เมนูกาแฟ กับเรื่องลับ ๆ ของกาแฟที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน

           รวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเมนู กาแฟ เครื่องดื่มแก้วโปรดของใครหลายคน ตั้งแต่ประวัติ ประโยชน์ ชนิดการชง และกาแฟสูตรต่าง ๆ ที่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน พร้อมแนะนำร้านกาแฟใกล้ฉันที่อยากให้ไปลอง
            กาแฟ เครื่องดื่มยอดฮิตในใจของผู้เสพติดคาเฟอีน ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติเข้มข้นเฉพาะตัว คอกาแฟหลายคนปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ต้องได้ดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดอร่อย ๆ ทุกเช้า ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเริ่มต้นวันใหม่ได้อย่างสดชื่นได้ หรือตกบ่ายมาต้องมีกาแฟดี ๆ สักแก้วเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความตื่นตัวพร้อมทำงานต่อไป ซึ่งในปัจจุบันมีกาแฟให้เลือกมากมาย ทั้งแบบร้อน แบบเย็น สูตรต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเภทก็มีรสชาติที่แตกต่างกันไปด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมีเรื่องราวน่ารู้ของกาแฟ ตั้งแต่ต้นกำเนิดกาแฟ รวมถึงสูตรกาแฟอร่อย ๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้านมาฝากกันค่ะ
กาแฟ

ประวัติกาแฟ

           จุดเริ่มต้นของกาแฟนั้นมีความลึกลับและเป็นตำนานที่เล่าต่อกันมาว่า กาแฟนั้นถูกค้นพบโดยคนเลี้ยงแพะชาวเอธิโอเปีย ชื่อ Kaldi ที่พบว่า แพะของเขามีนิสัยสนุกสนานและคึกคัก เต็มไปด้วยพลังงานหลังจากได้กินผลไม้สีแดงจากพุ่มไม้กาแฟ เขาจึงได้ลองกินผลไม้นี้และพบว่า ตัวเองก็มีปฏิกิริยาเดียวกัน Kaldi ได้แบ่งปันสิ่งที่เขาค้นพบกับพระภิกษุรูปหนึ่งจนได้รู้ต่อไปอีกว่า เมื่อโยนเมล็ดเหล่านี้ลงไปในกองไฟ จะได้กลิ่นหอมที่แสนวิเศษ ซึ่งนี่แหละคือ กาแฟคั่วเมล็ดแรกของโลก หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟ นำไปบดและต้ม จนกลายมาเป็นกาแฟ ซึ่งความนิยมในการดื่มกาแฟเริ่มต้นตั้งแต่ในแอฟริกา ยุโรป และเอเชีย จนกลายเป็นทั่วทั้งโลกต่างรู้จักและติดใจกับรสชาติของกาแฟนั่นเอง

กาแฟ ประโยชน์มีอะไรบ้าง

กาแฟ ประโยชน์มีอะไรบ้าง

           กาแฟแก้วโปรดของใครหลายคน รู้หรือไม่ว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำในปริมาณที่พอเหมาะพอดีนั้น มีข้อดีที่มากกว่าความหอมกรุ่นและรสชาตินะ จะมีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายบ้างนั้น เราจะบอกให้ฟังค่ะ

1. ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและลดความตึงเครียด

           คาเฟอีนในกาแฟจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า ช่วยขยายหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ส่งผลให้อาการตึงเครียดต่าง ๆ รวมถึงอาหารเมาค้างก็บรรเทาลงด้วย

2. ช่วยป้องกันมะเร็ง ชะลอวัยได้

           อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา พบว่า ในกาแฟดำอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระทั้งฟลาโวนอยด์และกรดอะซิติก ช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ผิดปกติในร่างกาย ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปากมดลูก ช่วยชะลอวัย ลดความเหี่ยวย่นของผิวพรรณได้

3. กระตุ้นความจำ

           การได้ดื่มกาแฟเป็นประจำประมาณ 4-5 แก้วต่อวัน จะช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมน G-CSF ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ได้

4. เพิ่มการเผาผลาญ และช่วยลดน้ำหนัก

           กาแฟมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยขับแบคทีเรียหรือสารพิษต่าง ๆ ในร่างกายออกมา ในกาแฟดำ 1 แก้ว ให้พลังงานเพียงแค่ 5-10 กิโลแคลอรีเท่านั้น คนที่รักสุขภาพหรือต้องการลดน้ำหนักจึงมักจะดื่มกาแฟดำแบบไม่ใส่น้ำตาลเลย ยิ่งถ้าดื่มก่อนออกกำลังกายแล้วด้วย จะช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย และช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้นด้วย

5. ลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ

          คาเฟอีนที่มีอยู่มากในกาแฟ จะช่วยลดความเสี่ยงของความผิดปกติในร่างกาย รวมถึงโรคอันตรายต่าง ๆ เช่น โรคกระดูกพรุน อาการหอบหืด โรคเกาต์ โรคหัวใจ โรคพาร์กินสัน และโรคที่เกี่ยวข้องกับตับได้
 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ 10 ประโยชน์ของกาแฟดำ ที่คอกาแฟสายเฮลธ์ตี้ไม่ควรพลาด

สายพันธุ์เมล็ดกาแฟ

สายพันธุ์เมล็ดกาแฟ

          กาแฟ มีต้นกำเนิดมาจากพืชในสกุล Coffea ที่มีมากกว่า 500 สกุลและ 6,000 ชนิด เติบโตได้ดีที่สุดในดินที่อุดมสมบูรณ์ มีอุณหภูมิต่ำ ฝนตกบ่อย และแสงแดดส่องถึง ทั้งนี้ ในอุตสาหกรรมกาแฟเชิงพาณิชย์ กาแฟที่สำคัญมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ อาราบิก้าและโรบัสต้า

กาแฟอาราบิก้า

           กาแฟดั้งเดิมที่ค้นพบในเอธิโอเปีย เมล็ดแบนยาว มีคาเฟอีนต่ำ ให้รสชาติที่อ่อนละมุน กลิ่นหอม จึงนิยมนำมาเป็นวัตถุดิบผลิตกาแฟ สายพันธุ์ของอาราบิก้าที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ Bourbon, Typica, Caturra, Mundo Novo, Tico, San Ramon และ Jamaican Blue Mountain

กาแฟโรบัสต้า

           เป็นสายพันธุ์กาแฟที่นิยมใช้ผลิตกาแฟสำเร็จรูป เมล็ดกลมและเล็กกว่าอาราบิก้าเล็กน้อย จะให้รสชาติที่ขมโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์

ประเภทกาแฟที่นิยมดื่ม

ประเภทกาแฟที่นิยมดื่ม

          เวลาเข้าร้านกาแฟแต่ละที เจอป้ายบอกชนิดกาแฟยาว ๆ และหลากหลายจนตาลายสั่งไม่ถูกเลย มาดูประเภทหรือชนิดของกาแฟเหล่านี้กัน จะได้รู้ว่าแต่ละเมนูในร้านกาแฟนั้นมีอะไร และจะเลือกดื่มอะไรดี

เอสเพรสโซ (Espresso)

มาจากภาษาอิตาเลียนที่แปลว่า เร่งด่วน ชงจากเมล็ดกาแฟสีเข้มพิเศษที่บดละเอียด ไหลผ่านเครื่องกดแรงดันที่ผลิตครั้งละหนึ่งช็อตที่มีความเข้มข้นสูงเท่านั้น มักจะเสิร์ฟเป็นแก้วชอตเล็ก ๆ นอกจากนี้เอสเพรสโซยังถือเป็นเบสสำหรับนำไปผสมกับส่วนผสมอื่น ๆ ในการชงกาแฟชนิดต่าง ๆ อีกหลากหลายประเภท

อเมริกาโน (Americano)

อเมริกาโน หรือ กาแฟดำ (Black Coffee) คือการนำเอสเพรสโซมาผสมกับน้ำร้อน จนได้กาแฟชอตที่เจือจาง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่เข้มและหนักขนาดเอสเพรสโซ

คาปูชิโน่ (Cappuccino)

​​​​​​เป็นเอสเพรสโซ นม และฟองนมนุ่ม ๆ ให้รสสัมผัสที่นุ่มนวลและกลมกล่อม

ลาเต้ (Latte)

เป็นเอสเพรสโซกับนมร้อน ท็อปด้านบนด้วยฟองนมเล็กน้อย หอมหวานมัน และนุ่มละมุน และบางครั้งก็มีการใช้นมร้อนตกแต่งทำเป็นลวดลายต่าง ๆ ที่เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (Latte Art)

มอคคา (Mocha)

เป็นเอสเพรสโซผสมช็อกโกแลตร้อน โรยหน้าด้วยฟองนม ผงโกโก้หรือน้ำเชื่อม ทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและกลมกล่อม อีกทั้งช่วยลดความเป็นกรดและรสเปรี้ยวของเอสเพรสโซด้วย

มัคคิอาโต (Macchiato)

มาจากภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า รอยเปื้อนหรือเครื่องหมาย เป็นเอสเพรสโซ ที่ท็อปด้านหน้าด้วยนมร้อนเล็กน้อยและคาราเมล ดื่มง่าย เพราะไม่ขม กลมกล่อม และหอมหวานมัน

แฟลตไวท์ (Flat White)

มีต้นกำเนิดจากประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย เป็นเอสเพรสโซกับนมร้อน คล้ายกับคาปูชิโน แต่ไม่มีฟองนมเหมาะสำหรับคนที่ชอบความกลมกล่อมของกาแฟแต่ไม่ชอบฟองนม

คอร์ตาโด (Cortado)

เป็นเอสเพรสโซกับนมร้อนในปริมาณเท่ากัน และท็อปด้วยโฟมนมเล็กน้อย รสชาติเข้มข้นแต่กลมกล่อม

ลุงโก (Lungo)

มาจากภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า ยาว วิธีการก็คือการทำเอสเพรสโซทั่วไป แต่ปล่อยให้น้ำไหลผ่านนานกว่าปกติจนได้ปริมาณกาแฟที่ต้องการ เพื่อให้ส่วนประกอบรสชาติที่หอมกรุ่น เข้มข้น ขมและฝาดกว่าเอสเพรสโซปกติ

ริสเทรตโต้ (Ristretto)

เป็นการทำเอสเพรสโซที่ใช้เวลาที่สั้นกว่า ให้น้ำร้อนไหลผ่านผงกาแฟและค่อย ๆ สกัดน้ำกาแฟออกมาช้า ๆ แต่จะไม่ขาดสาย รสชาติจะเข้มข้นและหอมกว่าเอสเพรสโซ

อัฟโฟกาโต (Affogato)

เป็นกาแฟที่ใช้เอสเพรสโซเทราดลงบนไอศกรีมรสวานิลลา

เอสเพรสโซเย็น (Iced Espresso) 

​​​​​จริง ๆ แล้วเอสเพรสโซ่จะมีแค่แบบร้อน เมนูนี้จึงมีแค่ในเมืองไทยเท่านั้นที่นำช็อตเอสเพรสโซเย็นไปผสมกับนมข้นหวาน หรือส่วนผสมอื่น ๆ แล้วนำไปใส่น้ำแข็ง ได้รสชาติเข้มข้น หวานมัน และเย็นสดชื่น กลายเป็นเมนูที่ขายดิบขายดีมากเลยทีเดียว ในอิตาลีเองก็มีการดื่มเอสเพรสโซเย็นอยู่เหมือนกัน แต่จะเป็นการปล่อยให้ช็อตกาแฟไหลลงบนน้ำแข็ง เรียกว่า Espresso On Ice

วิธีการชงกาแฟแบบต่าง ๆ

วิธีการชงกาแฟแบบต่าง ๆ

           มารู้จักวิธีการชงกาแฟแบบต่าง ๆ เพื่อให้รู้ลึกรู้จริงถึงรสชาติกาแฟที่ต้องการได้ ดังต่อไปนี้

1. แบบดริป (Drip)

           กาแฟดริป หรือกาแฟหยด เป็นวิธีการชงที่เก่าแก่ ง่าย เร็ว ประหยัด และเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับกาแฟดำแบบดั้งเดิม วิธีการคือชงกาแฟผ่านกระดาษกรอง โดยเทน้ำร้อนลงบนผงกาแฟอย่างสม่ำเสมอ และกาแฟที่ชงได้จะค่อย ๆ หยดลงในภาชนะที่รองอยู่

2. แบบพัวร์โอเวอร์ (Pour Over)

           คล้ายคลึงกับแบบดริป ใช้น้ำร้อนเทผ่านผงกาแฟและกระดาษกรอง แต่ความแตกต่างคือวิธีพัวร์โอเวอร์จะทำด้วยมือทุกขั้นตอนตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟไปจนถึงการเทน้ำร้อน วิธีนี้จะให้รสชาติกาแฟที่เข้มข้นกว่าแบบดริปเล็กน้อย

3. แบบกด (French Press)

            เป็นวิธีที่ดี เรียบง่าย และได้รสชาติของกาแฟที่สม่ำเสมอและบริสุทธิ์ที่สุด โดยใช้เมล็ดกาแฟบดหยาบอัดลงไปให้แน่นในก้านชง แช่และกรองด้วยน้ำร้อน และรอเวลาให้น้ำกาแฟไหลออกมา

4. แบบแอโรเพลส (Aeropress)

           เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกมาก ๆ เพียงแค่ใช้อุปกรณ์สำหรับทำแอโรเพลส แช่กาแฟทิ้งไว้ในน้ำร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 10-50 วินาที แล้วกดลูกสูบผ่านท่อให้เกิดแรงดันอากาศ ดันน้ำร้อนให้ผ่านผงกาแฟ และกรองด้วยแผ่นกรองกระดาษหรือฟิลเตอร์รูเล็ก

5. แบบโมคาพอท (Moka Pot)

           เป็นการต้มกาแฟด้วยหม้อต้มโมคาพอคของประเทศอิตาลี โดยวิธีชงคือ ใส่น้ำลงไปในหม้อต้ม วางที่กรอง ใส่ผงกาแฟลงไป ปิดฝาแล้วนำไปต้มบนเตาแก๊ส เมื่อน้ำเริ่มเดือด ความร้อนจากน้ำที่ต้มอยู่จะทำให้เกิดแรงดันไอน้ำและส่งความร้อนผ่านผงกาแฟที่อยู่บริเวณส่วนกลางของหม้อ เมื่อได้ตามเวลาที่กำหนด น้ำกาแฟที่เหลือจะดันตัวขึ้นมาอยู่ในกาด้านบน

6. แบบเอสเพรสโซ (Espresso)

           เป็นการชงโดยใช้แรงอัดไอน้ำผ่านผงกาแฟ ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วมานานกว่าปกติ และนำมาบดละเอียด เพื่อให้ได้กาแฟที่เข้มข้นและหอมกรุ่น

7. แบบกาลักน้ำ (Siphon)

           ใช้หลักสุญญากาศในการชง โดยใส่ผงกาแฟลงในหม้อด้านบนซึ่งมีตัวกรองรอง จากนั้นต้มน้ำให้เดือดในหม้อด้านล่างจนเกิดแรงดันไอร้อนดันขึ้นไปที่หม้อด้านบนที่มีกาแฟ และรอให้ไอน้ำไหลผ่านกาแฟลงมาที่หม้อด้านล่างอีกครั้ง วิธีนี้อาจจะดูหรูหรา สนุกเหมือนได้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ สร้างความประทับใจได้ แต่ก็ซับซ้อน และมีขั้นตอนที่วุ่นวายพอสมควร

8. แบบสกัดเย็น (Cold Brew)

           เป็นการแช่เมล็ดกาแฟคั่วบดหยาบกาแฟไว้ในด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องเป็นเวลานาน ทำให้กาแฟที่ได้มีกรดต่ำ ไม่ขม แต่มีคาเฟอีนสูง

หลากหลายปัญหากาแฟและวิธีการแก้ไข

          ใครเคยเป็นบ้างที่ชงกาแฟมาแล้ว ได้รสชาติไม่เป็นที่น่าพอใจ แถมบางครั้งทิ้งไว้นานจนกาแฟเย็นชืด จะแก้ไขอย่างไรดี หรือบ้านใครชอบซื้อกาแฟมาครั้งละมาก ๆ กินไม่ทัน จะรักษาอย่างไรให้เก็บได้นาน ๆ มาดูเทคนิคเหล่านี้กันค่ะ 
  • ชงกาแฟแล้วทิ้งไว้นานจนเย็นชืด : ควรชงใหม่เท่านั้น ไม่ควรนำไปอุ่นในไมโครเวฟ หรือต้มใหม่ เพราะการเติมน้ำร้อนหรือนำไปอุ่นใหม่ จะทำให้กลิ่นของกาแฟหายไป
  • ชงกาแฟแล้วขมเกินไป : ไม่ควรประโคมน้ำ นม หรือน้ำตาลลงไป เพราะจะยิ่งทำให้รสชาติของกาแฟเสียไปค่ะ ลองใช้เกลือสักเล็กน้อยเหยาะลงไป เพียงเท่านี้ความขมของกาแฟก็จะอ่อนลง จนกลับมากลมกล่อมเหมือนเดิมแล้ว
  • ชงกาแฟด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม : การใช้น้ำที่ร้อนเกินไปหรือน้ำเดือดจัด ๆ จะทำให้ได้กาแฟที่ขมเกินไป ดังนั้นจึงควรใช้น้ำที่อุณหภูมิประมาณ 90 องศาเซลเซียล

  • ไม่ควรเก็บเมล็ดกาแฟไว้ในตู้เย็น : ควรปิดถุงให้สนิทแล้วเก็บในที่แห้งอุณหภูมิห้อง และไม่ถูกแสงแดด นอกจากนี้ เมื่อเปิดถุงกาแฟแล้วควรใช้ให้หมดภายในเวลา 1-2 สัปดาห์

  • เลือกภาชนะเก็บกาแฟให้ถูกต้อง : ควรเก็บในภาชนะที่ทำจากแก้ว หรือเซรามิก ไม่ควรเป็นกระป๋องโลหะ หรือพลาสติก เพราะกาแฟจะดูดกลิ่นเอาไว้ทำให้เสียรสชาติได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ บอกลาสารพัดปัญหากาแฟ แก้ได้ง่าย ๆ

กาแฟ

สูตรกาแฟต่าง ๆ ทำกินได้ง่าย ๆ ที่บ้าน

           ช่วงนี้จะออกไปไหนก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี แถมร้านกาแฟหลายร้านอาจจะยังไม่เปิดให้นั่ง ลองดูสูตรกาแฟอร่อย ๆ เหล่านี้แล้วเอาไปทำกินเองที่บ้านดูค่ะ

1. กาแฟ + น้ำผลไม้

กาแฟ + น้ำผลไม้

          เปลี่ยนรสชาติเข้มแบบเดิม ๆ ของกาแฟ ให้สดชื่นขึ้นด้วยการเติมน้ำผลไม้ จนได้เป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้ร่างกาย และยังอร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย ใครชอบน้ำผลไม้อะไรก็นำมาปรับใช้ตามสูตรได้เลย
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 12 สูตรกาแฟน้ำผลไม้ เติมคุณค่าอร่อยเข้มคูณสอง

2. กาแฟแบบแนว ๆ ไม่เหมือนใคร

กาแฟแบบแนว ๆ ไม่เหมือนใคร

           เอาใจชาวอินดี้ที่ไม่ชอบอยู่ในกรอบ ด้วยการเพิ่มเติมปรับสูตรกาแฟแก้วโปรดให้เก๋ไก่กว่าเดิม รับรองว่าความแปลกใหม่นี้ไม่ซ้ำใครแน่นอน ใครที่เบื่อกาแฟเดิม ๆ ลองเปลี่ยนแนวมาชิมสูตรเหล่านี้ดูนะ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 14 สูตรกาแฟแนว ๆ เติมความสดชื่น

3. กาแฟเย็น

กาแฟเย็น

          กระตุ้นสมองให้กระปรี้กระเปร่าด้วยความเย็นและสดชื่นจากกาแฟเย็นกันดีกว่า ทำกินเองสักแก้วในยามบ่ายเพื่อปลุกตัวเองให้ตื่นตัว พร้อมลุยงานหนักกันค่ะ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 14 สูตรกาแฟเย็นหลากสไตล์ เติมความสดชื่นให้เต็มตื่น

4. คาราเมลมัคคิอาโต

คาราเมลมัคคิอาโต

ภาพจาก นิตยสารแม่บ้าน

          อีกหนึ่งสูตรกาแฟที่คุ้นเคยกันดีของนักกิน มีส่วนผสมของชอตเอสเพรสโซ น้ำเชื่อมวานิลลา นมสด และซอสคาราเมล ได้รสชาติที่เข้มข้น หอมหวาน และละมุนลิ้น ๆ ใครที่เพิ่งหัดดื่มกาแฟ เราแนะนำเป็นสูตรนี้ก็ได้ เพราะดื่มง่ายมาก ๆ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ Iced Caramel Macchiato กาแฟสุดฮิต หอมหวานละมุน

5. อัฟโฟกาโต

อัฟโฟกาโต

          กาแฟสุดแหวกแนว จะเป็นเครื่องดื่มก็ไม่ใช่ เป็นของหวานก็ไม่เชิง เพราะเป็นกาแฟใส่ไอศกรีมนั่นเอง จะเสิร์ฟเป็นชอตกาแฟเอสเพรสโซ่ พร้อมกับไอศกรีมวานิลลาลูกกลม ๆ เวลาจะกินก็เพียงเทเอสเพรสโซ่ลงไปในแก้วไอศกรีม เมื่อตักกินจะได้รสชาติขมเข้มที่ตัดด้วยรสหวานจากไอศกรีม เข้ากันได้ดีสุด ๆ
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ อัฟโฟกาโต กาแฟสุดคลาสสิกที่ต้องลอง

6. เมลโล่มอคค่า

เมลโล่มอคค่า

ภาพจาก นิตยสารแม่บ้าน

           กาแฟร้อนแนวใหม่ เป็นเอสเพรสโซเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมความอร่อยด้วยมาร์ชเมลโลว์เหนียวหนึบ และเสริมสัมผัสกรุบกรอบด้วยคุกกี้หรือบิสกิตบดหยาบ ทั้งอร่อยและหอมหวานขนาดนี้ จะไม่ลองได้อย่างไรกัน
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เมลโล่มอคค่า ดื่มกาแฟแนวใหม่ให้อร่อยขึ้น

7. กาแฟเย็นแบบแท่ง

กาแฟเย็นแบบแท่ง

ภาพจาก นิตยสาร Gourmet & Cuisine และ เว็บไซต์ i do catering

          เพิ่มความเก๋ไก๋ให้กับกาแฟเย็นแก้วโปรด ด้วยการทำกาแฟเย็นแบบแท่ง หรือน้ำแข็งกาแฟ จากที่เคยใช้ช้อนคนผสมกาแฟกับนมให้เข้ากันแล้วยกดื่ม ลองเปลี่ยนมาเป็นแกว่งกาแฟแท่ง ๆ ในแก้วนมสดแทนช้อน ปล่อยให้กาแฟค่อย ๆ ละลายไปผสมกับนม บอกเลยว่าอร่อยถูกปาก และเก๋ถูกใจแน่นอน
 

ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กาแฟเย็นแบบแท่ง ไอเดียเสิร์ฟเครื่องดื่มเก๋ ๆ ที่คอกาแฟต้องลอง

           สำหรับใครที่ได้สูตรกาแฟอร่อย ๆ เอาไปทำเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดกันแล้ว ลองดูวิธีการใช้ผงกาแฟไปทำเป็นเมนูขนมน่ากินได้ที่ 13 เมนูขนมจากกาแฟ สูตรหอมละมุนอร่อยเข้มเต็มคำ

หรืออ่านบทความอื่น ๆ เกี่ยวกับกาแฟได้ที่

           กาแฟเลิฟเว่อร์ทั้งหลาย คงจะมีสูตรในดวงใจกันแล้ว ลองเอาไปทำตามกันดู เพื่อความสดชื่นและกระตุ้นพลังงานในตัวเองให้พร้อมทำงานอย่างสดใสในทุก ๆ วันนะคะ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เมนูกาแฟ กับเรื่องลับ ๆ ของกาแฟที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน อัปเดตล่าสุด 13 มิถุนายน 2566 เวลา 14:29:25 58,368 อ่าน
TOP
x close