ผลไม้ลอยแก้ว สูตรขนมไทยดับร้อนเย็นฉ่ำทำง่ายกว่าที่คิด เป็นเมนูคลายร้อนที่เหมาะทำกินทั้งครอบครัว ฟินสุด ๆ ไปเลย
เมนูลอยแก้ว หรือผลไม้ลอยแก้ว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหน้าร้อนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเมนูลูกตาลลอยแก้ว เมนูสละลอยแก้ว หรือเมนูกระท้อนลอยแก้ว พูดไปก็น้ำลายสอเนอะ ถ้าขี้เกียจออกไปหาแผงขายผลไม้ลอยแก้ว หรือร้านผลไม้ลอยแก้ว ก็ทำเองได้เลยค่ะคุณขา กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 8 สูตรผลไม้ลอยแก้ว แต่ละเมนูเด็ดทั้งนั้น จับราดน้ำเชื่อมเข้มข้น ใส่น้ำแข็งเกล็ด เสิร์ฟแบบเย็น ๆ ชื่นใจทุกวัยนักแล
1. ลูกตาลลอยแก้ว
เป็นเหมือนกันไหมคะ ? เวลาเห็นลูกตาลสดเป็นถุง ๆ เมื่อไรต้องซื้อมาตลอด แต่ดันงกซื้อมาเยอะ กลัวกินไม่ทันเราเลยจับมาทำลูกตาลลอยแก้วเสียเลย ใครสนใจขอแนะนำสูตรจากคุณนัทจัง สบายดี สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อลูกตาลหั่นชิ้นกับน้ำเชื่อมหอมกลิ่นใบเตย ก่อนเสิร์ฟใส่น้ำแข็งเกล็ดลงไป มาพร้อมเคล็ดลับการแกะเปลือกลูกตาล อยากรู้เตรียมจดสูตรเลยจ้า
เคล็ดลับการแกะเปลือกลูกตาลอย่างง่าย
2. นำลูกตาลที่แช่แข็งแล้วออกจากถุง ใส่กะละมังหรือภาชนะแล้วเติมน้ำสะอาดลงไป
3. รอสักพักแล้วค่อย ๆ เอามือรูดเปลือกลูกตาลออก จะเห็นได้ว่ามันง่ายดายมาก เมื่อปอกเสร็จแล้วจะได้ลูกตาลที่ผิวเนียนสุด ๆ
4. จากนั้นนำลูกตาลมาหั่น ในขั้นตอนนี้จะเห็นว่า น้ำที่อยู่ข้างในลูกตาลยังเป็นเกล็ดน้ำแข็งอยู่ ให้นำก้อนน้ำลูกตาลแยกเก็บเอาไว้ใส่เป็นส่วนผสมด้วย (เพราะจะทำให้ลูกตาลลอยแก้วอร่อยมากขึ้นค่ะ)
5. นำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามแนวยาว เตรียมไว้
ส่วนผสม ลูกตาลลอยแก้ว
• ลูกตาลสด 1 ถุง (หั่นเป็นแนวยาว)
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• น้ำสะอาด 3 ถ้วย
• ใบเตย 5 ใบ
วิธีทำลูกตาลลอยแก้ว
2. ใส่ลูกตาลที่หั่นไว้ลงไป รอให้เดือดอีกครั้ง สักพักปิดไฟ ตักใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ หรือนำไปแช่ตู้เย็นก่อนเสิร์ฟจะอร่อยมากขึ้น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำลูกตาลลอยแก้ว วิธีทำบวด ลูกตาล ขนมไทยคลายร้อนแบบง่าย ๆ
++++++++++++++++++
2. กระท้อนลอยแก้ว
กระท้อนลอยแก้วทั่วไปก็ว่าอร่อยแล้ว แต่พอมาเจอกระท้อนลอยแก้วสูตรน้ำมะตูมนี่ฟินกว่า หอม ๆ ใช้ผงมะตูมแสนง่ายเนอะ หรือเพื่อน ๆ จะดัดแปลงเป็นผงตะไคร้ หรือผงเครื่องดื่มสมุนไพรอื่น ๆ ตามชอบก็ได้นะคะ กลายเป็นกระท้อนลอยแก้วฟิวชั่น มีกินที่บ้านคุณที่เดียวเท่านั้น ทำเองภูมิใจเอง แต่รสชาติไม่ขี้เหร่นะคะขอบอก
ส่วนผสม กระท้อนลอยแก้ว
• กระท้อน 3 ลูก
• น้ำตาลทราย 250 กรัม
• มะตูมชนิดผง 250 กรัม (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• น้ำเปล่า 750 มิลลิลิตร
• เกลือสมุทร
• น้ำผสมเกลือ (สำหรับแช่กระท้อนไม่ให้ดำ)
วิธีทำ กระท้อนลอยแก้ว
1. ปอกเปลือกกระท้อนแล้วคว้านเอาเมล็ดออกให้เหลือแต่เนื้อ หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำลงแช่ในน้ำเกลือ เตรียมไว้
2. เติมน้ำเปล่า น้ำตาลทราย มะตูมผง และเกลือ ลงในหม้อ ต้มจนเดือด ใส่เนื้อกระท้อนลงต้มประมาณ 10 วินาที ตักขึ้นใส่ชาม เติมน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ หรือเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิดมิดชิดแล้วนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้กินในครั้งต่อไป
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กระท้อนลอยแก้ว สูตรน้ำมะตูม หวานเย็นชื่นใจคลายร้อน
++++++++++++++++
3. ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว
ส่วนใหญ่เราคุ้นเคยกับเครื่องดื่มน้ำว่านหางจระเข้ใช่ไหมคะ ลองเปลี่ยนแนวมาทำเมนูผลไม้ลอยแก้วบ้างดีกว่า ขอแนะนำว่านหางจระเข้ลอยแก้วสูตรจากนิตยสาร แม่บ้าน สูตรนี้ใส่น้ำดอกอัญชัน หรือถ้าชอบแบบคลาสสิกก็ใส่แค่ใบเตยก็ได้ค่ะ ขอตัวไปแอบเด็ดว่านหางจระเข้เพื่อนบ้านก่อนนะคะ
ส่วนผสม ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว
• ว่านหางจระเข้ (กาบใหญ่ ๆ) 1-2 กาบ
• น้ำเปล่า
• แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วยตวง
• น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
• ใบเตยหอม (บิดให้แตกแล้วหั่นเป็นท่อน) 3 ใบ
• น้ำดอกอัญชันคั้นเข้มข้น 2-3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำเชื่อม)
• น้ำแข็งบด
วิธีทำว่านหางจระเข้ลอยแก้ว
1. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ ล้างให้หมดยาง หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เตรียมไว้
2. ต้มน้ำเปล่าพอเดือด ใส่ว่านหางจระเข้ลงลวก ตักใส่ตะแกรง พักให้สะเด็ดน้ำ
3. ใส่ว่านหางจระเข้ลงในแป้งมันสำปะหลัง คลุกให้ทั่ว ใส่ตะแกรงเขย่าแป้งส่วนเกินออก ใส่ลงต้มในน้ำเดือด พอสุกแป้งจะลอยขึ้นมา ตักใส่น้ำเปล่าให้คลายความร้อน
4. ทำน้ำเชื่อมโดยนำน้ำตาลทรายใส่หม้อ เติมน้ำเปล่าคนให้ละลาย ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือดใส่ใบเตย เบาไฟเคี่ยวจนน้ำเชื่อมข้นเล็กน้อย ตักใบเตยขึ้น ใส่น้ำดอกอัญชัน เร่งไฟให้แรงพอเดือด ยกลงพักไว้ให้เย็น
5. ตักว่านหางจระเข้ใส่ถ้วย ราดน้ำเชื่อม ใส่น้ำแข็งด้านบน จัดเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ว่านหางจระเข้ลอยแก้ว ขนมหวาน เย็นชื่นใจ สไตล์ใหม่น่าลอง
+++++++++++++++++++
4. มะยงชิดลอยแก้ว
มะยงชิด รสชาติหวานอมเปรี้ยวกินสดก็อร่อย แต่ถ้าหากเอามาทำผลไม้ลอยแก้วก็เก๋เลย ขอแนะนำมะยงชิดลอยแก้วสูตรจากเฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน เนื้อมะยงชิดชิ้นโตผสมผสานกับน้ำเชื่อมหวาน ๆ จับแช่เย็น หรือใส่เกล็ดน้ำแข็งก็แล้วแต่เลยจ้า
ส่วนผสม มะยงชิดลอยแก้ว
• มะยงชิด
• น้ำเปล่า
• น้ำตาลทราย
• ใบเตย
วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว
1. ทำน้ำเชื่อมโดยเทน้ำเปล่าใส่หม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นำขึ้นตั้งไฟ แล้วใส่ใบเตยลงไป เคี่ยวจนเริ่มเหนียวแล้วเอาใบเตยออก ปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็น (น้ำเชื่อมต้องเย็นนะคะ ไม่อย่างนั้นมะยงชิดจะสุกค่ะ)
2. ปอกเปลือกมะยงชิดออกจนหมดแล้วคว้านเอาเม็ดออก ใส่ภาชนะ เทน้ำเชื่อมที่เย็นแล้วตามลงไป ปิดฝาให้มิดชิด นำไปแช่ตู้เย็นก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะยงชิดลอยแก้ว ขนมดับร้อนฉ่ำ ๆ ถ้วยเดียวไม่น่าพอ
++++++++++++++++++
5. เงาะลอยแก้ว
ส่วนผสม เงาะลอยแก้ว
• เงาะ (ปอกเปลือก)
• น้ำเปล่า 300 กรัม
• น้ำตาลทราย 300 กรัม
วิธีทำเงาะลอยแก้ว
1. นำเงาะมาคว้านเม็ดออก หรือหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ นำไปล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย
3. ใส่เนื้อเงาะลงไปรอให้น้ำเชื่อมเดือดอีกครั้ง ปิดไฟแล้วพักไว้จนเย็น ก่อนเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็ง
++++++++++++++++++
6. สละลอยแก้ว
ส่วนผสม สละลอยแก้ว
• สละ 500 กรัม
• น้ำตาลทราย 300 กรัม
• น้ำเปล่า 300 กรัม
• น้ำเปล่าผสมเกลือ (สำหรับแช่สละ)
• เกลือป่น ปลายช้อนชา
วิธีทำสละลอยแก้ว
1. ปอกเปลือกสละออก แล้วใช้มีดคว้านเม็ดออก เอาเฉพาะเนื้อแล้วนำไปแช่ในน้ำเกลือเตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย
3. นำสละ (สะเด็ดน้ำเกลือแล้ว) ใส่ลงในหม้อน้ำเชื่อม ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย (พอให้มีรสเค็มเล็กน้อย) รอจนน้ำเชื่อมเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
4. ตักสละลอยแก้วใส่ลงในถ้วย ใส่น้ำแข็งลงไป พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
7. ลำไยลอยแก้ว
โถชีวิตน่าสงสารซื้อลำไยมาไม่มีคนช่วยแกะป้อนเข้าปาก ไม่เห็นจะต้องแคร์แกะเองกินเองก็ได้เนอะ แต่ถ้าซื้อมาปริมาณเยอะก็แบ่งเอามาทำลำไยลอยแก้วสักหม้อ ถ้ากินไม่หมดก็จับแช่เย็นกินวันหลังก็ได้
ส่วนผสม ลำไยลอยแก้ว
• เนื้อลำไย
• เม็ดแปะก๊วย (ต้มสุก)
• น้ำตาลทราย 1 ส่วน
• น้ำเปล่า 1 ส่วน
วิธีทำลำไยลอยแก้ว
1. ปอกเปลือกลำไยออกแล้วใช้มีดคว้านเม็ดออก เอาเฉพาะเนื้อแล้วนำไปล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำเตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแรงจนเดือด จากนั้นลดเป็นไฟอ่อนแล้วใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย
3. นำเนื้อลำไยและเม็ดแปะก๊วยต้มสุกใส่ลงในหม้อน้ำเชื่อม รอจนน้ำเชื่อมเดือดอีกครั้ง ปิดไฟ พักไว้จนเย็น
4. ตักลำไยลอยแก้วใส่ลงในถ้วยใส่น้ำแข็งลงไป พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++
8. มะกรูดลอยแก้ว
ใครจะไปเชื่อว่ามะกรูดจะสามารถนำมาทำขนมหวานได้ด้วย ขอเชิญมาชิมมะกรูดลอยแก้วสูตรจากร้านศรีสุนีย์โภชนา ที่นำเสนอผ่านรายการครัวคุณต๋อย จาก BornTvOfficial สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม แค่เห็นภาพก็น่าหม่ำขนาดนี้ ถ้าได้กินจริง ๆ คงปลื้มน่าดู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไปหาซื้อมะกรูดก่อนนะคะ
ส่วนผสม มะกรูดลอยแก้ว
• มะกรูดอ่อน (เลือกที่มีจุกและเปลือกขรุขระ)
• เกลือสมุทร
• น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
• น้ำเปล่า 1 กิโลกรัม
วิธีทำมะกรูดลอยแก้ว
1. นำมะกรูดมาปอกผิวออกให้หมด จากนั้นผ่าครึ่งมะกรูดตามแนวขวาง นำไส้ออกให้เหลือแต่เนื้อขาว ๆ เตรียมไว้
2. ใส่เกลือและน้ำเปล่าลงไปขยำกับมะกรูด บีบน้ำออกแล้วใส่น้ำลงไปขยำอีกครั้ง นับเป็น 1 ครั้ง ทำแบบเดิมจนครบ 5 ครั้ง จากนั้นบีบน้ำออกจนแห้ง
3. นำมะกรูดมาแช่ในน้ำเกลือทิ้งไว้อีก 1 คืน จะได้เนื้อมะกรูดที่ฟูขึ้น
4. นำมะกรูดมาขยำกับน้ำอีก 3 ครั้ง บีบน้ำออกจนแห้ง เตรียมไว้
5. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่าลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟปานกลางจนเป็นน้ำเชื่อม จากนั้นใส่มะกรูดลงไปเชื่อมและหมั่นคนตลอดเวลา เชื่อมประมาณ 1 ชั่วโมง จนเนื้อมะกรูดใส ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนเย็น ตักใส่ถ้วย ใส่น้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ มะกรูดลอยแก้ว ขนมหวานไทยแท้ แบบนี้ก็มีด้วย
จบไปแล้วสำหรับ 8 เมนูผลไม้ลอยแก้ว นอกจากจับผลไม้มากินสดแล้วก็ยังจับมาทำขนมหวานเย็นได้อีกด้วย แหม… อร่อย 2 เด้งขนาดนี้ เกิดมาทั้งทีต้องลองหน่อยแล้ว