น้ำจิ้มซีฟู้ด นอกจากมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบโขลกแล้วยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบปั่นซึ่งเหมาะกับชั่วโมงเร่งด่วน วันนี้เรามีสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่นมาฝาก ได้แก่ น้ำจิ้มซีฟู้ดมะนาว น้ำจิ้มซีฟู้ดน้ำส้มสายชู น้ำจิ้มซีฟู้ดโหระพา น้ำจิ้มซีฟู้ดผักชี และน้ำจิ้มซีฟู้ดรากผักชี กินกับอาหารทะเลอร่อยสุด ๆ ไปเลย
น้ำจิ้มซีฟู้ดคืออะไร
น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่อะไรบ้าง
เคล็ดลับการเก็บน้ำจิ้มซีฟู้ดให้อยู่ได้นาน
-
ควรเลือกส่วนผสมที่สดใหม่ เช่น พริก กระเทียม รากผักชี นำไปล้างทำความสะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนนำไปปรุงอาหารเพื่อให้เก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้น
-
น้ำส้มสายชูจะเป็นตัวดองทำให้พริกไม่เสีย สามารถเก็บได้นานขึ้น แต่รสชาติจะไม่เปรี้ยวเท่ามะนาว
-
ในขั้นตอนการทำ ให้นำส่วนผสมทั้งหมดยกเว้นน้ำมะนาวไปตั้งไฟให้เดือด เทใส่ขวดขณะร้อนแล้วปิดฝาทันที จะช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ เวลาจะนำมากินให้เทใส่ถ้วยแล้วค่อยบีบมะนาวลงไป
-
ก่อนกินควรแยกน้ำจิ้มซีฟู้ดออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่จะกินและส่วนที่จะเก็บไว้
-
เมื่อทำเสร็จแล้วควรเก็บน้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ภาชนะมีฝาปิด ใส่ขวด หรือแบ่งเป็นถุงเล็ก ๆ แล้วแช่ช่องแข็งไว้ เก็บได้ประมาณ 1 เดือน เวลาจะใช้นำลงมาใส่ตู้เย็นช่องธรรมดาล่วงหน้า 1 วัน หรือเอาออกมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องจนละลาย ถ้านำเข้าแช่ช่องธรรมดาจะเก็บได้ประมาณ 5-7 วัน
-
หากเก็บไว้นานเกิน สีของน้ำจิ้มและรสชาติจะเปลี่ยนไป ไม่ควรนำมากินอีก
น้ำจิ้มซีฟู้ดมีกี่แบบ
สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น
1. น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรพริกเขียวผสมพริกแดง)
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรพริกเขียวผสมพริกแดง)
-
พริกขี้หนูสวน (สีเขียวผสมสีแดง) 20 เม็ด
-
พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ 20 เม็ด
-
กระเทียมไทยแกะเปลือก 1/2 ถ้วย
-
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
-
เกลือ 4 ช้อนชา
-
น้ำตาลทราย 7 ช้อนชา
-
น้ำมะนาว 1/2 ถ้วย
-
น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วย
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรพริกเขียวผสมพริกแดง)
-
ใส่พริกขี้หนูทั้งหมดลงในเครื่องปั่น ตามด้วยกระเทียม รากผักชี เกลือ น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ปั่นให้เข้ากันพอหยาบ
-
ใส่น้ำต้มสุกลงไป คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟ
ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรพริกเขียวผสมพริกแดง)
2. น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่รากผักชี)
น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น สูตรใส่รากผักชี ปั่นผสมกับพริก กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่รากผักชี)
-
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
-
กระเทียมไทย 10 กลีบ
-
รากผักชีโขลกละเอียด 2 ราก
-
น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 6 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่รากผักชี)
-
โขลกพริกขี้หนูสวน กระเทียมไทย และรากผักชี เข้าด้วยกันพอหยาบ ๆ
-
เติมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้น้ำตาลทรายละลายเข้ากัน ตักใส่ภาชนะที่มีฝาปิดแช่ไว้ในตู้เย็น สามารถเก็บได้นาน 3 วัน
3. น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่ผักชี)
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่ผักชี)
-
น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
-
เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำร้อน 3+1/2 ถ้วย
-
น้ำมะนาว 4 ถ้วย
-
พริกขี้หนู 200 กรัม
-
กระเทียมไทย 200 กรัม
-
ผักชี 200 กรัม
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่ผักชี)
-
ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
-
เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ถ้วย
4. น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่สับปะรด)
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่สับปะรด)
-
เนื้อสับปะรด 1 ถ้วย กระเทียม 1/2 ถ้วย
-
พริกขี้หนูสีแดง 1 กำมือ
-
รากผักชี 5 ราก
-
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
-
น้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วย
-
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
-
น้ำปลา 1/2 ถ้วย
-
เกลือ 20 กรัม
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรใส่สับปะรด)
-
นำทุกอย่างใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้แล้วปั่นรวมกันให้ละเอียดตามชอบ ชิมรสตามชอบ
5. น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรน้ำเชื่อม)
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรน้ำเชื่อม)
-
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย
-
กระเทียมสับ 1/3 ถ้วย
-
รากผักชีสับ 1/4 ถ้วย
-
พริกขี้หนูเขียวแดง 3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามชอบ)
-
โหระพาซอย 1/4 ถ้วย
-
น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ดปั่น (สูตรน้ำเชื่อม)
-
ทำน้ำเชื่อม โดยใส่น้ำและน้ำตาลทรายลงในหม้อ ตั้งไฟคนให้ละลายจนเหนียวนิด ๆ
-
นำกระเทียม รากผักชี พริกขี้หนู โหระพา และน้ำเชื่อม ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด เทใส่ถ้วย เติมน้ำปลาและน้ำมะนาว พร้อมเสิร์ฟ
บทความเกี่ยวกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่น่าสนใจ
► น้ำจิ้มซีฟู้ดถั่วตัด แซ่บได้ทุกโอกาส อร่อยไร้ผงชูรส
► น้ำจิ้มซีฟู้ด 2024 ยี่ห้อไหนอร่อย แซ่บแบบสำเร็จสไตล์ไหนโดนใจ
► น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรไข่เค็ม แซ่บนัวหอมมัน จิ้มกับอะไรก็อร่อย
► 8 สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดกุ้งดอง ปูดอง ทะเลดอง จับคู่ความแซ่บ เก็บได้นาน
► 9 สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดปลาทอด จับคู่ความแซ่บพร้อมวิธีเก็บน้ำจิ้มให้อยู่นาน