เรื่องผัด ๆ ทอด ๆ ขอบายเพราะกลัวน้ำมันกระเด็น แต่เรื่องต้มนี่ขอให้บอก ชวนทำต้มส้ม ต้มหวาน สูตรอาหารไทย เสิร์ฟความอร่อยสองสไตล์ บอกเลยว่ากินกับข้าวสวยอร่อยสุดพลัง
นานมาแล้วที่ไม่ได้กินเมนูต้มส้ม กับเมนูต้มหวาน เพราะหากินยากมาก ๆ นั่นเอง แต่ช่างปะไร ขอลองทำเองสักครั้งดีกว่า กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำต้มส้ม ต้มหวาน เช่น ต้มส้มปลาทู ต้มส้มปลากระบอก ปลาทูต้มหวาน ปลาหมึกต้มหวาน เป็นต้น แหม… ท้องร้องหิวแล้ว ขอตัวเข้าครัวก่อนนะคะ
1. ต้มส้มปลา ใส่ส้มโหนด
เกิดมาอยากลองทำต้มส้มปลาสไตล์ปักษ์ใต้สักครั้งเนอะ เอาล่ะ… นี่เลยขอนำเสนอเมนูต้มส้มปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้มีรสเปรี้ยวจากน้ำส้มโหนด ใส่พริกสดตามชอบ เติมน้ำตาลปี๊บเพิ่มความหวานหน่อยก็ได้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขมิ้นจ้า
ส่วนผสม ต้มส้มปลา
• ปลา (ตามชอบ)
• น้ำส้มโหนด
• หอมแดงบุบ
• กระเทียมบุบ
• ตะไคร้หั่นท่อน
• ขมิ้นสดปอกเปลือกหั่นท่อน
• พริกสดบุบ
• เกลือหรือน้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลา
1. เอาน้ำส้มโหนดผสมน้ำ แล้วนำไปเคี่ยวจนได้ความหอม
2. ใส่ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม และขมิ้นจนสีขมิ้นออกจาง ๆ แล้วจึงใส่ปลา ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา ก่อนบุบพริกสดลงตามความชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มปลา ใส่น้ำส้มโหนดเปรี้ยวหอมสมุนไพรตำรับปักษ์ใต้
2. ปลาทูต้มส้ม
ใครมีปลาทูสด ๆ จับมาทำเมนูต้มส้มกันสักหม้อ พบกับปลาทูต้มส้ม สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ใส่เครื่องสมุนไพร กะปิ น้ำมะขามเปียก และขิงซอย แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าสวยงาม
ต้มส้มปลาทู 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 130 กิโลแคลอรี
ส่วนผสม ต้มส้มปลาทู
• ปลาทูสด
• พริกไทยดำเม็ด
• ตะไคร้ซอย
• หอมแดงซอย
• รากผักชี
• กะปิ
• เกลือ
• น้ำเปล่า
• ขิงซอย
• ต้นหอม
• ผักชี
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำมะขามเปียก
• พริกชี้ฟ้าหั่น (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำต้มส้มปลาทู
1. โขลกพริกไทยดำ ตะไคร้ หอมแดง รากผักชี กะปิ และเกลือให้แหลกพอประมาณ
2. ต้มน้ำในหม้อให้เดือด แล้วใส่เครื่องต้มส้มที่โขลกไว้ลงไป คนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ (ชิมรสให้เปรี้ยวนำ หวานกับเค็มตาม ควรให้รสจัด)
3.เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ปลาทูสดลงไปทีละชิ้น เมื่อปลาสุกแล้วก็ใส่ขิงซอย ต้นหอม พริกชี้ฟ้า และผักชี ปิดไฟ ตักใส่ชาม เสิร์ฟได้ทันที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูปลาทู เนรมิตเมนูปลาอร่อยแบบไทย ๆ
3. ต้มส้มปลากระบอก
และแล้วก็มาถึงเมนูต้มส้มที่รอคอยนั่นคือ ต้มส้มปลากระบอก สูตรจาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ สูตรนี้ใส่เครื่องโขลกที่มีพริกไทย หอมแดง และกะปิ เติมรสเปรี้ยวจากมะขามเปียก และใส่น้ำตาลปี๊บลงไปหน่อย เติมน้ำปลาอีกนิด สุดท้ายใส่ขิงซอย
ส่วนผสม ต้มส้มปลากระบอก
• ปลากระบอก (หั่น 2 ท่อน)
• ขิงซอย (ใช้ขิงอ่อนหรือขิงแก่ก็ได้ ถ้าเป็นขิงแก่จะช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้มากกว่าขิงอ่อน และมีรสเผ็ดกว่า)
• กะปิ
• พริกไทยเม็ด
• หอมแดง
• ต้นหอมหั่นท่อน
• มะขามเปียก
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลากระบอก
1. ล้างทำความสะอาดปลา ควักเหงือกและไส้ทิ้งไป พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. โขลกพริกไทยให้ละเอียด ใส่หอมแดงกับกะปิ โขลกรวมกัน (ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับความชอบและจำนวนปลาเป็นหลัก)
3. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องที่โขลกลงไปละลายกับน้ำ พอน้ำเดือดปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ พอเดือดชิมรสให้ได้สามรส
4. เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ปลาลงไป (ห้ามคนจนกว่าปลาจะสุกเพื่อไม่ให้เหม็นคาว) รอจนน้ำเดือดอีกครั้งและปลาสุก จึงใส่ขิงลงไป (ในสูตรใส่ขิงอ่อน) พอเดือดชิมรสอีกครั้ง ใส่ต้นหอมที่หั่นไว้แล้วปิดไฟทันที ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มปลากระบอก สามรสอร่อยถูกใจไร้ผงชูรส
4. ต้มส้มเห็ดรวมเจ
เอาใจคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเมนูต้มส้มเห็ดรวมเจ สูตรจาก นิตยสาร Foodstylist ใส่เห็ดล้วน ๆ เต้าหู้ และดอกกะหล่ำ ต้มกับน้ำซุปเห็ดหอม ใส่ขมิ้นสดสีสวย และแต่งหน้าด้วยไควาเระ
ส่วนผสม ต้มส้มเห็ดเจ
• น้ำสต๊อกเห็ดหอม 800 มิลลิลิตร
• ข่าหั่นแว่น 10 แว่น
• ตะไคร้ (หั่นท่อนทุบ) 3 ต้น
• ขมิ้นสด (ปอกเปลือก) 50 กรัม
• ดอกกะหล่ำ 100 กรัม
• กะปิเจ 2 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว (เล็กน้อย)
• น้ำตาลทราย (เล็กน้อย)
• เห็ดนานาชนิด (ตามชอบ) 200 กรัม
• เต้าหู้โมเมน 1 กล่อง
• ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ
• พริก (สำหรับตกแต่ง)
• ไควาเระ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำต้มส้มเห็ดเจ
1. ต้มน้ำสต็อกเห็ดหอมให้เดือด ใส่ ข่าตะไคร้ และขมิ้น ต้มจนเดือด
2. นำดอกกะหล่ำลงต้มจนนุ่ม เติมกะปิเจ (เพิ่มกะปิเจที่มีส่วนผสมของถั่วหมัก ยิ่งทำให้ซุปถ้วยนี้กลมกล่อมขึ้นอีก) ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลชิมรสตามชอบ
3. เติมเห็ด เต้าหู้ และใบมะกรูด ต้มต่อจนเดือด ปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกและไควาเระให้สวยงามก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มเห็ดรวมเจ อาหารเจเสิร์ฟร้อน ๆ กลมกล่อม ครบรส
5. ปลาทูต้มหวาน
ใครเบื่อเมนูต้มส้มก็มาทำเมนูต้มหวานสิคะ ขอนำเสนอเมนูปลาทูต้มหวาน สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับปลาทูสดต้มกับน้ำมะขามเปียก เติมน้ำตาลปี๊บ และเม็ดพริกไทย ตัดกลิ่นคาวจากขิง
ส่วนผสม ปลาทูต้มหวาน
• ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
• พริกไทยเม็ด 50 กรัม
• ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
• หอมแดง 1 ขีด
• เกลือป่น หยิบมือ
• มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
• ตะไคร้ 2 หัว (ไม่มีไม่ได้ใส่)
วิธีทำปลาทูต้มหวาน
1. ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย เอาทุกอย่างวางรองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้
2. นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป
3. คั้นน้ำมะขามเปียก กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมรสตามชอบ ให้ออกหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มเห็ดรวมเจ อาหารเจเสิร์ฟร้อน ๆ กลมกล่อม ครบรส
6. ปลาหมึกต้มหวาน
ปิดท้ายกันด้วยเมนูหมึกต้มหวาน สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือยัดข้าวเหนียวใส่ในตัวหมึกเพิ่มความอร่อย และต้มกับน้ำกะทิใบเตย รสชาติอร่อยแค่ไหนจัดเลยสักหนึ่งกิโล
ส่วนผสม หมึกต้มหวาน
• ปลาหมึก
• ข้าวเหนียวดิบ (แช่น้ำค้างคืน)
• กะทิสด
• เกลือ 1 ช้อนกินข้าว
• ใบเตยมัด
• น้ำตาลแว่น 2-3 แว่น
วิธีทำหมึกต้มหวาน
1. ทำความสะอาดปลาหมึกแล้วดึงหัวกับไส้ออก และคั้นกะทิ เตรียมไว้
2. ใส่เกลือลงในกะทิ กวนให้ละลายแล้วค่อย ๆ รินหัวกะทิด้านบนใส่ลงในข้าวเหนียวพอแฉะ กรอกใส่ในตัวหมึกจนเต็มลำตัว กลัดด้วยไม้พร้อมหัวของหมึก
3. ตั้งหม้อรองด้วยใบเตย ใส่กะทิลงไปสักครึ่ง จับหมึกวางเรียง ใช้ไฟกลางอ่อน เคี่ยวไปจนน้ำใกล้งวด เติมกะทิที่เหลือ ถ้าต้องการให้เปื่อยเร็วปิดฝาแง้มไว้ พอน้ำเริ่มเดือดครั้ง 2 เปิดฝา ใส่น้ำตาลแว่นลงไป 2-3 แว่น รอน้ำตาลละลาย ยกหม้อส่ายให้ละลายทั่วถึง หรือใช้ทัพพีค่อย ๆ กวนให้เข้ากันเบา ๆ ชิมน้ำดูให้มีรสหวานนำเค็มตาม เคี่ยวต่อไปจนน้ำงวดแฉะแค่ก้นหม้อ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมึกต้มหวาน ตูปะซูตง ยัดไส้ข้าวเหนียวหวานมันเค็มสไตล์ปักษ์ใต้
ใครชอบกินอาหารรสเปรี้ยวอมหวานก็จัดเมนูต้มส้ม ใครชอบกินอาหารรสหวานก็จัดเมนูต้มหวาน เอาล่ะ… ขอทำเมนูต้มส้มปลากระบอกก่อนเลยดีกว่า เพราะเป็นของโปรดคนพิเศษ แล้วเจอกันใหม่นะคะ
เกิดมาอยากลองทำต้มส้มปลาสไตล์ปักษ์ใต้สักครั้งเนอะ เอาล่ะ… นี่เลยขอนำเสนอเมนูต้มส้มปลา สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้มีรสเปรี้ยวจากน้ำส้มโหนด ใส่พริกสดตามชอบ เติมน้ำตาลปี๊บเพิ่มความหวานหน่อยก็ได้ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ ขมิ้นจ้า
ส่วนผสม ต้มส้มปลา
• ปลา (ตามชอบ)
• น้ำส้มโหนด
• หอมแดงบุบ
• กระเทียมบุบ
• ตะไคร้หั่นท่อน
• ขมิ้นสดปอกเปลือกหั่นท่อน
• พริกสดบุบ
• เกลือหรือน้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลา
1. เอาน้ำส้มโหนดผสมน้ำ แล้วนำไปเคี่ยวจนได้ความหอม
2. ใส่ตะไคร้ หอมแดง กระเทียม และขมิ้นจนสีขมิ้นออกจาง ๆ แล้วจึงใส่ปลา ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา ก่อนบุบพริกสดลงตามความชอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มปลา ใส่น้ำส้มโหนดเปรี้ยวหอมสมุนไพรตำรับปักษ์ใต้
++++++++++++++++++
2. ปลาทูต้มส้ม
ใครมีปลาทูสด ๆ จับมาทำเมนูต้มส้มกันสักหม้อ พบกับปลาทูต้มส้ม สูตรจาก เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน ใส่เครื่องสมุนไพร กะปิ น้ำมะขามเปียก และขิงซอย แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าสวยงาม
ต้มส้มปลาทู 1 ถ้วย ให้พลังงานประมาณ 130 กิโลแคลอรี
ส่วนผสม ต้มส้มปลาทู
• ปลาทูสด
• พริกไทยดำเม็ด
• ตะไคร้ซอย
• หอมแดงซอย
• รากผักชี
• กะปิ
• เกลือ
• น้ำเปล่า
• ขิงซอย
• ต้นหอม
• ผักชี
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำมะขามเปียก
• พริกชี้ฟ้าหั่น (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำต้มส้มปลาทู
1. โขลกพริกไทยดำ ตะไคร้ หอมแดง รากผักชี กะปิ และเกลือให้แหลกพอประมาณ
2. ต้มน้ำในหม้อให้เดือด แล้วใส่เครื่องต้มส้มที่โขลกไว้ลงไป คนให้เข้ากัน รอจนเดือดอีกครั้ง ใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ (ชิมรสให้เปรี้ยวนำ หวานกับเค็มตาม ควรให้รสจัด)
3.เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ปลาทูสดลงไปทีละชิ้น เมื่อปลาสุกแล้วก็ใส่ขิงซอย ต้นหอม พริกชี้ฟ้า และผักชี ปิดไฟ ตักใส่ชาม เสิร์ฟได้ทันที
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูปลาทู เนรมิตเมนูปลาอร่อยแบบไทย ๆ
++++++++++++++++++
3. ต้มส้มปลากระบอก
และแล้วก็มาถึงเมนูต้มส้มที่รอคอยนั่นคือ ต้มส้มปลากระบอก สูตรจาก คุณเนินน้ำ อาหารบ้าน ๆ ที่บ้านเนินน้ำ สูตรนี้ใส่เครื่องโขลกที่มีพริกไทย หอมแดง และกะปิ เติมรสเปรี้ยวจากมะขามเปียก และใส่น้ำตาลปี๊บลงไปหน่อย เติมน้ำปลาอีกนิด สุดท้ายใส่ขิงซอย
ส่วนผสม ต้มส้มปลากระบอก
• ปลากระบอก (หั่น 2 ท่อน)
• ขิงซอย (ใช้ขิงอ่อนหรือขิงแก่ก็ได้ ถ้าเป็นขิงแก่จะช่วยดับกลิ่นคาวปลาได้มากกว่าขิงอ่อน และมีรสเผ็ดกว่า)
• กะปิ
• พริกไทยเม็ด
• หอมแดง
• ต้นหอมหั่นท่อน
• มะขามเปียก
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำปลา
วิธีทำต้มส้มปลากระบอก
1. ล้างทำความสะอาดปลา ควักเหงือกและไส้ทิ้งไป พักให้สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. โขลกพริกไทยให้ละเอียด ใส่หอมแดงกับกะปิ โขลกรวมกัน (ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับความชอบและจำนวนปลาเป็นหลัก)
3. ใส่น้ำลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องที่โขลกลงไปละลายกับน้ำ พอน้ำเดือดปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ พอเดือดชิมรสให้ได้สามรส
4. เมื่อน้ำเดือดอีกครั้งใส่ปลาลงไป (ห้ามคนจนกว่าปลาจะสุกเพื่อไม่ให้เหม็นคาว) รอจนน้ำเดือดอีกครั้งและปลาสุก จึงใส่ขิงลงไป (ในสูตรใส่ขิงอ่อน) พอเดือดชิมรสอีกครั้ง ใส่ต้นหอมที่หั่นไว้แล้วปิดไฟทันที ตักใส่ชาม เสิร์ฟร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มปลากระบอก สามรสอร่อยถูกใจไร้ผงชูรส
++++++++++++++++++
4. ต้มส้มเห็ดรวมเจ
เอาใจคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเมนูต้มส้มเห็ดรวมเจ สูตรจาก นิตยสาร Foodstylist ใส่เห็ดล้วน ๆ เต้าหู้ และดอกกะหล่ำ ต้มกับน้ำซุปเห็ดหอม ใส่ขมิ้นสดสีสวย และแต่งหน้าด้วยไควาเระ
ส่วนผสม ต้มส้มเห็ดเจ
• น้ำสต๊อกเห็ดหอม 800 มิลลิลิตร
• ข่าหั่นแว่น 10 แว่น
• ตะไคร้ (หั่นท่อนทุบ) 3 ต้น
• ขมิ้นสด (ปอกเปลือก) 50 กรัม
• ดอกกะหล่ำ 100 กรัม
• กะปิเจ 2 ช้อนชา
• ซีอิ๊วขาว (เล็กน้อย)
• น้ำตาลทราย (เล็กน้อย)
• เห็ดนานาชนิด (ตามชอบ) 200 กรัม
• เต้าหู้โมเมน 1 กล่อง
• ใบมะกรูดฉีก 10 ใบ
• พริก (สำหรับตกแต่ง)
• ไควาเระ (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำต้มส้มเห็ดเจ
1. ต้มน้ำสต็อกเห็ดหอมให้เดือด ใส่ ข่าตะไคร้ และขมิ้น ต้มจนเดือด
2. นำดอกกะหล่ำลงต้มจนนุ่ม เติมกะปิเจ (เพิ่มกะปิเจที่มีส่วนผสมของถั่วหมัก ยิ่งทำให้ซุปถ้วยนี้กลมกล่อมขึ้นอีก) ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลชิมรสตามชอบ
3. เติมเห็ด เต้าหู้ และใบมะกรูด ต้มต่อจนเดือด ปิดไฟ
4. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกและไควาเระให้สวยงามก่อนเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มเห็ดรวมเจ อาหารเจเสิร์ฟร้อน ๆ กลมกล่อม ครบรส
++++++++++++++++++
ใครเบื่อเมนูต้มส้มก็มาทำเมนูต้มหวานสิคะ ขอนำเสนอเมนูปลาทูต้มหวาน สูตรจาก คุณ isolateboy สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับปลาทูสดต้มกับน้ำมะขามเปียก เติมน้ำตาลปี๊บ และเม็ดพริกไทย ตัดกลิ่นคาวจากขิง
ส่วนผสม ปลาทูต้มหวาน
• ปลาทูสด 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ขีด
• พริกไทยเม็ด 50 กรัม
• ขิงสด 1 ขีด (หรือ 1 เหง้าก็พอ แต่ถ้าชอบก็เพิ่มได้)
• หอมแดง 1 ขีด
• เกลือป่น หยิบมือ
• มะขามเปียก ประมาณ 1 ขีด (หรือน้อยกว่านั้น)
• ตะไคร้ 2 หัว (ไม่มีไม่ได้ใส่)
วิธีทำปลาทูต้มหวาน
1. ทุบขิงพอหยาบ พริกไทยบุบพอแตก หอมแดงผ่าซีกหรือใส่ทั้งหัวก็ได้ หากมีตะไคร้ก็ทุบ ๆ แล้วหั่นยาวหน่อย เอาทุกอย่างวางรองไว้ก้นหม้อ ถ้าไม่มีเลยไม่ใส่ก็ได้
2. นำปลาทูที่ควักไส้และล้างสะอาดแล้วใส่ลงไป
3. คั้นน้ำมะขามเปียก กะปริมาณน้ำให้ท่วมตัวปลา เทตามลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ รอให้เดือด แล้วหรี่ไฟให้อ่อนสุด แค่ให้น้ำเดือดปุด ๆ พอ ไม่ต้องให้เดือดพล่าน ไม่ต้องปิดฝาหม้อ ไม่ต้องคน รอจนน้ำงวด ใช้เวลาในการเคี่ยวนานหน่อย น้ำและส่วนผสมต่าง ๆ จะซึมเข้าตัวปลาเรื่อย ๆ ลองชิมรสตามชอบ ให้ออกหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดลิ้นแบบกลมกล่อมด้วยขิงและพริกไทย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ต้มส้มเห็ดรวมเจ อาหารเจเสิร์ฟร้อน ๆ กลมกล่อม ครบรส
++++++++++++++++++
6. ปลาหมึกต้มหวาน
ปิดท้ายกันด้วยเมนูหมึกต้มหวาน สูตรจาก คุณมอแกนน้อย สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ความพิเศษคือยัดข้าวเหนียวใส่ในตัวหมึกเพิ่มความอร่อย และต้มกับน้ำกะทิใบเตย รสชาติอร่อยแค่ไหนจัดเลยสักหนึ่งกิโล
ส่วนผสม หมึกต้มหวาน
• ปลาหมึก
• ข้าวเหนียวดิบ (แช่น้ำค้างคืน)
• กะทิสด
• เกลือ 1 ช้อนกินข้าว
• ใบเตยมัด
• น้ำตาลแว่น 2-3 แว่น
วิธีทำหมึกต้มหวาน
1. ทำความสะอาดปลาหมึกแล้วดึงหัวกับไส้ออก และคั้นกะทิ เตรียมไว้
2. ใส่เกลือลงในกะทิ กวนให้ละลายแล้วค่อย ๆ รินหัวกะทิด้านบนใส่ลงในข้าวเหนียวพอแฉะ กรอกใส่ในตัวหมึกจนเต็มลำตัว กลัดด้วยไม้พร้อมหัวของหมึก
3. ตั้งหม้อรองด้วยใบเตย ใส่กะทิลงไปสักครึ่ง จับหมึกวางเรียง ใช้ไฟกลางอ่อน เคี่ยวไปจนน้ำใกล้งวด เติมกะทิที่เหลือ ถ้าต้องการให้เปื่อยเร็วปิดฝาแง้มไว้ พอน้ำเริ่มเดือดครั้ง 2 เปิดฝา ใส่น้ำตาลแว่นลงไป 2-3 แว่น รอน้ำตาลละลาย ยกหม้อส่ายให้ละลายทั่วถึง หรือใช้ทัพพีค่อย ๆ กวนให้เข้ากันเบา ๆ ชิมน้ำดูให้มีรสหวานนำเค็มตาม เคี่ยวต่อไปจนน้ำงวดแฉะแค่ก้นหม้อ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หมึกต้มหวาน ตูปะซูตง ยัดไส้ข้าวเหนียวหวานมันเค็มสไตล์ปักษ์ใต้
ใครชอบกินอาหารรสเปรี้ยวอมหวานก็จัดเมนูต้มส้ม ใครชอบกินอาหารรสหวานก็จัดเมนูต้มหวาน เอาล่ะ… ขอทำเมนูต้มส้มปลากระบอกก่อนเลยดีกว่า เพราะเป็นของโปรดคนพิเศษ แล้วเจอกันใหม่นะคะ