ลองชิมแล้วจะติดใจกับปลากริมไข่เต่า ขนมไทยโบราณ ตัวแป้งโดดเด่นมี 2 รูปทรง มีทั้งรสเค็มและหวาน พอผสมผสานกันอร่อยกลมกล่อม แค่ถ้วยเดียวคงไม่พอ ถ้าจะมองหาขนมไทยโบราณที่อร่อยครบรส หวาน เค็ม มัน สักถ้วยหนึ่ง เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง “ปลากริมไข่เต่า” ขนมไทยโบราณ 2 สี 2 รสชาติ ที่คุ้นลิ้นกันมาตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งจริง ๆ แล้วในสมัยโบราณ “ปลากริม” กับ “ไข่เต่า” เป็นขนมคนละชนิดและเสิร์ฟแยกกัน แต่จะนิยมนำมากินคู่กันแล้วเรียกกว่า “ขนมแชงมา หรือ ขนมแฉ่งม้า” ส่วนประกอบหลักคือ เป็นแป้งข้าวเจ้ากับแป้งมัน แต่บางสูตรก็จะผสมแป้งเท้ายายม่อมหรือแป้งถั่วเขียวลงไปบ้าง ซึ่งขนมปลากริมจะปั้นแป้งเป็นตัวยาว ๆ ต้มกับน้ำแล้วนำไปเคี่ยวในน้ำตาลมะพร้าวจนมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ เป็นที่มาของความหวานนัว ๆ เคล้าไปกับกลิ่นหอมจากน้ำตาลมะพร้าว ให้ฟีลลิ่งคล้ายกลิ่นคาราเมลแบบฝรั่ง ส่วนขนมไข่เต่า สมัยก่อนจะปั้นแป้งเป็นตัวกลม ๆ แต่ปัจจุบันหันมาปั้นเป็นเส้นยาว ๆ ต้มกับกะทิจนแป้งดูดซับความหอมมันเข้าไปจนพองฟู ตัดรสด้วยเกลือนิดหน่อยพอให้มีรสออกเค็มเจือ ๆ ที่ปลายลิ้น เมื่อตักปลากริมลงชามตามด้วยไข่เต่ากินพร้อมกันในคำเดียว เคี้ยวหนึบหนับละมุนละไม ความหวานที่ว่าจัดแต่ถูกตัดด้วยความเค็ม ๆ มัน ๆ เข้ากั๊นเข้ากัน แต่ด้วยความที่มีทั้งแป้ง น้ำตาล และกะทิ แคลอรีสูงปรี๊ดใช่ย่อย ก็อย่าจ้วงเข้าปากกันจนเพลิน เบาได้ก็เบากันนะคะ จริง ๆ แล้วในสมัยโบราณ “ขนมปลากริม” และ “ขนมไข่เต่า” เป็นขนมคนละชนิดกัน เสิร์ฟแยกกัน แต่นิยมนำมากินคู่กันแล้วเรียกกว่า “ขนมแชงมา หรือ ขนมแฉ่งม้า” ซึ่งมีชื่อปรากฏอยู่ในบทเพลงกล่อมเด็กในสมัยรัชกาลที่ 4 ท่อนหนึ่งว่า "โอ้ละเหโอ้ละหึก ลุกขึ้นแต่ดึกทำขนมแฉ่งม้า ผัวก็ตี เมียก็ด่า ขนมแฉ่งม้าก็คาหม้อแกง" โดยขนมปลากริม คือ ขนมที่ปั้นแป้งเป็นตัวยาว ๆ ต้มกับน้ำ และนำไปเคี่ยวน้ำตาลปึก เติมรสชาติหวานจนมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ รสชาติหวานและหอมน้ำอ้อย ส่วนขนมไข่เต่า คือ แป้งปั้นเป็นตัวกลม ๆ ต้มกับกะทิให้เนื้อข้น จากนั้นเติมเกลือให้มีรสออกเค็ม จนเมื่อมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญอาหารคาว-หวาน และผู้แต่งตำราแม่ครัวหัวป่าก์ในสมัยนั้น ได้คำตอบจาก อุบาสิกาเนย วัดอัมรินทร์ ว่า ปลากริมไข่เต่าโบราณคือ ให้กินขนมทั้ง 2 ชนิดนี้ด้วยกัน เพราะขนมปลากริมมีรสชาติหวานจัด เมื่อกินคู่กันกับขนมไข่เต่าที่ออกรสเค็มก็จะเข้ากันดี และถ้ากินคู่กันแบบนี้ โบราณจะเรียกว่า ขนมแฉ่งม้า แต่หากกินแยกกันถึงจะเรียกว่า ขนมปลากริม และขนมไข่เต่า นั่นเอง แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม (2 ถ้วยตวง) แป้งมันสำปะหลัง 65 กรัม (1/2 ถ้วยตวง) กะทิ 80 กรัม (1/3 ถ้วยตวง) น้ำเปล่า 500 (2 ถ้วยตวง) หัวกะทิ 250 กรัม ( 1 ถ้วยตวง) น้ำเปล่า 250 กรัม ( 1 ถ้วยตวง) น้ำตาลมะพร้าว 150 กรัม ใบเตย หัวกะทิ 500 กรัม ( 2 ถ้วยตวง) เกลือ 10 กรัม (1+1/4 ช้อนชา) ใบเตย 1. ทำแป้งโดยใส่แป้งข้าวเจ้าลงในอ่างผสม ตามด้วยแป้งมัน 2. เติมกะทิ ตามด้วยน้ำเปล่า 3. คนจนแป้งละลาย กรองด้วยกระชอน 1 รอบ 4. เทส่วนผสมใส่กระทะ เปิดไฟกลางค่อนไปทางอ่อน กวนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดมือ พอแป้งใกล้จับตัวเป็นก้อนให้ลดไฟอ่อน กวนต่อจนแป้งสุกจับตัวเป็นก้อน เทใส่ถาด 5. ใช้แป้งนวล (แป้งมัน+แป้งข้าวเจ้า) โรยบนแป้งจนทั่วเพื่อให้แป้งไม่ติดมือเวลานวด นวดจนแป้งเนียนไม่ติดมือ แบ่งแป้งเป็น 2 ก้อน 6. ก้อนแรกปั้นเป็นตัวยาวหรือปลากริม อีกก้อนปั้นเป็นลูกกลม ๆ หรือไข่เต่า 7. พอปั้นเสร็จทั้ง 2 แบบให้นำแป้งปลากริมมาร่อนด้วยกระชอนเพื่อเอาเศษแป้งออก 8. ตั้งหม้อใส่น้ำลงไปต้มจนเดือด ใส่แป้งลงไปต้ม พอแป้งสุกลอยขึ้นมาให้ต้มต่ออีก 2 นาที ตักขึ้นใส่น้ำเย็นเพื่อหยุดการสุก 9. นำแป้งไข่เต่ามาร่อนด้วยกระชอนเพื่อเอาเศษแป้งออก 10. ตั้งหม้อใส่น้ำลงไปต้มจนเดือด ใส่แป้งลงไปต้ม พอแป้งสุกลอยขึ้นมาให้ต้มต่ออีก 2 นาที 11. ตักขึ้นใส่น้ำเย็นเพื่อหยุดการสุก 12. ทำปลากริมโดยตั้งหม้อเปิดไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว 13. ใส่ใบเตยเพิ่มความหอม ต้มจนน้ำตาลละลาย 14. พอเดือดใส่กะทิ พอเดือดอีกรอบใส่ปลากริมลงไป ต้มจนเดือด ปิดไฟ 15. ทำไข่เต่าโดยตั้งหม้อใส่กะทิ ตามด้วยเกลือ 16. ใส่ใบเตย คนจนกะทิเดือด แต่อย่าแตกมัน ใส่ไข่เต่าลงไป ต้มจนเดือด ปิดไฟ 17. ตักเสิร์ฟ เริ่มจากตักปลากริมใส่ถ้วย 18. ตามด้วยตักไข่เต่าลงไป วันหยุดนี้ลองหาเวลาว่างมาทำปลากริมไข่เต่ากัน ยิ่งกินตบท้ายอาหารคงฟินสุด ๆ ถ้าชอบรสกลมกล่อม ตักส่วนผสมปลากริมและไข่เต่าอย่างละครึ่ง แต่ถ้าเบนไปทางเค็มหรือหวาน รสไหนมากกว่า ก็ตักมากกว่าครึ่งไปเลยจ้า ทำกินเองจัดเลยสัก 2 ถ้วย ► 15 สูตรขนมไทยยอดนิยม ทำง่าย ขายได้ กินเพลิน ► 7 สูตรบัวลอย ขนมไทยปั้นความสนุกใส่หม้อ เติมความหวานเข้าเส้น ► วิธีทำขนมกล้วย สูตรขนมไทยทำง่าย ๆ สมชื่อ ► 16 เมนูขนมไทยจากแป้งมัน อร่อยเหนียวนุ่มแบบไทย ๆ ► 14 สูตรขนมไทยจากแป้งสาลี เมนูสร้างอาชีพได้ ทำขายกำไรปัง ขอบคุณข้อมูลจาก : คุณ she-sweet, YouTube Neranya channel, Facebook แม่บ้านต่างแดน usa
แสดงความคิดเห็น