x close

10 สูตรวิธีทำกราโนลา เมนูธัญพืชโฮมเมด ทำกินได้ ทำขายดี


          กราโนลา (Granola) เมนูธัญพืชอันโด่งดังในกระแส ไอเดียการกินอาหารคลีนในรูปแบบของหวานคลีน ส่วนผสมอัดแน่นไปด้วยธัญพืชมากมาย ทำกินได้ ทำขายดี เข้ามาจดสูตรได้เลย

กราโนลา

          กระแสการกินกราโนลากำลังมาแรงมาก ๆ ในตอนนี้ จะเห็นจากโลกโซเชียลมีเดีย หรือตามตลาดนัดวัยรุ่นจะมีเหล่าพ่อค้าแม่ขาย รวมถึงคนแชร์ภาพกราโนลาจากร้านค้าดัง ๆ แต่สำหรับใครที่ต้องการอยากจะได้สูตรกราโนลาไว้ในครอบครอง วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 10 สูตรกราโนลา วิธีทำเมนูธัญพืชเอาใจคนรักสุขภาพ เหมาะสำหรับคนทานอาหารคลีน เราจะไปดูกันว่า กราโนลามีส่วนผสมอะไรบ้างและมีวิธีการทำกราโนลากินอย่างไร พกพาไปไหนก็สะดวก จะทำกินเองก็ได้ หรือจะทำขายก็ได้กำไรงาม

1. กราโนลามินิทาร์ต


10 สูตรกราโนลา
ภาพจาก นิตยสาร Health & Cuisine

         กราโนลาแบบซีเรียลกินเป็นอาหารเช้าอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย นาทีนี้ต้องยกให้กราโนลามินิทาร์ต (Granola Mini Tart) ไอเดียจากนิตยสาร Health & Cuisine จับกราโนลาใส่ลงในทาร์ตถ้วยจิ๋ว โดยมีฐานด้านล่างเป็นแป้งพายกรอบและครีมเนยถั่ว ดูจากภาพน่าลิ้มลองดีเหมือนกัน สำหรับใครที่อยากจะกินเป็นอาหารคลีนก็คลุกเคล้ากราโนลากับครีมเนยถั่วเท่านั้น ไม่ต้องนำไปอัดลงในแป้งพายก็ได้ค่ะ

ส่วนผสม แป้งพาย (สำหรับ 8 ชิ้น)

      • นมข้นจืด 36 กรัม
      • น้ำตาลทราย 22 กรัม
      • เกลือป่น 0.5 กรัม
      • แป้งเค้ก 170 กรัม
      • เนยสดชนิดเค็ม (หั่นเต๋าเล็กแช่เย็น) 100 กรัม

      หมายเหตุ : ถ้าต้องการกินเป็นอาหารคลีนก็ไม่ต้องทำในส่วนนี้

ส่วนผสม ครีมเนยถั่ว

      • ครีมชีส 126 กรัม
      • เนยจืด 26 กรัม
      • น้ำตาลไอซิ่ง 78 กรัม
      • น้ำมะนาว 38 กรัม
      • เนยถั่ว 116 กรัม

 ส่วนผสม กราโนลามินิทาร์ต

      • เนยเค็ม 34  กรัม
      • น้ำผึ้ง 50 กรัม
      • มูสลี่ 134 กรัม
      • กล้วยน้ำว้าตากแห้ง (หั่นเป็นชิ้นเล็ก) 84 กรัม
      • เมล็ดฟักทองกะเทาะเปลือกอบ 50 กรัม
      • แครนเบอร์รีอบแห้ง 50 กรัม

 วิธีทำกราโนลามินิทาร์ต

        1. ผสมนมข้นจืด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟให้ละลาย พักให้เย็น
        2. ผสมแป้งเค้กกับเนยให้เข้ากันจนมีลักษณะคล้ายเม็ดทราย จากนั้นเทส่วนผสมนมข้นจืดลงไปแล้วนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้ 10 นาที กรุใส่พิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที
        3. ทำครีมเนยถั่ว โดยใช้หัวตีใบไม้ตีครีมชีสและเนยให้อ่อนตัว เติมน้ำตาลไอซิ่ง น้ำมะนาว และเนยถั่ว ตีต่อให้เข้ากันดี พักไว้
        4. ทำกราโนลา โดยละลายเนยเค็มแล้วเติมน้ำผึ้งลงไป คนผสมให้เข้ากัน พักให้เย็น ใส่มูสลี่ กล้วยน้ำว้าตากแห้ง เมล็ดฟักทอง และแครนเบอร์รีอบแห้ง คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
        5. บีบครีมเนยถั่วลงไปให้ได้ครึ่งหนึ่งของทาร์ตแล้วตักส่วนผสมกราโนลาทับจนเต็ม    

+++++++++++++++++++++

2. กราโนลาเฮเซลนัทน้ำผึ้ง


กราโนลา

 
         กราโนลาเฮเซลนัทน้ำผึ้ง สูตรกลาโนลาที่จับน้ำผึ้งคลุกเคล้ากับธัญพืชอย่างข้าวโอ๊ต ไข่ขาว น้ำมันมะกอก ถั่วเฮเซลนัท เพิ่มกลิ่นหอมด้วยผงอบเชยและกลิ่นวานิลลา ปรุงรสด้วยเกลือป่น เสร็จแล้วก็นำไปอบจนเหลืองกรอบ นำออกมาผึ่งให้เย็น จัดเสิร์ฟ กินเพียว ๆ ก็อร่อย หรือจะใส่นมสดกินตอนเช้าก็เพลินดีเหมือนกันนะคะ

ส่วนผสม กราโนลาเฮเซลนัทน้ำผึ้ง

      • ข้าวโอ๊ต 4 ถ้วย
      • ถั่วเฮเซลนัทคั่ว (สับหยาบ ๆ) 1 ถ้วย
      • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      • น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำผึ้ง 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • ไข่ขาว 1 ฟอง

วิธีทำกราโนลาเฮเซลนัทน้ำผึ้ง

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 290 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ปูกระดาษสำหรับรองอบลงในถาดอบ ใส่ข้าวโอ๊ตและถั่วเฮเซลนัทลงไป ตามด้วยผงอบเชย ปรุงรสด้วยเกลือป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน
        3. ใส่น้ำมันมะกอก น้ำผึ้ง และกลิ่นวานิลลาลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้ 
        4. ตีไข่ขาวจนขึ้นฟูประมาณ 1 นาที แล้วใส่ลงไปในส่วนผสมข้าวโอ๊ตคนผสมให้เข้ากัน
        5. เกลี่ยส่วนผสมกราโนลาให้กระจายทั่วถาดรองอบ นำเข้าอบประมาณ 20 นาทีก่อน พอครบเวลาแล้วนำออกมาพลิกกลับด้าน จากนั้นนำเข้าอบต่อประมาณ 15 นาที จนกลายเป็นสีเหลืองทอง 
        6. นำออกมาพักไว้ให้เย็นประมาณ 10 นาที พร้อมรับประทาน

++++++++++++++++++++++

3. กราโนลาคีนัว


กราโนลา

 
          คีนัว ซูเปอร์ฟู้ด [คลิกอ่าน คีนัว ซูเปอร์ฟู้ดมากคุณค่า กินเป็นอาหารลดน้ำหนักก็เริด] นอกจากเอาไปทำอาหารได้สารพัดแล้วยังเอามาใส่ในกราโนลาได้อีกกลายเป็นกราโนลาคีนัว ส่วนผสมหลัก ๆ คือ ข้าวโอ๊ตและคีนัวดิบ เพิ่มความกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์ เพิ่มความหวานมันด้วยน้ำมันมะพร้าวและมะพร้าวอบแห้งเป็นชิ้น ๆ ถ้าหากอยากกินรสชาติหวานใส่น้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย ปรุงรสด้วยเกลือป่น แต่งกลิ่นด้วยผงอบเชย สุดท้ายใส่ผลไม้อบแห้งลงไป อย่าง แอปริคอต เชอร์รี หรือแครนเบอร์รี เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

ส่วนผสม กราโนลาคีนัว

      • ข้าวโอ๊ต 2 ถ้วย
      • คีนัวดิบ 1 ถ้วย
      • อัลมอนด์สไลซ์ หรืออัลมอนด์สับ 1 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
      • น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
      • มะพร้าวอบแห้ง 1 ถ้วย
      • แอปริคอตอบแห้ง 180 กรัม
      • เชอร์รีอบแห้ง หรือแครนเบอร์รีอบแห้ง 180 กรัม

วิธีทำกราโนลาคีนัว

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ผสมข้าวโอ๊ต คีนัว อัลมอนด์ น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว เกลือป่น และผงอบเชยให้เข้ากัน ตักใส่ลงถาดอบที่รองกระดาษไว้แล้วเกลี่ยบาง ๆ ให้เสมอกัน
        3. นำส่วนผสมกราโนลาเข้าอบประมาณ 20 นาที นำออกมาพลิกกลับด้าน โรยมะพร้าวอบแห้งลงไปให้ทั่ว นำเข้าไปอบต่อประมาณ 3-5 นาที หรือจนมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล นำออกมาพักไว้ให้เย็น 
        4. ใส่แอปริคอตและเชอร์รีลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

+++++++++++++++++++++

4. กราโนลาถั่วพิสตาชิโอและโกจิเบอร์รี


กราโนลา

 
          กราโนลาถั่วพิสตาชิโอและโกจิเบอร์รี เพิ่มความเก๋ให้กับกราโนลาด้วยการใส่พิสตาชิโอและโกจิเบอร์รีลงไป ทำให้เคี้ยวเพลินมากขึ้น อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของมะพร้าวคั่วอีกด้วย ถ้าหากไม่อยากทานเพียว ๆ ก็กินคู่กับโยเกิร์ตรสตามชอบได้เลยค่ะ  

ส่วนผสม กราโนลาถั่วพิสตาชิโอและโกจิเบอร์รี

      • ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
      • เมเปิลไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ
      • ถั่วพิสตาชิโอสับ 1/3 ถ้วย
      • มะพร้าวอบแห้ง 1/4 ถ้วย
      • ผงอบเชย 1 ช้อนชา
      • โกจิเบอร์รี 1/3 ถ้วย

 วิธีทำกราโนลาถั่วพิสตาชิโอโกจิเบอร์รี

         1. ตั้งกระทะบนเตาโดยใช้ความร้อนต่ำ ใส่ข้าวโอ๊ตลงไปคั่วประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใส่น้ำมันมะพร้าวและเกลือป่นลงไปคนให้เข้ากันแล้วคั่วต่ออีกประมาณ 5-7 นาที 
         2. ใส่เมเปิลไซรัป 1 ช้อนโต๊ะลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
         3. ใส่พิสตาชิโอ มะพร้าวอบแห้ง และผงอบเชย คลุกเคล้าให้เข้ากันประมาณ 5 นาที หรือจนมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตักใส่ภาชนะ

         4. ใส่โกจิเบอร์รีลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้จนเย็น พร้อมเสิร์ฟ

+++++++++++++++++++++++

5. กราโนลาช็อกโกแลต 


กราโนลา

 
        กราโนลาสามารถใส่ธัญพืชเพิ่มเติมได้ตามชอบใจ รวมถึงผลไม้อบแห้งได้หลายชนิด อย่างกราโนลาบัควีตช็อกโกแลต สูตรนี้นอกจากใส่ข้าวโอ๊ตที่เป็นส่วนผสมหลักแล้วยังใส่บัควีตและเมล็ดเจียลงไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังใส่มะพร้าวขูดและน้ำมันมะพร้าวเพิ่มกลิ่น รวมถึงเฮเซลนัทเคี้ยวเพลิน ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำผึ้ง และเกลือทะเล พระเอกที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผงโกโก้ เพิ่มรสชาติขมนิด ๆ รับรองว่า อร่อยไม่แพ้สูตรอื่น ๆ เลยค่ะ

ส่วนผสม กราโนลาช็อกโกแลต

      • ข้าวโอ๊ต 3 ถ้วย
      • บัควีต 1 ถ้วย
      • มะพร้าวขูด 1 1/2 ถ้วย
      • เมล็ดเจีย 1/4 ถ้วย
      • น้ำตาลมะพร้าว 1/4 ถ้วย
      • ถั่วเฮเซลนัท 1 ถ้วย
      • น้ำมันมะพร้าว 1/3 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง หรือเมเปิลไซรัป 1/3 ถ้วย
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • เกลือทะเลเม็ดละเอียด 1/2 ช้อนชา
      • ผงโกโก้ 1/2 ถ้วย

 วิธีทำกราโนลาช็อกโกแลต

        1. เปิดเตาอบอุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ผสมข้าวโอ๊ต บัควีต มะพร้าวขูด เมล็ดเจีย และน้ำตาลมะพร้าวให้เข้ากัน ใส่เฮเซลนัทลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน เตรียมไว้
        3. ตั้งกระทะโดยใช้ความร้อนปานกลางค่อนข้างต่ำ ใส่น้ำมันมะพร้าวลงไป ตามด้วยน้ำผึ้ง กลิ่นวานิลลา เกลือทะเล และผงโกโก้ คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน 
        4. นำไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมข้าวโอ๊ต ใส่ลงถาดรองอบที่ปูกระดาษรองอบไว้แล้ว เกลี่ยให้ทั่วถาดบาง ๆ
        5. นำส่วนผสมกราโนลาเข้าอบประมาณ 15-20 นาที นำออกมาจากเตาอบพลิกกลับด้าน นำไปอบต่ออีกประมาณ 10 นาที ระหว่างนี้ควรนำออกมาคนทุก ๆ 3-4 นาที หรือจนกว่าจะสุก โดยอาจใช้วิธีดมกลิ่น หรือชิมเฮเซลนัทว่าสุกหรือยัง หากสุกแล้วนำออกมาพักไว้จนเย็น ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++++++

6. กราโนลาแอปเปิลซินนามอน


กราโนลา

 
          กราโนลาแอปเปิลซินนามอน เมนูธัญพืชที่ใส่ข้าวโอ๊ต เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ แต่งกลิ่นให้หอมด้วยกลิ่นวานิลลา และส่วนผสมของเครื่องเทศต่าง ๆ ได้แก่ ผงอบเชย ผงลูกจันทน์เทศ ขิงผง ผงกานพลู คลุกเคล้าด้วยซอสแอปเปิลและเมเปิลไซรัป ตบท้ายด้วยการโรยแอปเปิลอบแห้ง รสหอมหวานอมเปรี้ยว เหมาะกับการทานเป็นอาหารคลีนตอนเช้ามาก ๆ เลยค่ะ 
 
ส่วนผสม กราโนลาแอปเปิลซินนามอน

      • ข้าวโอ๊ต 3 1/2 ถ้วย
      • เมล็ดฟักทอง 1/2 ถ้วย
      • อัลมอนด์ 1/4 ถ้วย
      • ผงอบเชย 2 ช้อนชา
      • ผงลูกจันทน์เทศ 1/2 ช้อนชา
      • ขิงผง 1/4 ช้อนชา
      • ผงกานพลู 1/4 ช้อนชา
      • ซอสแอปเปิล 3/4 ถ้วย [ดูวิธีทำซอสแอปเปิลโฮมเมดได้ที่นี่]
      • เมเปิลไซรัป 1/4 ถ้วย
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • แอปเปิลอบแห้ง 1/2 ถ้วย

วิธีทำกราโนลาแอปเปิลซินนามอน

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ผสมข้าวโอ๊ต เมล็ดฟักทอง อัลมอนด์ ผงอบเชย ลูกจันทน์เทศ ผงขิง และผงกานพลูเข้าด้วยกัน
        3. ตั้งกระทะโดยใช้ความร้อนปานกลาง เทซอสแอปเปิล เมเปิลไซรัป และกลิ่นวานิลลาลงไปผสมให้เข้ากัน นำไปใส่ในส่วนผสมข้าวโอ๊ต คลุกเคล้าให้เข้ากัน
        4. นำส่วนผสมกราโนลามาเกลี่ยบนถาดรองอบที่ปูกระดาษรองอบไว้แล้ว นำเข้าเตาอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกลายเป็นสีเหลืองทอง 
        5. นำออกมาจากเตาอบ โรยแอปเปิลอบแห้งลงไป พักไว้จนเย็น เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด

+++++++++++++++++++

7. กราโนลาเครื่องเทศอินเดีย


กราโนลา

 
         ถ้าหากเพื่อน ๆ หลงใหลรสชาติของเครื่องเทศอินเดียที่หอมกรุ่นต้องลองทำกราโนลาสูตรนี้ ผสมผสานข้าวโอ๊ต ถั่วอัลมอนด์ และมะพร้าวขูด เพิ่มความหวานมันจากน้ำผึ้งและน้ำมันมะพร้าว โรยเกลือหน่อย แต่งด้วยกลิ่นวานิลลาและกลิ่นอัลมอนด์ พระเอกหลักที่ขาดไม่ได้คือ ผงอบเชย กระวานป่น ขิงผง ผงเครื่องเทศออลสไปซ์ พริกไทยดำ และผงกานพลู เพียงเท่านี้ก็ได้หม่ำกราโนลาหอม ๆ แล้วล่ะ

ส่วนผสม กราโนลาเครื่องเทศอินเดีย

      • น้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
      • น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ
      • กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา 
      • กลิ่นอัลมอนด์ 1/2 ช้อนชา
      • ข้าวโอ๊ต 4 ถ้วย
      • ถั่วอัลมอนด์ หรือถั่วพีแคน 2 ถ้วย
      • มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
      • ผงอบเชย 2 ช้อนชา
      • กระวานป่น 1 ช้อนชา
      • ขิงผง 1 ช้อนชา
      • ผงเครื่องเทศออลสไปซ์ (Allspice) 1/4 ช้อนชา
      • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
      • พริกไทยดำ 1/4 ช้อนชา
      • ผงกานพลู 1/4 ช้อนชา

วิธีทำกราโนลาเครื่องเทศอินเดีย

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ปูกระดาษรองอบลงในถาดอบ เตรียมไว้
        3. ผสมน้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว กลิ่นวานิลลา และกลิ่นอัลมอนด์ให้เข้ากัน พักไว้
        4. ผสมข้าวโอ๊ต ถั่วอัลมอนด์ มะพร้าวขูด ผงเครื่องเทศออลสไปซ์ และเกลือป่นคนให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมน้ำผึ้งลงไปคนให้เข้ากันจนส่วนผสมแห้งและเคลือบติดธัญพืชจนทั่วดี
        5. ใส่ส่วนผสมกราโนลาลงในถาดรองอบแล้วเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าอบประมาณ 20 นาที นำออกมาโรยมะพร้าวขูดแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำเข้าไปอบต่ออีกประมาณ 5-10 นาที หรือจนมะพร้าวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
        6. นำออกมาพักไว้จนเย็น เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท เก็บไว้ได้นานประมาณ 3 อาทิตย์

++++++++++++++++++

8. กราโนลาอัลมอนด์ช็อกโกแลต


กราโนลา

 
          เอาใจคนชอบรสขมของโกโก้ด้วยกราโนลาอัลมอนด์ช็อกโกแลต มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ ข้าวโอ๊ต ใส่อัลมอนด์ลงไปเพิ่มความเคี้ยวเพลิน มีความหอมจากมะพร้าวขูด ผงอบเชย และกลิ่นวานิลลา เพิ่มความหวานจากน้ำผึ้งและน้ำตาลทรายแดง ใส่เกลือโคเชอร์เล็กน้อย น้ำมันมะกอก โรยเชอร์รีอบแห้งลงไปหน่อย สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือ ผงโกโก้ ตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดเก็บได้ประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าแช่เย็นจะเก็บได้ประมาณ 1 เดือน

ส่วนผสม กราโนลาอัลมอนด์ช็อกโกแลต

      • ข้าวโอ๊ต 3 ถ้วย
      • อัลมอนด์ 1 ถ้วย
      • มะพร้าวขูด 3/4 ถ้วย
      • ผงอบเชย 1 1/2 ช้อนชา
      • ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ กับ 1 1/2 ช้อนชา
      • เกลือโคเชอร์ 1/4 ช้อนชา
      • น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วย
      • น้ำตาลทรายแดง 1/4 ถ้วย
      • น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • เชอร์รีอบแห้ง 1 ถ้วย

วิธีทำกราโนลาอัลมอนด์ช็อกโกแลต

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 300 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ปูกระดาษรองอบลงในถาดอบ เตรียมไว้
        3. ผสมข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ มะพร้าวขูด ผงอบเชย ผงโกโก้ และเกลือป่น คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
        4. ตั้งกระทะโดยใช้ความร้อนปานกลาง ใส่น้ำมันมะกอก ตามด้วยน้ำตาลทรายแดง และน้ำผึ้ง คนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด นำออกมาจากเตาเติมกลิ่นวานิลลาลงไป 
        5. ใส่ส่วนผสมน้ำมันมะกอกลงไปในส่วนผสมกราโนลาแล้วคนผสมให้เข้ากัน 
        6. ใส่ส่วนผสมกราโนลาลงในถาดรองอบเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าอบประมาณ 30 นาที ระหว่างควรเอาออกมาพลิกกลับด้านทุก 10 นาที เสร็จแล้วนำออกจากเตาอบ พักทิ้งไว้จนเย็น โรยเชอร์รีอบแห้งลงไป 

++++++++++++++++++++++++

 

9. กราโนลาแครนเบอร์รีและส้ม


กราโนลา

 
          สำหรับคนชอบอาหารรสออกเปรี้ยวหน่อยขอแนะนำกราโนลาแครนเบอร์รีและส้ม ผสมผสานข้าวโอ๊ตและถั่วพีแคน เพิ่มส่วนผสมเปลือกส้มขูดและแครนเบอร์รีอบแห้งเข้ามาทำให้ดูมีรสชาติ ทำเสร็จแล้วตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดเก็บได้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ถ้าแช่เย็นจะเก็บได้ประมาณ 1 เดือน

 ส่วนผสม กราโนลาแครนเบอร์รีและส้ม

      • เปลือกส้มขูด 1 ลูก
      • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
      • ข้าวโอ๊ต 4 ถ้วย
      • ถั่วพีแคน 1 1/2 ถ้วย
      • เกลือป่น 1 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1/2 ช้อนชา
      • น้ำมันมะพร้าว 1/2 ถ้วย
      • เมเปิลไซรัป หรือน้ำผึ้ง 1/2 ถ้วย
      • แครนเบอร์รีอบแห้ง 1 ถ้วย

  วิธีทำกราโนลาแครนเบอร์รีและส้ม

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ปูกระดาษรองอบลงในถาดอบ เตรียมไว้
        3. ผสมเปลือกส้มขูดและน้ำตาลทรายให้เข้ากันจนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นเกล็ดสีส้ม เตรียมไว้
        4. ผสมข้าวโอ๊ต ถั่วพีแคน เกลือป่น ผงอบเชย และส่วนผสมน้ำตาลเกล็ดส้มให้เข้ากัน เติมน้ำมันมะพร้าวและเมเปิลไซรัปคนผสมให้เข้ากัน
       5. ใส่ส่วนผสมกราโนลาลงในถาดรองอบเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าอบประมาณ 24-28 นาที หรือจนกลายเป็นสีเหลืองทอง นำออกมาพักไว้ให้เย็น ใส่แครนเบอร์รีอบแห้งลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

+++++++++++++++

10. กราโนลากล้วยหอม 


กราโนลา

          กราโนลากล้วยหอม มีส่วนผสมของกล้วยหอมทำให้กราโนลามีรสชาติหวานหอมขึ้นมา อีกทั้งยังใส่วอลนัท ถั่วพีแคน และแฟลกซ์ซีดผสมผสานกับข้าวโอ๊ต ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เมเปิลไซรัป และเกลือป่น เพิ่มกลิ่นหอมของผงอบเชย น้ำมันมะพร้าว และกลิ่นวานิลลา ลองทำดูแล้วจะติดใจ

ส่วนผสม กราโนลากล้วยหอม

      • ข้าวโอ๊ต 3 ถ้วย
      • วอลนัท 3/4 ถ้วย
      • ถั่วพีแคน 1/2 ถ้วย
      • น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
      • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
      • ผงอบเชย 1/2 ช้อนโต๊ะ
      • แฟลกซ์ซีด 1 ช้อนโต๊ะ
      • น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
      • เมเปิลไซรัป 1/3 ถ้วย + 1 ช้อนโต๊ะ
      • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
      • กล้วยหอมสุกบด 1/2 ถ้วย

วิธีทำกราโนลากล้วยหอม

        1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
        2. ปูกระดาษรองอบลงในถาดอบ เตรียมไว้
        3. ตั้งกระทะโดยใช้ความร้อนปานกลางค่อนข้างต่ำ ใส่น้ำมันมะพร้าว เมเปิลไซรัป และกลิ่นวานิลลา คนผสมจนเข้ากัน นำออกจากเตา
        4. ใส่กล้วยหอมสุกบดลงไปคนให้เข้ากัน 
        5. ใส่ส่วนผสมกราโนลาลงในถาดรองอบเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าอบประมาณ 23-28 นาที หรือจนสุกเป็นสีเหลืองทอง นำออกมาพักไว้จนเย็น ตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เก็บได้ประมาณ 2-3 อาทิตย์

          สำหรับคนที่สนใจอยากทำกราโนลา เมนูธัญพืชสไตล์ตะวันตกไว้หม่ำ หรือแม้กระทั่งทำขาย ต้องแวะเข้ามาพบกับสูตรกราโนลา ทำง่าย ๆ ดัดแปลงสูตรได้ตามชอบ เคี้ยวเพลินได้สุขภาพไปเต็ม ๆ เลยค่ะ 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 สูตรวิธีทำกราโนลา เมนูธัญพืชโฮมเมด ทำกินได้ ทำขายดี อัปเดตล่าสุด 4 มกราคม 2565 เวลา 16:12:02 243,307 อ่าน
TOP