1. ขนมเปี๊ยะใหญ่ไส้ถั่วไข่เค็ม
ส่วนผสม แป้งชั้นนอก
- แป้งสาลี (แป้งซาลาเปา หรือแป้งบัวแดง) 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 125 กรัม
- น้ำ 150 กรัม
- น้ำมันถั่วเหลือง 175 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- แบะแซ 20 กรัม
ส่วนผสม แป้งชั้นใน
- แป้งสาลี 300 กรัม
- น้ำมันพืช 125 กรัม
ส่วนผสม ไส้ถั่วไข่เค็ม
- ไส้ถั่วกวน 2,000 กรัม
- ไข่แดงเค็ม 20 ฟอง
หมายเหตุ :
- น้ำหนักแป้งกับไส้ต่อ 1 ลูก
- แป้งชั้นนอกก้อนละ 100 กรัม
- แป้งชั้นในก้อนละ 40 กรัม
- ไส้ถั่วก้อนละ 200 กรัม
- ไข่แดงเค็ม 2 ฟอง
วิธีทำขนมเปี๊ยะไส้ถั่วไข่เค็ม
2. เทแป้งลงไปในชามผสม เทส่วนผสมไข่ที่ผสมไว้ลงไป ตีหรือนวดแป้งจนเนื้อเนียน ลักษณะแป้งจะขึงเป็นฟิล์มได้ จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้)
3. ทำแป้งชั้นในโดยผสมน้ำมันพืชกับแป้ง นวดจนแป้งเนียนเข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้)
4. แบ่งแป้งชั้นนอก (แป้งชั้นนอกก้อนละ 100 กรัม) กับแป้งชั้นใน (แป้งชั้นในก้อนละ 40 กรัม) ให้ได้อย่างละ 10 ก้อน (ในสูตรทำให้ดูครึ่งหนึ่งก่อน) จากนั้นรวบแป้ง คลึงเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้)
5. รีดแป้งชั้นนอก วางแป้งชั้นในลงไป ห่อแป้งชั้นนอก-ชั้นในเข้าด้วยกัน พักแป้งไว้อีก 10 นาที
6. นำไข่แดงเค็มไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที
7. เตรียมไส้ถั่วชั่งไว้และปั้นเป็นลูก ๆ น้ำหนักประมาณ 200 กรัม ใส่ไข่แดงเค็มลงไปแล้วห่อด้วยกัน
8. นำแป้งมารีดให้เป็นแผ่นแล้วพับเป็น 3 ทบ แล้วรีดอีก 1 รอบ แล้วก็พับ 3 ทบอีกครั้ง จากนั้นพักแป้งให้คลายตัว 10 นาที จากนั้นนำมารีดให้เป็นแผ่น วางไส้ลงไป ห่อให้แน่น เอาด้านบนหรือหน้าที่เรียบคว่ำลงไป เอากระดาษรองด้านบนไว้ แล้วเอาฝ่ามือ หรือจะใช้ถาดกดลงไปก็ได้ พลิกกลับด้าน แต่งและจัดทรงให้สวยงาม วางไว้ในถาดอบ
9. เตรียมสีแดง แล้วเอากระดาษทิชชูรองประมาณ 2-3 แผ่น จากนั้นปั๊มลายลงไป พักให้สีแห้ง พอสีแห้งแล้วก็พลิกกลับด้าน นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20-25 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง พักให้อุ่นลง พลิกกลับด้าน พออุ่นแล้วก็ทาไข่แดงลงไปให้ทั่ว นำไปอบต่อที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-15 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง ถ้าชอบกลิ่นควันเทียน พอขนมเปี๊ยะเย็นก็นำไปอบทิ้งไว้ 1 คืน
ดูวิธีทำ ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วไข่เค็ม สูตรเปี๊ยะใหญ่วังไกลกังวล เพิ่มเติมคลิก
2. ขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม
ส่วนผสม แป้งขนมไหว้พระจันทร์ (พิมพ์ขนาด 3 นิ้ว)
- แป้งเค้ก (แป้งส่วนที่ 1) 240 กรัม
- น้ำเชื่อม 250 กรัม
- น้ำมันถั่วลิสง 80 กรัม
- น้ำด่าง 2 ช้อนชา
- แป้งขนมปัง 125 กรัม (แป้งส่วนที่ 2)
ส่วนผสม ไส้ขนม
- ทุเรียนกวน 1,500-1,600 กรัม
- ไข่แดงเค็ม 15 ลูก
ส่วนผสม ไข่ทาหน้าขนม
- ไข่แดง 1 ฟอง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- นม 1 ช้อนชา
- น้ำเชื่อม 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม น้ำเชื่อม (ขนมไหว้พระจันทร์)
- น้ำตาลทรายไม่ขัดสี 1 กิโลกรัม
- น้ำ 600 มิลลิลิตร
- น้ำมะนาวหรือน้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
- เปลือกเลมอน (ใส่หรือไม่ก็ได้)
วิธีทำขนมไหว้พระจันทร์ไส้ทุเรียนไข่เค็ม
1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลงไปในหม้อต้ม เติมน้ำมะนาวและเปลือกเลมอนลงไป ต้มด้วยไฟอ่อนประมาณ 1 ชั่วโมง ระหว่างต้มก็มาคนเป็นพัก ๆ พอผ่านไป 1 ชั่วโมง ลองตักมาเช็กดูว่า น้ำเชื่อมได้ที่หรือยัง น้ำเชื่อมที่ได้จะมีลักษณะข้นหนืดคล้าย ๆ น้ำผึ้ง พอน้ำเชื่อมได้ที่แล้วดับเตา ตักเปลือกเลมอนออก จากนั้นพักให้เย็นลง พอเย็นลงแล้วเทใส่ขวด เก็บไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ก่อนนำมาใช้
2. มาเริ่มทำเปลือกขนมไหว้พระจันทร์กันโดยใส่น้ำเชื่อม น้ำมันถั่วลิสง และน้ำด่างลงไปในชามผสม แล้วคนให้เข้ากัน
3. เทแป้งเค้กใส่ในชามผสม (แป้งส่วนที่ 1) แบ่งใส่ทีละครึ่ง จะได้ตะล่อมง่าย ๆ พักแป้งไว้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง หรือพักค้างคืนเลยก็ได้
4. พอพักแป้งแล้วใส่แป้งขนมปัง (แป้งส่วนที่ 2) ลงไป นวดจนแป้งเนียนเข้ากัน จากนั้นพักแป้งอีกประมาณ 30 นาที (เอาผ้าคลุมไว้ด้วย) พอครบเวลาแบ่งแป้งเป็นก้อนละ 45-50 กรัม
5. นำไข่แดงเค็มไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 5 นาที
6. เตรียมไส้ทุเรียนกับไข่แดงเค็ม ชั่งรวมกันประมาณ 120-125 กรัม
7. ใส่ไข่แดงลงไปในทุเรียนกวนแล้วห่อให้แน่น รีดแป้งเป็นแผ่น นำแป้งมาห่อไส้ ทาน้ำมันลงไปในพิมพ์ให้ทั่ว กดพิมพ์ลงไปบนขนมไหว้พระจันทร์ พอกดเสร็จหมดแล้วก็พรมน้ำให้ทั่วก่อนนำไปอบ
8. นำไปอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-15 นาที พออบเสร็จ พรมน้ำให้ทั่วแล้วพักให้อุ่นลง
9. ใส่นมกับน้ำเชื่อมลงไปผสมในไข่ไก่กับไข่แดง (น้ำเชื่อมจะทำให้สีขนมเข้มสวยขึ้น) ทาไข่ให้ทั่วเปลือกขนมเปี๊ยะ อบต่อด้วยอุณหภูมิ 190-200 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 20 นาที อบเสร็จแล้ว แต่ยังกินไม่ได้เลยเพราะเปลือกขนมยังแข็งอยู่ พอพักให้ขนมเย็นแล้วก็เก็บไว้อีก 3 วัน ก่อนนำมารับประทาน
3. ขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงไข่เค็ม
ส่วนผสม แป้งชั้นนอก
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
- เนยกี หรือน้ำมันหมู (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืช) 30 กรัม
- น้ำ 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 15 กรัม
ส่วนผสม แป้งชั้นใน
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
- เนยกี หรือน้ำมันหมู (ถ้าไม่มีใช้น้ำมันพืชได้ค่ะ) 40 กรัม
ส่วนผสม ไส้ขนมเปี๊ยะ
- ไส้ถั่วแดง 300 กรัม (แบ่งลูกละ 30 กรัม)
- ไข่แดงเค็ม 10 ฟอง หรือจะ 5 ฟองแล้วแบ่งครึ่งก็ได้
ส่วนผสม สำหรับทาหน้าขนม
- ไข่แดงสำหรับทาหน้าขนม+สีเหลืองเมลอน ประมาณ 1-2 หยด
- งาดำ
ส่วนผสม ไส้ถั่วแดงกวน (สำหรับทำไส้ขนม)
- ถั่วแดง 500 กรัม
- น้ำตาลทราย 500 กรัม
- น้ำมันพืช 100 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำ (สำหรับเติมตอนปั่นถั่วแดง กะ ๆ ได้เลย ใส่แค่ปั่นถั่วแล้วไม่หนืดเกินไป)
วิธีทำถั่วแดงกวน
2. นำถั่วแดงไปปั่นให้ละเอียด ความละเอียดแล้วแต่ชอบเลยนะคะ นำ เติมน้ำที่ต้มถั่วแดงลงไป หรือจะเป็นน้ำเปล่าก็ได้ ใส่น้ำแค่พอปั่นแล้วไม่หนืดมาก ใส่น้ำตาลทราย น้ำมันพืช และเกลือป่น
3. กวนด้วยไฟกลาง ๆ ไปทางอ่อน ประมาณ 40 นาที-1 ชม.พอกวนจนถั่วแดงแห้งไม่ติดกระทะ แล้วนำมาพักให้เย็น จากนั้นก็บรรจุใส่ภาชนะปิดฝามิดชิด
วิธีทำขนมเปี๊ยะไส้ถั่วแดงไข่เค็ม
1. ทำแป้งชั้นนอก โดยผสมน้ำตาลทรายกับน้ำ แล้วคนให้ละลายเข้ากัน เทใส่แป้งแล้วคนจนแป้งจับตัวกัน จากนั้นใส่เนยกี (Ghee) ลงไป นวดแป้งจนเนื้อเนียน จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้ค่ะ)
2. ทำแป้งชั้นในต่อ โดยผสมเนยกี (Ghee) กับแป้ง นวดจนแป้งเนียนเข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้ค่ะ)
3. แบ่งแป้งชั้นนอกกับชั้นในให้ได้อย่างละ 10 ก้อน จากนั้นรวบแป้ง คลึงเป็นลูกกลม ๆ จากนั้นพักแป้งไว้ 10 นาที (เอาผ้าหมาด ๆ คลุมไว้)
4. จากนั้นห่อแป้งชั้นนอกกับชั้นในเข้าด้วยกัน พักแป้งไว้อีก 10 นาที
5. นำไข่แดงเค็มไปอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10 นาที
6. ปั้นไส้ถั่วแดงกวนเป็นลูกกลม ๆ น้ำหนักประมาณ 30-35 กรัม
7. นำไส้ถั่วกับไข่แดงเค็มมาห่อด้วยกัน
8. นำแป้งมารีดให้เป็นแผ่นแล้วม้วนตามภาพ พักแป้งให้คลายตัวอีก 10 นาที
9. จากนั้นนำมารีดให้เป็นแผ่นยาว จากนั้นม้วนแป้ง กดตรงกลาง แล้วพับด้านข้างเอามา รีดให้เป็นแผ่นแล้วนำไส้มาห่อให้แน่น ทาไข่แดงให้ทั่ว โรยด้วยงาดำ
10. นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25-30 นาที ใช้ไฟบน-ล่าง พักให้เย็นบนตะแกรง หรือจะกินอุ่น ๆ เลยก็ได้
4. ซาลาเปาไส้ไข่เค็มลาวา
ส่วนผสม แป้งเชื้อ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 250 กรัม
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ยีสต์ 2+1/4 ช้อนชา
- น้ำเปล่า 245 มิลลิลิตร
ส่วนผสม แป้งโดว์
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 150 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือป่นละเอียด 3/4 ช้อนชา
- สารเสริมเอสพี (SP) 1+1/2 ช้อนชา (*สารเสริมสำหรับทำให้ขนมปังขึ้นฟู)
- น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ
- เนยขาว 55 กรัม
- แป้งเชื้อที่หมักไว้ทั้งหมด
- กระดาษรองซาลาเปา
ส่วนผสม ไส้ครีมลาวา
- ไข่เค็มต้มสุก (เฉพาะไข่แดง) 5 ฟอง
- นมผง 7 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงคัสตาร์ดสำเร็จรูป 6 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1/4 ถ้วยตวง
- นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยสดชนิดจืดละลาย 120 กรัม
วิธีทำไส้ครีมลาวา
2. เทส่วนผสมที่ได้ลงอ่างผสม นำเข้าแช่เย็นพอเซตตัว ใช้ที่ตักไอศกรีมตักเป็นลูก ๆ หรือปั้นเป็นก้อนกลมวางเรียงใส่ถาด นำเข้าแช่ตู้เย็นจนเซตตัวอีกครั้งก่อนนำไปใช้
วิธีทำแป้งเชื้อ
2. เติมน้ำเปล่าลงในแป้ง นวดจนแป้งจับตัวเป็นก้อน ใช้ฝาปิดให้สนิท พักแป้งไว้ประมาณ 30-40 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟูเป็นสองเท่า
วิธีทำแป้งโดว์
1. ร่อนแป้งสาลี กับผงฟู รวมกันใส่อ่างผสมเตรียมไว้
2. ผสมสารเสริม SP กับน้ำเปล่า คนพอเข้ากันพักไว้
3. ใส่แป้งเชื้อลงในเครื่องผสม เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น ใช้หัวตีรูปตะขอ นวดด้วยความเร็วปานกลางของเครื่อง พอเข้ากันลดความเร็วของเครื่องเหลือต่ำสุด
4. เติมแป้งที่ร่อนไว้ นวดต่อพอจับตัวเป็นก้อน ใส่ส่วนผสมในข้อที่ 2 และเนยขาว นวดต่อด้วยความเร็วปานกลางของเครื่อง จนแป้งมีลักษณะเนียนนุ่มไม่คิดภาชนะ ปิดเครื่อง
5. นำแป้งที่ได้คลึงเป็นก้อนกลม คลุมด้วยแผ่นพลาสติกพักไว้ ประมาณ 10 นาที จากนั้นตัดแป้งก้อนละ 30-35 กรัม คลึงเป็นก้อนกลมใช้แผ่นพลาสติกคลุม พักไว้อีกประมาณ 5 นาที
6. ใช้ไม้คลึงแป้งรีดก้อนแป้งให้เป็นแผ่นวงกลม ตักไส้ใส่ลงตรงกลางแผ่นแป้งหุ้มแป้งให้มีดไส้ วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา ใช้แผ่นพลาสติกคลุม พักไว้ประมาณ 30 นาที หรือจนแป้งขึ้นฟูเป็น 2 เท่า
7. เรียงซาลาเปาลงในชั้นลังถึง นำขึ้นนึ่งในน้ำเดือดประมาณ 6 นาที ยกลง พักไว้บนตะแกรง รับประทานขณะอุ่น ๆ
5. ซาลาเปาไส้หมูสับไข่เค็ม
ส่วนผสม ไส้หมูสับไข่เค็ม
- หมูสับ 500 กรัม
- เห็ดหอมหั่นเต๋า 6-7 ดอก
- แครอตหั่นเต๋า 4-5 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย 5 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 3+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 5 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 5 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดงเค็ม
ส่วนผสม แป้งซาลาเปา
- แป้งสปันจ์
- แป้งโดว์
- เนยขาว 25 กรัม
- น้ำมัน 50 กรัม
ส่วนผสม แป้งสปันจ์
- น้ำอุ่น 200 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งซาลาเปา 375 กรัม
ส่วนผสม แป้งโดว์
- น้ำสะอาด 40 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งซาลาเปา 150 กรัม
- ดับเบิลผงฟู 2 ช้อนชา (หรือใช้ผงฟูธรรมดาก็ได้)
วิธีทำไส้หมูสับไข่เค็ม
2. คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้ในตู้เย็น
วิธีทำแป้งซาลาเปา (แป้งสปันจ์)
2. ร่อนแป้งซาลาเปา นำส่วนผสมยีสต์เทลงในแป้งซาลาเปาที่ร่อนไว้แล้ว ค่อย ๆ เทลงทีละนิด ตะล่อมให้เข้ากัน แล้วนวดประมาณ 5 นาที พอให้แป้งไม่ติดมือ (ไม่ต้องนวดจนแป้งเนียน)
3. นำแป้งใส่อ่าง คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหารหรือหาอะไรมาปิดกันลมไว้ พักแป้งในที่อุ่น ๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงหรือรอจนแป้งขึ้นเป็น 2 เท่า ยิ่งอากาศร้อนแป้งยิ่งขึ้นเร็ว
วิธีทำแป้งซาลาเปา (แป้งโดว์)
2. ร่อนแป้งซาลาเปากับผงฟู ทำหลุมตรงกลาง ค่อย ๆ เทส่วนผสมของเหลวที่ผสมไว้ลงไปในหลุมทีละนิด ตะล่อมให้เข้ากันจนเป็นก้อน
3. นำแป้งสปันจ์ที่พักเสร็จแล้วมาผสมกับแป้งโดว์ ใส่เนยขาวกับน้ำมันลงไป นวดประมาณ 20-30 นาทีหรือจนแป้งเนียน เอาให้แป้งเนียนไม่ต้องให้ขึ้นฟิล์มเหมือนขนมปัง (ใครมีเครื่องผสมแป้งก็ใช้ได้เลย)
4. ใส่ลงในอ่างผสม คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักแป้งอีกประมาณ 30-60 นาทีหรือจนแป้งขึ้นฟูเป็น 2 เท่า
วิธีทำซาลาเปา
1. พอพักแป้งครบเวลาแล้วเอาแป้งออกมาชกไล่ลม แบ่งเป็นก้อนเท่า ๆ 40 กรัมต่อลูก
2. นำก้อนแป้งเรียงใส่ถาด คลุมด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แล้วพักแป้งไว้อีก 10 นาที
3. พอครบเวลาแล้วก็นำแป้งมารีดเป็นแผ่นกลมไม่ต้องบางมาก ใส่ไส้หมูสับกับไข่เค็มที่เตรียมไว้ ห่อให้สวยงาม
4. วางลงบนกระดาษรองซาลาเปา พักอีก 10 นาที
5. นำเอาไปนึ่ง ประมาณ 9-10 นาที ใส่น้ำส้มสายชูลงในน้ำที่ใช้นึ่งด้วยเพื่อช่วยให้ซาลาเปาขาว
6. พอสุกก็นำซาลาเปาพักบนตะแกรง หรือจัดเสิร์ฟร้อน ๆ ถ้ากินไม่หมดสามารถเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้าห่ออย่างดี นำใส่ช่องแช่แข็งเก็บไว้ได้เป็นเดือน พอจะกินก็เอามาเข้าไมโครเวฟสัก 30 วินาที แป้งซาลาเปาก็ยังนุ่มเหมือนเดิม
6. ขนมเปี๊ยะ ไส้ถั่วไข่เค็ม
ส่วนผสม ไส้ถั่วไข่เค็ม
- ถั่วเขียวเราะเปลือก 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 320 กรัม
- น้ำมันพืช 50 กรัม
- ไข่เค็มต้มสุก
ส่วนผสม แป้งชั้นนอก
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ตราบัวแดง) 250 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 175 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
- น้ำมันพืช 150 กรัม
- น้ำเย็น 180 กรัม
ส่วนผสม แป้งชั้นใน
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ตราบัวแดง) 150 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ (ตราว่าว) 125 กรัม
- น้ำมันพืช 100 กรัม
วิธีทำไส้ถั่วกวน
2. เทถั่วปั่นลงในกระทะทองเหลือง ใส่น้ำตาลทรายลงไป นำขึ้นตั้งไฟอ่อน กวนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเริ่มข้น ใส่น้ำมันพืชลงไป กวนต่อจนได้ส่วนผสมถั่วข้นและแห้งพอที่จะปั้นเป็นก้อนได้ ยกลงจากเตา พักไว้จนเย็น
3. ผ่าไข่เค็มแล้วคว้านเอาเฉพาะไข่แดงออกแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ (8 ชิ้น ต่อ 1 ฟอง)
4. แบ่งถั่วให้ได้เท่าจำนวนลูกที่จะทำ (ลูกละ 12 กรัม) แล้วแผ่เป็นแผ่นแล้ววางไข่แดงลงบนถั่วที่แผ่ไว้ ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ทำจนหมด เตรียมไว้
วิธีทำแป้งชั้นนอก
2. ทำหลุมตรงกลางแป้งที่ร่อนไว้ จากนั้นเทน้ำมันพืชและน้ำเย็นลงไปในหลุม ค่อย ๆ คนผสมเข้าด้วยกัน โดยวนจากด้านในออกไปด้านนอก คนผสมไปเรื่อย ๆ จนแป้งจับตัวเป็นก้อน พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
วิธีทำแป้งชั้นใน
2. ทำหลุมตรงกลางแป้งที่ร่อนไว้ จากนั้นเทน้ำมันพืชลงไปในหลุม ค่อย ๆ คนผสมเข้าด้วยกัน โดยวนจากด้านในออกไปด้านนอกจนแป้งจับตัวเป็นก้อน (แป้งในนี้จะมีลักษณะเนียน ๆ แข็ง ๆ) พักแป้งไว้อย่างน้อย 30 นาที
วิธีทำขนมเปี๊ยะไส้ถั่วไข่เค็ม
1. แบ่งแป้งชั้นนอกออกเป็น 20 ก้อน ขนาดเท่า ๆ กัน ก้อนละประมาณ 38 กรัม (ใช้วิธีชั่งแป้งทั้งก้อนแล้วหารด้วย 20 )
2. แบ่งแป้งชั้นในออกเป็น 20 ก้อน ขนาดเท่า ๆ กัน ก้อนละประมาณ 18 กรัม (ใช้วิธีชั่งแป้งทั้งก้อนแล้วหารด้วย 20)
3. แผ่แป้งชั้นนอกเป็นแผ่นแล้ววางแป้งชั้นในไว้ตรงกลาง จับมุมแป้งชั้นนอกขึ้นมาก่อแป้งชั้นในให้มิด
4. ใช้ไม้คลึงแป้ง รีดแป้งขึ้น-ลง (ในแนวดิ่งอย่างเดียว)
5. พับแป้งด้านบนลงมาโดยให้ปลายมาจรดตรงกลางแผ่นแล้วพับปลายด้านล่างขึ้นไป จากนั้นหมุนแป้งที่พับไว้ 90 องศา จากนั้นใช้ไม้คลึงแป้ง รีดแป้งขึ้น-ลงอีกครั้ง (ในแนวดิ่งอย่างเดียว) ม้วนแป้งจากปลายด้านใดด้านหนึ่ง (เหมือนม้วนเสื่อ) ตัดแบ่งให้ได้ส่วนตามต้องการ (ในสูตรแบ่ง 4 ส่วน)
6. วางแป้งให้ระนาบที่กลมลงบนพื้นโต๊ะ แล้วกดแป้งลงไปให้แบนราบ จากนั้นนำมารีดเฉพาะขอบให้บางแล้ววางไส้ที่ปั้นเตรียมไว้ลงไป ห่อให้เป็นลูกกลม ๆ เก็บรอยบีบไว้ด้านล่าง (จะเห็นเป็นลายวน ๆ)
7. วางเรียงแป้งใส่ถาดอบที่ทาน้ำมันไว้ เตรียมอบ (ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเป็นถาดที่ใช้ใส่แป้งชั้นนอกตอนพัก จึงไม่ต้องทาน้ำมันเพิ่มเลย เนื่องจากมีน้ำมันเยิ้ม ๆ ออกมาจากแป้งชั้นนอกแล้วบ้าง)
8. ทาส่วนผสมไข่แดงผสมน้ำลงบนหน้าขนม แต้มสีผสมอาหารสีส้มลงบนหน้าขนมให้เป็นจุด ๆ
9. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส (อุ่นเตาไว้ก่อนแล้ว) ประมาณ 20-25 นาที (แล้วแต่ขนาดของขนม) อบเสร็จแป้งจะแห้ง ๆ หน่อย นำขนมออกจากถาดใส่ลงในหม้อสำหรับอบควันเทียน อบจนมีกลิ่นหอม พร้อมเสิร์ฟ
อื้อหือ… เมนูไส้ไข่เค็มยั่วน้ำลายใช่เล่น แต่ถ้าทำรวดเดียวคงสลบ ขอเลือกขนมเปี๊ยะไส้ถั่วไข่เค็มก่อนเลยดีกว่า เพราะมีคนอยากช่วยทำและรอกินอยู่ข้าง ๆ นี่เอง