1. เครปไส้ราสป์เบอร์รีครีมสด

ส่วนผสม แป้งเครป
- แป้งสาลีทำเค้ก 1+1/3 ถ้วย
- ผงฟู 1/4 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- นมสด 1/2 ถ้วย
- วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- วิปครีม
- ราสป์เบอร์รีสด
วิธีทำเครปไส้ราสป์เบอร์รีคอตเทจชีส
1. ใส่แป้งสาลี ผงฟู ไข่ไก่ นมสด วิปปิ้งครีม น้ำเปล่า น้ำตาลทราย น้ำมันพืช เกลือป่น และกลิ่นวานิลลาลงในโถปั่น ปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ภาชนะไว้
2. ทาน้ำมันบาง ๆ ที่กระทะเทฟลอน ตั้งไฟอ่อนจนร้อน ตักส่วนผสมแป้งเครปใส่แล้วกลอกให้ทั่วกระทะ รอจนแป้งสุกเป็นสีเหลืองอ่อน กลับอีกด้านทอดจนสุก ตักใส่จาน ทำจนหมดแป้ง
3. นำแผ่นแป้งเครปวางบนจาน ทาวิปครีมที่ตีแล้วลงไปตามชอบ ตามด้วยราสป์เบอร์รีสด ม้วนให้สวยงาม จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
2. เมอแรงค์ราสป์เบอร์รีคิสส์
ส่วนผสม เมอแรงค์ ราสป์เบอร์รีคิสส์
- ไข่ขาว 150 กรัม (จะต้องมากจากไข่ไก่ที่สด ล้างให้สะอาด)
- น้ำตาลทรายบดละเอียด 300 กรัม หรือ 2 เท่าของน้ำหนักไข่ขาว (ถ้าบดน้ำตาลไม่ละเอียดปัญหาที่เกิดคือ อบแล้วตัวเมอแรงค์จะแตก น้ำตาลเกาะเป็นก้อน)
- สีผสมอาหารที่ชอบ
- เกลือป่นเล็กน้อย (เพื่อให้รสชาติของเมอแรงค์กลมกล่อม)
- มาร์ชเมลโล่ ชิ้นเล็ก ๆ
- กลิ่นราสป์เบอร์รี หรือกลิ่นผสมอาหารตามชอบ (หรือจะไม่ใส่ก็ได้)
- น้ำมะนาว (สำคัญมาก) เพื่อนำมาเช็ดอุปกรณ์ทุกอย่างให้สะอาดหมดจด ปราศจากคราบไขมัน
ส่วนผสม กลิ่นราสป์เบอร์รี
- ราสป์เบอร์รี 1 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำกลิ่นราสป์เบอร์รี
- ตั้งไฟให้ร้อนเติมราสป์เบอร์รีลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า รอจนกว่าราสป์เบอร์รีสุก จากนั้นก็นำไปกรองเพื่อนำเมล็ดของราสป์เบอร์รีออก เตรียมไว้
วิธีทำเมอแรงค์
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาฟาเรนไฮต์ เตรียมไว้
2. นำน้ำตาลทรายเข้าเตาอบ อบนาน 7-9 นาที หรือรอจนกว่าขอบน้ำตาลทรายละลายคล้ายคาราเมล เราก็ได้ความร้อนที่เหมาะสมพอดี
3. ใส่ไข่ขาวลงไปในอ่าง ตีไข่ขาวด้วยความเร็วต่ำก่อนเพื่อให้ขึ้นฟองหยาบ ๆ เพิ่มความเร็วสูงตีจนตั้งยอดอ่อน
4. นำน้ำตาลทรายออกจากเตาอบ ลดอุณหภูมิที่เตาอบเหลือ 90 องศาเซลเซียส
5. ใช้ช้อนชาตักน้ำตาลเติมลงไปในไข่ขาวทีละช้อนจนกว่าน้ำตาลจะหมด ใช้มือสัมผัสผิวของเมอแรงค์ดูว่ายังมีเกล็ดน้ำตาลอยู่หรือเปล่า ถ้ามีตีต่อจนกว่าน้ำตาลจะละลาย เติมเกลือเล็กน้อย เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม
6. ใส่กลิ่นอาหารที่เราเตรียมไว้ลงไป ตีผสมกันให้ทั่ว เมอแรงค์จะตั้งยอดแข็งเป็นเงางาม
7. นำถุงสำหรับบีบเมอแรงค์กลับด้าน ทาด้วยสีผสมอาหารรอบ ๆ ถุง แล้วจึงนำเมอแรงค์ใส่ในถุงบีบ
8. วางมาร์ชเมลโล่ที่เตรียมไว้ในถาดที่รองด้วยกระดาษไข ระยะห่างพอสมควร
9. บีบเมอแรงค์ทับลงไปบนมาร์ชเมลโล่ ด้วยวิธีบีบ หยุด แล้วดึงขึ้น นำเข้าเตาอบประมาณ 35-40 นาที หรือจนกว่าเมอแรงค์จะแห้งไม่ติดกระดาษ นำออกจากเตา วางไว้ให้เย็น เก็บใส่ขวดโหลปิดฝาแน่น เก็บได้นาน 2 อาทิตย์
3. มินิทาร์ตไส้แยมราสป์เบอร์รี
ส่วนผสม มินิทาร์ต (สำหรับ 8 ชิ้น)
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทรายป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- เนยสดจืด หั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วยตวง (แช่เย็น)
- น้ำเย็น 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 1 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ตีผสมกับนมเล็กน้อยปริมาณเล็กน้อย สำหรับทาหน้าทาร์ต
- แยมราสป์เบอร์รี หรือรสตามชอบ
วิธีทำมินิทาร์ต
1. ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย และเกลือ ลงในเครื่องปั่น (Food Processor) ปั่นแบบ Pulse ให้พอผสมกัน ใส่เนยลงไปแล้วปั่นด้วยความเร็วระดับ 1 ให้เข้ากัน จนแป้งมีลักษณะเป็นเม็ดทราย
2. ใส่ไข่แดง น้ำเย็น และกลิ่นวานิลลา ปั่นด้วยความเร็วระดับ 1 ให้เข้ากันจนแป้งเป็นโดว์ (Dough) พอปั้นได้ นำโดว์ที่ได้หุ้มด้วยพลาสติกถนอมอาหารแล้วนำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
3. เมื่อโดว์เย็นได้ที่แล้วนำมานวดให้เป็นแผ่น (โรยแป้งนวลเล็กน้อยก่อนรีดเพื่อป้องกันโดว์ติด) จนได้แผ่นความหนาประมาณ 3-4 มิลลิเมตร และใช้พิมพ์ตัดคุกกี้ (ใช้ขอบแก้ว หรือขอบภาชนะก็ได้ค่ะ) ตัดเป็นรูปตามต้องการ (ในสูตรตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส) ให้ได้ทั้งหมด 16 ชิ้น
4. ใช้พิมพ์กดฟองดอง (ในสูตรใช้รูปดาว) กดเป็นลายตามต้องการ (กดลายเพียง 8 ชิ้น) และเปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
5. เรียงใส่ถาด ทาไข่ไก่ตีผสมกับนมเล็กน้อยให้ทั่ว (ทำหน้าที่เป็นกาวเชื่อมโดว์ของเรา และทำให้ขนมอบออกมาแล้วมีสีเหลืองสวยเงางาม) บริเวณโดว์ที่เป็นฐานของขนม (ทาโดว์ที่ไม่ได้กดลาย) และเรียงไม้เสียบบนโดว์ที่ทาไข่ไก่ตีผสมกับนมแล้ว จากนั้นใส่แยมปริมาณ 2/3 ส่วนของแผ่นโดว์
6. ประกบโดว์ที่กดลายดาวไว้บนโดว์ที่ทาแยม กดให้แนบติดกัน
7. กดบริเวณขอบของโดว์ด้วยส้อมให้ทั่ว เพื่อให้เกิดลายสวยงาม และให้ขนมติดกัน ทาไข่ไก่ตีผสมกับนมอีกครั้ง นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นาน 15 นาที หรือจนแป้งเป็นสีเหลืองทอง นำออกจากเตา ทิ้งไว้ให้เย็น จัดเสิร์ฟ
4. ราสป์เบอร์รีเฟรนช์โทสต์โรล
ส่วนผสม ราสป์เบอร์รีเฟรนช์โทสต์โรล
- ขนมปังแผ่น
- ครีมชีส
- ราสป์เบอร์รีสด
- ไข่ไก่
- นมสด
- เนยสด (เล็กน้อย)
- น้ำตาลทราย
- ผงอบเชยป่น
วิธีทำราสป์เบอร์รีเฟรนช์โทสต์โรล
1. ตัดขอบขนมปังออกแล้วรีดให้เป็นแผ่นบาง ๆ ทาครีมชีสลงบนขนมปังให้ทั่วแผ่น วางเรียงราสป์เบอร์รีลงบนขนมปังด้านใดด้านหนึ่ง ม้วนขนมปังเป็นแท่ง
2. ตีผสมไข่ไก่กับนมสดเข้าด้วยกัน จากนั้นนำขนมปังที่ม้วนไว้ลงไปชุบให้ทั่ว
3. ตั้งกระทะ ใส่เนยสดลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำขนมปังที่ชุบไข่แล้วลงไป ปิ้งขนมปังจนสีเหลืองสวย ตักขึ้น เตรียมไว้
4. ผสมน้ำตาลทรายกับผงอบเชยเข้าด้วยกัน นำขนมปังที่ปิ้งจนเหลืองมาคลุกกับส่วนผสมน้ำตาลทรายให้ทั่ว จัดเสิร์ฟ
5. ราสป์เบอร์รีชีสเค้ก

ส่วนผสม ตัวฐานชีสเค้ก
- แครกเกอร์บดละเอียด 250 กรัม
- เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
ส่วนผสม ครีมชีส
- ครีมชีส 200 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 100 กรัม
- ซาวร์ครีม 270 กรัม
- วิปปิ้งครีมสด 270 กรัม
- ผงวุ้นสำเร็จรูปกลิ่นราสป์เบอร์รี 1 กล่อง
- ราสป์เบอร์รี
วิธีทำตัวฐานชีสเค้ก
- อุ่นเนยให้ละลาย เทลงผสมกับแครกเกอร์ คนผสมให้เข้ากันดี กรุลงในพิมพ์ ใช้ช้อนกดให้แน่น เสร็จแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นให้อยู่ตัว
วิธีทำครีมชีส
2. ตีวิปปิ้งครีมให้ขึ้นฟู จากนั้นค่อย ๆ ใส่ลงในส่วนผสมครีมชีส คนผสมเบา ๆ (ถ้าต้องการให้ครีมชีสอยู่ตัวไม่เละให้ใส่เจลลาตินที่แช่น้ำจนนิ่มแล้ว 3 แผ่น ลงไปตีรวมกับครีมชีส แต่ในสูตรไม่ได้ใส่ เพราะอยากกินแบบนุ่ม ๆ) เทส่วนผสมครีมชีสลงไปบนแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ ปาดให้เรียบ จากนั้นวางราสป์เบอร์รี หรือผลไม้ที่ชอบด้านบน นำไปแช่ตู้เย็นอีกครั้ง
วิธีทำราสป์เบอร์รีชีสเค้ก
- ทำวุ้นสำหรับเคลือบหน้า โดยใช้ผงวุ้นสำเร็จรูปกลิ่นราสป์เบอร์รี 125 กรัม ต้มกับน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร จนเดือด จากนั้นพักไว้จนวุ้นเย็นลง แล้วเทลงไปบนชีสเค้ก นำไปแช่เย็น ประมาณ 2 ชั่วโมงหรือจนกว่าจะเซตตัว
6. มาการองราสป์เบอร์รี
ส่วนผสม มาการอง
- อัลมอนด์ป่นละเอียด 125 กรัม
- ไข่ขาว 60 กรัม (หรือไข่ขาว 3 ฟอง)
- น้ำตาลไอซิ่ง 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- สีผสมอาหารสีชมพู
ส่วนผสม ไส้มาการองราสป์เบอร์รี
- เนย 150 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 75 กรัม
- ราสป์เบอร์รี 100 กรัม
วิธีทำมาการอง
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. ทำฝามาการองโดยบดน้ำตาลไอซิ่ง และอัลมอนด์เข้าด้วยกันจนเป็นผงละเอียด กรองด้วยตะแกรง แล้วพักไว้
3. ตีไข่ขาวและน้ำตาลทรายจนไข่ขาวฟูตั้งยอดแข็ง ค่อย ๆ ผสมน้ำตาลไอซิ่งและอัลมอนด์บดละเอียดที่กรองแล้วลงไป คนเบา ๆ พยายามรักษาฟองอากาศในไข่ขาวให้ได้มากที่สุด จากนั้นผสมสีผสมอาหารลงไปตามชอบ คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่ระวังอย่าคนมากจนเกินไป เพราะจะทำให้มาการองไม่ฟู
4. นำส่วนผสมใส่ลงในถุงทรงกรวย (หรือถุงบีบ) แล้วบีบให้กว้างประมาณ 2 ซม. (ถ้าขนาดปกติจะกว้างประมาณ 1 ซม.) ลงบนกระดาษที่ใช้สำหรับทำขนม บีบจนเต็มถาด เคาะถาดกับโต๊ะเบา ๆ เพื่อไล่ฟองอากาศ พักทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที ก่อนเข้าอบ จากนั้นนำเข้าอบประมาณ 20-25 นาที (ถ้าขนาดปกติจะอบประมาณ 10-15 นาที) เมื่อมาการองสุกเอาออกจากเตาอบ นำออกมาผึ่งให้เย็น
5. ทำตัวไส้มาการองโดยปั่นราสป์เบอร์รี 50 กรัม แล้วพักไว้
6. ปั่นผสมเนยและน้ำตาลไอซิ่งจนเนื้อฟูละเอียด ผสมราสป์เบอร์รีที่ปั่นไว้ให้เข้ากันแล้วนำไปทาบนตัวมาการองแล้วตกแต่งด้วยราสป์เบอร์รีตามชอบ
7. เครปเค้กซอสราสป์เบอร์รี
ส่วนผสม แป้งเครป
- แป้งเค้ก 200 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 6 ฟอง
- นมสด 250 กรัม
- วิปครีม 200 กรัม (หรือใช้นมข้นจืดแทนได้ค่ะ)
- น้ำเปล่า 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำมันพืช 80 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- เหล้ารัม 1 ช้อนชา
ส่วนผสม ซอสราสป์เบอร์รี
- ราสป์เบอร์รี 2 ถ้วยตวง (จะใช้สดหรือแช่แข็งก็ได้ค่ะ ถ้าแข็งก็ให้เอามาวางไว้ข้างนอกให้หายแข็งสักหน่อย)
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
วิธีทำเครปเค้กซอสราสป์เบอร์รี
1. นำส่วนผสมมาชั่งและตวงตามสูตรเสร็จแล้วนำมาผสมกันในโถ หรือใครจะใช้เครื่องปั่น นำมาปั่นเอาก็ได้ ปั่นจนแป้งไม่เป็นเม็ดก็พอ จากนั้นนำส่วนผสมแช่เย็นไว้ 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน อย่าลืมช้อนฟองออกด้วย (แป้งเครปที่ผสมแล้ว สามารถเก็บได้ถึง 48 ชั่วโมง)
2. ทำซอสราสป์เบอร์รีโดยใส่ราสป์เบอร์รีลงในหม้อ ใช้ช้อนยี ๆ ให้เละสักเล็กน้อย ตามด้วยน้ำตาลทราย คลุก ๆ ส่วนผสมให้พอเข้ากัน นำไปต้ม จะเห็นว่ามีน้ำออกมาจากลูกราสป์เบอร์รี เสร็จแล้วนำเอาไปปั่นให้ละเอียดอีกรอบ แล้วกรองเอากากออกมาอีกทีจะได้ซอสราสป์เบอร์รีเนื้อเนียน ๆ รสชาติเปรี้ยวหวาน
3. เตรียมกระทะเทฟลอนที่มีหูสองข้าง และพายซิลิโคนทนไฟสองอันสำหรับพลิกแป้ง
4. ตักแป้งใส่ถ้วยตวงในปริมาณ ขนาด 1/4 แล้วนำแป้งไปหยอดลงตรงกลางกระทะ ร่อนให้ทั่ว คอยดูแป้งไม่ให้หนา หรือบางมากเกินไป ทิ้งพักไว้สัก 2-3 นาที จากนั้นใช้พายซิลิโคนแซะขอบรอบ ๆ แล้วพลิกแป้ง แต่ระวังอย่าให้แป้งขาด เสร็จแล้วนำไปพักที่ตะแกรง แล้วก็ทอดชั้นต่อไปเลย จนครบ 20 แผ่น หรือตามแต่ความชอบ
5. ทำวิปปิ้งครีมกันดีกว่า เตรียมวิปปิ้งครีม 4 ถ้วยตวง และน้ำตาลไอซิ่ง 4-5 ช้อนโต๊ะ ตีรวมกันจนขึ้นยอด เตรียมไว้
6. นำครีมแปะจุดไว้ที่ฐานก่อน กันแป้งเลื่อน จากนั้นก็นำแป้งมากันมาทาครีมที่ละแผ่น วางซ้อนกันสลับกับครีมไปมาจนครบ แต่อย่าทาครีมหนาเกินไป มันจะทำให้เลี่ยนได้ พอวางเสร็จจนครบชั้นแล้ว ก็ใช้สปาตูล่าตบจากด้านบนและเก็บขอบด้านข้างให้เรียบร้อย เมื่อได้เครปเค้กแล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จัดเสิร์ฟ
8. ราสป์เบอร์รีซอร์เบต
ส่วนผสม ราสป์เบอร์รีซอร์เบต
- ราสป์เบอร์รี แช่แข็ง
- น้ำตาลทราย
- น้ำเปล่า
- เกลือป่น
วิธีทำราสป์เบอร์รีซอร์เบต
1. ทำน้ำเชื่อมโดยใส่น้ำตาลทรายกับน้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม ปิดไฟ พักไว้
- เคล็ดลับ : น้ำหนักน้ำตาลทรายเท่าไรก็ตาม ปริมาณน้ำเปล่าก็ให้หนักเท่านั้นก็จะออกมาเป็นน้ำเชื่อมระดับมาตรฐานนั้นเอง
2. นำราสป์เบอร์รีไปปั่นจนละเอียด (ใครไม่มีเครื่องบดอาหาร หรือ Food Processor ก็ใช้เครื่องปั่นเอาก็ได้ กะเอาปริมาณตามต้องการได้เลย คงไม่ต้องมากเพราะราสป์เบอร์รีมีรสเปรี้ยวมาก)
3. ปั่นจนราสป์เบอร์รีเนียนละเอียด เทส่วนผสมราสป์เบอร์รีปั่นลงในน้ำเชื่อม เติมเกลือลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน
- เคล็ดลับ : หากหวานมากไปก็เติมน้ำเปล่าได้ วิธีชิมรส ไม่ว่าจะอาหารคาวหรือหวาน ควรตักขึ้นมาเป่าให้เย็นก่อนจะเจอรสที่แท้จริง หากมันร้อน เวลาชิมแล้วปรุง ลิ้นเราอาจจะเพี้ยนได้
4. นำส่วนผสมมากรองเอาเม็ดออก
- เคล็ดลับ : ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เป็นเมล็ดหรือว่าตาของราสป์เบอร์รี แต่รู้ว่ามันแข็งเกินไปที่จะเอามาเป็นของหวานชนิดนี้ หากเอามาทำแยมก็คงไม่มีปัญหา เพราะแยมใช้ความร้อนนาน ตามันจะนิ่มไปเอง
5. นำน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีไปบ่มพักไว้ในตู้เย็นในช่องปกติ อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือข้ามคืน (ยิ่งดี)
6. นำโถปั่นชั้นในที่มีเจลทำความเย็นไปแช่ช่องฟรีซ อย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนนำมาปั่นไอศกรีม (หากแช่น้อยกว่านั้น จะไม่เกิดเป็นไอศกรีม) เทส่วนผสมน้ำเชื่อมราสป์เบอร์รีลงไปในเครื่อง เปิดเครื่องปั่นจนเป็นเนื้อไอศกรีม ประมาณ 30 นาที ปิดเครื่องดึงใบพัดออกแล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอีก 3 ชั่วโมง ตักไอศกรีมใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
9. โยเกิร์ตฟรุตเบอร์รี
ส่วนผสม โยเกิร์ตฟรุตเบอร์รี
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (แช่เย็น) 300 กรัม
- ผิวเลมอนซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ราสป์เบอร์รี 1/2 ถ้วยตวง
- สตรอว์เบอร์รีหั่นชิ้น 1/2 ถ้วยตวง
- บลูเบอร์รี 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำผึ้ง (สำหรับราดตามชอบ)
- คอร์นเฟลก (สำหรับโรยหน้า)
หมายเหตุ : สามารถเปลี่ยนผลไม้ได้ตามชอบ
วิธีทำโยเกิร์ตฟรุตเบอร์รี
1. ใส่ผิวเลมอนลงในโยเกิร์ต คนผสมพอเข้ากัน
2. ตักโยเกิร์ตลงในภาชนะ สลับกับราสป์เบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และบลูเบอร์รีให้สวยงาม
3. นำเข้าแช่เย็น ก่อนเสิร์ฟนำออกมาราดหน้าด้วยน้ำผึ้งและโรยคอร์นเฟลก
10. สมูทตี้แก้วมังกรราสป์เบอร์รีมะม่วง

ส่วนผสม สมูทตี้แก้วมังกรราสป์เบอร์รีมะม่วง
- แก้วมังกร 1 ลูก
- มะม่วงสุก 1 ลูก
- ราสป์เบอร์รี 170 กรัม
- เลมอนกับบลูเบอร์รี 340 กรัม
- น้ำแข็ง 2 ถ้วย
- กะทิหรือนมมะพร้าว
วิธีทำสมูทตี้แก้วมังกรราสป์เบอร์รีมะม่วง
1. หั่นแก้วมังกรเป็นชิ้นเล็ก ๆ หรือตักด้วยช้อน เก็บแก้วมังกรหั่นเต๋าบางส่วนไว้แต่งหน้า
2. บดราสป์เบอร์รีด้วยตะแกรง เทซอสราสป์เบอร์รีใส่ชาม และหั่นมะม่วงเป็นชิ้น เตรียมไว้
3. เตรียมเครื่องปั่น ใส่บลูเบอร์รี เลมอน แก้วมังกร มะม่วงสุก และซอสราสป์เบอร์รี ประมาณ 3/4 ส่วน และน้ำแข็ง ปั่นจนละเอียด
4. เทซอสราสป์เบอร์รีที่เหลือใส่แก้วแล้วหมุนทำลวดลายในแก้วให้สวยงาม เทสมูทตี้แก้วมังกรลงไป แต่งด้วยแก้วมังกร ราดกะทิหรือนมมะพร้าวตามชอบ
11. มิกซ์เบอร์รีสมูทตี้
ส่วนผสม มิกซ์เบอร์รีสมูทตี้
- สตรอว์เบอร์รีสด (หรือแช่แข็ง) 1/4 ถ้วย
- แบล็กเบอร์รีสด (หรือแช่แข็ง) 1/4 ถ้วย
- บลูเบอร์รีสด (หรือแช่แข็ง) 1/4 ถ้วย
- ราสป์เบอร์รีสด (หรือแช่แข็ง) 1/4 ถ้วย
- น้ำส้ม 1/2 ถ้วย (หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ตามชอบ)
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
- น้ำแข็งบด 1/2 ถ้วย
- ผลไม้สดเสียบไม้ (แต่งแก้ว)
หมายเหตุ : ผลไม้ทั้งหมดที่ใช้ ถ้าไม่มีแบบสด สามารถใช้แบบแช่แข็งแทนได้ และสามารถเพิ่มโยเกิร์ตลงไปได้ตามชอบ
วิธีทำสมูทตี้
ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ปั่นส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว 10-20 วินาที เทส่วนผสมใส่แก้ว แต่งด้วยผลไม้สดเสียบไม้ให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
อื้อหือ ! ราสป์เบอร์รีชีสเค้กก็น่าโดน มิกซ์เบอร์รีสมูทตี้ก็อยากกิน และยังมีเมนูราสป์เบอร์รีอื่น ๆ อีกเพียบ เดี๋ยวต้องแต่งตัวออกไปจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบมาทำกินรัว ๆ หน่อยแล้วจ้า