แคบหมูไม่ได้มีไว้กินกับน้ำพริกหนุ่มเท่านั้น ! ลองออกนอกกรอบด้วยการจับแคบหมูมาทำอาหารไทยอื่น ๆ ได้สารพัด ทั้งอิ่มทั้งอร่อยจริง ๆ นะงานนี้
แคบหมู หรือ กากหมู อาหารไทยถูกปากถูกใจใครหลายคน หาซื้อได้ตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายของชำ รวมถึงห้างสรรพสินค้า นอกจากกินเปล่า ๆ แล้วยังเอามาทำอาหารได้สารพัดเลยค่ะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 9 เมนูจากแคบหมู กากหมู ได้แก่ กากหมูเจียวกระเทียมกรอบ ยำแคบหมูมาพร้อมน้ำยำแคบหมู ลาบแคบหมู แคบหมูผัดพริกขิง กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม แกงขี้เหล็กกากหมู ส้มตำแคบหมู แคบหมูผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และแคบหมูทั่วกระเทียม
กากหมูเจียวกระเทียมกรอบที่เรามักจะขอสั่งเพิ่มเวลากินก๋วยเตี๋ยว แต่ใครสนใจอยากลองทำเองบ้าง เราขอแนะนำสูตรนี้จาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ส่วนผสมมีแค่ 2 อย่าง คือ มันหมูและกระเทียม เริ่มจากเจียวกากหมูก่อนเลยค่ะ ต่อมาก็นำกระเทียมลงไปเจียวจนเหลือง แหม… กลิ่นหอมฉุยเชียวล่ะ ทำครั้งเดียวเก็บไว้กินได้หลายมื้อเลยค่ะ
ส่วนผสม กากหมูเจียวกระเทียมกรอบ
• มันหมูแข็ง 600 กรัม (หรือหมูสามชั้นแบบไม่ติดหนัง)
• น้ำเปล่า 1 ถ้วย
• กระเทียมจีน (ปอกเปลือกตำพอแหลก) 100 กรัม (หรือใช้กระเทียมไทยก็ได้ และจะปอกเปลือกเกลี้ยงหรือติดนิดหน่อยก็ได้)
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำกากหมูเจียวกระเทียมกรอบ
• 1. หั่นมันหมูเป็นชิ้นเล็ก ๆ
• 2. ใส่มันหมูลงในกระทะ เทน้ำเปล่าลงไปแล้วเปิดไฟแรง (น้ำมันจะไม่กระเด็นค่ะ) เคล็ดลับ : ใส่น้ำเปล่าเพื่อให้การเจียวเร็วขึ้นและน้ำมันที่ได้จะใสสวยงาม
• 3. รอจนน้ำเดือด (จะเห็นน้ำเป็นสีขาวขุ่น แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะนั่นคือเหตุการณ์ปกติ สักพักเค้าจะค่อย ๆ ใสขึ้นทีละน้อย)
• 4. พอน้ำมันเดือดและใสขึ้น เบาไฟเป็นไฟกลางแล้วเจียวต่อจนกากหมูเป็นสีเหลือง 80%
• 5. นำกระเทียมตำใส่ลงไปเจียวกับหมูจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันทันที โรยเกลือป่น
• 6. พอสะเด็ดน้ำมันด้วยความร้อนที่ยังเหลืออยู่หมูจะกรอบและเกรียมขึ้นอีกนิด ส่วนกระเทียมจะเหลืองทองกรอบพอดีค่ะ (หากใครเจียวกระเทียมบ่อย ๆ จะเข้าใจเนอะ) ลองฝึกดูนะคะครั้งแรกถ้ายังไม่ได้ให้ลองฝึกใหม่ค่ะ ทักษะจะเกิดได้เพราะประสบการณ์
เคล็ดลับ :
• 1. ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มเจียวจนเสร็จประมาณ 10 นาที ทั้งนี้ขึ้นกับระดับความแรงของไฟแต่ละบ้านด้วยนะจ๊ะ
• 2. เมื่อสะเด็ดน้ำมันจนเค้าแห้งและเย็นแล้ว โรยเกลือป่นลงไปคลุกเคล้าให้ทั่วเพื่อลดความชื้นอีกนิด (และอร่อยขึ้นด้วยค่ะ) เก็บในภาชนะสุญญากาศจะกรอบอยู่ได้หลายวันค่ะ
• 3. น้ำมันที่เหลือจากการเจียวจะใสกิ๊งเลยค่ะ ได้น้ำมันประมาณ 1 ถ้วยตวงค่ะ (อ้อจะปล่อยให้เย็นและเก็บใส่ขวดแช่เย็น เก็บไว้ทำกับข้าวต่อได้ค่ะ) แช่เย็นเค้าจะเป็นไขนะคะเพราะเป็นไขมันสัตว์จ้า
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 20 เมนูชวนอ้วน ภาพสวย ทำง่าย ๆ ไม่ต้องแคร์หุ่น
++++++++++++++++++++
2. ยำแคบหมู
ใครมีแคบหมูเหลือ ๆ บ้างคะ ส่งมาทางนี้หน่อย ล้อเล่น ๆ อยากให้ลองทำเมนูยำแคบหมูกินกับคนพิเศษกันค่ะ สูตรนี้ใส่น้ำพริกเผาเพิ่มความเผ็ดมันด้วยก็ได้ พอปรุงรสน้ำยำได้ตามชอบแล้วก็ราดลงบนแคบหมูเลยค่ะ จะกินเพียว ๆ หรือจะกินกับผักสดก็ได้นะคะ ขอบอกว่าแซ่บเว่อร์
ส่วนผสม ยำแคบหมู
• แคบหมู 1 จาน
• น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
• พริกชี้ฟ้าซอย 5-10 เม็ด (เลือกความเผ็ดตามชอบ)
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ขึ้นฉ่าย (หั่นเป็นท่อน) 1 ต้น
• หอมแดงซอย 2 หัว
• มะเขือเทศ (ผ่า 4 ส่วน) 1 ลูกใหญ่
• ผักกาดหอม
วิธีทำยำแคบหมู
• 1. คนผสมน้ำพริกเผา พริกชี้ฟ้า น้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บให้ละลายเข้ากัน ชิมรสตามชอบ
• 2. ใส่ขึ้นฉ่าย หอมแดง และมะเขือเทศลงไปคลุกให้เข้ากัน
• 3. วางเรียงผักกาดหอมลงในจาน ตามด้วยแคบหมู เทน้ำยำราดลงไปให้ทั่ว พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
3. ลาบแคบหมู
ต่อไปนี้เมนูลาบหมูและลาบไก่คงต้องเว้นวรรคสักพัก เพราะเจอเมนูลาบที่ไฉไลกว่านั่นคือ ลาบแคบหมู สูตรจาก คุณครูกุ๊ก เฟซบุ๊ก iCook เครื่องลาบหอมกลิ่นสมุนไพรคลุกเคล้ากับแคบหมู อูย... เห็นแล้วเปรี้ยวปาก
ส่วนผสม ลาบแคบหมู
• น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา
• พริกป่น 1/2 ช้อนชา
• ใบมะกรูดซอย 2 ใบ
• ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดงหั่นหยาบ 1/2 ถ้วยตวง
• ใบสะระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวคั่ว 1 ช้อนชา
• แคบหมู 200 กรัม
วิธีทำลาบแคบหมู
• 1. ผสมน้ำมะนาว น้ำปลา น้ำพริกเผา และพริกป่นเข้าด้วยกัน ปรุงรสตามชอบ คนผสมน้ำพริกเผาจนละลายเข้ากันดี
• 2. ใส่ใบมะกรูดซอย ตะไคร้ซอย หอมแดง ใบสะระแหน่ และข้าวคั่ว คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จึงค่อยใส่แคบหมูลงไปคลุก ตักใส่จาน ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่เล็กน้อย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ลาบแคบหมู อาหารไทยประยุกต์สุดแซ่บ
++++++++++++++++++++
4. แคบหมูผัดพริกขิง
แคบหมูผัดพริกขิงทั่วไปก็อร่อย แต่ถ้าทำเองคุ้มกว่า ใครสนใจขอแนะนำสูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม สูตรนี้นำเครื่องแกงพริกขิงลงไปผัดกับแคบหมู เพิ่มปลาป่นลงไป สุดท้ายโรยใบมะกรูด ถ้ากินไม่หมดก็เก็บใส่กระปุกไว้ได้นะคะ
ส่วนผสม แคบหมูผัดพริกขิง
• น้ำพริกแกงเผ็ด
• ขิง
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
• น้ำตาลปี๊บ
• แคบหมู (เลือกแบบที่มีมันติดนะครับ ถ้าเป็นชิ้นใหญ่ก็เอามาหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ)
• ปลาแห้งป่น
• น้ำปลา
• ใบมะกรูดซอย
วิธีทำแคบหมูผัดพริกขิง
• 1. โขลกน้ำพริกแกงกับขิงเข้าด้วยกัน (สำหรับคนที่ชอบกลิ่นขิง) ตักใส่ลงในกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป เปิดไฟอ่อน ๆ ผัดให้พอหอม
• 2. ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป (ใส่ไม่ต้องเยอะครับ ลองกะดู ชอบหวานหรือไม่หวาน) ผัดจนน้ำตาลปี๊บละลายเข้ากันดีกับน้ำพริกแกง
• 3. ใส่แคบหมูลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ปลาแห้งป่นลงไป เติมน้ำปลาแล้วผัดผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ให้รสชาติเผ็ดนำ หวานตาม เค็มนิด ถ้าได้ที่แล้วก็ปิดเตาได้เลยครับ)
• 4. ตักใส่ถ้วย โรยด้วยใบมะกรูดซอย พร้อมเสิร์ฟ (เสร็จแล้วครับ ง่าย ๆ ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คลุก ๆ หรอยลำแซ่บครับ ครั้งนี้ผมลืมใส่ไข่เค็มครับ ถ้ามีไข่เค็มก็หั่นลูกเต๋าโรยหน้าลงไป ง่าย ๆ ครับ ลองทำดู)
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แคบหมูผัดพริกขิง เมนูอร่อยเอาใจคนเมืองที่ไม่กลัวอ้วน
++++++++++++++++++++
5. กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
เมื่อเช้าซื้อมันหมูมากะว่าจะทำกากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม ใครสนใจขอแนะนำสูตรจาก คุณ shintaro สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เริ่มจากเจียวกากหมูก่อนเลยค่ะ ต่อมาจึงเอาไปผัดกับเครื่องแกงพริกขิง สุดท้ายใส่ไข่เค็มลงไปผัด มากินด้วยกันไหมคะ ?
ส่วนผสม กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
• มันหมูหั่นชิ้นเล็ก 1.3 กิโลกรัม (100 บาท)
• น้ำสะอาด
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ขิงซอยโขลกละเอียด (5 บาท)
• น้ำพริกแกงเผ็ด (ซื้อสำเร็จจากที่ตลาดครับ ง่ายดี ใช้นิดเดียวไม่ต้องโขลก ซื้อมา 10 บาท แต่ใช้ 3 บาท)
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำปลาอย่างดี
• ปลาแห้งป่น (15 บาท ใช้จริง 10 บาท)
• ไข่เค็มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ฟอง (18 บาท)
• ใบมะกรูดหั่นฝอย 6 ใบ (เก็บเอาต้นหลังบ้าน)
วิธีทำกากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม
• 1. ตั้งกระทะใส่มันหมูลงไป จากนั้นใส่น้ำสะอาดลงไปพอให้น้ำท่วมมันหมู
• 2. เปิดไฟแรงพอเดือด ใส่เกลือป่นลงไป แล้วเบาไฟลงอ่อน ๆ เพื่อรีดน้ำมันหมูออกมา หมั่นคนไม่ให้ติดกัน ขั้นตอนนี้น้ำก็จะระเหยออกไป ส่วนน้ำมันหมูก็จะเริ่มเข้ามา (ขอบอกว่าเยอะมากจนน่าตกใจ) หมั่นคนต่อไปเรื่อย ๆ ใช้ไฟเบาเข้าไว้
• 3. ทอดจนมันหมูเหลือง ตักขึ้นกรองเอาน้ำมันออกให้หมด คนอย่าให้มันหมูติดกัน ตักใส่ถ้วย พักไว้ (มันหมู 1.3 กิโลกรัม ได้ออกมาแค่ถ้วยเดียวครับ)
• 4. โขลกขิงให้ละเอียด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปโขลกให้เข้ากัน เตรียมไว้
• 5. ละลายน้ำตาลปี๊บกับน้ำปลาเข้าด้วยกัน (อย่าใส่น้ำปลามากครับ เพราะส่วนผสมอื่นเค็มอยู่แล้ว หวานนำ)
• 6. ตั้งกระทะใส่น้ำมันหมูประมาณ 1 ทัพพีลงไป ใช้ไฟเบา จากนั้นใส่น้ำพริกลงไปผัดให้หอม
• 7. เติมส่วนผสมน้ำปลากับน้ำตาลปี๊บลงไป
• 8. ใส่ปลาแห้งป่น ผัดให้เข้ากันและชิมรส (ระวังไหม้นะครับ ขาดอะไรก็เติม ชอบอะไรก็เติม)
• 9. ใส่กากหมูลงไปผัดแล้วปิดไฟ ผัดผสมให้เข้ากัน
• 10. ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยและไข่เค็ม ผัดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยใบมะกรูดซอย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ กากหมูผัดพริกขิงไข่เค็ม เมนูเลอค่าแบบไม่แคร์หุ่น
++++++++++++++++++++
6. แกงขี้เหล็กกากหมู
หลายคนคงคุ้นเคยกับแกงขี้เหล็กปลาย่าง หรือแกงขี้เหล็กหมูย่างกันเนอะ แต่สำหรับวันนี้เราขอนำเสนอแกงขี้เหล็กสูตรใหม่นั่นคือ แกงขี้เหล็กกากหมู สูตรจาก คุณ 13 Destinations สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กากหมูนิ่ม ๆ ต้มกับขี้เหล็กรสขมจาง ๆ หน้าตาอาจดูแปลกไปบ้าง แต่ก็อร่อยหายห่วงนะคะ หม้อเดียวอิ่มคุ้ม
ส่วนผสม แกงขี้เหล็กกากหมู
• พริกสด
• หอมแดง
• ใบมะกรูดซอย
• กระเทียม
• ตะไคร้ซอย
• เกลือป่น
• กะทิ
• ขี้เหล็กต้มสุก
• กากหมู
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• ซีอิ๊วขาว
• น้ำมันพืช
วิธีทำแกงขี้เหล็กกากหมู
• 1. โขลกพริกสด หอมแดง ใบมะกรูดซอย กระเทียม ตะไคร้ซอย และเกลือป่นเข้าด้วยกันพอหยาบ เตรียมไว้
• 2. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม จากนั้นใส่เทกะทิลงไป
• 3. พอกะทิเริ่มเดือด ใส่เนื้อขี้เหล็กลงไป ตามด้วยกากหมู
• 4. พอกากหมูเริ่มนิ่ม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ
• 5. พอเดือดอีกครั้งปิดไปไฟ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงขี้เหล็ก สูตรใส่กากหมู แกงกะทิโบราณรสอร่อย
++++++++++++++++++++
7. ส้มตำแคบหมู
เห็นภาพส้มตำแคบหมูแล้วน้ำลายสอ ส่วนผสมทุกอย่างเหมือนส้มตำไทยแค่ใส่แคบหมูเพิ่มลงไปเท่านั้น เย็นนี้ใครมีปาร์ตี้เล็ก ๆ ที่บ้านจัดไปสักถาดเนอะ พร้อมกับไก่ย่าง ข้าวเหนียว
ส่วนผสม ส้มตำแคบหมู
• แคบหมู (ตามชอบ)
• พริกขี้หนูสวน (ตามชอบ)
• กระเทียมปอกเปลือก 50 กรัม
• กุ้งแห้ง 50 กรัม
• ถั่วลิสงคั่ว 100 กรัม
• ถั่วฝักยาว (หั่นท่อน) 200 กรัม
• น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
• มะละกอสับ 100 กรัม
• มะเขือเทศราชินี (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ) 3 ลูก
วิธีทำส้มตำแคบหมู
• 1. โขลกพริกขี้หนูสวนกับกระเทียมเข้าด้วยกันพอหยาบ ใส่กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว และถั่วฝักยาวลงไปโขลกส่วนผสมให้ละเอียดเข้ากัน เพื่อให้น้ำส้มตำมีความเข้มข้น
• 2. ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ โขลกให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสตามชอบ
• 3. ใส่มะเขือเทศราชินี ตามด้วยถั่วฝักยาวหั่นท่อน เส้นมะละกอ และแคบหมูลงไปคลุกให้เข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
8. แคบหมูผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ตายล่ะ… วันนี้เคลียร์ตู้กับข้าวเจอเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นกิโลฯ ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้คงเหม็นหืน ถ้าเอามากินเปล่า ๆ คงไม่ทัน จับมาผัดกับแคบหมูดีกว่า กลายเป็นเมนูแคบหมูผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ทำเสร็จก็ตักแบ่งเพื่อนบ้านเป็นการผูกมิตรไปด้วย
ส่วนผสม แคบหมูผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
• แคบหมู 1 ถ้วย
• กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
• ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมันงา 1 ช้อนชา
• เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบสุก (หรือคั่วสุก) 1/4 ถ้วย
• ต้นหอม 2 ต้น
• พริกแห้งทอดกรอบ
• ต้นหอม (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำแคบหมูผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
• 1. ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อยลงในกระทะ ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้พอหอม ใส่แคบหมูลงไปผัด
• 2. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำมันงา
• 3. ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบลงไปผัดคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
++++++++++++++++++++
9. แคบหมูคั่วกระเทียม
คุณแม่ไปเที่ยวภาคเหนือซื้อแคบหมูมาฝาก แต่กินเปล่า ๆ ก็เบื่อเหมือนกัน ลองเอามาผัดกับกระเทียมให้ดูแปลกตาบ้างดีกว่า ใครสนใจขอแนะนำเมนูแคบหมูคั่วกระเทียม เริ่มจากเจียวกระเทียมให้เหลืองกรอบเสร็จแล้วก็นำมาคั่วกับแคบหมูสักครู่ เพียงเท่านี้ก็พร้อมทานแล้วค่ะ
ส่วนผสม แคบหมูคั่วกระเทียม
• แคบหมู (ตามชอบ)
• กระเทียมจีน หรือกระเทียมไทย (ปอกเปลือกออกและตำพอแหลก) 100 กรัม
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
วิธีทำแคบหมูคั่วกระเทียม
• 1. เจียวกระเทียมในน้ำมันเล็กน้อยจนเริ่มเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พักไว้
• 2. ใส่แคบหมูและเกลือลงไปคั่วกับกระเทียมพอเข้ากัน ตักใส่จานเสิร์ฟ
จบไปแล้วสำหรับ 9 เมนูจากแคบหมู กากหมู แต่ละสูตรทำไม่ยาก ส่วนผสมไม่เยอะ ถ้าอยากกินเมนูกากหมูก็ซื้อมันหมูมาเจียวเองสะดวกกว่าค่ะ แต่ถ้าต้องการกินแคบหมูก็ไปซื้อแบบสำเร็จมาทำจะสะดวกกว่าค่ะ วันหยุดนี้ชวนคนพิเศษเข้าครัวมาทำสักเมนูดีกว่าค่ะ