3 สูตรน้ำหมักผลไม้ รสชาติไทย ๆ ดื่มอร่อยเน้นสุขภาพ
3. น้ำลูกเดือย สงสัยว่าปี 2558 คนเขาขี้เกียจเคี้ยวลูกเดือยต้มกันเลยดื่มน้ำลูกเดือยแทน เย้ย… ไม่ใช่หรอก คนเขารักสุขภาพกันต่างหากลูกเดือยเลยติดโผเครื่องดื่มที่สุดแห่งปี 2558 สูตรนี้ไม่ได้ใส่แค่ลูกเดือยลงไปเท่านั้น แต่ใส่ธัญพืชอื่น ๆ ลงไปอีกด้วย พอปั่นจนละเอียดแล้วก็กรองเอาแต่น้ำไปต้มจนเดือด จะดื่มตอนอุ่นหรือพักไว้จนเย็นแล้วค่อยดื่มก็ได้ค่ะ ถ้าหากรู้สึกหิวระหว่างวันลองทำดื่มดูอิ่มสบายท้องจริง ๆ นะคะ
ส่วนผสม น้ำลูกเดือย 
ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม

ธัญพืชตามชอบ เช่น งาขาว, งาดำ, เม็ดบัว, ถั่วอัลมอนด์

น้ำเปล่า 6 ถ้วย (เพิ่ม-ลดได้ตามความเข้มข้นที่ต้องการ)

น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำลูกเดือย 
1. แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืนจนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้

2. ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำเปล่า 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่นแล้วปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นน้ำ จากนั้นนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ เตรียมไว้ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)

3. เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลายแล้วชิมรสตามชอบ รอจนส่วนผสมเดือดแล้วปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่แก้วพร้อมดื่ม

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
วิธีทำน้ำลูกเดือย เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพก็ดี ลดความอ้วนก็เริด
4. น้ำฟักข้าว เพื่อน ๆ ไปเดินตลาดอาจเห็นเจ้าลูกกลมรีสีส้มมีหนามอยู่รอบนั่นคือ ลูกฟักข้าว พืชพื้นบ้านหน้าตาประหลาด แต่รู้ไหมว่าเขาเอามาทำเครื่องดื่มอย่างน้ำฟักข้าวได้อร่อยและมีประโยชน์มากเลยล่ะ ซึ่งน้ำฟักข้าวสูตรนี้ทำง่ายมาก แถมยังได้รสชาติของฟักข้าวไปเต็ม ๆ ถ้าหากอยากดื่มเพียว ๆ ก็ไม่ต้องเติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นลงไปนะคะ
ส่วนผสม น้ำฟักข้าว 
ฟักข้าว 1 ลูก

น้ำต้มสุก 3 ถ้วย

เกลือป่นเล็กน้อย

น้ำเชื่อมตามชอบ
วิธีทำน้ำฟักข้าว 
1. ผ่าครึ่งลูกฟักข้าว คว้านเอาเม็ดออก จากนั้นปอกเปลือกออกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

2. ใส่เนื้อฟักข้าวลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุก ปั่นจนละเอียดเข้ากันดี เติมน้ำเชื่อมและเกลือป่นตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน เทใส่แก้ว พร้อมดื่ม

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
น้ำฟักข้าว เครื่องดื่มสุขภาพสุดฮิต ทำอย่างไร ดื่มแบบไหนให้อร่อย
5. น้ำเสาวรส น่าชื่นใจที่ปี 2558 มีคนรักสุขภาพมากเหลือเกินดังเห็นจากสูตรเครื่องดื่มที่สุดแห่งปี 2558 ที่ผ่านตามามีแต่เครื่องดื่มที่มีประโยชน์แทบทั้งสิ้น น้ำเสาวรสก็เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่น่าจับตามองเหมือนกัน น้ำเสาวรสที่เรายกมาฝากวันนี้สูตรจาก
นิตยสารแม่บ้าน สูตรนี้กรองเอาแต่น้ำทำให้ดื่มคล่องคอ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ดื่มตอนเย็นจะสดชื่นมากเลยค่ะ
ส่วนผสม น้ำเสาวรส 
เนื้อเสาวรส 500 กรัม

น้ำเปล่า 500 กรัม

น้ำตาลทราย 200 กรัม

เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำน้ำเสาวรส 
1. ใส่เนื้อเสาวรสและน้ำเปล่าลงในโถปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด

2. เทส่วนผสมใส่ลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่นคนจนส่วนผสมเดือด ยกลงกรองผ่านกระชอน หรือผ้าขาวบาง นำเข้าตู้เย็นก่อนดื่ม

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
น้ำเสาวรส น้ำฟักข้าว น้ำหมากเม่า สูตรเครื่องดื่มจากผักผลไม้พื้นบ้าน
6. น้ำเต้าหู้ มาต่อกันที่สูตรเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอีกหนึ่งอย่างที่มีคนสนใจเป็นพิเศษ อย่างน้ำเต้าหู้ ซื้อกินก็ง่ายพออยู่แล้ว แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากลองทำเอง เพราะถ้าหากทำเองอร่อยแน่นอน ไม่ใส่สารกันบูดด้วย น้ำเต้าหู้ที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นสูตรจาก
คุณ RinS CookBook นอกจากใส่ถั่วเหลืองแล้วยังเพิ่มถั่วลิสงและอัลมอนด์ลงไปด้วย ทำให้มีความหอมมันมากขึ้น นั่นแน่อยากดื่มกันแล้วใช่ไหม แล้วจะมัวอะไรอยู่เล่าไปช้อปปิ้งส่วนผสมกัน
ส่วนผสม น้ำเต้าหู้ 
ถั่วเหลือง 16 ออนซ์ (453 กรัม)

ถั่วลิสง 1 ถ้วย

อัลมอนด์ 1 ถ้วย

น้ำเปล่า

น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลทรายขาว (สำหรับเพิ่มความหวาน)
วิธีทำน้ำเต้าหู้ 
1. ใส่ถั่วเหลือง ถั่วลิสง และอัลมอนด์ลงในอ่างผสมแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นแช่น้ำให้ท่วมทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง (หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้จนครบเวลาแล้ว ถั่วที่ได้จะพองขึ้นเป็น 3 เท่า)

2. ใส่ถั่วที่แช่น้ำแล้ว 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำเปล่า 6 ถ้วย (อัตราส่วน 1:3) แล้วปั่นประมาณ 1-2 นาทีจนส่วนผสมเนียนละเอียด

3. นำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วมากรองด้วยผ้าขาวบาง บีบเอาเฉพาะน้ำ ใส่หม้อ เตรียมไว้

4. นำน้ำถั่วเหลืองขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและมีฟอง (หมั่นคนผสมเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมไหม้) ปิดไฟ

5. ตักนมถั่วเหลืองที่ได้ใส่แก้ว เติมน้ำตาลทรายแดงลงไปตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน พร้อมดื่ม หรือพักไว้จนเย็น เทใส่ขวดเก็บไว้แช่ในตู้เย็นได้นาน 3 วัน

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
วิธีทำน้ำเต้าหู้ โฮมเมดสูตรเข้มข้นทำดื่มเองดีกว่าไม่เสียอารมณ์
7. น้ำผลไม้ทูโทน ปีที่แล้วต้องมีคนกลัวอ้วนเยอะแน่ ๆ กระแสการทำน้ำผลไม้จึงติดโผสูตรเครื่องดื่มแห่งปี 2558 กับเขาด้วย ดื่มน้ำผลไม้นอกจากดีต่อสุขภาพแล้วยังดับกระหายได้อีกนะคะ น้ำผลไม้ที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นน้ำผลไม้ทูโทนสูตรจาก
คุณสมาชิกหมายเลข 741400 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หน้าตาเก๋มี 2 เลเยอร์ คือ ด้านบนเป็นโซดา ด้านล่างเป็นน้ำผลไม้ อยากให้มาลองทำกันดูไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ
ส่วนผสม น้ำผลไม้ทูโทน 
น้ำผลไม้ (ให้เลือกน้ำผลไม้ที่มีสีสด ซึ่งอันนี้ขอเลือกเป็นน้ำผลไม้มาลี 100% รสเชอร์รี เพราะน้ำเข้มข้น และสีของน้ำเมื่อนำมาผสมแล้วจะออกมาสีสวย แถมหาซื้อง่ายด้วย)

น้ำแข็ง (คือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับดับร้อน จะก้อนเล็กก้อนใหญ่ได้หมด)

โซดา (ยี่ห้อไรก็ได้ขอให้มันซ่า !)

ช้อน (แต่ไม่ได้เอามาคนนะ เดี๋ยวจะมาเฉลยว่าเอาไว้ทำอะไร)

แก้วน้ำ

ใบสะระแหน่ (สำหรับแต่งแก้ว)

ผลไม้สด เช่น สตรอว์เบอร์รีและองุ่น (สำหรับแต่งแก้ว)
วิธีทำน้ำผลไม้ทูโทน 
1. เทน้ำเชอร์รีลงในแก้วที่เตรียมไว้ (แอบยากตรงที่เราจะต้องกะปริมาณให้พอดี เพราะถ้าเราใส่น้อยไปก็จะจืด หรือถ้าใส่มากไปก็จะออกมาไม่เป็นน้ำทูโทน)

2. หลังจากที่เราเทน้ำเชอร์รีใส่แก้วจนได้ปริมาณหนึ่งแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการใส่น้ำแข็งลงไป ขอแนะนำให้ใส่ลงไปในปริมาณที่พอเหมาะ

3. จะเป็นขั้นตอนของการเติมโซดาลงไป โดยขั้นตอนนี้จะยากนิดหนึ่ง ถ้าเทเร็วเกินไป น้ำผลไม้และโซดาจะผสมตัวกันไม่แยกตัวออกมาเป็น 2 เลเยอร์
เคล็ดลับ : ในขั้นตอนที่เรากำลังเทโซดาลงไป เราจะมีเคล็ดลับคือ ใช้ช้อนที่ตอนแรกบอกให้เตรียมมา โดยเราจะค่อย ๆ เทโซดาลงบนช้อนแล้วให้น้ำโซดาค่อย ๆ ไหลลงไปในแก้ว หลังจากนั้นเราก็จะได้น้ำสองสี

4. ต่อไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นขั้นตอนสวยงามนั่นก็คือการตกแต่งแก้ว โดยสิ่งที่เตรียมมาแต่งในครั้งนี้ก็จะมีใบมินต์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ใบสะระแหน่ มาทำให้น้ำทูโทนของเราน่ากินขึ้น

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
น้ำผลไม้ทูโทน เครื่องดื่มดับร้อนสีสดใส ไร้แอลกอฮอล์
8. ชาเย็น ชาชัก ทุกวันนี้เดินไปไหนก็เจอร้านขายชาเย็นเปิดกันตรึม จึงไม่แปลกใจที่เครื่องดื่มที่สุดแห่งปี 2558 จะมีชาเย็นติดโผด้วย ถ้าใครอยากชงเองก็ไม่มีปัญหาเพราะทำง่ายเว่อร์ ชาเย็นที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นสูตรจาก
คุณวนเวียนที่สีเทา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรเข้มข้นแบบชาชักสามารถทำเก็บไว้กินได้หรือไว้ทำขายก็ได้ มาพร้อมเทคนิคชักชาเพื่อให้กลิ่นและรสชาติชาออกมาดี
ส่วนผสม ชาเย็น 
ชาผงซีลอน 10 ช้อนชา (ในสูตรนี้ใช้ตราช้างทอง)

ชาผง 20 ช้อนชา (ในสูตรนี้ใช้ตรา 555)

ชาหอม 10 ช้อนชา (ในสูตรนี้ใช้ตราช้างทอง)

น้ำเปล่า 1,500 มิลลิลิตร

นมข้นหวาน 1+1/2 กระป๋อง (ในสูตรนี้ใช้ของ Falcon)

นมข้นจืด 20 ช้อนชา (ในสูตรนี้ใช้ของ Falcon)

ครีมเทียม 20 ช้อนชา

น้ำเชื่อม 25 ช้อนชา
วิธีทำชาเย็น 
1. ผสมชาทั้ง 3 อย่างคนผสมเข้าด้วยกัน ลักษณะผงชาที่ได้จะมีทั้งลักษณะที่เป็นผงละเอียดและเป็นก้านใบชาที่หยาบ ๆ

2. นำน้ำเปล่าไปต้มให้น้ำเดือด

3. นำผงชาที่เตรียมไว้เทใส่ถุงกรองชาแล้วเทน้ำร้อนผ่านถุงกรองชาที่มีผงชาอยู่ โดยวางถุงกรองชาไว้ในกระบอกสเตนเลส (ซึ่งมีไว้สำหรับการชงชา แต่ถ้าใครไม่มีกระบอกสเตนเลสหรือมือใหม่หัดชงก็ใช้พวกหม้อที่ใช้ตามบ้านแทนก็ได้นะเป็นการประยุกต์ไปอีกแบบ)
เทคนิคสำคัญคือ ให้เทชาสลับไปสลับมาประมาณ 12 รอบ ให้ผงชาในถุงกรองชุ่มฉ่ำ เวลาเทก็ต้องชักถุงชาขึ้นมา (ถือถุงชาให้สูงขึ้นเพื่อให้ผงชาได้สัมผัสกับอากาศด้วย กลิ่นชาและรสชาติชาจะออกมาได้ดี) 
4. เมื่อเทชาสลับไปสลับมาครบ 12 รอบแล้ว จึงแช่ชาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นยกถุงกรองชาออก บีบน้ำชาที่เกาะอยู่ในถุงกรองชา คั้นน้ำออกมาให้หมด

5. เติมครีมเทียมลงไปในน้ำชาที่พักไว้คนผสมให้เข้ากัน เติมนมข้นหวานและนมข้นจืดลงไปคนผสมให้เข้ากันดีชิมรสตามชอบ

6. วางตั้งพักไว้รอให้เย็นก่อนแล้วจึงเทใส่ขวด พร้อมเสิร์ฟหรือพร้อมเทขายแล้ว

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
สูตรชาเย็น ชาชัก พร้อมทำขาย ได้กำไรเห็น ๆ
9. ชาไข่มุก เครื่องดื่มทุกวันนี้อาจจำเจเกินไป แค่ชงแล้วดื่มเท่านั้น ถ้าดื่มร้อนก็ไม่ต้องใส่น้ำแข็ง ถ้าดื่มเย็นก็ใส่น้ำแข็งลงไป ถ้าอยากดื่มทั้งน้ำแข็งก็เอาไปปั่นเป็นสมูทตี้วนเวียนอยู่เท่านี้ ทำให้ชาไข่มุกเครื่องดื่มแปลกใหม่เข้ามาตีตลาดได้อย่างง่ายดาย เป็นอีกสูตรเครื่องดื่มที่สุดแห่งปี 2558 ชาไข่มุกที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นชานมไข่มุก เครื่องดื่มสุดคลาสสิก นอกจากจะได้ดื่มชานมแล้วยังได้เคี้ยวไข่มุกสนุก ๆ อีกด้วย อยากได้สักแก้วจัง

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
13 สูตรชาไข่มุก เมนูเด็ดที่ร้อนนี้ต้องลองสักแก้ว
10. บัตเตอร์เบียร์ กระแสความดังของภาพยนต์แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทำให้หลายคนดั้นด้นไปดื่มบัตเตอร์เบียร์ เครื่องดื่มสุดโปรดของพ่อมดแม่มดถึงยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ในประเทศญี่ปุ่น กันเป็นแถวจนกลายเป็นที่โด่งดังขึ้น และหลายคนก็อยากจะลองทำดื่มเอง ซึ่งสูตรบัตเตอร์เบียร์ที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นสูตรจาก
คุณ ReadOnlyMember สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ได้ดัดแปลงให้อร่อย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ มีส่วนผสม 3 อย่าง คือ น้ำเชื่อมกลิ่นคาราเมล โซดา และนมสด ลองทำดื่มสักแก้วแล้วจะติดใจ
ส่วนผสม บัตเตอร์เบียร์ 
น้ำเชื่อมคาราเมล

โซดา

นมสด (แช่เย็น ๆ แต่ไม่เอาแบบแช่แข็งนะคะ เอาไว้ใต้ช่องฟรีซก็ได้ค่ะ)
อุปกรณ์ 
แก้วสวย ๆ สักใบ (แนะนำให้ใช้แก้วเบียร์ ในที่นี้เราใช้แก้วบัตเตอร์เบียร์ที่ซื้อมานั่นแหละ)

แก้วน้ำธรรมดา (สำหรับไว้ตีฟองนม)

ช้อนสำหรับคน

เครื่องทำฟองนม (เราซื้อจากร้านไดโซะที่ญี่ปุ่นค่ะ แต่ที่ไดโซะไทยก็น่าจะมีขายในราคา 60 บาท)
วิธีทำบัตเตอร์เบียร์ 
1. เทน้ำเชื่อมกลิ่นคาราเมลใส่แก้วสวย ๆ ค่ะ (ชอบมากใส่มาก ชอบน้อยใส่น้อยค่ะขึ้นอยู่กับขนาดแก้วที่ใช้)

2. เทโซดาตามลงไปค่ะ (เราใช้วิธีเติมโซดาทีละน้อยแล้วคน ๆ และชิมเอาค่ะ เลือกความหวานตามที่ตัวเองชอบเลยค่ะ)

3. ใช้ช้อนคนผสมให้เข้ากัน (เท่านี้เราก็จะได้ในส่วนที่เป็นเครื่องดื่มแล้วค่ะ)

4. เทนมสดใส่แก้ว ไม่ต้องเยอะมากค่ะ เดี๋ยวพอเป็นฟองแล้วจะเยอะขึ้นมาเอง

5. ตีแล้วจะได้เป็นฟองแบบนี้ค่ะ วิธีตีก็ง่ายมากวางแก้วไว้บนโต๊ะ ใส่ถ่านเครื่องทำฟองนมจิ้มลงไปแล้วกดสวิตช์ขยับขึ้นลงนิดหน่อยก็ได้ฟองนมแล้วค่ะ

6. ตักฟองนมโปะลงไปบนหน้าส่วนเครื่องดื่มที่เราเตรียมไว้ค่ะ เสร็จแล้วค่ะ บัตเตอร์เบียร์ง่ายมาก

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่
บัตเตอร์เบียร์ สูตรมักเกิล เครื่องดื่มจากโลกเวทมนตร์ที่คุณทำได้ เข้ามาอ่าน 10 สูตรเครื่องดื่มที่สุดแห่งปี 2558 แล้วเจอเครื่องดื่มที่ยังไม่เคยลองอีกเพียบเลยค่ะ ที่สำคัญแปะสูตรมาให้ด้วยแบบนี้ก็สบายเลยล่ะ นี่ก็ยังไม่ทันข้ามปีลงมือทำก็ยังไม่สายเนอะ