1. เค้กกล้วยน้ำว้า
- ไข่ไก่เบอร์ 0 (เฉพาะไข่แดง) จำนวน 3 ฟอง
- น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- กล้วยน้ำว้าสุกงอมบดละเอียด 350 กรัม (ผสมกลิ่นวานิลลาบัตเตอร์)
- นมสดจืด 100 กรัม
- น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ
- แป้งเค้ก 270 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- ผงเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 100 กรัม
- ลูกเกดดำ
- ถั่วลิสงคั่วบด
- เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เปิดไฟบน-ล่าง
- ทาเนยที่พิมพ์ โรยแป้ง หรือเตรียมพิมพ์กระดาษ
- ใส่ไข่แดงลงใส่ในโถผสม ตีให้ไข่แดงให้กระจายตัว ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีผสมนานประมาณ 5 นาที
- ใส่เกลือป่น และกล้วยน้ำว้าบดละเอียดลงไป
- ใส่นมสดที่ผสมน้ำส้มสายชูลงไป ค่อย ๆ รินน้ำมันพืชใส่ลงไป ตีด้วยความเร็วต่ำ ค่อย ๆ ใส่แป้งเค้กลงไป คนผสมให้เข้ากันดี ปาดส่วนผสมที่ก้นโถขึ้นมาด้วย
- ใส่ลูกเกดดำและถั่วลิสงคั่วบดลงไป ตักใส่ในพิมพ์กระดาษ (ถ้าอยากให้เค้กรูปทรงสูง ๆ ตักใส่ประมาณ 3/4 ของถ้วย แต่ถ้าชอบเค้กรูปทรงแบบไม่สูง ใส่ไปประมาณครึ่งถ้วย)
- นำเข้าเตาอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบด้วยไฟล่างก่อนที่ 200 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที
- จากนั้นปรับเป็นไฟบน-ล่างที่ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 5 นาที
- สุดท้ายปรับเป็นไฟบนอย่างเดียว อบต่อประมาณ 5 นาที (อบออกมาเนื้อเค้กกำลังพอดี ขึ้นอยู่กับพิมพ์ที่ใช้อบด้วย) ใช้เวลาอบ 25 นาที นำออกจากเตา
2. เค้กกล้วยไข่ช็อกโกแลต
สายดาร์กต้องจัดเมนูเค้กกล้วยไข่ช็อกโกแลต จับกล้วยไข่บดผสมกับแป้งเค้ก เติมนมสดและกลิ่นวานิลลา ที่ขาดไม่ได้เลยคือผงโกโก้
- แป้งเค้ก 125 กรัม
- ผงโกโก้ 35 กรัม
- ผงฟู 3/4 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
- กล้วยไข่บด 1/2 ถ้วยตวง
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เบอร์ 0) 1 ฟอง
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- นมสด 60 กรัม
- น้ำมันพืช 60 กรัม
- น้ำสะอาด 120 กรัม
- ดาร์กช็อกโกแลตชิพ หรือไวท์ช็อกโกแลตชิพ สำหรับโรยหน้า
1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
2. ร่อนแป้ง โกโก้ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน 2-3 ครั้ง ใส่ลงในอ่างผสมแล้วทำหลุมตรงกลาง เตรียมไว้
3. ผสมกล้วยไข่บดกับกลิ่นวานิลลาเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
4. ตีไข่ไก่ให้เป็นฟองหยาบ ๆ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไปตีให้เข้ากัน ใส่นม น้ำมันพืช และน้ำ ลงไปตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่ส่วนผสมกล้วยลงไป ตีผสมให้เข้ากันอีกครั้ง
5. เทส่วนผสมกล้วยเมื่อครู่ลงในหลุมแป้ง ตีผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
6. เทส่วนผสมใส่ลงพิมพ์ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ โรยด้วยช็อกโกแลตชิพ นำเข้าอบประมาณ 20-25 นาที (ถ้าใช้ถ้วยใหญ่ อบประมาณ 24 นาทีสุกพอดี ถ้าถ้วยเล็กจะใช้เวลาน้อยกว่านั้น) นำออกจากเตา พักทิ้งไว้บนตะแกรง พร้อมเสิร์ฟ
3. เค้กกล้วยหอมฉ่ำเนย
- เนยเค็ม 250 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะได้นิ่มเร็ว ๆ)
- น้ำตาลทรายละเอียด 1+1/2 ถ้วย (ถ้ากล้วยงอมมากเราจะลดเหลือแค่ 1 ถ้วย)
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
- กล้วยหอมสุกบด 1+1/2 ถ้วย (ไม่ต้องละเอียดมากเวลากินแล้วมีเนื้อสัมผัส)
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
1. วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ (ถ้าตามสูตรจะใช้ 160 องศาเซลเซียส ไฟล่าง แต่เราทำเป็นถ้วยมัฟฟินก็เลยใช้ 175 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง)
2. เตรียมพิมพ์ให้เรียบร้อย
3. ใช้ส้อมบดกล้วยแล้วเติมนมสด และกลิ่นวานิลลาลงไป คนผสมให้เข้ากัน
4. ผสมแป้งกับผงฟูและเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
1. ตีเนยด้วยตะกร้อมือให้ขึ้นฟูจนเป็นสีขาวนวล ทยอยใส่น้ำตาลทรายป่นละเอียดลงไป แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง แล้วตีผสมให้เข้ากัน
2. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีทีละฟอง พอหมดลิ่มไข่ก็ใส่ใบต่อไปได้เลยจนครบ 4 ฟอง
3. ใส่ส่วนผสมกล้วยบดลงไปตีผสมให้เข้ากัน
4. ใส่ส่วนผสมแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดาลงไป ค่อย ๆ ตะล่อมเบาจนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักใส่พิมพ์มัฟฟินที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบประมาณ 15-20 นาที (แล้วแต่ขนาดของพิมพ์แล้วก็เตาอบแต่ละบ้าน เช็กว่าสุกหรือยังก็ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไป ไม่มีเศษแป้งติดมาก็ถือว่าเรียบร้อย สูตรนี้ใช้พิมพ์มัฟฟินได้ 34 ชิ้น) นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้ให้เย็นลง แกะออกจากพิมพ์
4. เค้กกล้วยหอมคาราเมล
ส่วนผสมเค้กชิฟฟ่อน สำหรับถาดพิมพ์ขนาด 5x9 นิ้ว (สูตรไข่ 2 ฟอง)
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 40 กรัม
- นมข้นจืดหรือน้ำ 80 กรัม
- น้ำมันพืช 50 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/8 ช้อนชา (กว่า ๆ หน่อยก็ได้)
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 45 กรัม
- น้ำตาลทราย 140 กรัม
- น้ำ 40 กรัม
- น้ำร้อนจัด 1 ช้อนชา
หมายเหตุ : หลังจากที่เทคาราเมลใส่ในพิมพ์ พักให้เซตตัวก่อน (คาราเมลจะแข็งและไม่เหนียวติดมือ เอานิ้วเคาะ ๆ ดูได้) แล้วค่อยใส่กล้วยลงไป
ส่วนผสม เค้กชิฟฟ่อน (สูตรไข่ 3 ฟอง)
- ไข่แดง 3 ฟอง
- น้ำตาลทราย 35 กรัม
- นมข้นจืดหรือน้ำ 60 กรัม
- น้ำมันพืช 35 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1/2 ช้อนชา
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือป่นเล็กน้อย
- กล้วยหอม
- ไข่ขาว 3 ฟอง
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 30 กรัม
1. ทำซอสคาราเมล โดยต้มน้ำกับน้ำตาลทราย ต้มด้วยไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีทองหรือสีน้ำตาลอ่อน พอมีกลิ่นไหม้นิด ๆ ก็ใส่น้ำร้อนลงไปเพื่อลดความร้อนลง เทซอสคาราเมลใส่พิมพ์ กลิ้งคาราเมลให้ทั่ว แล้วพักให้คาราเมลเซตตัว หรือจนแข็งขึ้นประมาณ 10 นาที
2. ทำส่วนผสมไข่แดงโดยตีไข่แดงกับน้ำตาลทรายจนน้ำตาลทรายละลาย พอเข้ากันแล้วใส่นม น้ำมันพืช และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีจนเข้ากันดี ใส่แป้งที่ร่อนพร้อมผงฟูกับเกลือป่น (ร่อนสัก 2 รอบ เพื่อความนุ่มฟู) ตะล่อมจนเข้ากัน
3. ตีไข่ขาวจนเป็นฟองหยาบแล้วใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ตีพอเข้ากัน ทยอยใส่น้ำตาลทรายลงไป แบ่งใส่สัก 3 ครั้ง ตีจนตั้งยอด
4. ตักไข่ขาวบางส่วนใส่ลงไปในชามไข่แดงที่ผสมไว้ ตะล่อมเบา ๆ จนเข้ากัน พอเข้ากันแล้วก็ใส่ที่เหลือลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากัน
5. ปอกกล้วยแล้วผ่าครึ่งตามแนวยาว วางกล้วยหอมลงในพิมพ์ให้เต็ม
6. เทส่วนผสมแป้งใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ เคาะไล่ฟองอากาศ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 -160 องศาเซลเซียส ใช้ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 35-40 นาที พออบเสร็จแล้วเอามีดแซะด้านข้างพิมพ์ ให้คว่ำพิมพ์ นำเค้กออกจากพิมพ์ทันที พักให้เย็นหรือจะกินแบบอุ่นก็ได้ ตัดขนาดตามใจชอบ
5. เค้กกล้วยหอมไร้แป้ง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กล้วยหอมสุก 1 ลูก
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1 หยด (ไม่ใส่ก็ได้)
- กรีกโยเกิร์ต
- ผลไม้สดตามชอบ
1. นำกล้วยสุกมาบดให้ละเอียด ผสมกับไข่ไก่ และผงฟู คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ภาชนะ
2. นำเข้าไมโครเวฟใช้ไฟแรงสุด 800 วัตต์ ประมาณ 1-1.30 นาที เมื่ออบเค้กเสร็จก็ตักมาใส่จาน ราดด้วยกรีกโยเกิร์ตและตามด้วยผลไม้สดตามชอบ
6. เค้กกล้วยหอมแครอต
ถ้าลูกไม่ยอมกินผักก็จัดแจงใส่ลงในเค้กกล้วยเลยสิคะ ขอนำเสนอเมนูเค้กกล้วยหอมแครอต สูตรนี้ใส่ข้าวโอ๊ตเพิ่มกากใย โรยหน้าด้วยช็อกโกแลตชิพ
- กล้วยหอมสุกบดละเอียด 1+1/2 ถ้วย
- แครอตขูดเป็นชิ้นเล็ก ๆ 1 ถ้วย
- นมสดรสจืด 1+1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เนยสดเค็มละลาย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา 1+1/2 ช้อนชา
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1+1/2 ถ้วย
- ข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- ช็อกโกแลตชิพ 1/2 ถ้วย
1. ผสมกล้วยหอม แครอต นมสด ไข่ไก่ เนย น้ำตาลทราย เกลือ และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน เตรียมไว้
2. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ข้าวโอ๊ต และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน ใส่ในส่วนผสมกล้วย คนให้เข้ากัน
3. ตักใส่ถ้วยคัพเค้กหรือถาดอบมัฟฟิน ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ โรยช็อกโกแลตชิพ แล้วอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20-25 นาทีหรือจนสุก ยกออกจากเตา พักไว้พออุ่น ๆ จัดใส่จาน
7. เค้กกล้วยหอมช็อกโกแลตไร้แป้ง (สูตรไมโครเวฟ)
- กล้วยหอม 1 ลูก
- ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ
- เนยถั่ว 1/4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
1. ใช้ส้อมบดกล้วยหอมให้ละเอียด
2. ใส่ผงโกโก้ เนยถั่ว น้ำตาลทราย และไข่ไก่ลงไปผสมให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
3. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยทนความร้อน (ที่สามารถนำเข้าไมโครเวฟได้) นำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟแรง ประมาณ 60 วินาที
4. นำออกจากไมโครเวฟ แต่งด้วยกล้วยหอมหั่นแว่น ราดช็อกโกแลตให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
8. เค้กกล้วยหอมชีส
- แป้งเค้ก 100 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
- กล้วยหอม 100 กรัม (ประมาณ 2 ลูก)
- น้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา (ประมาณ 1 ซีก)
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง (ใช้น้ำมันดอกคาโนล่า)
- ชีส
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์บด
1. ร่อนแป้ง ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน
2. บดกล้วยและบีบมะนาวพักไว้
3. ตีไข่ น้ำตาลทราย และเกลือ ให้ขึ้นเป็นครีม ใส่แป้งที่ร่อนแล้วลงไปตีให้เข้ากัน เมื่อตีเข้ากันจนได้ที่แล้ว ใส่กล้วยบดลงไปตีให้เข้ากันอีกครั้ง เทส่วนผสมลงถ้วย แล้วนำไปอบ
4. ระหว่างรอเค้กได้ที่ ให้ซอยชีสเตรียมเอาไว้
5. เมื่ออบเค้กเสร็จแล้วก็โรยหน้าเค้กด้วยชีส แล้วเข้าอบต่ออีกนิดพอให้ชีสละลาย นำเม็ดมะม่วงหิมพานต์บดมาโรยหน้า
สนใจให้ Kapook.com แนะนำการทำอาหารด้วยเครื่องปรุง ของใช้ในครัว หรืออื่น ๆ รับทำการตลาดด้วย Social Network, Content Marketing