รวมวิธีถนอมอาหารจากเนื้อสัตว์ที่ทำง่าย ใช้งานได้จริง ช่วยยืดอายุอาหาร ลดของเสีย และประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
การเก็บเนื้อสัตว์ให้อยู่ได้นาน จริง ๆ แล้วทำได้ง่ายกว่าที่คิด แค่รู้วิธีเก็บและดูแลให้ถูกต้องก็ช่วยลดการเน่าเสีย ประหยัดเงิน เพราะหยิบมาใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องซื้อบ่อย ๆ แถมทำอาหารได้สะดวกขึ้นด้วย วันนี้เราจะมาแชร์ 5 วิธีถนอมเนื้อสัตว์ที่ทำตามได้ง่าย ๆ ไม่ต้องยุ่งยาก พร้อมเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิธีเก็บในตู้เย็น แช่แข็ง การหมัก หรือการใช้เครื่องปรุงธรรมชาติ วิธีเหล่านี้เหมาะกับทุกครัวเรือนและสามารถนำไปใช้ได้จริง
วิธีถนอมอาหารจากเนื้อสัตว์
1. วิธีถนอมอาหารแบบแช่แข็ง
การแช่แข็งเป็นวิธีพื้นฐานที่หลายคนใช้ โดยจะเหมาะกับเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลา และอาหารทะเล
วิธีทำ
- ล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาด แล้วซับน้ำออกให้แห้ง
- แบ่งเนื้อเป็นชิ้นหรือเป็นส่วนตามปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง
- ใส่ถุงซิปล็อกหรือกล่องที่ปิดสนิท ไล่อากาศออกให้มากที่สุด
- เขียนวันที่เก็บติดไว้
- นำไปแช่ในช่องฟรีซ
2. วิธีถนอมอาหารแบบทำเนื้อแดดเดียว / ตากแห้ง
การตากแห้งหรือทำเนื้อแดดเดียว เหมาะสำหรับเนื้อสัตว์บางชนิดและช่วยเก็บได้นาน อย่างเนื้อหมู เนื้อวัว และปลา
วิธีทำ
- หั่นเนื้อสัตว์เป็นชิ้นบางพอดีคำ
- หมักด้วยเกลือหรือเครื่องปรุงตามชอบ (ซีอิ๊ว น้ำปลา กระเทียม)
- วางเนื้อบนตะแกรงหรือถาดสะอาด
- นำไปตากแดดจัดประมาณ 1 วัน หรืออบด้วยเตาอบจนแห้งหมาด
- เก็บใส่ภาชนะปิดฝา หรือแช่ตู้เย็นเพื่อยืดอายุ
3. วิธีถนอมอาหารแบบหมักเกลือ / ดองเค็ม
วิธีทำ
- ล้างเนื้อสัตว์ให้สะอาด ซับให้แห้ง
- คลุกกับเกลือในปริมาณเหมาะสม
- ใส่ภาชนะสะอาด ปิดฝาให้มิดชิด
- เก็บในตู้เย็นหรือที่อากาศถ่ายเท
- เมื่อนำมาใช้ ให้ล้างน้ำก่อนปรุงเพื่อลดความเค็ม
4. วิธีถนอมอาหารแบบรมควัน
การรมควันเป็นวิธีเก็บเนื้อให้อยู่นานและมีกลิ่นหอม เหมาะกับปลา ไส้กรอก และเนื้อสัตว์แปรรูป
วิธีทำ
- หมักเนื้อสัตว์ด้วยเครื่องปรุงตามต้องการ
- ผึ่งให้หมาดก่อนนำไปรมควัน
- ใช้เตารมควันหรือภาชนะรม พร้อมไม้หอม
- รมจนเนื้อสุกและแห้งตามต้องการ
- พักให้เย็น แล้วเก็บในภาชนะปิดสนิทหรือแช่เย็น
5. วิธีถนอมอาหารแบบบรรจุสูญญากาศ
วิธีทำ
- ล้างและซับเนื้อสัตว์ให้แห้ง
- ใส่เนื้อลงในถุงสูญญากาศ
- ใช้เครื่องดูดอากาศออกให้หมด
- ปิดปากถุงให้แน่น
- แช่เย็นหรือแช่แข็งตามระยะเวลาที่ต้องการเก็บ
บทความ วิธีถนอมอาหาร สูตรอาหาร อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก : foodsafety.gov, bqsf.dmsc.moph.go.th, saranukromthai.or.th, siphhospital.com






