วิธีต้มไข่ไม่ให้แตก
ก่อนต้มไข่
-
เลือกใช้ไข่เก่า เนื่องจากไข่ใหม่จะมีช่องอากาศขนาดใหญ่กว่าไข่เก่า ทำให้เวลาต้มจะขยายตัวทำให้เปลือกแตกออกได้
-
นำไข่ออกมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนต้ม เนื่องจากไข่ที่เย็นจัด เมื่อนำลงไปในน้ำร้อน อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงกะทันหันจะทำให้เปลือกแตก ควรปล่อยให้ไข่ได้อยู่ในน้ำอุ่น ๆ ก่อนประมาณ 10-15 นาที
-
เจาะเปลือกไข่ด้านล่างให้เป็นรูเล็ก ๆ จะช่วยระบายอากาศในระหว่างต้มออกจากไข่ และลดแรงดันภายในไข่ ป้องกันการแตกได้
ระหว่างต้มไข่
-
เติมเกลือลงในน้ำ ประมาณ 1 ช้อนชา จะช่วยให้ไข่ขาวเกาะตัวกันแน่นขึ้น ป้องกันไม่ให้ไข่รั่วไหลออกมาหากเปลือกแตก
-
เริ่มต้มไข่จากน้ำเย็น โดยใส่ไข่ลงในหม้อที่มีน้ำเย็นก่อน จากนั้นเปิดไฟอ่อนค่อย ๆ รอให้น้ำเดือดอย่างช้า ๆ และไม่ควรเติมน้ำลงไปในระหว่างต้ม
-
ต้มด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ หลังจากที่น้ำเริ่มเดือดแล้วลดไฟให้เบาลง ต้มต่อจนครบเวลาตามที่ต้องการ เพราะการใช้ไฟแรงต้มไข่จะยิ่งทำให้เปลือกแตกง่ายขึ้น
-
เติมเบกกิ้งโซดาหรือน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ประมาณ 1/2-1 ช้อนชา จะช่วยให้ไข่ขาวเกาะตัวกันแน่นขึ้น
- ไม่ใส่ไข่ลงไปต้มในหม้อจนแน่นเกินไป ควรใส่ลงไปต้มเพียงชั้นเดียว เพื่อไม่ให้ไข่ชนกันจนเปลือกแตก
เคล็ดลับปอกเปลือกไข่ต้มง่าย ๆ
-
ทำให้ไข่เย็นลงทันทีหลังต้ม โดยนำไข่ใส่ลงในอ่างที่มีน้ำผสมน้ำแข็งทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จะช่วยให้ไข่แกะเปลือกได้ง่ายขึ้น
-
คลึงไข่ต้มที่พักไว้จนเย็นแล้วเบา ๆ จะช่วยให้เปลือกไข่ค่อย ๆ แตกออกและปอกได้ง่ายขึ้น
เคล็ดลับต้มไข่
-
ต้มไข่ 2 นาที : “ไข่ลวก” ไข่ขาวยังไม่สุกดีนัก และไข่แดงก็ยังดิบอยู่
-
ต้มไข่ 4 นาที : “ไข่ต้มยางมะตูม” ไข่ขาวสุกเริ่มดีแล้ว ในขณะที่ไข่แดงก็ยังกึ่งสุกกึ่งดิบและเหลวอยู่
-
ต้มไข่ 6 นาที : ไข่ขาวสุกเต็มที่ และไข่แดงก็เกือบจะสุกแล้ว แต่บริเวณกึ่งกลางยังเหนียวอยู่เล็กน้อย
-
ต้มไข่ 8 นาที : ไข่ขาวสุกเต็มที่ และไข่แดงก็เกือบสุกแล้วเช่นกัน แต่ยังอ่อนตัวอยู่เล็กน้อย
-
ต้มไข่ 10 นาที : “ไข่สุก” ทั้งไข่ขาวและไข่แดงสุกเต็มที่
บทความเกี่ยวกับวิธีต้มไข่และเมนูไข่ต้มที่น่าสนใจ
◇ วิธีต้มไข่ ต้มอย่างไรให้เพอร์เฟกต์
◇ วิธีต้มไข่ยางมะตูม ทั้งไข่ไก่และไข่เป็ด กับเทคนิคต้มไข่ให้เยิ้มอร่อยเป๊ะ
◇ วิธีต้มไข่เป็ดยางมะตูม ไข่แดงเยิ้ม ๆ ตรงกลาง ปอกง่ายผิวเนียน