มาร์ชเมลโล่ สูตรคีโตกินได้ ไม่ใส่น้ำตาลอร่อยเด้งหนึบ
อร่อยได้ไม่รู้สึกผิดกับมาร์ชเมลโล่ สูตรคีโตกินได้ ไม่ใส่น้ำตาล สีขาวธรรมชาติ อร่อยนุ่มเคี้ยวหนึบละลายในปาก แช่เย็นหรือไม่แช่เย็นก็อร่อย
อาหารคีโตก็ทำบ่อยแล้ว คราวนี้มาลองทำขนมคีโตกันบ้างดีกว่า กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำมาร์ชเมลโล่ ใส่ผงเจลาติน เติมกลิ่นวานิลลา จับไปทำมาร์ชเมลโล่ย่างก็อร่อย หรือใส่กาแฟ ก็ได้เช่นกันค่ะ
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
มาร์ชเมลโล่ ดึ๋ง ๆ หนึบ ๆ แบบไม่มีน้ำตาล โดย คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม มาร์ชเมลโล่
- เจลาตินผง 20 กรัม
- น้ำเปล่า 80 มิลลิลิตร
- น้ำตาลอัลลูโลส (Allulose) 200 กรัม
- น้ำเปล่า 120 มิลลิลิตร
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- น้ำมันมะพร้าว (สำหรับทาพิมพ์)
- แป้งมันฝรั่ง (สำหรับโรยพิมพ์กันติด และโรยมาร์ชเมลโล่)
หมายเหตุ :
-
แป้งมันฝรั่งดิบที่ไม่ผ่านความร้อนเป็น Resistant Starch (RS) คือแป้งที่ไม่สามารถถูกย่อยด้วยเอนไซม์และไม่ถูกดูดซึมในลำไส้เล็กของมนุษย์ จึงมีคุณสมบัติเทียบเท่าเส้นใยอาหาร ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณพลังงานในระดับต่ำกว่าปกติ หรือทำหน้าที่คล้ายกับใยอาหารนั่นเอง เพราะฉะนั้นเมนูนี้การใช้แป้งมันฝรั่งปลอดภัย คีโตกินได้
-
เมนูนี้จำเป็นต้องใช้น้ำตาลอัลลูโลส เนื่องจากมีคุณสมบัติคล้ายน้ำตาลมากที่สุด หากใช้สารให้ความหวานตัวอื่นอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน
วิธีทำมาร์ชเมลโล่
★ เตรียมถาดโดยหยอดน้ำมันมะพร้าวลงบนพิมพ์เล็กน้อย แล้วใช้แปรงหรือกระดาษทิชชูเกลี่ยน้ำมันให้ทั่วพิมพ์
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ โรยด้วยแป้งมันฝรั่ง เกลี่ยให้ทั่ว เคาะ ๆ ส่วนที่เกินออก
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ บลูมเจลาตินกับน้ำเปล่า คนให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ ต้มน้ำกับอัลลูโลสรอจนละลายหมด พอน้ำใสและเดือดเป็นฟองแบบนี้ก็ใส่เจลาตินที่บลูมไว้ลงไป
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำเชื่อมเหนียวข้น ลองเช็กดูกับสเปตูล่า ต้องไหลหนืด ๆ เป็นอันใช้ได้
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ เทลงอ่างผสม รอให้คลายร้อนสักหน่อย
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ ตีด้วยความเร็วต่ำไล่ไปสูง ตีประมาณ 5 นาทีจนเข้ากันดีและเริ่มฟู ใส่กลิ่นวานิลลา
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ ตีต่อด้วยความเร็วสูงจนส่วนผสมนุ่มฟู และเป็นริบบิ้นแบบนี้ก็ใช้ได้แล้ว
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ เทลงพิมพ์เกลี่ยให้เข้ากัน พักไว้ 4 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ แกะออกจากพิมพ์ โรยด้วยแป้งมันฝรั่งกันติด ตัดเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
★ เสร็จแล้วค่ะ มาร์ชเมลโล่แบบไม่มีน้ำตาล อร่อยได้ไม่รู้สึกผิด
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพจาก คุณ Thai Nutrition สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ใครเป็นสายคีโตลองมาทำมาร์ชเมลโล่แบบไม่ใส่น้ำตาลกัน กินเปล่า ๆ หรือเอาไปใส่คุกกี้เป็นของขวัญของฝากแด่คนพิเศษก็ได้เช่นกัน
แนะนำเมนูขนมมาร์ชเมลโล่สูตรอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ใครสนใจทำเมนูไหนคลิกเลยจ้า