รวมสูตร น้ำจิ้มสุกี้-ชาบู รสเด็ด จัดเต็มความอร่อยครบทุกแนว ทั้งเผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน

          กินสุกี้ ชาบูให้อร่อยต้องน้ำจิ้ม แจกสูตรเด็ด น้ำจิ้มสุกี้ ชาบู แบบทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน อร่อยแซ่บถึงใจ จะสูตรไหนก็ปัง แชร์เก็บไว้เลย ปาร์ตี้ไหนก็พร้อม !
          สุกี้และชาบู ถือเป็นเมนูอาหารฮิตประจำบ้านที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาพิเศษ หรือตามเทศกาลต่าง ๆ เพราะทำง่าย อร่อย และสามารถสังสรรค์กันได้ทั้งครอบครัว แต่จะให้ฟินสุด ๆ หัวใจสำคัญก็คือ น้ำจิ้ม นั่นเอง ตัวช่วยที่มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว และช่วยชูรสชาติของเนื้อและผักให้โดดเด่นขึ้นมาทันที วันนี้เราเลยขอมาแนะนำ รวมสูตรน้ำจิ้มสุกี้ ชาบู แบบโฮมเมดที่ทำง่าย อร่อยเด็ด และถูกปากทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสายแซ่บ สายหวาน หรือสายเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น ก็มีครบ เตรียมจดสูตรแล้วเข้าครัวไปทำน้ำจิ้มสุดปังกันได้เลย

รวมสูตรน้ำจิ้มสุกี้ ชาบู
โฮมเมดรสเด็ด

1. น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1

          น้ำจิ้มซีฟู้ด ถือเป็นหัวใจสำคัญของเมนูทะเลลวก ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู ปลาหมึก หรือหอย ถ้ามีน้ำจิ้มรสเด็ดก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้อีกหลายเท่า มาลองทำ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1 สูตรนี้กันเลยค่ะ รับรองเปรี้ยวแซ่บถึงใจแน่นอน

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1

  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง 4 ช้อนโต๊ะ

  • พริกขี้หนูสีแดง 20 เม็ด

  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง

  • กระเทียมดองแกะกลีบ 1/4 ถ้วยตวง

  • รากผักชี 10 ราก

  • น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง

  • น้ำมะนาว 12 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา

  • เกลือป่นหยาบ 2 ช้อนชา

วิธีทำ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 1

  1. นำพริกขี้หนูสวน พริกขี้หนูสีแดง กระเทียมไทย กระเทียมดอง และรากผักชีมาล้างให้สะอาด แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง

  2. ใส่เครื่องทั้งหมดลงในครกหรือโถปั่น โขลกหรือปั่นให้ละเอียดพอหยาบ (อย่าละเอียดเกินไป จะได้เนื้อสัมผัสแบบน้ำจิ้มซีฟู้ดแท้ ๆ)

  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี

  4. ชิมรสให้ออก เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานเล็กน้อย ถ้าชอบเผ็ดจัดสามารถเพิ่มพริกขี้หนูสวนได้อีก

  5. ตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ เสิร์ฟคู่กับซีฟู้ดลวก กุ้งเผา ปูนึ่ง ปลากะพงย่าง หรือจิ้มสุกี้ก็อร่อยเข้ากันสุด ๆ

2. น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 2 (พริกเขียว)

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 2

          ใครชอบน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวจี๊ดแต่ไม่อยากได้สีแดงจัด สูตรนี้ตอบโจทย์สุด ๆ เพราะใช้พริกขี้หนูสีเขียวเป็นหลัก ได้ทั้งความหอมและรสเผ็ดกำลังดี สีสวยน่ากิน เหมาะกับอาหารทะเลทุกเมนูเลยค่ะ

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 2 (พริกเขียว)

  • พริกขี้หนูสีเขียว 20 เม็ด

  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว 1/4 ถ้วยตวง

  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา

  • น้ำตาลทราย 5 ช้อนชา

  • น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตร 2 (พริกเขียว)

  1. ล้างพริกขี้หนูและกระเทียมให้สะอาด จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ

  2. ใส่พริกขี้หนูสีเขียว พริกขี้หนูสวน และกระเทียมลงในครก หรือโถปั่น แล้วโขลก/ปั่นให้ละเอียดพอหยาบตามชอบ

  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายลงไป คนหรือปั่นให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี

  4. ชิมรสให้ออก เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานเล็กน้อย ถ้าชอบเผ็ดจัดสามารถเพิ่มพริกขี้หนูสวนได้อีก

  5. ตักน้ำจิ้มใส่ถ้วยเล็ก ๆ พร้อมเสิร์ฟความแซ่บโดนใจ

3. น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด

น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด

          ใครกำลังมองหาน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ไม่จำเจ ต้องลองสูตรนี้เลยค่ะ น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด สูตรพิเศษที่ผสมความแซ่บแบบไทย ๆ เข้ากับความมันหอมจากถั่วตัด ได้ทั้งรสจัดจ้านและกลิ่นถั่วหอมละมุน ช่วยเพิ่มรสชาติให้ซีฟู้ดจานโปรดอร่อยขึ้นอีกเท่าตัว

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด

  • รากผักชี 4 ราก

  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 10 กลีบ

  • พริกขี้หนูสีเขียว สีแดง 30 เม็ด

  • น้ำมะนาว 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา

  • ถั่วตัด 80 กรัม

วิธีทำ น้ำจิ้มซีฟู้ดใส่ถั่วตัด

  1. ล้างรากผักชี พริกขี้หนู และกระเทียมให้สะอาด จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ

  2. ใส่รากผักชี กระเทียม และพริกขี้หนูลงในครก โขลกให้ละเอียดพอหยาบ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของรากผักชีและรสเผ็ดจัดจ้าน

  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี

  4. บดถั่วตัดให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ลงไปในน้ำจิ้ม คนให้เข้ากันอีกครั้ง รสชาติจะออก เปรี้ยว เค็ม หวาน มัน ครบรส

  5. ตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ พร้อมเสิร์ฟรสชาติแซ่บจัดจ้าน หอมมันลงตัวสุด ๆ

4. น้ำจิ้มซีฟู้ดไข่เค็ม

น้ำจิ้มซีฟู้ดไข่เค็ม

ภาพจาก : เพจพี่ขวดเข้าครัว

          น้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บที่คุ้นเคย ถ้าได้เพิ่มความมันเค็มจากไข่แดงเค็มลงไปอีกนิด บอกเลยว่ารสชาติจะยิ่งกลมกล่อมและมีเอกลักษณ์มากขึ้น สูตรนี้ได้แรงบันดาลใจจากเพจ พี่ขวดเข้าครัว ทำง่ายสุด ๆ เหมาะมากสำหรับคนชอบความจัดจ้านและรสเข้มข้นถึงใจ

ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ดไข่เค็ม

  • พริกขี้หนูสวนสีเขียว สีแดง 1/4 ถ้วยตวง

  • พริกขี้หนูสีแดง 20 เม็ด

  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 1/4 ถ้วยตวง

  • กระเทียมดองแกะกลีบ 1/4 ถ้วยตวง

  • รากผักชี 10 ราก

  • น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมะนาว 1/2 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนชา

  • เกลือป่นหยาบ 1/4 ช้อนชา

  • ไข่แดงเค็ม 2 ฟอง

วิธีทำ น้ำจิ้มซีฟู้ดไข่เค็ม

  1. ล้างรากผักชี พริกขี้หนู และกระเทียมให้สะอาด จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ

  2. ใส่รากผักชี กระเทียมไทย กระเทียมดอง และพริกขี้หนูทั้งหมดลงในครก โขลกให้ละเอียดพอหยาบ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสจัดจ้านแบบน้ำจิ้มซีฟู้ดแท้ ๆ

  3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และเกลือ คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี

  4. นำไข่แดงเค็มมาบดให้ละเอียด แล้วใส่ลงในน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากันจนเนียนเป็นเนื้อเดียว สีจะออกส้มทองน่ากิน หอมมันเค็มกำลังดี

  5. ชิมรสให้ออก เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานเล็กน้อย และมันเค็มจากไข่แดงเค็ม

  6. ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับอาหารทะเลลวก กุ้งเผา ปูนึ่ง หรือปลาหมึกย่าง รับรองอร่อยกลมกล่อมไม่เหมือนใคร
     

น้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรไข่เค็ม แซ่บนัวหอมมัน จิ้มกับอะไรก็อร่อย

5. น้ำจิ้มงา

น้ำจิ้มงา

          น้ำจิ้มงา เป็นน้ำจิ้มยอดฮิตของสายชาบู-สุกี้ ที่มีกลิ่นหอมของงาคั่วและรสชาติกลมกล่อมจากมิโซะ ช่วยเพิ่มความนุ่มละมุนให้กับเนื้อสัตว์และผักลวกได้อย่างดีเยี่ยม สูตรนี้ทำง่าย ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ แต่ได้รสชาติเหมือนร้านญี่ปุ่นเลยค่ะ

ส่วนผสม น้ำจิ้มงา

  • งาขาวคั่วบดละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำจิ้มพอนสึ 2 ช้อนโต๊ะ

  • มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) 2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมันงา 2 ช้อนชา

  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว 2 ช้อนชา

  • กระเทียมสับ ต้นหอมซอย

วิธีทำ น้ำจิ้มงา

  1. นำงาขาวคั่วมาบดให้ละเอียดพอหยาบ เพื่อให้ได้กลิ่นหอมและรสสัมผัสของงาแบบเข้มข้น

  2. ในชามผสม ใส่มิโซะ น้ำจิ้มพอนสึ น้ำมันพืช น้ำมันงา น้ำตาลทราย และน้ำส้มสายชูหมักจากข้าว คนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายดี

  3. เติมงาคั่วบดลงในชามซอส แล้วใส่กระเทียมสับและต้นหอมซอย คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี

  4. ชิมรสให้ออก หวาน มัน เค็มเล็กน้อย และหอมงา ถ้าชอบรสเปรี้ยวสดชื่นขึ้นอีกนิด สามารถเติมพอนสึเพิ่มได้เล็กน้อย

  5. ตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ เสิร์ฟคู่กับเนื้อสไลซ์ หมูชาบู หรือผักลวก จะราดบนข้าวหรือจิ้มกับเต้าหู้เย็นก็อร่อยได้ทุกแบบ

6. น้ำจิ้มแจ่ว

น้ำจิ้มแจ่ว

          น้ำจิ้มแจ่ว เป็นน้ำจิ้มคู่ใจของสายเนื้อย่าง หมูย่าง หรือสเต๊กแบบไทย ๆ เลยก็ว่าได้ รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวานนิด ๆ และหอมข้าวคั่วสุดคลาสสิก ใครได้ลองก็ต้องหลงรักแน่นอน

ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว

  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

  • พริกป่น 2 ช้อนชา

  • ข้าวคั่ว

  • ผักชีฝรั่ง ต้นหอมซอยสำหรับโรย

วิธีทำ น้ำจิ้มแจ่ว

  1. ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายลงในถ้วย คนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี

  2. ใส่พริกป่นลงไป คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (ควรได้รสเปรี้ยวนำ เค็มตาม และเผ็ดจัดจ้าน)

  3. โรยข้าวคั่ว คนเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง

  4. โรยผักชีฝรั่งซอยและต้นหอมซอย เพิ่มสีสันและกลิ่นหอมก่อนเสิร์ฟ

7. น้ำจิ้มสุกี้

น้ำจิ้มสุกี้

          น้ำจิ้มสุกี้โฮมเมด เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้อาหารจานสุกี้ของคุณอร่อยสมบูรณ์แบบ ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ คุณก็สามารถสร้างสรรค์น้ำจิ้มสุกี้ที่มีรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว เผ็ด หวาน เค็ม ครบรส และหอมกลิ่นน้ำมันงากับงาคั่ว

ส่วนผสม น้ำจิ้มสุกี้

  • ซอสพริก 500 กรัม 

  • ซอสมะเขือเทศ 100 กรัม 

  • กระเทียม 70 กรัม 

  • พริกแดงจินดา 50 กรัม 

  • น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ 

  • งาขาว 70 กรัม 

  • ซีอิ๊วขาว 7 ช้อนโต๊ะ 

  • น้ำตาลทราย 7 ช้อนโต๊ะ 

  • น้ำ 6 ช้อนโต๊ะ 

  • กระเทียมดอง 5 หัว พร้อมน้ำ 5 ช้อนโต๊ะ 

  • น้ำมันงา 5 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ น้ำจิ้มสุกี้

  1. ผสมซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว และน้ำเปล่า คนให้เข้ากัน

  2. สับพริกแดงจินดา กระเทียม กระเทียมดอง พอหยาบ จากนั้นใส่ลงไปผสมกับส่วนผสมข้อที่ 1 

  3. เทส่วนผสมที่ได้ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดมีลักษณะข้น ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมมะนาว ผักชี

8. น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ (สูตรเต้าหู้ยี้)

น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ (สูตรเต้าหู้ยี้)

          น้ำจิ้มสุกี้ สูตรนี้มีรสชาติที่เข้มข้น จัดจ้าน หอมเต้าหู้ยี้และกระเทียมดองเป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับสุกี้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสุกี้น้ำหรือสุกี้แห้ง ขั้นตอนการทำง่ายมาก โดยเริ่มจากการปั่นส่วนผสมสดให้เข้ากัน แล้วนำไปเคี่ยวเพื่อรสชาติที่สมบูรณ์แบบและเก็บได้นาน

ส่วนผสม น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ (สูตรเต้าหู้ยี้)

  • เต้าหู้ยี้สีแดง 2 ก้อน

  • พริกขี้หนูสีแดง 15 กรัม

  • กระเทียมจีน 15 กรัม

  • พริกชี้ฟ้าสีแดงนำเมล็ดออกหั่นหยาบ 20 กรัม

  • กระเทียมดอง 2 หัว

  • ซอสพริก 80 กรัม

  • น้ำตาลทราย 50 กรัม

  • น้ำกระเทียมดอง 1/4 ถ้วยตวง

  • น้ำเต้าหู้ยี้ 1 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำส้มสายชู 50 กรัม

  • น้ำเปล่า 100 กรัม

  • ซอยหอยนางรม 40 กรัม

  • เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา

  • น้ำมันงา 1 1/2 ช้อนชา

  • งาขาวคั่วสำหรับโรย

  • มะนาวผ่าซีก ผักชี พริกสดสีเขียวสับ กระเทียมสับ

วิธีทำ น้ำจิ้มสุกี้สูตรโบราณ (สูตรเต้าหู้ยี้)

  1. ผสมซอสพริก น้ำตาลทราย น้ำกระเทียมดอง น้ำเต้าหู้ยี้ น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า ซอสหอยนางรม และเกลือป่น คนให้เข้ากัน

  2. ใส่พริกขี้หนู กระเทียม พริกชี้ฟ้า กระเทียมดอง เต้าหู้ยี้ และส่วนผสมข้อที่ 1 ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด

  3. เทส่วนผสมที่ได้ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดมีลักษณะข้น ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท ใส่น้ำมันงา คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมมะนาว ผักชี พริกสด และกระเทียม

9. น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ (สูตรเด็ก)

น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ (สูตรเด็ก)

น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้รสกลมกล่อม หอมงา ไม่เค็ม ไม่ฉุน ไม่เค็มจัดหรือเผ็ดเกินไปสำหรับน้อง ๆ

ส่วนผสม น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ (สูตรเด็ก)

  • เต้าหู้ยี้สีแดง 2 ก้อน

  • น้ำเต้าหู้ยี้แดง 3 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำตาลทราย 10 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ

  • กระเทียม 5 กลีบ

  • กระเทียมดอง 6 กลีบ

  • น้ำกระเทียมดอง 4 ช้อนโต๊ะ

  • น้ำสะอาด 6 ช้อนโต๊ะ

  • เกลือ ½ ช้อนชา

วิธีทำ น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ (สูตรเด็ก)

  1. นำเต้าหู้ยี้สีแดง กระเทียม และกระเทียมดองใส่ครก จากนั้นโขลกจนละเอียดดี หรือจะใช้เครื่องปั่นก็ได้

  2. เทส่วนผสมที่โขลกไว้ลงหม้อ เติมน้ำเต้าหู้ยี้แดง น้ำกระเทียมดอง น้ำสะอาด น้ำตาลทราย และเกลือลงไป

  3. ใช้ไฟอ่อน เคี่ยวประมาณ 3–5 นาที คนเรื่อย ๆ จนน้ำตาลละลายและเนื้อเนียนขึ้น

  4. ปิดไฟแล้วเติมน้ำมันงา คนให้เข้ากันดี กลิ่นจะหอมละมุนขึ้นมาก ลองชิมรสอีกครั้ง ควรได้รสเค็มนิด หวานนำ หอมงา และกลิ่นเต้าหู้ยี้ไม่แรงเกินไป ถ้ารู้สึกเค็มไป สามารถเติมน้ำสะอาดเพิ่มได้อีกเล็กน้อย

10. น้ำจิ้มพอนสึ

น้ำจิ้มพอนสึ

          น้ำจิ้มพอนสึ เป็นน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวอมเค็มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอาหารญี่ปุ่น เหมาะสำหรับรับประทานคู่กับชาบู ซาชิมิ หรือเมนูเนื้อย่าง น้ำจิ้มสูตรนี้ทำง่ายมาก และให้รสชาติที่สดชื่นเป็นธรรมชาติ

ส่วนผสม น้ำจิ้มพอนสึ

  • ซอสถั่วเหลือง ½ ถ้วย

  • น้ำผลไม้รสเปรี้ยว (เลมอน ส้ม หรือองุ่น) ½ ถ้วย

  • เปลือกเลมอนขูด

  • เหล้ามิริน 2 ชต

  • สาหร่ายคอมบุ 1 ชิ้น

วิธีทำ น้ำจิ้มพอนสึ

  1. เตรียมส่วนผสมไว้ นำส่วนผสมมาลงในถ้วยคนจนเข้ากันดี

  2. นำไปแช่ตู้เย็น 1 คืน ยิ่งนานยิ่งดี

  3. นำน้ำจิ้มที่แช่เสร็จแล้ว ออกมากรองเอาสาหร่ายและเปลือกเลมอนออก 

  4. ตักน้ำจิ้มพอนสึใส่ถ้วย พร้อมเสิร์ฟคู่กับเมนูชาบู สุกี้ หรืออาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ตามต้องการ

11. น้ำจิ้มหมูกระทะ

น้ำจิ้มหมูกระทะ

          น้ำจิ้มหมูกระทะรสเด็ด เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเพิ่มอรรถรสให้กับมื้อพิเศษของคุณ สูตรนี้มีรสชาติที่เผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม อย่างลงตัว หอมกลิ่นกระเทียมและน้ำมันงา

ส่วนผสม น้ำจิ้มหมูกระทะ

  • พริกขี้หนูสีแดง 15 กรัม

  • กระเทียมจีน 20 กรัม

  • กระเทียมดอง 2 หัว

  • ซอสพริก 150 กรัม

  • น้ำส้มสายชู 50 กรัม

  • น้ำเปล่า 60 กรัม

  • น้ำตาลทราย 80 กรัม

  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

  • เกลือป่นหยาบ 1 ช้อนชา

  • น้ำมันงา 1 ช้อนชา

  • งาขาวคั่วสำหรับโรย

  • มะนาวผ่าซีก ผักชี พริกสดสีเขียว กระเทียมสับ

วิธีทำ น้ำจิ้มหมูกระทะ

  1. ผสมซอสพริก น้ำส้มสายชู น้ำเปล่า น้ำตาลทราย น้ำปลา เกลือป่น คนให้เข้ากัน

  2. ใส่พริกขี้หนู กระเทียม กระเทียมดอง และส่วนผสมข้อที่ 1 ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ปั่นจนละเอียด

  3. เทส่วนผสมที่ได้ใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปานกลาง เคี่ยวจนส่วนผสมเดือดมีลักษณะข้น ยกลงพักไว้ให้เย็นสนิท เติมน้ำมันงา คนให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย โรยงาขาวคั่ว จัดเสิร์ฟพร้อมมะนาว ผักชี พริกสดและกระเทียม

          เป็นยังไงบ้างกับ รวมสูตรน้ำจิ้มสุกี้ ชาบู ที่ทั้งง่ายและอร่อยไม่แพ้ร้านดัง ไม่ว่าจะเป็นสูตรน้ำจิ้มสุกี้เต้าหู้ยี้ น้ำจิ้มงาญี่ปุ่น หรือสูตรเผ็ดเปรี้ยวซีฟู้ด ก็ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ลองเลือกสูตรที่ชอบแล้วจัดปาร์ตี้ได้เลย อย่าลืมแบ่งสูตรนี้ให้เพื่อนสายกินด้วยนะ บอกเลยว่ากินปีนี้…อร่อยยันปีหน้าแน่นอน !

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รวมสูตร น้ำจิ้มสุกี้-ชาบู รสเด็ด จัดเต็มความอร่อยครบทุกแนว ทั้งเผ็ด เปรี้ยว หวาน มัน โพสต์เมื่อ 28 ตุลาคม 2568 เวลา 13:57:05 1,412 อ่าน
TOP
x close