผสมเกลือประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ
-
ต้มน้ำให้เดือดแล้วไฟอ่อนลง ใส่มะระที่ล้างสะอาดแล้วลงไปต้ม ไม่ต้องปิดฝาหม้อ เพื่อให้กลิ่นแรง ๆ ของมะระออกมา
-
ต้มจนมะระสุก โดยสังเกตสีของมะระ ต้มจนกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน
-
หากต้มรอบเดียว มะระอาจยังมีความขมอยู่ ให้ต้ม 2 รอบ โดยเปลี่ยนน้ำต้มใหม่ แล้วต้มเหมือนเดิม เท่านี้ก็จะได้มะระที่ไม่ขมแล้ว
แนะนำเมนูมะระ ที่น่าสนใจ ใครอยากทำเมนูไหนคลิกเลย
★ ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ รสเข้มข้น สูตรเด็ดสร้างอาชีพได้
★ ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นมะระ เมนูสร้างอาชีพ น้ำซุปหอมหวานไม่ต้องปรุงก็อร่อย
★ 8 เมนูมะระ เสกอาหารไทยขมคอให้อร่อยปังโดนใจ
★ แกงจืดมะระยัดไส้หมูสับ อาหารไทยหอม ๆ พร้อมเคล็ดลับดับความขม