กาแฟแคปซูลคืออะไร ทำไมต้อง Nespresso Capsule เท่านั้น

          จะดีแค่ไหน ? ถ้าเราตื่นเช้ามาแล้วพบกับมุมคาเฟ่เล็ก ๆ มีเครื่องชงกาแฟแคปซูลดี ๆ สักเครื่องเอาไว้ทำกาแฟสดสูตรที่ถูกใจดื่มเองในทุกเช้า ปล่อยกาแฟค่อย ๆ ไหล คละคลุ้งกรุ่นกลิ่นหอมไปทั่วทั้งบ้าน ช่วยปลุกความสดชื่น เติมความสดใส เรียกพลังยามเช้าก่อนออกไปเผชิญโลกภายนอก หรือเปลี่ยนเช้าวันพักผ่อนให้หยุดอยู่แต่ที่บ้าน แค่คิดตามก็แฮปปี้แล้ว แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถทำกาแฟรสชาติดี ๆ เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ถึงบ้าน ด้วยเวลาไม่ถึง 1 นาที ไปกับ Nespresso Capsule กาแฟแคปซูลที่สามารถชงดื่มเองได้แบบง่าย ๆ ดื่มตอนไหนก็ใช่เลย เราเลยอยากจะขอพาไปทำความรู้จักกาแฟแคปซูลกันสักหน่อย

          กาแฟแคปซูล คือ กาแฟแท้คั่วบดที่บรรจุอยู่ในแพ็กเกจรูปแบบแคปซูลสำหรับใช้กับเครื่องชงกาแฟ และใช้ได้ครั้งเดียว ฝาซีลปิดสนิทด้วยฟอยล์เพื่อเป็นการกักเก็บรสชาติและ ความหอมของกาแฟสดเอาไว้ให้ได้มากที่สุด วิธีใช้เครื่องชงกาแฟเพียงใส่แคปซูลลงในเครื่องชงกาแฟ เลือกเมนูกาแฟและรอให้เครื่องทำงาน ไม่เกิน 1 นาที ก็ได้ดื่มกาแฟดี ๆ แล้ว ไม่ต้องลำบากต้มน้ำร้อน รอน้ำเดือด ฉีกซองกาแฟ ให้วุ่นวาย แค่ปุ่มเดียวจบจริง ๆ คอกาแฟจึงถูกใจสิ่งนี้ ! เพราะทั้งสะดวกสบายและยังเพิ่มทางเลือกในการดื่มกาแฟรสชาติใหม่ ๆ ได้แบบไม่จำเจ เสมือนมีบาริสต้ามาชงให้ดื่มถึงที่บ้าน

          Nespresso Capsule มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้กาแฟแท้คั่วบดอย่างดีที่คัดสรรเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก มีความเฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่ นำมาผสมผสานกันผ่านเทคนิคการคั่วที่ไม่เหมือนกัน จึงทำให้กลิ่นหอมของกาแฟมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน มีความเฉพาะตัวชวนหลงใหล ซึ่งกาแฟแคปซูลของ Nespresso Capsule มีให้เลือกถึง 6 กลุ่มรสชาติด้วยกัน แต่ในวันนี้กระปุกดอทคอมขอหยิบยก 3 รสชาติ มาลองชิมลิ้มรสความหอมที่ใครก็ว่าโดนใจ ได้แก่ กาแฟดำเข้มข้นอย่าง “Fortissio Lungo” (กลุ่ม Lungo) "Indonesia" (กลุ่ม Master Origin) กาแฟที่มีความหอมพิเศษ และ “Scuro” (กลุ่ม Barista Creation) กาแฟที่เหมาะกับการผสมกับนม โดยผ่านการชงด้วยเครื่องชงกาแฟ Lattissima Touch ที่มีเครื่องทำฟองนมในตัว ตามมาชม มาดม มาชิม แล้วจะเคลิ้มไปพร้อม ๆ กัน

กาแฟแคปซูลในแต่ละกลุ่มของ Nespresso จะมีรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกันตามแต่กลวิธีในการผลิตและแหล่งที่มาของเมล็ดกาแฟ

          เริ่มต้นกันที่กาแฟแคปซูล “Fortissio Lungo” จากกลุ่ม Lungo เป็นกาแฟอาบาริก้า 100% ที่โคจรมาพบกันระหว่างตัวแทนจากฝั่งลาตินอเมริกาอย่างโคลอมเบียกับอินเดียตะวันตก ที่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟว่ามีกลิ่นพิเศษที่เกิดมาจากเมื่อตอนที่เมล็ดกาแฟอาบาริก้าของ Malabar ในยุคที่มีการเดินเรือได้ถูกลมมรสุมพัดหลังจากการเก็บเกี่ยวและได้เกิดเป็นลักษณะเด่นของกลิ่นนี้ขึ้นมานั่นเอง เมื่อนำไปผสมเข้ากับเมล็ดกาแฟอาบาริก้าของลาตินอเมริกาแล้ว กาแฟแคปซูลนี้จึงเหมาะกับคนที่ชอบกาแฟแบบมีกลิ่นที่เข้มข้น แฝงความหอมจากกลิ่นไหม้อ่อน ๆ ของมอลต์และธัญพืช รสชาติกาแฟจะขมและค่อนข้างเข้มเข้มหอมมัน แต่ไม่เปรี้ยวมากจนเกินไป แต่จะมีความนุ่มละมุน กลมกล่อมอวลอยู่ในปาก และยังสามารถใช้กับเครื่องชงกาแฟได้ทุกรุ่น หรือรุ่นแนะนำอย่างเช่น เครื่องชงกาแฟแคปซูล nescafe dolce gusto ก็ได้เช่นกัน

• ระดับความเข้ม         : 8 ● ● ● ● ● ● ● ●
• ขนาดแก้ว               : Lungo 110 มล.
• ลักษณะกลิ่นกาแฟ    : เข้มข้น
• ลักษณะกลิ่นหอม      : กลิ่นธัญพืช
• ระดับความขม          : 3 ● ● ● ○ ○
• ระดับความเปรี้ยว      : 2 ● ● ○ ○ ○
• ระดับเนื้อกาแฟ         : 3 ● ● ● ○ ○
• ระดับการคั่ว             : 4 ● ● ● ● ○
• แหล่งกำเนิด            : กาแฟอาราบิก้า 100% จากโคลอมเบียและอินเดียตะวันตก
   

          กาแฟแคปซูลในกลุ่มลุงโก (Lungo) เป็นกาแฟดำสูตรเข้มข้นสำหรับชงดื่มในแก้วขนาดใหญ่ (110 มล.) มีทั้งหมด 5 รสชาติด้วยกัน ได้แก่ Fortissio Lungo, Vivalto Lungo, Vivalto Lungo Decaffeinato, Linizio Lungo และ Envivo Lungo (ดูรายละเอียดกาแฟในกลุ่ม Nespresso Lungo Coffee คลิกที่นี่)

Fortissio Lungo

          Master Origin Indonesia จากกลุ่ม Master Origin เป็นกลุ่มกาแฟรสชาติน้องใหม่ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ๆ เกิดขึ้นจากการค้นพบเอกลักษณ์ท้องถิ่นประเทศต้นกำเนิดเมล็ดกาแฟ ดึงเอาความพิเศษนั้นเข้ามาผสมผสานกับเทคนิคการคั่วที่ไม่เหมือนใคร ซึ่ง Master Origin Indonesia คือ กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% จากทางเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ชาวบ้านแถบนั้นใช้วิธีกะเทาะเปลือกแบบเปียก Wet-Hulled เนื้อกาแฟจึงมีความแน่น แต่รสชาตินุ่มละมุนไม่เหมือนใคร และยังมีกลิ่นของใบยาสูบตากแห้งและกลิ่นดอกไม้จากป่าเขตร้อนชื้นผสมอยู่ด้วย เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟที่มีความขม ไม่เปรี้ยวมาก และมีความละมุนละไมทั้งกลิ่นและรสชาติ
 

• ระดับความเข้ม        : 8 ● ● ● ● ● ● ● ●
• ขนาดแก้ว              : Espresso 40 มล. /  Lungo 110 มล.
• ลักษณะกลิ่นกาแฟ   : เข้มข้น
• ลักษณะกลิ่นหอม     : กลิ่นดอกไม้และใบยาสูบ
• ระดับความขม         : 3 ● ● ● ○ ○
• ระดับความเปรี้ยว     : 2 ● ● ○ ○ ○
• ระดับเนื้อกาแฟ        : 4 ● ● ● ● ○
• ระดับการคั่ว            : 4 ● ● ● ● ○
• แหล่งกำเนิด           : กาแฟอาราบิก้า 100% จากอินโดนีเซีย

           กาแฟแคปซูลในกลุ่ม Master Origin มีทั้งหมด 5 รสชาติด้วยกัน คือ Master Origin Indonesia (อินโดนีเซีย), Master Origin Ethiopia (เอธิโอเปีย), Master Origin India (อินเดีย), Master Origin Nicaragua (นิการากัว) และ Master Origin Colombia (โคลอมเบีย) ซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละประเทศก็มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกันแน่นอน  (ดูรายละเอียดกาแฟในกลุ่ม Nespresso Master Origin คลิกที่นี่)

Master Origin Indonesia

           ในส่วนของกาแฟแคปซูล Scuro (สคูโร) จากกลุ่ม Barista Creations มาพร้อมดีไซน์ลวดลายสวยงามเพื่อบ่งบอกว่าเป็นกาแฟที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการทำเมนูกาแฟนมโดยเฉพาะ “Scuro” ได้แรงบันดาลใจมาจากบาริสต้าในกรุงเมลเบิร์น (Melbourne) มีความเข้มข้นในระดับปานกลาง หอมกลิ่นกาแฟที่มาจากการแยกคั่ว เมื่อเติมนมลงไปจะได้กาแฟนมที่ละมุนละไม กลมกล่อมกำลังดี ถ้าเติมฟองนมที่ตีแล้ว เราก็จะได้สัมผัสรสชาติของคาปูชิโน่รสชาตินุ่ม ๆ จนวางแก้วไม่ลง คนที่ชอบดื่มกาแฟใส่นมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

          กาแฟกลุ่ม Barista Creations มีทั้งหมด 3 รสชาติด้วยกัน คือ Chairo (คีอาโร) นุ่ม หวาน หอมกลิ่นคาราเมลและบิสกิต, Scuro (สคูโร) เข้มข้นลงตัว มีกลิ่นคั่วที่หอม และแบบเข้มข้นมากอย่าง Corto (คอร์โต) โดยทั้ง 3 สูตร สามารถนำมาทำเมนูกาแฟนมได้อร่อยและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคาปูชิโน่ ลาเต้ หรือมัคคิอาโต เหมือนมีบาริสต้ามาชงให้ดื่มที่บ้านเลยจริง ๆ (ดูรายละเอียดกาแฟในกลุ่ม Barista Creations คลิกที่นี่)

          ในการชงเมนูกาแฟนมก็ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อบาริสต้า เพียงใช้แคปซูลกาแฟ Nespresso คู่กับเครื่องชงกาแฟ Nespresso Lattissima Touch สามารถปรับสูตรเมนูกาแฟนมได้เอง ไม่ว่าจะเป็นลาเต้ (Latte) คาปูชิโน่ (Cappucino) หรือมัคคิอาโต (Machiato) เลือกปริมาณกาแฟที่ต้องการ เพิ่ม-ลดอุณหภูมินม หรือเลือกรูปแบบของฟองนมได้อีกด้วย แค่ “Touch” เดียวความละมุนก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว เอาล่ะ เรามาลองสวมบทเป็นบาริสต้ากันดีไหมคะ

           เครื่องนี้มีโปรแกรมในการชงกาแฟให้เลือกถึง 6 รูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะชอบกาแฟดำเข้มข้นแบบ เอสเพรสโซ่ (Espresso) ขนาด 40 มล. หรือลุงโก (Lungo) 110 มล. หรือจะเติมนมเพิ่มความกลมกล่อมในเมนูคาปูชิโน่ (Cappuccino) ลาเต้ (Latte) และมัคคิอาโต (Macchiato) ก็สามารถทำได้ เพราะมีเครื่องสตรีมฟองนมในการเพิ่มความนุ่มนวลให้กับกาแฟทุกรสชาติ จะเลือกนมสูตรไหนก็ย่อมได้ จะเป็นนมสดจัดเต็มความหอมมัน หรือต้องการสุขภาพที่ดีก็สามารถใส่นมธัญพืช หรือนม Low Fat แทนได้ ชงดื่มเองได้ราวกับเป็นบาริสต้าที่อยู่ในร้านกาแฟดี ๆ เลยล่ะ และยังสามารถปรับแต่งการชงกาแฟสูตรต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ อีกด้วย (สักเครื่องไหมคะ ?)

          ปุ่มระบบสัมผัสของเครื่อง Nespresso Lattissima Touch สำหรับเลือกโปรแกรมชงกาแฟรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง 6 แบบ ได้แก่

     1. ริสเทรตโต (Ristretto) : กาแฟ 25 มล. / เอสเพรสโซ่ (Espresso) : กาแฟ 40 มล.
     2. ลุงโก (Lungo) : กาแฟ 110 มล.
     3. คาปูชิโน่ (Cappuccino) : ฟองนม 50 มล. + กาแฟ 40 มล.
     4. ลาเต้ (Creamy Latte) : กาแฟ 40 มล. + ฟองนม 150 มล.
     5. มัคคิอาโต (Latte Macchiato) : ฟองนม 150 มล. + กาแฟ 40 มล.
     6. ฟองนม

เลือกกาแฟแคปซูล Nespresso Capsule รสชาติที่ใช่

กาแฟแคปซูล Nespresso จะถูกบรรจุอยู่ในเครื่อง จากนั้นปิดฝาเครื่อง

วางแก้วกาแฟตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นกดเลือกสูตรชงกาแฟร้อนในปริมาณที่ต้องการด้านบนเครื่อง

จากนั้นเครื่องก็จะเริ่มทำงาน ปล่อยให้กาแฟค่อย ๆ ไหลผ่านก้านชงลงมาในแก้ว รอจนกาแฟหยุดไหล
ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที เราก็จะได้กาแฟดำเข้ม ๆ หอม ๆ พร้อมดื่มได้ทันที

แต่ถ้าเลือกสูตรชงกาแฟที่มีส่วนผสมของนม ก็เพียงรอให้เครื่องหยุดเติมฟองนม กาแฟนมหอม ๆ ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

ในกรณีที่ปริมาณได้ตามที่ต้องการแล้ว หรือฟองนมกำลังล้นแก้ว เราสามารถกดหยุดการเติมฟองนมได้ทันทีนะคะ โดยไม่ต้องรอให้เครื่องหยุดทำงาน (ฟองนมหนานุ่มมาก ๆ ได้ฟีลการดื่มกาแฟแบบในซีรีส์ที่มีฟองนมติดริมฝีปากเลย)

          หากใครหลงใหลในการดื่มกาแฟที่มีฟองนมนุ่ม ๆ สามารถเลือกรูปแบบการทำฟองนมได้เองอีกด้วย และเครื่องชงกาแฟ Lattissima Touch ทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง เพียงกดปุ่ม “Clean” ทุกครั้งหลังการใช้งาน เครื่องก็จะทำความสะอาดหัวชงกาแฟและท่อสตรีมนมได้โดยอัตโนมัติ

ลองใช้กาแฟแคปซูลทำเมนูกาแฟมัคคิอาโตหอม ๆ กับฟองนมนุ่ม ๆ

ต่อให้กาแฟจะขมขนาดไหน เพียงกดเลือกเมนูที่มีส่วนผสมของฟองนม เครื่องก็จะปล่อยฟองนมไหลลงแก้วกาแฟ ช่วยเนรมิตกาแฟของเราให้มีรสชาตินุ่มนวลมากยิ่งขึ้น

ลาเต้ร้อน ๆ ที่ชงจากกาแฟแคปซูล Scuro หอมละมุนกลมกล่อมพร้อมเสิร์ฟแล้ว

          ในเรื่องของราคากาแฟแคปซูล Nespresso แต่ละรสชาติ ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสบายกระเป๋ามาก ๆ เพียงแคปซูลละ 20-24 บาท เท่านั้นเอง (Master Origin Indonesia แคปซูลละ 24 บาท, Fortissio Lungo แคปซูลละ 20 บาท และ Baristra Creations Scuro แคปซูลละ 23 บาท) เมื่อเทียบกับการซื้อกาแฟดื่มเองถือว่าไม่แพงเลยใช่ไหมล่ะคะ Nespresso Capsule ซื้อได้ที่หน้าร้าน Nespresso ทุกสาขา และทางออนไลน์ (ค้นหาสาขาได้ที่ www.nespresso.com/th) ส่วนราคาเครื่องชงกาแฟแคปซูล Lattissima Touch โปรโมชั่นตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 16,300 บาท Nespresso ยังมีเครื่องชงกาแฟอีกหลายรุ่นให้เลือกซื้อ อย่างเช่น เครื่องชงกาแฟ nescafe dolce gusto ในราคา 6,990 บาท โดยสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ หรือเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมที่ www.nespresso.com/th ได้เลย