สูตรอาหารสีชมพู ทั้งอาหารคาว ขนมหวาน และเครื่องดื่ม จะทำกินเองหรือมอบให้คนพิเศษในโอกาสสำคัญก็ดีเยี่ยม
วันพิเศษหรือเทศกาลสำคัญหลายคนอาจอยากเซอร์ไพรส์ทำอาหารให้คนพิเศษ วันนี้เราขอแนะนำสูตรอาหารสีชมพู ทั้งอาหารคาวและขนมหวาน เช่น หมี่ชมพู เย็นตาโฟ ขนมสาลี่ เค้กนมเย็น ไอศกรีมนมเย็น นมชมพู เป็นต้น ลองเลือกทำกันได้เลย
สูตรอาหารคาว
1. หมี่กะทิ หมี่ชมพู

ภาพจาก : คุณ tukata001
หมี่กะทิสีชมพู สูตรจาก คุณ tukata001 จับเส้นหมี่ผัดกับกะทิสีชมพู ใส่ใบกุยช่ายและถั่วงอกลงไปผัด เสิร์ฟกับน้ำราดกะทิ
ส่วนผสม หมี่กะทิสีชมพู
- ไข่ 2 ฟอง
- กะทิ 2 ถ้วย
- หอมแดงสับ 1/2 ถ้วย
- หมูสับ 200 กรัม
- กุ้งสับ 200 กรัม
- เต้าเจี้ยว 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
- เต้าหู้แข็งหั่นเต๋า 1/2 ถ้วย
- ซอสมะเขือเทศ 3 ช้อนโต๊ะ
- ซอสเย็นตาโฟ 3 ช้อนโต๊ะ
- เส้นหมี่ 200 กรัม
- กุยช่าย 1 ถ้วย
- ถั่วงอก 1 ถ้วย
- กุยช่าย สำหรับแต่ง
- ถั่วงอก สำหรับแต่ง
- พริกชี้ฟ้าแดง สำหรับแต่ง
- ถั่วลิสงคั่วบด 4 ช้อนโต๊ะ
- พริกป่น
วิธีทำหมี่กะทิสีชมพู
- ตีไข่ให้แตกนำไปทอดบนกระทะเทฟลอน เอียงกระทะจนไข่เป็นแผ่นบาง ๆ แล้วก็ม้วนไข่ ตักขึ้น นำไข่มาซอยเป็นเส้นพักไว้
- ทำกะทิราดหน้า แบ่งกะทิมา 1 ถ้วยเทใส่กระทะ ตั้งเตาไฟกลาง รอจนเดือด ใส่หอมแดงสับลงไปผัด รอจนเดือดอีกครั้ง
- ใส่กุ้งสับและหมูสับลงไปผัดรวมกันให้สุก ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำมะขามเปียก พริกป่น น้ำตาลปี๊บ ใส่เต้าหู้ลงไปผัดรวมกัน ชิมรสดู ให้มีรสหวาน เปรี้ยว และเค็ม รสชาติคล้ายเต้าเจี้ยวหลน
- นำกะทิที่เหลืออีก 1 ถ้วย เทใส่กระทะ ตั้งไฟรอจนเดือด นำซอสมะเขือเทศและซอสเย็นตาโฟมาผสมกัน แล้วเทใส่ในกระทะ
- นำเส้นหมี่แช่น้ำพอนิ่ม อย่าแช่นาน แล้วสงขึ้นให้แห้ง แล้วนำมาผัดกับกะทิสีชมพู เวลาผัดเส้นหมี่ให้ใช้ตะหลิว 2 ด้ามช่วยยกเส้นขึ้นสูง ๆ แล้วปล่อยเส้นลงไป แล้วค่อย ๆ ผัดจนเส้นเป็นสีชมพูทั่วถึงกัน อย่าผัดนานเดี๋ยวเส้นเละ รอจนเส้นดูดน้ำกะทิ
- ใส่ใบกุยช่ายและถั่วงอกลงผัดพอสุก จัดถั่วงอกและกุยช่ายใส่จาน แล้วตักน้ำกะทิใส่ถ้วย ตักเส้นหมี่กะทิสีชมพูใส่จาน โรยด้วยไข่ซอยและพริกชี้ฟ้าแดง เป็นอันเสร็จ
2. ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ เริ่มจากทำน้ำซุปกระดูกหมูใส่หัวไช้เท้า จากนั้นลวกเครื่องเคราต่าง ๆ และลวกเส้นใส่ชาม แต่งด้วยเต้าหู้ทอดและเกี๊ยวทอด
ส่วนผสม เครื่องก๋วยเตี๋ยว
- เส้นก๋วยเตี๋ยวตามชอบ
- ผักบุ้งจีน หั่นเป็นท่อนสั้น ๆ
- ลูกชิ้นรักบี้, ลูกชิ้นกุ้ง หรือลูกชิ้นอื่น ๆ ตามชอบ
- ปลาเส้น หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ
- ปลาหมึกกรอบ
- เลือดหมู (หั่นชิ้น)
- เต้าหู้ทอด
- ซอสเย็นตาโฟ 2 ช้อนโต๊ะ (วิธีทำ ซอสเย็นตาโฟ คลิก)
- เกี๊ยวทอดกรอบ
ส่วนผสม น้ำซุปเย็นตาโฟ
- น้ำซุปกระดูกหมู
- เกลือ
- น้ำตาลกรวด
- รากผักชี
- พริกไทยเม็ด (ทุบพอแตก)
- กระเทียม (ทุบพอแตก)
- หอมใหญ่
- ซีอิ๊วขาว
- หัวไช้เท้า
วิธีทำน้ำซุป
- ต้มน้ำซุปกระดูกหมู เติมเกลือ น้ำตาลกรวด รากผักชี พริกไทยเม็ด กระเทียม หอมใหญ่ ซีอิ๊วขาว และหัวไช้เท้า เคี่ยวจนเดือด เตรียมไว้
วิธีทำก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ
- ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวและผักบุ้งใส่ชาม เตรียมไว้
- ลวกลูกชิ้นรักบี้ ปลาเส้น เลือดหมู และปลาหมึกกรอบให้สุก ตักใส่ชามก๋วยเตี๋ยว
- ตักซอสเย็นตาโฟใส่ชาม ตามด้วยน้ำซุปและเต้าหู้ทอด เสิร์ฟพร้อมเกี๊ยวทอดกรอบ
3. ขิงดองสีชมพู

ขิงดอง จับขิงซอยเป็นแว่นบางและนำไปแช่น้ำเกลือจนขิงหายเผ็ด จากนั้นนำไปใส่ในน้ำดองขิง และบีบมะนาวลงไป จะกินเลยหรือนำไปแช่เย็นก็ยิ่งอร่อย
ส่วนผสม ขิงดอง
- ขิงอ่อน 1 กิโลกรัม
- น้ำเปล่าผสมเกลือ (สำหรับแช่ขิงและล้างความเผ็ดออกจากขิง)
- น้ำส้มสายชู 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 400 กรัม (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- มะนาว 1 ลูก
วิธีทำขิงดอง
- ปอกเปลือกขิงออกแล้วซอยเป็นแว่นบาง ๆ นำไปแช่ในน้ำเกลือ พักทิ้งไว้ (เคล็ดลับคือ ถ้าเป็นขิงแก่ต้องคั้นและบีบกับน้ำเกลือหลาย ๆ ครั้งจนขิงหายเผ็ด)
- เคี่ยวน้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกันจนเดือดและน้ำตาลทรายละลาย ปิดไฟ พักทิ้งไว้จนอุ่น
- บีบน้ำเกลือจากขิงออกให้หมดแล้วใส่ลงไปในส่วนผสมน้ำดองขิง คนให้เข้ากัน
- บีบน้ำมะนาวลงไป 1 ลูก (ขั้นตอนนี้ขิงจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อน ๆ) คนให้เข้ากัน เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
สูตรขนมหวาน
4. ขนมสาลี่

ภาพจาก : คุณ sujitrar
ขนมสาลี่ สูตรจาก คุณ sujitrar ตัวเค้กสีชมพู แต่งด้วยลูกเกด ใส่ในพิมพ์ถาดสี่เหลี่ยม พอนึ่งเสร็จแล้วก็มาหั่นชิ้น
ส่วนผสม ขนมสาลี่โบราณ
- แป้งเค้ก 120 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เบอร์ 2) 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 130 กรัม
- น้ำเปล่า 70 กรัม
- สารเสริมเอสพี 10 กรัม (ใส่หรือไม่ก็ได้ ถ้าใส่ก็จะเพิ่มปริมาตรของขนมให้สูงขึ้น และรอนึ่งได้)
- กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
- สีผสมอาหารสีแดง
- ลูกเกด
วิธีทำขนมสาลี่โบราณ
- ร่อนแป้งเค้กและผงฟูให้แป้งฟูเบาขึ้นและเอาสิ่งสกปรกออก หลังจากนั้นใส่เกลือลงในแป้ง คนให้เข้ากัน พักไว้ และนำไข่ไก่ น้ำตาลทราย ตามด้วยน้ำเปล่า ใส่ลงในโถตี และปาดสารเสริมเอสพีที่หัวตะกร้อ
- ตีด้วยความเร็วสูงประมาณ 6 นาที จนขึ้นฟู ระหว่างตีให้ใส่กลิ่นมะลิได้เลย เมื่อครบเวลาให้เปลี่ยนเป็นความเร็วต่ำสุด แล้วทยอยใช้ช้อนตักแป้งใส่ลงในโถตี โดยทยอยใส่จนหมด ในระหว่างใส่แป้งให้ตีด้วยความเร็วต่ำสุด
- หลังจากใส่แป้งหมดให้ใส่สีผสมอาหารสีแดง (ทยอยใส่จนได้สีที่ชอบ) ตีต่อจนแป้งและส่วนผสมอื่น ๆ เข้ากันดี แล้วปิดเครื่องตี
- ใช้พายซิลิโคนตะล่อมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันอีกครั้ง หลังจากนั้นเทใส่ถาดสี่เหลี่ยมขนาด 8x8 หรือ 9x9 นิ้ว เกลี่ยให้หน้าขนมเรียบ แล้วแต่งหน้าด้วยลูกเกด
- นำลงซึ้งนึ่งด้วยไฟกลางประมาณ 12-15 นาที (น้ำในซึ้งต้องเดือดก่อนนำขนมลงนึ่ง)
- เมื่อนึ่งสุก ลูกเกดอาจจะจม ดังนั้นเพื่อเพิ่มความสวยงาม สามารถนำมาแต่งเพิ่มได้ค่ะ เมื่อนึ่งสุกพักให้เย็น แกะกระดาษไข ตัดเป็นชิ้นพร้อมเสิร์ฟ
5. ทองชมพูนุท

ภาพจาก : คุณ Poppy farm
ทองชมพูนุท สูตรจาก คุณ Poppy farm เริ่มจากการกวนแป้งแล้วใส่สีชมพูลงไป จากนั้นนำมากดลงพิมพ์รูปดอกไม้ หอมกลิ่นควันเทียน
ส่วนผสม ทองชมพูนุท
- แป้งข้าวเจ้า 60 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 15 กรัม
- น้ำตาลทราย 85 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- กะทิ 115 กรัม
- ไข่แดง (ไข่ไก่) 2 ฟอง
- สีผสมอาหารสีชมพู
วิธีทำทองชมพูนุท
- ผสมของแห้ง ได้แก่ แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว น้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน
- แบ่งใส่กะทิ 2-3 รอบ แล้วคนให้ส่วนผสมมีเนื้อเนียน กรองส่วนผสมผ่านกระชอน
- นำส่วนผสมขึ้นตั้งไฟ กวนด้วยไฟอ่อน เมื่อส่วนผสมเริ่มจับตัวเป็นก้อน ให้ “ปิดไฟ” ใส่ไข่แดง แล้วคนส่วนผสมให้เนียนเข้ากันดี
- เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ “เปิดไฟ” อีกครั้ง กวนต่อด้วยไฟอ่อน เมื่อส่วนผสมไม่ค่อยติดกระทะแล้ว ให้หยดสีชมพู ลงไป 2-3 หยด กวนต่อไป (กวนพร้อมบี้แป้งไปด้วย) กวนต่อจนส่วนผสมร่อนออกมาจากกระทะและไม่ติดพาย
- นำขนมมาผึ่งให้เย็นลง โดยใช้พายตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้ขนมระบายความร้อน เมื่อขนมเย็นแล้ว นำมากดลงพิมพ์ โดยควรกดให้แน่น จะทำให้ขนมที่ได้มีลายคมชัด สวยงาม แล้วค่อย ๆ แกะออกจากพิมพ์ โดยดึงขอบพิมพ์ (ในกรณีที่เป็นพิมพ์ซิลิโคนสามารถดึงได้) แล้วเอานิ้วโป้งกดตรงกลางพิมพ์ให้ขนมค่อย ๆ หลุดออกมา เสร็จแล้วนำไปอบควันเทียนเพิ่มความหอม แต่ถ้าใครใช้กะทิอบควันเทียนอยู่แล้วก็สบายเลย ไม่ต้องอบซ้ำ
6. เค้กนมเย็น

ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์
เค้กนมเย็น สูตรจาก ครัวป้ารายห์ ตัวเค้กทำจากแป้งเค้กผสมไข่แดง น้ำแดง นมจืด กลิ่นวานิลลา ใส่ไข่ขาวลงไปเทใส่พิมพ์ นำไปอบจนสุกแล้วเทซอสหน้านิ่มลงไป
ส่วนผสม ตัวเค้ก (ป้าใช้พิมพ์ฟอยล์ เบอร์ 4436-P ได้ประมาณ 12-13 ถ้วย)
- ไข่แดง (เบอร์ 2) 3 ฟอง
- นมข้นหวาน 30 กรัม
- นมจืด 30 กรัม
- น้ำมันพืช 30 กรัม
- น้ำแดง ตราเฮลซ์บลูบอย 10 กรัม
- กลิ่นวานิลลา หรือกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ประมาณ 1/2 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม ไข่ขาว
- ไข่ขาว (เบอร์ 2) 3 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 35 กรัม
ส่วนผสม หน้านิ่มนมเย็น
- ผงวุ้น 1 ช้อนชา
- น้ำ 200 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 40-50 กรัม
- นมข้นหวาน 50 กรัม
- น้ำแดง ตราเฮลซ์บลูบอย 50 กรัม
- แป้งข้าวโพด 20 กรัม
- นมจืด 250 มิลลิลิตร
- เนยสด 50 กรัม
วิธีทำเค้กนมเย็น
- ทำส่วนผสมตัวเค้กโดยตีไข่แดงกับนมข้นหวานพอเข้ากัน แล้วใส่นม น้ำมันพืช น้ำแดงเฮลซ์บลูบอย และกลิ่นสตรอว์เบอร์รีหรือกลิ่นวานิลลาก็ได้ ตีจนเข้ากันดี
- ร่อนแป้งกับผงฟูลงไปในชามผสม ตะล่อมจนเข้ากัน แต่อย่านานมากเดี๋ยวเค้กจะเหนียว
- ทำส่วนผสมไข่ขาวโดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน จากนั้นทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด ตักไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามไข่แดงที่ผสมไว้ ตะล่อมเบาจนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน
- เทลงในพิมพ์ สูงประมาณ 3/4 ของพิมพ์ จากนั้นนำไปอบอุณหภูมิ 170-180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที เปิดไฟบน-ล่าง พออบเสร็จจากนั้นก็พักจนเย็นสนิท
วิธีทำหน้านิ่ม
- ผสมผงวุ้นกับน้ำ แล้วพักไว้ 10 นาที ใส่น้ำตาลทราย นมข้นหวาน น้ำแดงเฮลซ์บลูบอย และแป้งข้าวโพด ลงในชามผสม ใช้ตะกร้อคนให้เข้ากัน แล้วค่อย ๆ เติมนมลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
- นำหม้อที่ผสมน้ำกับผงวุ้นพักไว้ตั้งไฟกลาง ๆ จนเดือดและผงวุ้นละลาย หลังจากนั้นนำส่วนผสมเมื่อสักครู่เทลงไป คนจนข้นขึ้น พอข้นแล้วก็ดับเตาแล้วเติมเนยลงไป คนให้เข้ากัน นำออกมาคนต่อข้างนอก อย่าคนเร็วหรือแรงไปเพราะจะทำให้เกิดฟองอากาศเยอะ เทหน้านิ่มลงไปบนหน้าเค้กให้เต็มพิมพ์ จากนั้นเคาะไล่ฟองอากาศ
7. เค้กสตรอว์เบอร์รีเวเฟอร์

ภาพจาก : ครัวป้ามารายห์
เค้กสตรอว์เบอร์รีเวเฟอร์ สูตรจาก ครัวป้ามารายห์ ตัวเค้กทำจากแป้งเค้กผสมไข่ เทใส่พิมพ์แล้วนำไปอบจนสุก นำออกมาแต่งด้วยเวเฟอร์และครีมสีชมพู
ส่วนผสมเค้กสตรอว์เบอร์รีเวเฟอร์ (สำหรับพิมพ์ทรงกลมขนาด 11x15 นิ้ว)
ส่วนผสม ไข่แดง
- ไข่แดง (ไข่ไก่เบอร์ 2) 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- นมสดหรือนมจืด 65 กรัม
- น้ำมันพืช 45 กรัม
- กลิ่นสตรอว์เบอร์รี 1 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 80 กรัม (ร่อนแป้ง 2 รอบ)
- สีผสมอาหารสีชมพู
ส่วนผสม ไข่ขาว
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
ส่วนผสม วิปครีม
- วิปปิ้งครีม 400 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 70 กรัม
- กลิ่นสตรอว์เบอร์รี ประมาณ 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
ส่วนผสม สำหรับแต่ง
- เวเฟอร์สติ๊ก รสสตรอว์เบอร์รี
วิธีทำเค้กสตรอว์เบอร์รี
- ทำส่วนผสมไข่แดง โดยตีไข่แดงกับน้ำตาลจนน้ำตาลทรายละลาย พอเข้ากันแล้วใส่นม น้ำมันพืช และกลิ่นสตรอว์เบอร์รีลงไป ตีจนเข้ากันดี ใส่แป้ง (ร่อนสัก 2 รอบ เพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมจนเข้ากัน จากนั้นใส่สีผสมสีชมพูลงไป
- ทำส่วนผสมไข่ขาว โดยตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ ตีพอเข้ากัน จากนั้นใส่แป้งข้าวโพด ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด ตักไข่ขาวมาบางส่วนใส่ชามส่วนผสมไข่แดง ตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ส่วนผสมไข่ขาวที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน เทใส่พิมพ์ เคาะพิมพ์ไล่ฟองอากาศ
- อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง ปิดพัดลม ประมาณ 15 นาที พออบเสร็จ นำกระดาษไขออก แล้วพักเค้กให้เย็นสนิท
- ทำวิปครีม โดยตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งจนตั้งยอดแข็ง แบ่งเค้กให้ได้ 4 ชิ้น ขนาดเท่า ๆ กัน (กว้างประมาณ 3.5x11 นิ้ว) แบ่งวิปครีมมาครึ่งหนึ่งแล้วปาดให้ทั่วเค้ก
- ม้วนเค้ก และนำแผ่นต่อไปวางม้วนประกบไปจนเต็ม วิปครีมอีกส่วนที่เหลือเติมสีชมพูไปเล็กน้อย แล้วนำมาปาดให้ทั่วเค้ก ตกแต่งด้วยเวเฟอร์สติ๊ก นำไปแช่ตู้เย็นให้ครีมเซตตัวประมาณ 1-2 ชั่วโมง พอครีมเซตตัว ก็นำมาตัดเสิร์ฟ
8. ไอศกรีมนมเย็น

ไอศกรีมนมเย็น เริ่มจากบดน้ำแข็งแห้ง แล้วผสมส่วนผสมไอศกรีม จากนั้นใส่น้ำแข็งแห้งลงไปคนจนข้นหนา
ส่วนผสม ไอศกรีมนมเย็น
- นมสด 175 กรัม
- วิปปิ้งครีม 150 กรัม
- นมข้นหวาน 125 กรัม
- น้ำแดง 50 กรัม
- น้ำแข็งแห้ง (food grade) 1/2 กิโลกรัม
วิธีทำไอศกรีมนมเย็น
- บดน้ำแข็งแห้งให้ละเอียดดี
- ผสมนมสด วิปปิ้งครีม นมข้นหวาน และน้ำแดง ค่อย ๆ ใส่น้ำแข็งแห้งลงไป คนเร็ว ๆ จนส่วนผสมข้นหนาขึ้นเป็นไอศกรีม จัดเสิร์ฟ
สูตรเครื่องดื่ม
9. นมเย็น นมชมพู

นมเย็น จับนมสดผสมน้ำหวาน และนมข้นหวาน คนจนเข้ากัน จากนั้นเทใส่แก้วน้ำแข็ง ราดนมจืดหรือวิปปิ้งครีม
ส่วนผสม นมเย็น
- นมสด 5 ออนซ์
- นมข้นหวาน 1 ออนซ์
- น้ำหวานสีแดง 2 ช้อนชา
- นมข้นจืด หรือวิปปิ้งครีม (โรยหน้า)
วิธีทำนมเย็น
- ผสมนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวาน เข้าด้วยกันจนเป็นฟอง
- เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง ราดด้วยนมข้นจืด หรือวิปปิ้งครีม พร้อมเสิร์ฟ
10. สตรอว์เบอร์รีชีสเค้กสมูทตี้

ภาพจาก : นิตยสารแม่บ้าน
สตรอว์เบอร์รีชีสเค้กสมูทตี้ จับส่วนผสมทุกอย่างใส่ลงโถปั่น ปั่นจนเนียน สุดท้ายโรยแครกเกอร์บด
ส่วนผสม สตรอว์เบอร์รีชีสเค้กสมูทตี้
- สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 จำนวน 1/2 ถ้วย
- น้ำหวานเข้มข้นกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ตราเฮลซ์บลูบอย 6 ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 5 ช้อนโต๊ะ
- คอตเทจชีส 5 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1/4 ถ้วย
- น้ำแข็งบด 1 ถ้วย
- แครกเกอร์บดหยาบ สำหรับแต่ง
วิธีทำสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กสมูทตี้
- นำส่วนผสมทุกอย่าง ยกเว้นแครกเกอร์ ใส่ลงในโถปั่น ปั่นให้ละเอียด รินใส่แก้ว โรยแครกเกอร์ จัดเสิร์ฟ