ชวนทำอาหารอินเดีย สูตรอาหารนานาชาติ หลากสไตล์ มีทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และเครื่องดื่ม ทำกินเองอร่อยถูกปากแน่นอน
อาหารอินเดีย หรืออาหารเอเชียน กำลังเป็นที่นิยม เพราะมีกลิ่นเครื่องเทศและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำอาหารอินเดีย มีทั้งอาหารจานเดียว เมนูกับข้าว อาหารว่าง ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เลือกจิ้มสูตรที่ชอบแล้วเข้าครัวกันเลยจ้า
แกงไก่แบบไทย ๆ ก็กินบ่อยแล้ว ลองมาทำแกงไก่สไตล์อินเดียบ้างดีกว่า พบกับแกงไก่ทิกก้ามาซาล่า (Chicken Tikka Masala) หรือแกงกะหรี่ไก่แดง สูตรนี้ใส่ผงมะสล่ากลิ่นหอมผสมกับซอสมะเขือเทศเข้มข้น และเพิ่มความเผ็ดจากพริกป่น กินกับข้าวสวยร้อน ๆ
ส่วนผสม แกงไก่ทิกก้ามาซาล่า
• ขิง (ปอกเปลือก) 1+1/2 นิ้ว
• กระเทียม (ปอกเปลือก) 4 กลีบ
• หอมใหญ่ (ปอกเปลือก) 1/2 ลูกใหญ่
• เนื้ออกไก่ลอกหนัง (หั่นเต๋า) 1.5 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัม
• ผงมะสล่า 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงพริกปาปริก้า 1+1/2 ช้อนชา
• พริกป่นคาเยน 1/4 ช้อนชา
• เนื้อมะเขือเทศบด 1 กระป๋อง (ประมาณ 28 ออนซ์)
• กรีกโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
• น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย
• ข้าวหอมมะลิหรือข้าวมาสมาติ หุงสุก
ส่วนผสม ผงมะสล่า
• ผงยี่หร่า 2 ช้อนโต๊ะ
• ลูกผักชีป่น 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยดำป่น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระวานผง 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงอบเชย 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงจันทน์เทศ 1+1/2 ช้อนชา
วิธีทำผงมะสล่า
คนผสมทุกอย่างพอเข้ากัน
วิธีทำแกงไก่ทิกก้ามาซาล่า
1. เอาขิงกับกระเทียมลงไปปั่นในเครื่องผสมอาหารจนละเอียด ใส่หอมใหญ่ลงไป ปั่นจนละเอียด เตรียมไว้
2. หมักเนื้อไก่กับผงมะสล่า 1+1/2 ช้อนชา และเกลือ นวดผสมจนเข้ากัน
3. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางค่อนข้างสูง ใส่น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ไก่หมักลงไปผัดพอสุก ประมาณ 6-7 นาที ตักใส่ภาชนะ
4. ตั้งกระทะอันเดิม ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างสูง ใส่น้ำมันที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ส่วนผสมหอมใหญ่ลงไปเคี่ยวจนนุ่มประมาณ 3 นาที ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้นลงไป ผงมะสล่าที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผงพริกปาปริก้า และพริกป่นคาเยน คนผสมจนเข้ากัน ประมาณ 30 วินาที ใส่เนื้อมะเขือเทศบด ปรุงรสด้วยเกลือ เคี่ยวอีกประมาณ 2 นาที (สามารถเคี่ยวจนเปื่อยตามชอบ ถ้าซอสมะเขือเทศเข้มข้นเกินไปสามารถเติมน้ำลงไปได้) ใส่ไก่ลงไปเคี่ยวประมาณ 1 นาที ปิดเตา ใส่กรีกโยเกิร์ตและน้ำเลมอน คนผสมพอเข้ากัน จัดเสิร์ฟกับข้าวสวย แต่งด้วยผักชี
หมายเหตุ : ใครอยากทำครีมราดหน้าแบบเข้มข้น ผสมเฮฟวี่ครีม 1/4 ถ้วยกับโยเกิร์ต 1/4 ถ้วย คนผสมจนเข้ากัน
และแล้วก็ถึงเมนูอาหารอินเดียที่รอคอยนั่นคือ ข้าวหมกไก่ สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้ผงข้าวหมกสำเร็จรูปหมักไก่สุดง่าย มาพร้อมวิธีทำข้าวหมกหอมเครื่องเทศ และวิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
ส่วนผสม เครื่องหมักไก่
• น่องไก่ติดสะโพก 4 ชิ้น
• ผงข้าวหมก
• นมเปรี้ยว 1 ถ้วยตวง (125 กรัม)
• เนยแขก (Ghee) หรือเนยถังทอง 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงสับ 15 หัว
• กระเทียมสับ 10 กลีบ
• ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ข้าวหมก
• ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย
• น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
• ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
• หญ้าฝรั่น 1 ช้อนชา
• ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
• ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา
• ยี่หร่าป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• อบเชย 1 ช้อนชา
• ใบกระวาน 2 ใบ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเทศใส่เพิ่มเติม (ใส่หรือไม่ก็ได้)
• ลูกกระวาน 3-4 ลูก ถ้ามีลูกกระวานเทศ (ลูกเฮ้นท์) ก็ใส่ไป
• กานพลู 3-4 ดอก
• ไม้หวาน (อบเชย) หักเป็นท่อนเล็ก ๆ 2-3 ท่อน
• โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
หมายเหตุ : สามารถใช้ผงข้าวหมกไก่สำเร็จรูปแล้วมาปรุงเพิ่ม ในสูตรคุณบ่งบ๊งใช้พริกแกงสำเร็จรูป ได้แก่ น้ำพริกแกงกุรุหม่าและผงข้าวหมกมาผสมกัน
ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวหมกไก่
• น้ำส้มสายชู
• น้ำตาลทราย
• กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ
• พริกชี้ฟ้าเขียว หรือพริกขี้หนูเขียว
• ผักชี
• ใบสะระแหน่
• เกลือป่น
• นมเปรี้ยว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีหมักไก่
1. ใช้ส้อมจิ้มสะโพกไก่ให้เป็นรูพรุน ใส่ผงข้าวหมกและนมเปรี้ยว คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน เตรียมไว้ (ก่อนนำไก่มาใช้ นำเนื้อไก่ออกมาคลุกเคล้าอีกรอบแล้วทิ้งไว้ให้คลายความเย็น)
2. ตั้งกระทะบนเตา ใส่เนยแขกลงไป ตามด้วยหอมแดง กระเทียม และขิงสับละเอียดลงไปผัดให้หอมแดงสุกใส ใส่เนื้อไก่หมักลงไปจี่ในเครื่องแกง พอชิ้นไก่เริ่มเกรียมเล็กน้อย กลับด้าน ทอดแบบไม่ต้องสุกมาก ตักใส่ชาม เตรียมไว้
วิธีทำข้าวหมกไก่
1. ซาวข้าวสารให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ผัดเครื่องแกงในกระทะ จากนั้นนำข้าวสารที่ซาวแล้วลงผัด คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว ยกลงจากเตา
3. ใส่ข้าวหมกลงหม้อหุงข้าว วางชิ้นไก่บนข้าว (หรือวางเรียงสลับกัน) เติมน้ำซุปไก่ลงไป
หมายเหตุ : น้ำซุปไก่ ถ้าไม่ท่วมข้าวไม่ต้องกลัวว่าข้าวจะไม่สุก เพราะข้าวที่ซาวจะอุ้มน้ำไว้ น้ำจากนมเปรี้ยว น้ำจากหอม และกระเทียม ฉะนั้นน้ำซุปถ้วยเดียวบ่งบ๊งหุงออกมาแล้วข้าวสุกพอดีเลย
4. ตั้งโปรแกรมหุงข้าวธรรมดา ก่อนที่ข้าวจะสุกให้ใช้พายไม้หรือพายยางคนข้าวจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน วิธีนี้จะทำให้ข้าวสุกทั่ว มีปัญหาข้าวดิบเนื่องจากน้ำซุปที่ใส่ไปอาจจะไม่ท่วมข้าวด้านบน ทำให้ส่วนบนไม่สุกทั่ว ถ้าข้าวไม่เหลืองให้เติมหญ้าฝรั่นลงไปเพื่อเพิ่มความเหลือง ไม่ใช่เหลืองของหญ้าฝรั่น แต่เป็นเหลืองของผงขมิ้นและผงกะหรี่
5. ตักข้าวใส่จาน วางทับด้วยชิ้นไก่ โรยหน้าด้วยหอมเจียว จัดวางผักต่าง ๆ แตงกวา ต้นหอม ผักกาดหอม โรยหน้าด้วยผักชี ใบสะระแหน่สด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะระแหน่
วิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
1. นำหม้อขึ้นตั้งบนเตา ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย พักไว้จนเย็น
2. ใส่กระเทียม พริก ผักชี และใบสะระแหน่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำส้มสายชู เติมเกลือป่น ชิมรสให้ออกเปรี้ยว ๆ โดยให้รสหวานนำ (น้ำจิ้มสูตรนี้นำไปกินคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้) ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวหมกไก่ สุดฮิตหอมเครื่องเทศสไตล์อินเดีย
อาหารว่างร้อน ๆ มาแล้วจ้า พบกับวิธีทำซาโมซ่าผัก จับแป้งเปาะเปี๊ยะสอดไส้ผักผัดผงกะหรี่ ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมกินกับน้ำจิ้มอาจาด
ส่วนผสม ซาโมซ่าผัก
• เนยอินเดีย (Ghee) 2 ช้อนโต๊ะ
• เมล็ดมัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
• เมล็ดยี่หร่าแขก (Cumin) 1/2 ช้อนชา
• หอมแดง (หั่นเต๋าเล็ก) 1/2 ลูก
• พริกชี้ฟ้าสับละเอียด 1 เม็ด
• กระเทียมสับละเอียด 1 หัว
• ขิงขนาด 2 ซม.สับ 1 ชิ้น
• ถั่วลันเตาแช่แข็ง 1/2 ถ้วย
• มันฝรั่งหั่นเต๋าเล็ก 1 ลูก
• ดอกกะหล่ำ 200 กรัม
• แครอทหั่นเต๋าขนาดเล็ก 1 ลูก
• ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
• น้ำ 1/2 ถ้วย
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะสำเร็จรูป 250 กรัม
วิธีทำซาโมซ่าผัก
1. ผัดเนยอินเดียกับเมล็ดมัสตาร์ด และเมล็ดยี่หร่าแขกจนมีกลิ่นหอม ใส่หอมแดงลงผัดจนสุกนิ่ม ตามด้วยกระเทียม ขิง และพริกชี้ฟ้า ผัดผสมจนเข้ากัน นานประมาณ 2-3 นาที
2. ใส่ถั่วลันเตา มันฝรั่ง ดอกกะหล่ำ และแครอทลงผัดจนสุก และเข้ากันดี
3. เมื่อผักเริ่มสุกให้ใส่ผงกะหรี่ น้ำ และน้ำมะนาว ปรุงรสด้วยเกลือ ลดไฟอ่อน ผัดทุกอย่างให้สุกเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พักไว้
4. นำแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะมาตัดเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน ซ้อนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 2 ชั้น ตักส่วนผสมไส้ (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) วางตรงส่วนปลายของแผ่นแป้ง ค่อย ๆ ขึ้นรูปเป็นทรงสามเหลี่ยม ม้วนแป้งขึ้นไปจนสุดปลายแผ่นแป้ง ปิดแผ่นแป้งด้วยน้ำเพื่อไม่ให้ไส้หลุดออกมา ทำจนครบ เตรียมไว้
5. เติมน้ำมันลงในกระทะ รอจนน้ำมันร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส นำซาโมซ่าที่ทำเตรียมไว้ลงทอดจนแป้งมีสีเหลืองอมน้ำตาล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟขณะร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาโมซ่าไส้ผัก กรอบอร่อยได้สุขภาพสไตล์อินเดีย
ใครมีแตงกวาเหลือ ๆ จับมาทำสลัดแตงกวากันเถอะ ใส่หอมใหญ่กับมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยมะนาวและพริกไทย เพิ่มความหอมจากกระเทียม กินกับแป้งโรตี
ส่วนผสม สลัดแตงกวา
• มะเขือเทศหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
• แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
• หอมใหญ่หั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1/2 หัว
• ผักชีซอย 1 ต้น
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น เล็กน้อย (ปรุงรส)
• พริกไทยดำบด เล็กน้อย (ปรุงรส)
• น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
• แป้งโรตีทอดกรอบ
วิธีทำสลัดแตงกวา
1. ตีผสมน้ำมะนาว เกลือป่น และพริกไทยดำให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำมันมะกอก ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่กระเทียมลงคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เตรียมไว้
2. ใส่มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น และหอมใหญ่ลงในอ่างผสม ใส่น้ำสลัดที่เตรียมไว้และผักชีซอยลงเคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับแป้งโรตีทอดกรอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สลัดแตงกวา เมนูลดน้ำหนักสไตล์อินเดีย
แค่เห็นสีสันของขนมสูตรนี้ก็อยากลองทำแล้ว พบกับขนมลาดู (Laddu, Ladoo) สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ จับแป้งผสมสีส้มหยอดเป็นเม็ดเล็ก ๆ เอาไปทอดในน้ำมันจนสุกและเอาไปผัดในน้ำเชื่อมให้หวาน สุดท้ายปั้นเป็นก้อนกลม
ส่วนผสม บุนดี้ (boondi) หรือแป้งทอดกรอบ
• แป้งถั่วลูกไก่ หรือแป้งเบซัน 125 กรัม
• น้ำเปล่า 175 กรัม (ถ้าแป้งหนืดไปสามารถเพิ่มได้ค่ะ)
• เนยกี 1/2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีส้ม
• น้ำมันสำหรับทอด+เนยกีประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
หมายเหตุ : ก่อนนำมาทอด ต้องพักแป้งสัก 25-30 นาที
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• น้ำ 100 กรัม
• ผงกระวาน 1/2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีส้ม
• น้ำมะนาวหรือเลมอน 1/2 ช้อนชา (ใส่หลังจากที่น้ำเชื่อมเดือด ดับเตาแล้วก็ใส่น้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่ boondi)
ส่วนผสม ผลไม้แห้ง
• เม็ดแตงโม 2 ช้อนโต๊ะ (หรืออย่างอื่นก็ได้)
วิธีทำขนมลาดู
1. เอาพิมพ์ฟอยล์มากดด้วยตะเกียบหรือก้นดินสอให้เป็นร่องลงไป หลังจากนั้นเอาไม้ปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟันเจาะรูเล็ก ๆ หรือจะใช้กระชอนแบบนี้ก็ได้ แต่รูอาจจะใหญ่ไปสักหน่อย แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน
2. ผสมแป้ง+เนยกี 1/2 ช้อนชา พอเข้ากันแล้วก็ใส่น้ำลงไป ค่อย ๆ แบ่งใส่ก็ได้ จะได้คนเข้ากันง่าย ๆ พอคนแป้งเข้ากันดีแล้วก็ใส่สีผสมอาหารสีส้มแล้วคนให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชกับเนยกีลงไปในกระทะ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนแล้ว ตักแป้งลงไปในกระชอน แล้วเคาะกับขอบกระทะ (ซึ่งเสียงจะดังมาก) อาจจะต้องหากระป๋อง หรืออะไรก็ได้ที่สูงกว่ากระทะเล็กน้อย หาผ้ามารองด้านบนจะทำให้ลดเสียงลงเยอะมาก พยายามเคาะให้ boondi ค่อย ๆ หยดลงมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ พอแป้งลอยขึ้นมาก็ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ทำน้ำเชื่อม โดยตั้งกระทะใส่น้ำกับน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย ใส่สีผสมอาหารสีส้มและผงกระวานลงไป พอน้ำเชื่อมเดือดก็ดับเตาแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป หลังจากนั้นใส่ boondi ตามด้วยเม็ดแตงโมลงไป เปิดเตาผัดจนน้ำเชื่อมแห้ง ดับเตาแล้วปิดฝาพักไว้ 20-30 นาที พอเย็นแล้วก็นำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมลาดู สูตรขนมอินเดียสีสวยหวานหอมตามกระแสซีรีส์ดัง
นานมาแล้วที่ไม่ได้กินโรตีนานกับแกงกะหรี่ไก่ วันนี้ว่าง ๆ ขอทำสักแผ่นดีกว่า แป้งนานกรอบนอกนุ่มในหอมเนย เอาไปจิ้มกับแกงคาว ๆ และถ้าตัดเลี่ยนด้วยสลัดแขกด้วยรับรองอร่อยเหาะ
ส่วนผสม โรตีนาน
• ยีสต์แห้งชนิดผง 2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2+1/2-3 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟองใหญ่
วิธีทำโรตีนาน
1. เตรียมถ้วยผสมขนาดเล็ก ใส่ยีสต์ น้ำตาล และน้ำเปล่า คนผสมจนละลายเข้ากัน ตั้งทิ้งไว้จนขึ้นฟอง เติมน้ำมัน โยเกิร์ต และไข่ไก่ ตีผสมจนเข้ากัน
2. เตรียมอ่างผสมขนาดกลาง คนผสมแป้ง 1 ถ้วยกับเกลือ เสร็จแล้วเทลงในส่วนผสมของเหลว คนผสมจนเข้ากัน ทยอยใส่แป้งส่วนที่เหลือลงไป นวดผสมจนเข้ากัน
3. นวดแป้งประมาณ 3 นาที คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนขึ้นฟูเป็นสองเท่า เสร็จแล้วแบ่งเป็น 8 ก้อน ปั้นเป็นก้อนกลม
4. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง รีดแป้งเป็นแผ่นกลมแบน ความหนาประมาณ 1/4 นิ้ว และเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว เอาไปย่างในกระทะจนสุกเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน ทาเนยละลายและโรยสมุนไพรก่อนเสิร์ฟ
มาต่อกันที่เครื่องดื่มสไตล์อินเดีย พบกับชานมอินเดีย สูตรจากเฟซบุ๊ก Rin Silpachai นี้ใช้ใบชาดำอินเดียต้มกับน้ำเปล่าจนเดือด เติมนมข้นหวานตามชอบ ทีเด็ดคือใส่ฟองนมเพิ่มความหอมมัน
ส่วนผสม ชานมอินเดีย
• ใบชาดำอินเดีย (Indian Black Tea) 1/4 ถ้วย
• น้ำเปล่า 5 ถ้วย
• นมข้นจืด (หรือนมสด) ปริมาณตามชอบ
• น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
• นมข้นหวาน ปริมาณตามชอบ (เพิ่มความหวานมัน)
วิธีทำชานมอินเดีย
1. ใส่น้ำลงในหม้อ ต้มจนน้ำเดือดจัดแล้วใส่ใบชาลงไปต้ม (สามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้หากไม่ต้องการความเข้มข้นจนเกินไป) ต้มจนเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน คนผสม 2-3 ครั้งแล้วต้มต่อด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 3-5 นาที
2. ทำฟองนมโดยใส่นมข้นจืดลงในหม้อใบเล็ก ตามด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย (น้ำตาลทรายจะช่วยให้ฟองนมทรงตัวมากขึ้น) คนผสมให้น้ำตาลทรายละลาย แล้วนำขึ้นตั้งไฟจนนมอุ่นที่อุณหภูมิ 150-170 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือประมาณ 66-77 องศาเซลเซียส)
3. พอนมได้อุณหภูมิที่เราต้องการแล้วให้ใช้ที่ตีฟองนมลงไปตีให้เป็นโฟมนุ่มตามต้องการ จากนั้นนำหม้อไปกระแทกเบา ๆ ลงกับโต๊ะเพื่อให้ฟองนมขนาดใหญ่แตกตัว เตรียมไว้
4. ตักนมข้นหวานใส่ลงในแก้วสำหรับเสิร์ฟ เทชาที่ต้มไว้ผ่านกระชอบกรองชาลงไปในแก้ว ประมาณ 2/3 ของแก้ว คนผสมให้นมข้นละลายเข้ากัน
5. ใช้ช้อนกั้นฟองนมแล้วเติมเฉพาะนมสดลงไปประมาณ 3/4 ของแก้ว คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
6. สุดท้ายตักฟองนมใส่ลงไปด้านบนจนเต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชานมอินเดีย เครื่องดื่มแก้วเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ไจ
เกิดมาต้องลองสักครั้งกับเครื่องดื่มลาสซี่มะม่วง สูตรจาก คุณ RinS CookBook จับโยเกิร์ตผสมกับเนื้อมะม่วงสุก และซอสมะม่วง ลองทำดื่มดับร้อนกันเถอะ
ส่วนผสม ลาสซี่มะม่วง
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ออนซ์
• เนื้อมะม่วงสุก 4 ออนซ์
• ซอสมะม่วงเข้มข้น (ในสูตรนี้ใช้ Kesar Mango Pulp แบบกระป๋องจากประเทศอินเดีย)
• นมสด 1/4 ถ้วย (หรือฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟครีม)
• น้ำแข็ง 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ (หรือน้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ)
หมายเหตุ : ซอสมะม่วงเข้มข้นชนิดกระป๋อง หรือ Kesar Mango Pulp สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้
วิธีทำลาสซี่มะม่วง
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาในการปั่นขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง)
2. ตกแต่งแก้ว โดยเทซอสมะม่วงลงในไปในแก้วก่อนแล้วเอียงแก้วไปมาให้สวยงามตามชอบ จากนั้นเทลาสซี่ที่ปั่นไว้ลงไป ราดทับด้วยซอสมะม่วงอีกครั้ง แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ (หรือจะโรยถั่วพิสตาชิโอลงไปก็ได้ตามชอบ)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาสซี่มะม่วง เครื่องดื่มโยเกิร์ตปั่นสไตล์อินเดีย ร้อนนี้ต้องลอง
ว้าว ! อาหารอินเดียน่ากินหนักมาก โดยเฉพาะข้าวหมกไก่ของโปรด แต่ขอทำน้ำซุปไก่รสแซ่บเพิ่มด้วยดีกว่า เอาล่ะ… ขอตัวไปซื้อไก่ก่อนนะคะ
1. แกงไก่ทิกก้ามาซาล่า
ส่วนผสม แกงไก่ทิกก้ามาซาล่า
• ขิง (ปอกเปลือก) 1+1/2 นิ้ว
• กระเทียม (ปอกเปลือก) 4 กลีบ
• หอมใหญ่ (ปอกเปลือก) 1/2 ลูกใหญ่
• เนื้ออกไก่ลอกหนัง (หั่นเต๋า) 1.5 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัม
• ผงมะสล่า 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
• ซอสมะเขือเทศเข้มข้น 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงพริกปาปริก้า 1+1/2 ช้อนชา
• พริกป่นคาเยน 1/4 ช้อนชา
• เนื้อมะเขือเทศบด 1 กระป๋อง (ประมาณ 28 ออนซ์)
• กรีกโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
• น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย
• ข้าวหอมมะลิหรือข้าวมาสมาติ หุงสุก
ส่วนผสม ผงมะสล่า
• ผงยี่หร่า 2 ช้อนโต๊ะ
• ลูกผักชีป่น 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยดำป่น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระวานผง 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงอบเชย 1 ช้อนโต๊ะ
• ผงจันทน์เทศ 1+1/2 ช้อนชา
วิธีทำผงมะสล่า
คนผสมทุกอย่างพอเข้ากัน
วิธีทำแกงไก่ทิกก้ามาซาล่า
1. เอาขิงกับกระเทียมลงไปปั่นในเครื่องผสมอาหารจนละเอียด ใส่หอมใหญ่ลงไป ปั่นจนละเอียด เตรียมไว้
2. หมักเนื้อไก่กับผงมะสล่า 1+1/2 ช้อนชา และเกลือ นวดผสมจนเข้ากัน
3. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางค่อนข้างสูง ใส่น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ไก่หมักลงไปผัดพอสุก ประมาณ 6-7 นาที ตักใส่ภาชนะ
4. ตั้งกระทะอันเดิม ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างสูง ใส่น้ำมันที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ส่วนผสมหอมใหญ่ลงไปเคี่ยวจนนุ่มประมาณ 3 นาที ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้นลงไป ผงมะสล่าที่เหลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผงพริกปาปริก้า และพริกป่นคาเยน คนผสมจนเข้ากัน ประมาณ 30 วินาที ใส่เนื้อมะเขือเทศบด ปรุงรสด้วยเกลือ เคี่ยวอีกประมาณ 2 นาที (สามารถเคี่ยวจนเปื่อยตามชอบ ถ้าซอสมะเขือเทศเข้มข้นเกินไปสามารถเติมน้ำลงไปได้) ใส่ไก่ลงไปเคี่ยวประมาณ 1 นาที ปิดเตา ใส่กรีกโยเกิร์ตและน้ำเลมอน คนผสมพอเข้ากัน จัดเสิร์ฟกับข้าวสวย แต่งด้วยผักชี
หมายเหตุ : ใครอยากทำครีมราดหน้าแบบเข้มข้น ผสมเฮฟวี่ครีม 1/4 ถ้วยกับโยเกิร์ต 1/4 ถ้วย คนผสมจนเข้ากัน
++++++++++++++++++
2. ข้าวหมกไก่
และแล้วก็ถึงเมนูอาหารอินเดียที่รอคอยนั่นคือ ข้าวหมกไก่ สูตรจาก คุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้ใช้ผงข้าวหมกสำเร็จรูปหมักไก่สุดง่าย มาพร้อมวิธีทำข้าวหมกหอมเครื่องเทศ และวิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
ส่วนผสม เครื่องหมักไก่
• น่องไก่ติดสะโพก 4 ชิ้น
• ผงข้าวหมก
• นมเปรี้ยว 1 ถ้วยตวง (125 กรัม)
• เนยแขก (Ghee) หรือเนยถังทอง 2 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงสับ 15 หัว
• กระเทียมสับ 10 กลีบ
• ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม ข้าวหมก
• ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย
• น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
• ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
• หญ้าฝรั่น 1 ช้อนชา
• ผงขมิ้น 1 ช้อนชา
• ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา
• ยี่หร่าป่น 1 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• อบเชย 1 ช้อนชา
• ใบกระวาน 2 ใบ
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เครื่องเทศใส่เพิ่มเติม (ใส่หรือไม่ก็ได้)
• ลูกกระวาน 3-4 ลูก ถ้ามีลูกกระวานเทศ (ลูกเฮ้นท์) ก็ใส่ไป
• กานพลู 3-4 ดอก
• ไม้หวาน (อบเชย) หักเป็นท่อนเล็ก ๆ 2-3 ท่อน
• โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
หมายเหตุ : สามารถใช้ผงข้าวหมกไก่สำเร็จรูปแล้วมาปรุงเพิ่ม ในสูตรคุณบ่งบ๊งใช้พริกแกงสำเร็จรูป ได้แก่ น้ำพริกแกงกุรุหม่าและผงข้าวหมกมาผสมกัน
ส่วนผสม น้ำจิ้มข้าวหมกไก่
• น้ำส้มสายชู
• น้ำตาลทราย
• กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ
• พริกชี้ฟ้าเขียว หรือพริกขี้หนูเขียว
• ผักชี
• ใบสะระแหน่
• เกลือป่น
• นมเปรี้ยว (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีหมักไก่
1. ใช้ส้อมจิ้มสะโพกไก่ให้เป็นรูพรุน ใส่ผงข้าวหมกและนมเปรี้ยว คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน เตรียมไว้ (ก่อนนำไก่มาใช้ นำเนื้อไก่ออกมาคลุกเคล้าอีกรอบแล้วทิ้งไว้ให้คลายความเย็น)
2. ตั้งกระทะบนเตา ใส่เนยแขกลงไป ตามด้วยหอมแดง กระเทียม และขิงสับละเอียดลงไปผัดให้หอมแดงสุกใส ใส่เนื้อไก่หมักลงไปจี่ในเครื่องแกง พอชิ้นไก่เริ่มเกรียมเล็กน้อย กลับด้าน ทอดแบบไม่ต้องสุกมาก ตักใส่ชาม เตรียมไว้
วิธีทำข้าวหมกไก่
1. ซาวข้าวสารให้สะอาด ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
2. ผัดเครื่องแกงในกระทะ จากนั้นนำข้าวสารที่ซาวแล้วลงผัด คลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่ว ยกลงจากเตา
3. ใส่ข้าวหมกลงหม้อหุงข้าว วางชิ้นไก่บนข้าว (หรือวางเรียงสลับกัน) เติมน้ำซุปไก่ลงไป
หมายเหตุ : น้ำซุปไก่ ถ้าไม่ท่วมข้าวไม่ต้องกลัวว่าข้าวจะไม่สุก เพราะข้าวที่ซาวจะอุ้มน้ำไว้ น้ำจากนมเปรี้ยว น้ำจากหอม และกระเทียม ฉะนั้นน้ำซุปถ้วยเดียวบ่งบ๊งหุงออกมาแล้วข้าวสุกพอดีเลย
4. ตั้งโปรแกรมหุงข้าวธรรมดา ก่อนที่ข้าวจะสุกให้ใช้พายไม้หรือพายยางคนข้าวจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน วิธีนี้จะทำให้ข้าวสุกทั่ว มีปัญหาข้าวดิบเนื่องจากน้ำซุปที่ใส่ไปอาจจะไม่ท่วมข้าวด้านบน ทำให้ส่วนบนไม่สุกทั่ว ถ้าข้าวไม่เหลืองให้เติมหญ้าฝรั่นลงไปเพื่อเพิ่มความเหลือง ไม่ใช่เหลืองของหญ้าฝรั่น แต่เป็นเหลืองของผงขมิ้นและผงกะหรี่
5. ตักข้าวใส่จาน วางทับด้วยชิ้นไก่ โรยหน้าด้วยหอมเจียว จัดวางผักต่าง ๆ แตงกวา ต้นหอม ผักกาดหอม โรยหน้าด้วยผักชี ใบสะระแหน่สด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสะระแหน่
วิธีทำน้ำจิ้มข้าวหมกไก่
1. นำหม้อขึ้นตั้งบนเตา ใส่น้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลาย พักไว้จนเย็น
2. ใส่กระเทียม พริก ผักชี และใบสะระแหน่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด เทใส่ลงในส่วนผสมน้ำส้มสายชู เติมเกลือป่น ชิมรสให้ออกเปรี้ยว ๆ โดยให้รสหวานนำ (น้ำจิ้มสูตรนี้นำไปกินคู่กับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้) ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ข้าวหมกไก่ สุดฮิตหอมเครื่องเทศสไตล์อินเดีย
++++++++++++++++++
3. ซาโมซ่าผัก
อาหารว่างร้อน ๆ มาแล้วจ้า พบกับวิธีทำซาโมซ่าผัก จับแป้งเปาะเปี๊ยะสอดไส้ผักผัดผงกะหรี่ ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมกินกับน้ำจิ้มอาจาด
ส่วนผสม ซาโมซ่าผัก
• เนยอินเดีย (Ghee) 2 ช้อนโต๊ะ
• เมล็ดมัสตาร์ด 1/2 ช้อนชา
• เมล็ดยี่หร่าแขก (Cumin) 1/2 ช้อนชา
• หอมแดง (หั่นเต๋าเล็ก) 1/2 ลูก
• พริกชี้ฟ้าสับละเอียด 1 เม็ด
• กระเทียมสับละเอียด 1 หัว
• ขิงขนาด 2 ซม.สับ 1 ชิ้น
• ถั่วลันเตาแช่แข็ง 1/2 ถ้วย
• มันฝรั่งหั่นเต๋าเล็ก 1 ลูก
• ดอกกะหล่ำ 200 กรัม
• แครอทหั่นเต๋าขนาดเล็ก 1 ลูก
• ผงกะหรี่ 2 ช้อนชา
• น้ำ 1/2 ถ้วย
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะสำเร็จรูป 250 กรัม
วิธีทำซาโมซ่าผัก
1. ผัดเนยอินเดียกับเมล็ดมัสตาร์ด และเมล็ดยี่หร่าแขกจนมีกลิ่นหอม ใส่หอมแดงลงผัดจนสุกนิ่ม ตามด้วยกระเทียม ขิง และพริกชี้ฟ้า ผัดผสมจนเข้ากัน นานประมาณ 2-3 นาที
2. ใส่ถั่วลันเตา มันฝรั่ง ดอกกะหล่ำ และแครอทลงผัดจนสุก และเข้ากันดี
3. เมื่อผักเริ่มสุกให้ใส่ผงกะหรี่ น้ำ และน้ำมะนาว ปรุงรสด้วยเกลือ ลดไฟอ่อน ผัดทุกอย่างให้สุกเข้ากันดี ตักใส่ถ้วย พักไว้
4. นำแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะมาตัดเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน ซ้อนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ 2 ชั้น ตักส่วนผสมไส้ (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) วางตรงส่วนปลายของแผ่นแป้ง ค่อย ๆ ขึ้นรูปเป็นทรงสามเหลี่ยม ม้วนแป้งขึ้นไปจนสุดปลายแผ่นแป้ง ปิดแผ่นแป้งด้วยน้ำเพื่อไม่ให้ไส้หลุดออกมา ทำจนครบ เตรียมไว้
5. เติมน้ำมันลงในกระทะ รอจนน้ำมันร้อนประมาณ 180 องศาเซลเซียส นำซาโมซ่าที่ทำเตรียมไว้ลงทอดจนแป้งมีสีเหลืองอมน้ำตาล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานเสิร์ฟขณะร้อน ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซาโมซ่าไส้ผัก กรอบอร่อยได้สุขภาพสไตล์อินเดีย
++++++++++++++++++
4. สลัดแตงกวา
ใครมีแตงกวาเหลือ ๆ จับมาทำสลัดแตงกวากันเถอะ ใส่หอมใหญ่กับมะเขือเทศ ปรุงรสด้วยมะนาวและพริกไทย เพิ่มความหอมจากกระเทียม กินกับแป้งโรตี
ส่วนผสม สลัดแตงกวา
• มะเขือเทศหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
• แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1 ลูก
• หอมใหญ่หั่นเต๋า แช่เย็นจัด 1/2 หัว
• ผักชีซอย 1 ต้น
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น เล็กน้อย (ปรุงรส)
• พริกไทยดำบด เล็กน้อย (ปรุงรส)
• น้ำมันมะกอก 1/2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
• แป้งโรตีทอดกรอบ
วิธีทำสลัดแตงกวา
1. ตีผสมน้ำมะนาว เกลือป่น และพริกไทยดำให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำมันมะกอก ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่กระเทียมลงคนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง เตรียมไว้
2. ใส่มะเขือเทศ แตงกวาญี่ปุ่น และหอมใหญ่ลงในอ่างผสม ใส่น้ำสลัดที่เตรียมไว้และผักชีซอยลงเคล้าผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับแป้งโรตีทอดกรอบ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สลัดแตงกวา เมนูลดน้ำหนักสไตล์อินเดีย
++++++++++++++++++
5. ขนมลาดู
แค่เห็นสีสันของขนมสูตรนี้ก็อยากลองทำแล้ว พบกับขนมลาดู (Laddu, Ladoo) สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ จับแป้งผสมสีส้มหยอดเป็นเม็ดเล็ก ๆ เอาไปทอดในน้ำมันจนสุกและเอาไปผัดในน้ำเชื่อมให้หวาน สุดท้ายปั้นเป็นก้อนกลม
ส่วนผสม บุนดี้ (boondi) หรือแป้งทอดกรอบ
• แป้งถั่วลูกไก่ หรือแป้งเบซัน 125 กรัม
• น้ำเปล่า 175 กรัม (ถ้าแป้งหนืดไปสามารถเพิ่มได้ค่ะ)
• เนยกี 1/2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีส้ม
• น้ำมันสำหรับทอด+เนยกีประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ
หมายเหตุ : ก่อนนำมาทอด ต้องพักแป้งสัก 25-30 นาที
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• น้ำ 100 กรัม
• ผงกระวาน 1/2 ช้อนชา
• สีผสมอาหารสีส้ม
• น้ำมะนาวหรือเลมอน 1/2 ช้อนชา (ใส่หลังจากที่น้ำเชื่อมเดือด ดับเตาแล้วก็ใส่น้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน แล้วค่อยใส่ boondi)
ส่วนผสม ผลไม้แห้ง
• เม็ดแตงโม 2 ช้อนโต๊ะ (หรืออย่างอื่นก็ได้)
วิธีทำขนมลาดู
1. เอาพิมพ์ฟอยล์มากดด้วยตะเกียบหรือก้นดินสอให้เป็นร่องลงไป หลังจากนั้นเอาไม้ปลายแหลมหรือไม้จิ้มฟันเจาะรูเล็ก ๆ หรือจะใช้กระชอนแบบนี้ก็ได้ แต่รูอาจจะใหญ่ไปสักหน่อย แต่ก็ใช้ได้เหมือนกัน
2. ผสมแป้ง+เนยกี 1/2 ช้อนชา พอเข้ากันแล้วก็ใส่น้ำลงไป ค่อย ๆ แบ่งใส่ก็ได้ จะได้คนเข้ากันง่าย ๆ พอคนแป้งเข้ากันดีแล้วก็ใส่สีผสมอาหารสีส้มแล้วคนให้เข้ากัน พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาที
3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชกับเนยกีลงไปในกระทะ ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อนแล้ว ตักแป้งลงไปในกระชอน แล้วเคาะกับขอบกระทะ (ซึ่งเสียงจะดังมาก) อาจจะต้องหากระป๋อง หรืออะไรก็ได้ที่สูงกว่ากระทะเล็กน้อย หาผ้ามารองด้านบนจะทำให้ลดเสียงลงเยอะมาก พยายามเคาะให้ boondi ค่อย ๆ หยดลงมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ อย่างสม่ำเสมอ พอแป้งลอยขึ้นมาก็ตักขึ้น พักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. ทำน้ำเชื่อม โดยตั้งกระทะใส่น้ำกับน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย ใส่สีผสมอาหารสีส้มและผงกระวานลงไป พอน้ำเชื่อมเดือดก็ดับเตาแล้วใส่น้ำมะนาวลงไป หลังจากนั้นใส่ boondi ตามด้วยเม็ดแตงโมลงไป เปิดเตาผัดจนน้ำเชื่อมแห้ง ดับเตาแล้วปิดฝาพักไว้ 20-30 นาที พอเย็นแล้วก็นำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมลาดู สูตรขนมอินเดียสีสวยหวานหอมตามกระแสซีรีส์ดัง
++++++++++++++++++
6. นาน (โรตีนาน)
นานมาแล้วที่ไม่ได้กินโรตีนานกับแกงกะหรี่ไก่ วันนี้ว่าง ๆ ขอทำสักแผ่นดีกว่า แป้งนานกรอบนอกนุ่มในหอมเนย เอาไปจิ้มกับแกงคาว ๆ และถ้าตัดเลี่ยนด้วยสลัดแขกด้วยรับรองอร่อยเหาะ
ส่วนผสม โรตีนาน
• ยีสต์แห้งชนิดผง 2 ช้อนชา
• น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2+1/2-3 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/3 ถ้วย
• ไข่ไก่ 1 ฟองใหญ่
วิธีทำโรตีนาน
1. เตรียมถ้วยผสมขนาดเล็ก ใส่ยีสต์ น้ำตาล และน้ำเปล่า คนผสมจนละลายเข้ากัน ตั้งทิ้งไว้จนขึ้นฟอง เติมน้ำมัน โยเกิร์ต และไข่ไก่ ตีผสมจนเข้ากัน
2. เตรียมอ่างผสมขนาดกลาง คนผสมแป้ง 1 ถ้วยกับเกลือ เสร็จแล้วเทลงในส่วนผสมของเหลว คนผสมจนเข้ากัน ทยอยใส่แป้งส่วนที่เหลือลงไป นวดผสมจนเข้ากัน
3. นวดแป้งประมาณ 3 นาที คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือจนขึ้นฟูเป็นสองเท่า เสร็จแล้วแบ่งเป็น 8 ก้อน ปั้นเป็นก้อนกลม
4. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง รีดแป้งเป็นแผ่นกลมแบน ความหนาประมาณ 1/4 นิ้ว และเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว เอาไปย่างในกระทะจนสุกเป็นสีเหลืองทองทั้งสองด้าน ทาเนยละลายและโรยสมุนไพรก่อนเสิร์ฟ
++++++++++++++++++
7. ชานมอินเดีย
มาต่อกันที่เครื่องดื่มสไตล์อินเดีย พบกับชานมอินเดีย สูตรจากเฟซบุ๊ก Rin Silpachai นี้ใช้ใบชาดำอินเดียต้มกับน้ำเปล่าจนเดือด เติมนมข้นหวานตามชอบ ทีเด็ดคือใส่ฟองนมเพิ่มความหอมมัน
ส่วนผสม ชานมอินเดีย
• ใบชาดำอินเดีย (Indian Black Tea) 1/4 ถ้วย
• น้ำเปล่า 5 ถ้วย
• นมข้นจืด (หรือนมสด) ปริมาณตามชอบ
• น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ
• นมข้นหวาน ปริมาณตามชอบ (เพิ่มความหวานมัน)
วิธีทำชานมอินเดีย
1. ใส่น้ำลงในหม้อ ต้มจนน้ำเดือดจัดแล้วใส่ใบชาลงไปต้ม (สามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้หากไม่ต้องการความเข้มข้นจนเกินไป) ต้มจนเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน คนผสม 2-3 ครั้งแล้วต้มต่อด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 3-5 นาที
2. ทำฟองนมโดยใส่นมข้นจืดลงในหม้อใบเล็ก ตามด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย (น้ำตาลทรายจะช่วยให้ฟองนมทรงตัวมากขึ้น) คนผสมให้น้ำตาลทรายละลาย แล้วนำขึ้นตั้งไฟจนนมอุ่นที่อุณหภูมิ 150-170 องศาฟาเรนไฮต์ (หรือประมาณ 66-77 องศาเซลเซียส)
3. พอนมได้อุณหภูมิที่เราต้องการแล้วให้ใช้ที่ตีฟองนมลงไปตีให้เป็นโฟมนุ่มตามต้องการ จากนั้นนำหม้อไปกระแทกเบา ๆ ลงกับโต๊ะเพื่อให้ฟองนมขนาดใหญ่แตกตัว เตรียมไว้
4. ตักนมข้นหวานใส่ลงในแก้วสำหรับเสิร์ฟ เทชาที่ต้มไว้ผ่านกระชอบกรองชาลงไปในแก้ว ประมาณ 2/3 ของแก้ว คนผสมให้นมข้นละลายเข้ากัน
5. ใช้ช้อนกั้นฟองนมแล้วเติมเฉพาะนมสดลงไปประมาณ 3/4 ของแก้ว คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
6. สุดท้ายตักฟองนมใส่ลงไปด้านบนจนเต็มแก้ว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ชานมอินเดีย เครื่องดื่มแก้วเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ไจ
++++++++++++++++++
8. ลาสซี่มะม่วง
เกิดมาต้องลองสักครั้งกับเครื่องดื่มลาสซี่มะม่วง สูตรจาก คุณ RinS CookBook จับโยเกิร์ตผสมกับเนื้อมะม่วงสุก และซอสมะม่วง ลองทำดื่มดับร้อนกันเถอะ
ส่วนผสม ลาสซี่มะม่วง
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ออนซ์
• เนื้อมะม่วงสุก 4 ออนซ์
• ซอสมะม่วงเข้มข้น (ในสูตรนี้ใช้ Kesar Mango Pulp แบบกระป๋องจากประเทศอินเดีย)
• นมสด 1/4 ถ้วย (หรือฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟครีม)
• น้ำแข็ง 1 ถ้วย
• น้ำเชื่อม 1 ออนซ์ (หรือน้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ)
หมายเหตุ : ซอสมะม่วงเข้มข้นชนิดกระป๋อง หรือ Kesar Mango Pulp สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายวัตถุดิบอินเดีย หรือถ้าซื้อไม่ได้จริง ๆ ให้ใช้เนื้อมะม่วงสุกจัด ๆ มาใช้แทนได้
วิธีทำลาสซี่มะม่วง
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปิดฝาแล้วปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน (เวลาในการปั่นขึ้นอยู่กับเครื่องปั่นแต่ละเครื่อง)
2. ตกแต่งแก้ว โดยเทซอสมะม่วงลงในไปในแก้วก่อนแล้วเอียงแก้วไปมาให้สวยงามตามชอบ จากนั้นเทลาสซี่ที่ปั่นไว้ลงไป ราดทับด้วยซอสมะม่วงอีกครั้ง แต่งด้วยใบสะระแหน่ พร้อมเสิร์ฟ (หรือจะโรยถั่วพิสตาชิโอลงไปก็ได้ตามชอบ)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาสซี่มะม่วง เครื่องดื่มโยเกิร์ตปั่นสไตล์อินเดีย ร้อนนี้ต้องลอง
ว้าว ! อาหารอินเดียน่ากินหนักมาก โดยเฉพาะข้าวหมกไก่ของโปรด แต่ขอทำน้ำซุปไก่รสแซ่บเพิ่มด้วยดีกว่า เอาล่ะ… ขอตัวไปซื้อไก่ก่อนนะคะ