วิธีล้างสตรอว์เบอร์รีให้สะอาด ด้วยวัตถุดิบในครัว ไม่ช้ำ ไร้สารพิษ เหมาะกินเปล่า ๆ จิ้มพริกเกลือ ทำเครื่องดื่มหรือเบเกอรี่ก็ได้
![ล้างสตรอว์เบอร์รี](https://s359.kapook.com//pagebuilder/9322afec-81ec-4d0c-a0a4-9b9c1ebf2e43.jpg)
เมื่อมาถึงหน้าสตรอว์เบอร์รี ผลไม้สีแดงสวย หลายคนก็คงซื้อติดมือกลับบ้าน แต่ก่อนกินหรือทำอาหารต้องล้างให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและสารพิษตกค้าง วันนี้เราขอแนะนำวิธีล้างสตรอว์เบอร์รี ไม่ว่าจะเป็นการล้างด้วยน้ำเปล่าหรือล้างด้วยวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีติดบ้าน ใครชอบวิธีไหนเชิญตามสะดวกเลยจ้า
วิธีล้างสตรอว์เบอร์รี
1. เปิดน้ำไหลผ่านเบา ๆ
โดยนำสตรอว์เบอร์รีใส่ตะกร้าหรือภาชนะ แล้วเปิดน้ำไหลผ่านเบา ๆ ประมาณ 10-20 วินาที (ไม่ควรเปิดน้ำแรง เพราะอาจทำให้ผลสตรอว์เบอร์รีช้ำ) หมุนตะกร้าเบา ๆ เพื่อให้โดนน้ำทุกด้าน เมื่อล้างเสร็จแล้วให้สะเด็ดน้ำแล้วซับด้วยกระดาษทิชชูจนแห้ง
![เปิดน้ำไหลผ่านสตรอว์เบอร์รี](https://s359.kapook.com//pagebuilder/8d5d2c4c-dd87-41e9-9d56-8f8dcf0534fc.jpg)
2. แช่น้ำเกลือ
โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำเย็นประมาณ 3-4 ถ้วย แล้วนำสตรอว์เบอร์รีลงไปแช่ทิ้งไว้ 5-10 นาที จากนั้นล้างน้ำเบา ๆ ให้สะอาดอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและแมลงได้ดี
![นำสตรอว์เบอร์รีแช่น้ำเกลือ](https://s359.kapook.com//pagebuilder/8de6b8f1-cf86-4ee2-b8f6-55bc5c752774.jpg)
3. ล้างด้วยน้ำส้มสายชู
โดยผสมกับน้ำ 3 ส่วน แล้วนำสตรอว์เบอร์รีลงไปแช่ 10-15 นาที จากนั้นล้างน้ำเบา ๆ ให้สะอาดอีกครั้ง จะช่วยขจัดสารพิษตกค้างได้
4. แช่เบกกิ้งโซดา
โดยผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา กับน้ำประมาณ 3-4 ถ้วย แล้วนำสตรอว์เบอร์รีลงไปแช่ทิ้งไว้ 10-15 นาที เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยขจัดสารพิษตกค้างได้
![นำสตรอว์เบอร์รีแช่เบกกิ้งโซดา](https://s359.kapook.com//pagebuilder/f9337547-4135-481a-aa8a-eabd58bfac4a.jpg)
5. ล้างสตรอเบอร์รีก่อนกิน
ไม่ควรล้างล่วงหน้า เพราะจะทำให้สตรอว์เบอร์รีช้ำและเสียเร็วขึ้น โดยล้างแบบยังไม่ต้องเด็ดก้าน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกเข้าไปในเนื้อสตรอว์เบอร์รี และซับให้แห้งหลังล้างทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา
วิธีล้างสตรอว์เบอร์รี ไม่ว่าจะล้างด้วยน้ำเปล่า เกลือ น้ำส้มสายชู หรือเบกกิ้งโซดา ก็น่าลองทั้งนั้น ที่สำคัญวิธีนี้ใช้ได้กับสตรอว์เบอร์รีทุกสายพันธุ์เลยจ้า