วันว่าง ๆ ยากได้ชาสักแก้วต้องจัดเลย ! หลากสูตร หลายสไตล์ ชงร้อน ๆ หรือดื่มเย็น ๆ ก็ผ่อนคลายได้ดีทีเดียว
ในแต่ละวันมีเรื่องดราม่าจนเครียดไปหมด หากไม่อยากหนักสมองจนเกินไป มาพักผ่อนหย่อนใจด้วยการทำชาดี ๆ ไว้จิบเบา ๆ สักแก้วสองแก้วให้จิตใจเย็นลงกันดีกว่า มาจดสูตรไว้ชงดื่มยามว่าง หรือจะเป็นสูตรชาเพื่อสุขภาพก็มีหลายสูตรเช่นกัน ตามมาเลย
1. น้ำชาเอิร์ลเกรย์น้ำผึ้งมะนาว
จากน้ำผึ้งมะนาวสุดคลาสสิกขอเพิ่มความหอมละมุนด้วยชาเอิร์ลเกรย์รสชาตินุ่มนวล มีรสหวานอมเปรี้ยว ดื่มเพื่อสุขภาพก็ดี๊ดี ยิ่งถ้าได้จิบไปพร้อมกับคุกกี้ชาเอิร์ลเกรย์ก็คงฟินไม่น้อย สูตรจาก คุณ Rita_Bunny สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม น้ำชาเอิร์ลเกรย์น้ำผึ้งมะนาว
• ชาเอิร์ลเกรย์ 1 ซอง
• น้ำเปล่า 350 กรัม
• น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ
• มะนาว 2-3 ซีก (ตามชอบ)
วิธีทำน้ำชาเอิร์ลเกรย์น้ำผึ้งมะนาว
1. นำน้ำเปล่าเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรง 800 วัตต์ ประมาณ 5 นาที
2. ใส่ซองชาลงไปเขย่า ๆ ในน้ำร้อน ความเข้มข้นตามชอบ
3. ใส่น้ำตาลทราย เติมน้ำผึ้ง บีบน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน
4. เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง พร้อมเสิร์ฟ หรือจิบร้อน ๆ ก็อร่อยไปอีกแบบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชาเอิร์ลเกรย์น้ำผึ้งมะนาว เครื่องดื่มสุขภาพพร้อมรับอากาศเปลี่ยน
++++++++++++++++++++
2. น้ำชาเย็น ชาไทย
ชาไทย หรือชาเย็นสีส้มอ่อน ๆ เมนูเครื่องดื่มสไตล์ไทยขึ้นชื่อเรื่องรสชาติเข้มข้นหวานมัน กลิ่นชาหอมรัญจวนใจ ดื่มดับกระหาย ชงสดง่าย ๆ อร่อยเต็มอึก ต้องลองชงเองสักหน่อยแล้ว สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#rinscookbook)
ส่วนผสม น้ำชาเย็น
• ผงชาไทย 5 ช้อนโต๊ะ
• น้ำต้มเดือด 2 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
• นมข้นจืด (หรือ half & half ครีม) สำหรับราดหน้า
• น้ำแข็ง
• ถุงกรองชา
• เหยือกสูงทนความร้อน
วิธีชงน้ำชาเย็น
• ใส่ผงชาไทยลงในถุงกรองชาที่รองด้วยเหยือกสูงทนความร้อน จากนั้นเทน้ำร้อนใส่ลงไปจนท่วมใบชา เขย่าถุงกรองชาไปมาเพื่อให้ใบชาโดนน้ำจนทั่วแล้วพักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
• ใส่น้ำตาลทรายและนมข้นหวานลงในแก้วผสม เตรียมไว้
• พอครบ 15 นาที ขยับถุงชาเล็กน้อย จากนั้นยกขึ้นแล้วเทน้ำชาไทยที่กรองแล้วในน้ำตาลทรายคนให้เข้ากันจนละลาย พักทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีเพื่อให้เย็นลง
• ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทชาไทยลงไปประมาณ 3/4 ส่วน
• ราดนมข้นจืดลงไป พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชาเย็น สูตรชาไทยแท้รสเข้มหวานมัน ชงสด ๆ อร่อยเต็มอึก
++++++++++++++++++++
3. น้ำชานมบอนไซ
ชานมบอนไซคืออะไร ไม่ต้องตกใจไป แก้วนี้ดื่มได้จริง ๆ แถมอร่อยด้วย เพียงแค่เนรมิตชานมที่เราเคยดื่มด้วยการตกแต่งให้คลายกับต้นบอนไซเท่านั้นเอง สูตรจาก คุณ Rin\'s Cookbook (#rinscookbook)
ส่วนผสม น้ำชานม
• ชาดำแบบซองพร้อมชง 2 ซอง (หรือชาชนิดอื่นตามชอบ)
• น้ำเดือด 10 ออนซ์
• น้ำตาลทรายแดง 2-3
• ครีมเทียม (ไร้ไขมันนม) 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำแข็ง
• วิปปิ้งครีม
• โอรีโอ้บดละเอียด 4-5 ชิ้น
• เกลือสมุทร (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• ใบสะระแหน่ (ตกแต่ง)
หมายเหตุ : อุณหภูมิของน้ำร้อนในการนำมาชงชาแต่ละชนิดจะใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกันต้องทำการศึกษาให้เข้าใจ ถ้าน้ำร้อนหรือเดือดเกินไปจะทำให้ออกซิเจนที่อยู่ในน้ำระเหยออกไป จะทำให้กลิ่นและรสชาติของชาเปลี่ยนไป ซึ่งชาดำจะใช้น้ำร้อนที่อุณหภูมิ 208-212 องศาฟาเรนไฮท์
วิธีชงน้ำชานม
1. ชงชาดำโดยใส่น้ำร้อนลงในแก้วหรือภาชนะทนความร้อน ใส่ถุงชาดำลงไป แช่ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที (อย่าแช่นานจะทำให้ขม) พอครบเวลาให้นำถุงชาทิ้งไป
2. ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป (เทน้ำตาลทรายแดงจะมีกลิ่นจะหอมกว่าน้ำตาลทรายขาว) คนผสมให้เข้ากัน พักไว้
3. ใส่น้ำแข็งลงในขวดเชคเกอร์ ตามด้วยครีมเทียม เทน้ำชาที่ชงไว้ลงไป ปิดฝาแล้วเขย่าให้ส่วนผสมเข้ากันและเชคเกอร์เย็น (เพื่อให้ทำให้ส่วนผสมนุ่มลิ้น)
4. ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทส่วนผสมชาลงไปประมาณ 3/4 แก้ว บีบวิปปิ้งครีมลงไป ตามด้วยโอรีโอ้บดละเอียด สุดท้ายแต่งด้วยยอดสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชานมบอนไซ
++++++++++++++++++++
4. น้ำชาเขียวนมสด
เวลาไปร้านกาแฟถ้าใครที่ไม่ชอบดื่มกาแฟก็คงต้องหันมาพึ่งชาเขียวนมสด แต่แก้วหนึ่งแพงเนอะ ลองมาทำดื่มกันเองดูบ้าง รับรองความอร่อยไม่แพ้ร้านกาแฟเลยล่ะ
ส่วนผสม ชาเขียวนมสด
• ผงชาเขียวมัชชะ 2 ช้อนชา
• น้ำร้อน 1 ช้อนโต๊ะ
• นมสด 160 มิลลิลิตร
• น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
• นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำแข็ง 1 แก้ว
• นมสด (โรยหน้า)
วิธีทำชาเขียวนมสด
• ละลายชาเขียวกับน้ำร้อน จากนั้นเติมนมสด น้ำเชื่อม และนมข้นหวานลงคนผสมให้เข้ากัน (หรือใส่ในเชคเกอร์)
• เทใส่ลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งเตรียมไว้ โรยด้านบนด้วยนมสด พร้อมดื่ม
++++++++++++++++++++
5. น้ำชาไข่มุก
ชาไข่มุกดูดดื่มแล้วลื่นปรื้ดลงคอแบบนี้สิถึงจะฟิน ไม่ใช่ว่าจะซื้อดื่มได้เพียงอย่างเดียวนะคะ เตรียมของให้พร้อมแล้วลองทำเองก็ได้เลย เรามีสูตรมาฝากเพียบ ชอบชารสชาติไหนก็จัดไป พ่วงมาด้วยวิธีต้มไข่มุกให้เหนียวเคี้ยวหนึบอีกด้วย ดี๊ดี !
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 13 สูตรชาไข่มุก เมนูเด็ดที่ร้อนนี้ต้องลองสักแก้ว
++++++++++++++++++++
6. น้ำชาเขียวมะนาว
น้ำชาเขียวที่หลายคนนิยมดื่มฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง แต่สูตรนี้ขอเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นไปอีกกับน้ำชาเขียวผสมมะนาว เปรี้ยวหวานกลมกล่อมหอมกลิ่นชาเขียวให้ได้ทำดื่มกันเพื่อเรียกความสดชื่นให้ร่างกายยามเหนื่อยล้าดีจริง ๆ
ส่วนผสม ชาเขียวมะนาว
• ผงชาเขียวสำหรับชงดื่ม 2 ช้อนชา
• น้ำร้อนจัด 500 มิลลิลิตร
• น้ำเชื่อม (ตามชอบ)
• น้ำมะนาว (ตามชอบ)
• เลมอนเหลืองฝานแว่น (ตกแต่ง)
• น้ำแข็ง 1 แก้ว
วิธีทำชาเขียวมะนาว
1. ผสมชาเขียวกับน้ำร้อนจัด พักทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาที จนน้ำเปลี่ยนสี กรองเอากากออก เตรียมไว้
2. ใส่น้ำชาเขียวลงในแก้ว ตามด้วยน้ำเชื่อม และน้ำมะนาว คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งตามด้วยเลมอน พร้อมดื่ม
++++++++++++++++++++
7. น้ำชาผลไม้อบแห้ง
ใครที่เบื่อกับการจิบชาแบบเดิม ๆ กลิ่นเดิม ๆ มาดูทางเลือกใหม่ ๆ กับชาผลไม้อบแห้ง จับผลไม้อบแห้งที่เคยไว้กินเล่นเคล้ากับการจิบน้ำชาอยู่แล้ว มาทำเป็นน้ำชาเสียเลย ได้รสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ แบบธรรมชาติจากรสชาติในตัวของผลไม้อบแห้งอีกด้วย
ส่วนผสม ชาผลไม้อบแห้ง
• ผลไม้อบแห้งตามชอบ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• น้ำร้อน
• อบเชยแท่ง (ถ้ามี)
วิธีชงชาผลไม้อบแห้ง
1. ใส่ผลไม้อบแห้งลงในน้ำร้อน พักทิ้งไว้จนน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น
2. เทใส่แก้ว ใส่อบเชย พร้อมดื่ม เสิร์ฟได้ทั้งแบบร้อนและเย็น
++++++++++++++++++++
8. น้ำชาข่า
อาการแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นกรดไหลย้อนจะหมดไปด้วยชาข่า เครื่องดื่มสมุนไพรในครัวไทยช่วยขับลมออกจากลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดีทีเดียว แถมส่วนผสม และวิธีชงดื่มง่ายมากอีกด้วย
ส่วนผสม ชาข่า
• ข่าแก่ หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ 1 เหง้า
• น้ำร้อนจัด
• น้ำตาลทรายแดง (ตามชอบ)
• น้ำมะนาว (ตามชอบ)
วิธีทำชาข่า
1. นำข่าแก่ที่หั่นไว้ไปตากแดดให้แห้ง 2-3 วัน จนแห้งสนิท เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด
2. ใส่ข่าแก่ที่ตากแห้งลงในแก้วประมาณ 4-5 ชิ้น ตามด้วยเทน้ำร้อนลงในแก้ว รอจนน้ำปลี่ยนสี จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน (หากต้องการรสชาติที่ดีขึ้นให้ใส่น้ำมะนาว) พร้อมดื่ม
++++++++++++++++++++
9. น้ำชากระเจี๊ยบแดง
กระเจี๊ยบแดง อีกหนึ่งสมุนไพรที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่ม ช่วยขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน ดับกระหาย แต่หลายคนอาจจะเคยกินแต่น้ำกระเจี๊ยบแบบเย็น ๆ ลองมาชงเป็นชาร้อนดู รับร้องชุ่มคอสุด ๆ
ส่วนผสม ชากระเจี๊ยบ
• ดอกกระเจี๊ยบแดงตากแห้ง
• มะนาว หรือเลมอนฝานเป็นชิ้น ๆ
• น้ำตาลทราย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ตามชอบ)
วิธีชงชากระเจี๊ยบ
• สับดอกกระเจี๊ยบแดงเป็นชิ้นเล็ก ๆ คั่วในกระทะจนแห้งกรอบ เตรียมไว้
• ใส่กระเจี๊ยบลงในแก้ว เทน้ำร้อนใส่ลงไป ชงดื่มเป็นชา (หรือนำไปใส่ในกาสำหรับชงชา) แช่ทิ้งไว้สักครู่
• บีบน้ำมะนาว หรือฝานชิ้นเลมอนลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติ หากต้องการความหวานก็เติมน้ำตาลทรายลงไปตามความชอบ
++++++++++++++++++++
10 น้ำชามะนาวน้ำขิง
ชามะนาวก็เป็นอีกหนึ่งแก้วที่หลายคนเลือก แต่วันนี้กขอเพิ่มคุณประโยชน์ให้ล้นแก้วขึ้นไปอีกกับการเติมรสชาติเผ็ดร้อนด้วย น้ำขิง ที่มีฤทธิ์ช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้หวัด และแก้ไอได้ดีอีกด้วย ว่าแล้วก็ลงมือทำกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนผสม ชามะนาวน้ำขิง
• ผงชาไทย 20 กรัม
• น้ำเดือด 500 มิลลิลิตร
• ขิงผงสำเร็จรูปสำหรับชงดื่ม 4 ซอง
• น้ำตาลทราย 50 กรัม
• มะนาวเหลือง (เลมอน)
• ขิงหั่นเป็นแว่นบาง
วิธีทำชามะนาวน้ำขิง
• 1. เทผงชาไทย Thai Tea ลงในถุงชงชา เติมน้ำเดือดรอจนได้น้ำชาเข้มข้น กรองเอากากออก เตรียมไว้
• 2. เติมขิงผงสำเร็จรูป และนำตาลทรายลงในน้ำชาไทย คนผสมให้ละลายเข้ากัน
• 3. ใส่ชิ้นมะนาวเหลือง และขิงหั่นแว่นลงในแก้ว เทชาดำเย็นน้ำขิงลงไป ดื่มขณะร้อน ๆ
• 4. หากต้องการดื่มแบบเย็นให้ใส่น้ำแข็ง และชิ้นมะนาวลงในแก้ว เทชาดำเย็นน้ำขิงลงไป พร้อมดื่ม
เอาล่ะ ! ได้เวลาพักสายตามาหาอะไรดื่มกันหน่อยเนอะ จะได้มีค่าสายตาที่ชัดแจ๋วไว้เตรียมกินเผือกกันต่อ ส่วนใครไม่สนใจกระแสดราม่าข่าวดาราก็จดสูตรไว้ชงดื่มเพื่อสุขภาพกัน