ยามบ่ายอากาศดีมาทำขนมไทยจากไข่ จับไข่มาทำขนมหลากสไตล์สีสวยหวานหอม อร่อยล้ำไร้กลิ่นคาว กินตอนไหนก็ใช่
1. ฝอยทอง
จากที่เคยซื้อฝอยทองจากร้านดัง ลองหาเวลาว่างมาลองทำเองดีกว่า สูตรนี้ใส่ไข่แดงของไข่เป็ดและไข่ไก่ผสมกันเพื่อให้เส้นฝอยทองนุ่มอร่อยและไม่มีกลิ่นคาว สามารถเพิ่มหรือลดความหวานได้ตามต้องการด้วย
จากที่เคยซื้อฝอยทองจากร้านดัง ลองหาเวลาว่างมาลองทำเองดีกว่า สูตรนี้ใส่ไข่แดงของไข่เป็ดและไข่ไก่ผสมกันเพื่อให้เส้นฝอยทองนุ่มอร่อยและไม่มีกลิ่นคาว สามารถเพิ่มหรือลดความหวานได้ตามต้องการด้วย
• น้ำตาลทรายขาว 1 กิโลกรัม
• น้ำลอยดอกมะลิ 1,000 มิลลิลิตร (หรือน้ำสะอาดหยดกลิ่นมะลิ 2-3 หยด)
• ใบเตยมัดรวมกัน 4 ใบ
• ไข่เป็ด 6 ฟอง
• ไข่ไก่ 3 ฟอง
อุปกรณ์
• กระทะทองเหลือง
• กรวยใบตองหรือกรวยโลหะ
• ไม้แหลม ยาวประมาณ 1 ฟุต
• ตะแกรง
• ถาดรองน้ำเชื่อม
วิธีทำฝอยทอง
1. ทำน้ำเชื่อม โดยตั้งหม้อใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลอยดอกมะลิเข้าด้วยกัน ใส่ใบเตยลงไป เอาไปตั้งไฟประมาณ 5 นาทีหรือรอจนน้ำตาลละลาย เสร็จแล้วกรองด้วยกระชอนตาถี่หรือผ้าขาวบาง เทใส่กระทะทองเหลือง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนเหนียวข้น
2. ตอกไข่ทั้งสองชนิดใส่ถ้วย แยกไข่แดงกับไข่ขาวออกจากกัน ใช้แต่ไข่แดง และรีดไข่น้ำค้างเทลงไปในไข่แดง (เคล็ดลับ : ไข่น้ำค้างทำให้เส้นฝอยทองเหนียวนุ่ม ไม่ขาดง่าย) ตีผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แต่ไม่ต้องตีให้ขึ้นฟู เพราะถ้าคนมากไปจะทำให้เส้นขาดเวลาโรย นำไปกรองในผ้าขาวบาง
3. ตักไข่แดงใส่ในกรวย โรยไข่ลงไปในน้ำเชื่อมพอเดือดใช้ไฟกลาง วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20-30 รอบต่อชิ้น ยกกรวยขึ้น
4. พอสุกให้ใช้ไม้ปลายแหลมพับครึ่งเส้นฝอยทองแล้วเอามาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อม (เคล็ดลับ : ถ้าต้องการฝอยทองเส้นเล็ก ให้ถือกรวยสูงจากน้ำเชื่อมเยอะหน่อย แต่ถ้าต้องการฝอยทองเส้นใหญ่ ก็ให้ถือกรวยต่ำ ๆ)
++++++++++++++++++++
2. เม็ดขนุน
เม็ดขนุนถั่วใคร ๆ ก็ทำกัน ลองเปลี่ยนมาทำเม็ดขนุนเผือกกันบ้างดีไหม ขอนำเสนอเมนูเม็ดขนุน สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำเผือกกวนนุ่มลิ้น สีสวยเงาวับน่าหม่ำสุด ๆ ไปเลย
เม็ดขนุนถั่วใคร ๆ ก็ทำกัน ลองเปลี่ยนมาทำเม็ดขนุนเผือกกันบ้างดีไหม ขอนำเสนอเมนูเม็ดขนุน สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มาพร้อมวิธีทำเผือกกวนนุ่มลิ้น สีสวยเงาวับน่าหม่ำสุด ๆ ไปเลย
ส่วนผสม ไส้เผือกกวน
• เผือกนึ่งสุก 500 กรัม
• หัวกะทิ 300 กรัม
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม น้ำเชื่อม
• น้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม
• น้ำ 1 ลิตร
• ไข่แดงของไข่เป็ด 5 ฟอง (สำหรับชุบขนม)
วิธีทำเม็ดขนุนเผือก
1. ทำไส้เผือกกวน โดยบดเผือกให้ละเอียด ใส่น้ำตาลทราย หัวกะทิ และเกลือลงไป กวนด้วยไฟอ่อนจนแห้งและเหนียวหน่อย ๆ พักไว้ให้เย็น ปั้นในแบบที่ต้องการ
2. ตอกไข่แดงตีผสมพอเข้ากันเตรียมไว้สำหรับชุบ และตั้งน้ำเชื่อมพอเดือด ตักเผือกปั้นก้อนลงไปชุบในไข่แดงแล้วค่อย ๆ ตักหยอดในน้ำเชื่อม พอไข่สุกตักขึ้น
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เม็ดขนุนเผือก ขนมไทยมงคลเม็ดจิ๋วเงาวับหวานฉ่ำ
++++++++++++++++++++
3. สังขยาไข่
สังขยาไข่ที่ขายทั่วไปรสชาติหวานแสบคอ ถ้าลองทำเองคงถูกปากกว่าเยอะ สูตรนี้ใช้ไข่ไก่หรือใครจะใช้ไข่เป็ดก็ตามชอบ ใส่น้ำตาลปี๊บกับหัวกะทิ หรืออาจขยำใบเตยเพิ่มกลิ่นหอมก็ได้ เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่งพร้อมเสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูนค่ะ
สังขยาไข่ที่ขายทั่วไปรสชาติหวานแสบคอ ถ้าลองทำเองคงถูกปากกว่าเยอะ สูตรนี้ใช้ไข่ไก่หรือใครจะใช้ไข่เป็ดก็ตามชอบ ใส่น้ำตาลปี๊บกับหัวกะทิ หรืออาจขยำใบเตยเพิ่มกลิ่นหอมก็ได้ เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่งพร้อมเสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูนค่ะ
ส่วนผสม สังขยาไข่
• ไข่ไก่ 10 ฟอง
• น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
• หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำสังขยาไข่
1. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากัน นำไปกรองผ่านตะแกรง เทใส่ภาชนะสำหรับนึ่ง
2. นึ่งสังขยานานประมาณ 15 นาทีหรือจนสุกยกลง พักไว้จนเย็น พร้อมรับประทาน
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยาไข่ หวานหอมรับประทานเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ
++++++++++++++++++++
4. ขนมไข่
ใครมีเตาอบเตรียมปัดฝุ่นรอเลยค่ะ จะได้มาทำขนมไข่กรอบนุ่ม สูตรนี้ใช้แป้งเค้กกับผงฟู ใครจะเติมเนยสดเพิ่มก็ตามชอบ จะกินเพียว ๆ หรือจะบีบไส้ลงไปในเนื้อขนมก็ยิ่งเพิ่มความอร่อย
ใครมีเตาอบเตรียมปัดฝุ่นรอเลยค่ะ จะได้มาทำขนมไข่กรอบนุ่ม สูตรนี้ใช้แป้งเค้กกับผงฟู ใครจะเติมเนยสดเพิ่มก็ตามชอบ จะกินเพียว ๆ หรือจะบีบไส้ลงไปในเนื้อขนมก็ยิ่งเพิ่มความอร่อย
ส่วนผสม ขนมไข่
• แป้งเค้ก 90 กรัม
• ผงฟู 1/2 ช้อนชา
• ไข่ไก่ (เบอร์ 1) 3 ฟอง (อุณหภูมิห้อง)
• น้ำตาลทราย 100 กรัม
• กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
• น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา (หรือครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ช้อนชา)
วิธีทำขนมไข่
1. ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน 2 ครั้ง เตรียมไว้
2. ตีไข่ไก่ด้วยความเร็วสูงสุดจนขึ้นฟู
3. ค่อย ๆ ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีต่อเร็วสูงจนตั้งยอดอ่อน (เป็นรอยตะกร้อ) จากนั้นใส่น้ำมะนาวลงไปตีต่อให้เข้ากันอีกครั้ง
4. ค่อย ๆ แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ลงไปคนตะล่อมเบา ๆ จนแป้งไม่เป็นเม็ด สุดท้ายเติมกลิ่นวานิลลาลงไปคนเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง ตักส่วนผสมใส่ลงพิมพ์ประมาณ 3/4 พิมพ์
5. นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ประมาณ 15-20 นาทีจนขนมเป็นสีน้ำตาลและกรอบ นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนอุ่น นำออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมไข่ ขนมไทยโบราณกรอบนุ่มทำง่ายกว่าที่คิด
++++++++++++++++++++
5. สังขยามะพร้าวอ่อน
สังขยาฟักทองก็ทำบ่อยจนแอบเบื่อ ลองเปลี่ยนมาทำเมนูสังขยามะพร้าวอ่อน สูตรจาก คุณ maekwansri สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) จับสังขยาเทลงในลูกมะพร้าวแล้วเอาไปนึ่งจนสุก รับสักลูกไหมคะ ?
สังขยาฟักทองก็ทำบ่อยจนแอบเบื่อ ลองเปลี่ยนมาทำเมนูสังขยามะพร้าวอ่อน สูตรจาก คุณ maekwansri สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) จับสังขยาเทลงในลูกมะพร้าวแล้วเอาไปนึ่งจนสุก รับสักลูกไหมคะ ?
ส่วนผสม สังขยามะพร้าวอ่อน
• มะพร้าวอ่อน 3 ลูก (เราใช้ลูกเล็กจ้า)
• ไข่ 3 ฟอง (ไข่เป็ด 2 ฟอง ไข่ไก่ 1 ฟอง)
• หัวกะทิ 150-200 กรัม
• น้ำตาลทราย 150 กรัม (ชอบหวานเพิ่มได้จ้า)
• ใบเตย 3-4 ใบ
• เกลือเล็กน้อย
วิธีทำสังขยามะพร้าวอ่อน
1. เฉาะด้านบนมะพร้าว เทน้ำออก เตรียมไว้
2. นำส่วนผสมทุกอย่างใส่รวมกัน ขยำเข้าด้วยกันจนน้ำตาลละลาย กรองด้วยผ้าขาวบาง ตักใส่ลูกมะพร้าว
3. นำไปวางบนลังถึงที่มีน้ำเดือด ปิดฝา เบาไฟลง นึ่งประมาณ 20 นาทีหรือจนสุก จัดเสิร์ฟ หรือเอาไปแช่เย็นก็อร่อย
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สังขยามะพร้าวอ่อน ขนมหวานหอมอร่อยย้อนรำลึกวัยเด็ก
++++++++++++++++++++
6.ขนมบุหลันดั้นเมฆ
และแล้วก็เจอขนมไทยจากไข่ตำรับชาววังหากินยากนั่นคือ ขนมบุหลันดั้นเมฆ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นคือ เนื้อแป้งผสมน้ำดอกอัญชัน หยอดไข่แดงกับกะทิตรงกลาง เตรียมถ้วยตะไลขนาดตามชอบรอเลยค่ะ
และแล้วก็เจอขนมไทยจากไข่ตำรับชาววังหากินยากนั่นคือ ขนมบุหลันดั้นเมฆ สูตรจาก คุณ BlackPiano สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จุดเด่นคือ เนื้อแป้งผสมน้ำดอกอัญชัน หยอดไข่แดงกับกะทิตรงกลาง เตรียมถ้วยตะไลขนาดตามชอบรอเลยค่ะ
ส่วนผสม ขนมบุหลันดั้นเมฆ
• ดอกอัญชัน
• น้ำร้อน (สำหรับคั้นน้ำอัญชัน)
• กะทิ 120 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม (สำหรับผสมกับกะทิ)
• เกลือ เล็กน้อย
• ไข่แดง 10 ฟอง
• น้ำตาลไอซิ่ง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา เล็กน้อย
• แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม (สำหรับผสมกับน้ำดอกอัญชัน)
• แป้งเท้ายายม่อม 40 กรัม
• น้ำเปล่า 200 กรัม
• น้ำเชื่อม 350 กรัม (พักไว้จนเย็น)
• ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่งขนม)
วิธีทำขนมบุหลันดั้นเมฆ
1. คั้นดอกอัญชันกับน้ำร้อนให้ได้ปริมาณ 100 กรัม พักไว้
2. ผสมกะทิกับแป้งข้าวเจ้า 10 กรัม เข้าด้วยกันแล้วนำไปเคี่ยวในกระทะให้พอข้น ๆ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ปิดไฟพักไว้
3. ตีผสมไข่แดงกับน้ำตาลไอซิ่งให้เข้ากัน เติมกลิ่นวานิลลาลงไปเล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว คนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปกรองให้เนื้อเนียน ๆ เตรียมไว้
4. ผสมแป้งข้าวเจ้า 100 กรัม กับแป้งเท้ายายม่อมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อยลงไปผสม นวดแป้งประมาณ 5 นาที จนแป้งมีลักษณะเงา เทน้ำเปล่าที่เหลือลงไปจนหมด ตามด้วยน้ำเชื่อมที่เย็นแล้ว เทน้ำดอกอัญชันลงไปผสม คนให้เข้ากันแล้วนำไปกรอง พักไว้
5. นำถ้วยตะไลไปนึ่งให้ร้อน หยอดส่วนผสมแป้งลงไปจนเกือบเต็ม ปิดฝานึ่งในน้ำเดือดประมาณ 2-2.30 นาที โดยสังเกตจากขอบขนมเริ่มมีสีเข้มขึ้นและตรงกลางมีสีอ่อน ๆ เป็นใช้ได้ รีบนำออกมาจากชุดนึ่งแล้วคว่ำถ้วยขนมลงชาม แป้งที่ยังไม่สุกก็จะไหลออกมา ทำให้ขนมเป็นหลุมตรงกลาง
6. บีบหรือหยอดกะทิที่เคี่ยวไว้ลงไปในหลุม นำไปนึ่งต่ออีก 1 นาที พอครบเวลาก็หยอดส่วนผสมไข่แดงลงในหลุม จากนั้นนำไปนึ่งต่ออีกประมาณ 5 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมบุหลันดั้นเมฆ วิธีทำขนมไทยโบราณสีสดใสไว้ลองชิม
++++++++++++++++++++
7.ขนมหม้อแกงเผือก
เอาใจคนพิเศษด้วยการทำขนมไทยจากไข่เมนูโปรดนั่นคือ ขนมหม้อแกงเผือก สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับเผือกนึ่งบดกับส่วนผสมอื่น ๆ จนเข้ากัน เสร็จแล้วเทใส่พิมพ์เพื่ออบจนสุก ก่อนเสิร์ฟโรยหอมเจียว
เอาใจคนพิเศษด้วยการทำขนมไทยจากไข่เมนูโปรดนั่นคือ ขนมหม้อแกงเผือก สูตรจาก คุณ Phorn_Kitchen สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับเผือกนึ่งบดกับส่วนผสมอื่น ๆ จนเข้ากัน เสร็จแล้วเทใส่พิมพ์เพื่ออบจนสุก ก่อนเสิร์ฟโรยหอมเจียว
ส่วนผสม ขนมหม้อแกงเผือก
• ไข่เป็ด 5 ฟอง
• หัวกะทิ 400 กรัม
• น้ำตาลโตนด 250 กรัม
• ใบเตย 5 ใบ
• เผือกนึ่ง 300 กรัม
• หอมแดงเจียวตามชอบ (สำหรับโรยหน้าขนม)
• น้ำมันหอมแดงเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมหม้อแกงเผือก
1. เริ่มจากเจียวหอมแดงให้เหลืองพักไว้
2. ผสมไข่ หัวกะทิ น้ำตาลโตนด และใบเตย ขยำ ๆ ให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย พักไว้
3. บดเผือกนึ่งด้วยส้อมหรือที่บดให้ละเอียด นวดให้เข้ากัน
4. นำส่วนผสมไข่มากรองแล้วเทลงในชามเผือกบด ใส่น้ำมันหอมเจียว คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
5. ตักใส่ถ้วย เปิดไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นาน 20 นาทีหรือจนสุก โรยด้วยหอมเจียว
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมหม้อแกงเผือก สูตรไร้แป้งอบร้อน ๆ หอมอร่อยหวานมัน
++++++++++++++++++++
8. ขนมหม้อแกงถั่ว
หลังจากทำขนมหม้อแกงเผือกไปแล้ว คราวนี้ขอเปลี่ยนมาทำขนมหม้อแกงถั่ว สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับถั่วเขียวนึ่งบดกับส่วนผสมอื่น ๆ เสร็จแล้วก็นำไปกวนสักครู่ก่อนเอาไปอบจนสุก โรยหอมเจียวเพิ่มความหอม
หลังจากทำขนมหม้อแกงเผือกไปแล้ว คราวนี้ขอเปลี่ยนมาทำขนมหม้อแกงถั่ว สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 3128333 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับถั่วเขียวนึ่งบดกับส่วนผสมอื่น ๆ เสร็จแล้วก็นำไปกวนสักครู่ก่อนเอาไปอบจนสุก โรยหอมเจียวเพิ่มความหอม
ส่วนผสม ขนมหม้อแกง
• ถั่วเขียวนึ่งบดละเอียด 200 กรัม
• ไข่เป็ด (ขนาดใหญ่) 5 ฟอง
• ใบเตย
• น้ำตาลปี๊บ 250 กรัม (สูตรแม่สลิ่มใช้ 280 กรัม)
• หัวกะทิ 400 กรัม
• หอมแดงซอย 50 กรัม (หรือมากน้อยตามชอบ)
• น้ำมันพืช
วิธีทำขนมหม้อแกง
1. เริ่มต้นที่เจียวหอมแดงก่อน โดยใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตามด้วยหอมแดง เจียวให้เหลืองตักขึ้น
2. ตอกไข่ลงในชาม นำใบเตยที่ล้างทำความสะอาดอย่างดีแล้วใส่ลงไป (เพื่อขยำให้ไข่ขึ้นฟู) ขยำใบเตยจนไข่ขึ้นฟู ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ขยำให้เข้ากันดี เติมหัวกะทิ ขยำอีกรอบให้เข้ากัน นำไปกรอง อาจจะกรองด้วยผ้าขาวบาง 1 รอบหรือ กรองด้วยกระชอน 1 รอบ และกรองด้วยผ้าขาวบางอีก 1 รอบ
3. หลังกรองเสร็จก็ใส่ถั่วเขียวนึ่งและบดลงไปใช้มือขยำหรือวน ๆ คน ๆ ให้ถั่วไม่เป็นก้อน
4. นำกระทะไปตั้งไฟเพื่อกวนส่วนผสมขนม เริ่มจากใส่น้ำมันหอมเจียว 3 ช้อนโต๊ะ เพื่อให้ขนมมีกลิ่นหอมและชูรสชาติให้อร่อยขึ้น ใส่ส่วนผสมขนมลงไปกวน ประมาณ 5 นาที หรือจนขนมข้นขึ้น ยกลงเทใส่พิมพ์
5. ขยับ ๆ ส่าย ๆ พิมพ์สักหน่อยเพื่อให้หน้าขนมเรียบเสมอกัน นำเข้าไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ถึง 200 องศาเซลเซียส นาน 40 นาที (แล้วแต่เตาอบ) พอสุกแล้วเอาออกจากเตา พักให้เย็นสักครู่ค่อยตัดให้เป็นชิ้นสวยงาม สุดท้ายโรยหอมเจียว พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ หม้อแกงถั่ว ขนมไทยง่าย ๆ เนื้อเนียนกริบ หอม หวาน มัน
++++++++++++++++++++
9. วุ้นไข่
เอาใจลูกรักด้วยเมนูวุ้นไข่ สูตรจาก คุณ Kitty Chef สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม จับน้ำวุ้นร้อน ๆ คนผสมกับไข่ไก่แล้วค่อยเทใส่พิมพ์ ยิ่งแช่เย็นยิ่งอร่อย
ส่วนผสม วุ้นไข่
• น้ำ 500 กรัม
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 80 กรัม
• ไข่ไก่ 1 ฟอง
วิธีทำวุ้นไข่
1. ใส่น้ำเปล่า เติมผงวุ้นกับน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลละลายดีและต้มวุ้นให้เดือด
2. ตีไข่ให้แตก ค่อย ๆ เทไข่ลงไปในวุ้นเป็นเส้นเล็กแล้วใช้ช้อนคนไข่ไม่ให้จับตัวเป็นก้อน
3. พอไข่สุกดีแล้วก็เทใส่กาน้ำนกหวีด เพื่อที่จะไปเทใส่พิมพ์ได้ง่าย ๆ เทวุ้นใส่ในพิมพ์ที่เตรียมไว้ รอให้วุ้นเซตตัว ถ้าใครชอบกลิ่นหอม ๆ ก็เติมกลิ่นวานิลลาได้
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วุ้นไข่ สูตรขนมไทยคลาสสิกลายสวย ส่วนผสม 4 อย่าง
++++++++++++++++++++
10. บัวลอยไข่หวาน
ใครอยากทำบัวลอยกินตบท้ายอาหารคาว ขอนำเสนอเมนูบัวลอยไข่หวาน จับแป้งข้าวเหนียวใส่เผือก ฟักทอง และน้ำใบเตย พอนวดจนแปงเนียนก็ปั้นเป็นก้อนกลม เสร็จแล้วเอาไปต้มจนสุก ราดน้ำกะทิกินกับไข่หวาน
ส่วนผสม บัวลอยไข่หวาน
• แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
• น้ำ 1/4 ถ้วย
• เผือกนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารสีม่วง)
• ฟักทองนึ่งสุก (หรือสีผสมอาหารเหลือง)
• น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น (หรือสีผสมอาหารสีเขียว)
• น้ำกะทิ 1 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• ไข่ไก่
วิธีทำบัวลอยไข่หวาน
1. แบ่งแป้งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 นวดผสมแป้งกับน้ำและเผือกนึ่งสุก ส่วนที่ 2 นวดแป้งกับน้ำและฟักทองนึ่งสุก ส่วนที่ 3 นวดแป้งกับน้ำใบเตย นวดผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำไปคลุกแป้งข้าวเหนียวบาง ๆ เตรียมไว้
2. ใส่น้ำกะทิลงในหม้อ เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่น คนผสมจนละลาย นำขึ้นตั้งไฟ พอเดือด รีบปิดไฟ
3. ต้มน้ำในหม้อจนเดือด นำบัวลอยลงต้มทีละสีจนลอยขึ้นมา จากนั้นตักขึ้นสะเด็ดน้ำ ใส่ลงในถ้วย ตักกะทิที่เตรียมไว้ใส่ลงไป
4. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย ค่อย ๆ เทลงในหม้อน้ำกะทิ รอจนไข่สุกตามชอบ จากนั้นตักขึ้นใส่ลงในถ้วยบัวลอย พร้อมเสิร์ฟ
+ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ บัวลอยไข่หวาน สูตรขนมไทยในดวงใจ อร่อยไม่รู้ลืม
ว้าว ! ใครจะไปเชื่อว่าไข่ไก่กับไข่เป็ดจะเอามาทำขนมไทยได้หลากหลายแบบเช่นนี้ ลองเลือกทำเมนูที่สะดวกและถูกปากกันเถอะ