x close

8 สูตรน้ำต้มสมุนไพรต้านโรค กลิ่นหอมมีประโยชน์ได้สุขภาพ

           รวมสูตรน้ำต้มสมุนไพรต้านโรค เครื่องดื่มบำรุงร่างกายเพื่อสุขภาพ ดื่มแบบร้อนหรือแบบเย็นตามชอบกันเลย
            อย่างที่รู้กันดีว่าสมุนไพรไทยมีสรรพคุณดีงาม ถ้าเบื่อ ๆ จับมาทำอาหาร ลองเปลี่ยนมาทำเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกันบ้างดีไหม กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำน้ำต้มสมุนไพรต้านโรค เช่น น้ำกระชาย ชาข่า น้ำต้มใบเตย เป็นต้น แต่ก่อนที่เราจะไปทำเครื่องดื่มอยากให้มาดูประโยชน์ของสมุนไพรไทยกันหน่อยดีไหม
ประโยชน์ของน้ำสมุนไพรไทย
  • กะเพรา มีสรรพคุณขับลม แก้จุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยย่อยไขมันได้ดีขึ้น
  • ขิง มีสรรพคุณแก้อาการท้องอืด จุกเสียด ปวดท้อง บรรเทาอาหารคลื่นไส้อาเจียนจากการเมารถ เมาเรือ และบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ
  • ข่า มีสรรพคุณแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง
  • ตะไคร้ มีสรรพคุณขับลมในลำไส้ ช่วยให้เจริญอาหาร และขับปัสสาวะ
  • กระชาย มีสรรพคุณแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • ใบเตย มีสรรพคุณช่วยบำรุงประสาท แก้อ่อนเพลีย ลดความดันโลหิต บรรเทาโรคข้อและโรครูมาตอยด์
            หลังจากรู้ประโยชน์ของสมุนไพรไทยต่าง ๆ มาพอสังเขปแล้ว เรามาทำน้ำต้มสมุนไพรกันต่อเลยดีกว่า
เมนูน้ำต้มสมุนไพรต้านโรค

1. น้ำสมุนไพร 3 อย่าง แก้อาการมือเท้าชา

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            ถ้าชอบชาตรงฝ่ามือฝ่าเท้าบ่อยอยากให้ลองมาทำน้ำสมุนไพร 3 อย่าง สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen มีขิง ตะไคร้ และใบเตย รสชาติเผ็ดร้อนและมีความหอม ดื่มแบบอุ่นหรือแช่เย็นก็เลือกได้จ้า

ส่วนผสม น้ำสมุนไพร 3 อย่าง

  1. ขิง ทุบหั่นแว่น

  2. ตะไคร้ ทุบหั่นท่อน  6-7 ต้น

  3. ใบเตย หั่นท่อน 6-7 ใบ

  4. น้ำสะอาด 1.5-2 ลิตร

วิธีทำน้ำสมุนไพร 3 อย่าง

  1. นำขิง ตะไคร้ และใบเตย มาล้างและหั่นให้เรียบร้อย

  2. ตั้งหม้อใส่สมุนไพรต่าง ๆ ลงไป เติมน้ำแล้วนำไปต้มให้เดือดจัด ๆ ประมาณ 15-20 นาที ตักฟองออกเพื่อความใส จะได้ชาสมุนไพรหอม ๆ

  3. วิธีการดื่ม ให้ดื่ม 1 แก้วแบบอุ่น ๆ ก่อนอาหารเช้าและเย็น อาจใส่น้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย ควรดื่มต่อเนื่อง 15-30 วัน อาการมือและเท้าชาจะดีขึ้นค่ะ

  4. วิธีการเก็บ นำมากรองแล้วสามารถเก็บแช่เย็นไว้ได้ 5-7 วัน
     

ดูวิธีทำ น้ำสมุนไพร 3 อย่าง เพิ่มเติมคลิก

2. น้ำข่า กระชาย ใบกะเพรา

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            ถ้ามีเสมหะหรือไอจนเจ็บคอ ลองมาทำน้ำข่า กระชาย ใบกะเพรา สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen ใส่สมุนไพร 3 ชนิด ช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล และขับเสมหะได้

ส่วนผสม น้ำสมุนไพร 3 ชนิด

  1. ข่า

  2. กระชาย

  3. ใบกะเพรา

  4. น้ำ 1.5 ลิตร

วิธีทำน้ำสมุนไพร 3 ชนิด

  1. นำข่าและกระชายมาทุบเพื่อให้มีกลิ่นและสรรพคุณออกมาเมื่อนำไปต้ม ตั้งหม้อ ใส่สมุนไพรที่เตรียมไว้ลงไป เติมน้ำ ต้มจนเดือดจัดประมาณ 20-30 นาที

  2. สามารถอบหรือสูดดมไออุ่น ๆ เพื่อลดอาการหวัด คัดจมูก ไอมีเสมหะ ลดเชื้อในลำคอ หรือดื่มอุ่น 1-2 แก้ว/วัน
     

ดูวิธีทำ น้ำข่า กระชาย ใบกะเพรา เพิ่มเติมคลิก

3. น้ำสมุนไพร 7 ชนิด

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            อีกหนึ่งสูตรน้ำต้มสมุนไพรที่ช่วยเรื่องมีน้ำมูก มีเสมหะ นั่นคือ น้ำสมุนไพร 7 ชนิด สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen ใส่สมุนไพรไทยหลากชนิด ใส่ใบเตยเพิ่มความหอมและทำให้ดื่มง่ายขึ้น

ส่วนผสม น้ำสมุนไพร 7 ชนิด

  1. ขิง 

  2. ข่า 5-6 ชิ้น

  3. ตะไคร้ 2-3 ท่อน

  4. มะกรูด 2 ลูก

  5. ใบมะกรูด 5 ใบ

  6. กระชาย 10 ชิ้น

  7. หอมแดง 5 หัว

  8. ใบเตย 5 ใบ

  9. น้ำ 1 ขวด (1.5 ลิตร)

วิธีทำน้ำสมุนไพร 7 ชนิด

  1. นำสมุนไพรทุกอย่างและใบเตยมาต้มรวมกัน

  2. ใส่น้ำ 1 ขวด (1.5 ลิตร) ต้มจนเดือด 20-30 นาที 

  3. นำมาอบ 2-3 ครั้ง/วัน สูดเอาไออุ่นเข้าไปในจมูกและคอ ช่วยทำให้หายใจสะดวก แก้ไอ ขับเสมหะ ล้างพิษในร่างกายออกมาทางเหงื่อ ลดไข้ สร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และสามารถดื่มอุ่น ๆ 1 แก้ว/วัน จะทำให้ร่างกายสดชื่น แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันต้านโรค
     

ดูวิธีทำ น้ำสมุนไพร 7 ชนิด เพิ่มเติมคลิก

4. น้ำกระชายใบเตยน้ำผึ้ง

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            แค่มีกระชายกับน้ำผึ้งก็ทำน้ำต้มสมุนไพรสูตรนี้ได้แล้ว ขอแนะนำน้ำกระชายใบเตยน้ำผึ้ง สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen ถ้าชอบกลิ่นกระชายแรง ๆ ไม่ต้องใส่ใบเตย ดื่มแบบอุ่นหรือแบบเย็นได้หมด เติมความสดชื่นและบำรุงร่างกาย

ส่วนผสม น้ำกระชายใบเตยน้ำผึ้ง

  1. น้ำ 250 มิลลิลิตร

  2. กระชายสด 1 กรัม 

  3. น้ำ 1.5 ลิตร

  4. ใบเตย 5-10 ใบ

  5. น้ำผึ้ง ตามชอบ

วิธีทำน้ำกระชายใบเตยน้ำผึ้ง

  1. นำกระชายมาล้างทำความสะอาด แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในเครื่องปั่น

  2. ใส่น้ำ 1 แก้ว 250 มิลลิลิตร ลงไปแล้วปั่นหรือตำให้ละเอียด

  3. นำมากรอง 3 รอบเพื่อให้ได้หัวเชื้อกระชายที่หอมละมุน ไม่มีฟองหรือเศษกระชาย (เพราะจะทำให้มีรสขม)

  4. นำใบเตยไปต้มกับน้ำ 1.5 ลิตร ประมาณ 10 นาที จนเดือดมีกลิ่นหอม รอให้น้ำใบเตยเย็นค่อยนำน้ำกระชายมาผสม เติมน้ำผึ้งลงไป ชิมรสตามชอบ สามารถเก็บใส่ตู้เย็นไว้ได้ 3 วัน
     

ดูวิธีทำ น้ำกระชายใบเตยน้ำผึ้ง เพิ่มเติมคลิก

5. น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            มาต่อกันที่อีกสูตรน้ำต้มสมุนไพร คือ น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen สูตรนี้ใส่มะนาวเพิ่มความเปรี้ยวหอมสดชื่น มีรสหวานจากน้ำผึ้งด้วย ที่ขาดไม่ได้เลยคือกระชาย

ส่วนผสม น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

  1. น้ำดื่ม 1.5 ลิตร

  2. กระชายสด 1 ขีด (100 กรัม)

  3. น้ำผึ้ง 5-6 ช้อนโต๊ะ

  4. มะนาว 4-5 ช้อนโต๊ะ

  5. เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำน้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว

  1. นำกระชายมาล้างทำความสะอาด และหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำเล็กน้อย นำไปปั่นประมาณ 1-2 นาที 

  2. นำมากรอง 2-3 รอบ เอาเนื้อกระชายและฟองออกให้หมด ถ้าไม่หมดจะทำให้มีรสขม จะได้หัวเชื้อน้ำกระชายที่หอมละมุน ผสมกับน้ำดื่มสะอาดหรือน้ำต้มที่เย็นแล้ว พักไว้

  3. ผสมด้วยน้ำผึ้ง มะนาว และเกลือ (ใส่หรือไม่ก็ได้) ชิมรสตามความชอบ เก็บแช่เย็นได้ 3-4 วัน จะดื่มแบบเย็นชื่นใจหรืออุ่นร้อนก็หอมมาก
     

ดูวิธีทำ น้ำกระชายน้ำผึ้งมะนาว เพิ่มเติมคลิก

6. น้ำกระชายผสมสมุนไพร 4 ชนิด

น้ำสมุนไพร

ภาพจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen

            น้ำต้มสมุนไพรอีกสูตรเหมาะสำหรับคนเป็นหวัด นี่เลยน้ำกระชายผสมสมุนไพร 4 ชนิด สูตรจาก ครัวแม่ผึ้ง Bee happy kitchen จับสมุนไพรไทยทุกอย่างลงไปต้มจนเดือด ดื่มแบบอุ่น ๆ

ส่วนผสม น้ำกระชายผสมสมุนไพร 4 ชนิด

  1. น้ำ 1.5 ลิตร

  2. กระชายขาว 5 หัว

  3. หอมแดง 5 หัว

  4. ใบมะกรูด 10 ใบ 

  5. ตะไคร้ 2 ต้น

  6. ข่า 1 แง่ง

  7. น้ำผึ้ง

วิธีทำน้ำกระชายผสมสมุนไพร 4 ชนิด

  1. นำสมุนไพรมาล้างทำความสะอาด แล้วทุบเพื่อให้กลิ่นและสรรพคุณออกดีเมื่อนำไปต้ม

  2. ใส่น้ำลงในหม้อ ใส่สมุนไพรลงไป ต้มประมาณ 15-20 นาที จะมีกลิ่นหอมมาก สำหรับคนเป็นหวัด คัดจมูก มีเสมหะ เจ็บคอ หรืออาการภูมิแพ้อากาศ ดื่มต่อเนื่อง 3-5 วัน จะช่วยให้ดีขึ้น ตักใส่แก้ว เติมน้ำผึ้งลงไปตามชอบ ดื่มแบบอุ่น
     

ดูวิธีทำ น้ำกระชายผสมสมุนไพร 4 ชนิด เพิ่มเติมคลิก

7. ชาข่า

น้ำสมุนไพร

             ถ้าเกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลองมาทำชาข่า สูตรน้ำต้มสมุนไพรจากข่าแก่ เทน้ำร้อนลงไป เติมน้ำตาลทรายแดง แค่นี้ก็พร้อมดื่มแล้วค่ะ

ส่วนผสม ชาข่า

  1. ข่าแก่ หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ  1 เหง้า

  2. น้ำร้อนจัด

  3. น้ำตาลทรายแดง ปริมาณตามชอบ

  4. น้ำมะนาว ปริมาณตามชอบ

วิธีทำชาข่า

  1. นำข่าแก่ที่หั่นไว้ไปตากแดด 2-3 วัน จนแห้งสนิท เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิด

  2. ใส่ข่าแก่ที่ตากแห้งลงในแก้วประมาณ 4-5 ชิ้น ตามด้วยเทน้ำร้อนลงในแก้ว รอจนน้ำเปลี่ยนสี จากนั้นใส่น้ำตาลทรายแดงตามชอบ คนผสมให้เข้ากัน (หากต้องการรสชาติที่ดีขึ้นให้ใส่น้ำมะนาว)
     

ดูวิธีทำ ชาข่า เพิ่มเติมคลิก

8. น้ำต้มใบเตย

น้ำสมุนไพร

            แค่ตั้งน้ำเปล่าต้มความหอมก็ลอยมาแล้วกับน้ำต้มใบเตย สูตรน้ำต้มสมุนไพรใส่ใบเตย น้ำตาลทราย และเกลือ สามารถบีบมะนาวเพิ่มรสชาติได้ด้วยนะคะ

ส่วนผสม น้ำต้มใบเตย

  1. ใบเตยหอม

  2. เกลือ เล็กน้อย

  3. น้ำตาลทราย ปริมาณตามชอบ

  4. น้ำเปล่า

  5. น้ำแข็ง

วิธีทำน้ำต้มใบเตย

  1. ล้างใบเตยให้สะอาด หั่นเป็นท่อน

  2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่ใบเตยลงไป ต้มไปเรื่อย ๆ จนเดือดและน้ำเปลี่ยนสี ตักเอาใบเตยออก ปิดเตา

  3. ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย คนจนน้ำตาลละลาย ตักใส่แก้วน้ำแข็ง จัดเสิร์ฟ
     

ดูวิธีทำ น้ำต้มใบเตย เพิ่มเติมคลิก

           ใครปลูกสมุนไพรไทยไว้หรืออยากต้มน้ำสมุนไพรไว้ดื่มต้านโรค ลองเลือกสักเครื่องดื่มที่ชอบแล้วมาลองทำกัน ต้มหม้อเดียวแบ่งได้ทั้งบ้านเลยจ้า

แนะนำสูตรน้ำสมุนไพรต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ใครอยากทำเมนูไหนคลิกเลยจ้า

ขอบคุณข้อมูลจาก : mnre.go.th, saranukromthai.or.th, medthai.com
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 สูตรน้ำต้มสมุนไพรต้านโรค กลิ่นหอมมีประโยชน์ได้สุขภาพ อัปเดตล่าสุด 14 กรกฎาคม 2565 เวลา 17:55:27 30,568 อ่าน
TOP