11 สูตรซอสทำขนม เติมความหวานไม่ซ้ำ จำสูตรง่าย ทำได้อร่อยปัง

ตั้งหม้อใบที่ 1 บนเตาไฟ เปิดไฟร้อนปานกลาง เทวิปปิ้งครีมลงไป ต้มจนกระทั่งวิปปิ้งครีมเดือด เบาไฟลงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้วิปปิ้งครีมเดือดจัดจนล้นออกนอกหม้อ ต้มไว้ก่อน

ตั้งหม้อใบที่ 2 บนเตาไฟ เปิดไฟร้อนปานกลาง หม้อต้องมีขนาดใหญ่พอสมควร เทน้ำตาลทรายลงไปตามด้วยน้ำเปล่า ยกหม้อขึ้นเล็กน้อยเอียงไปมาเพื่อให้น้ำกระจายทั่วน้ำตาลทราย ต้มจนกระทั่งสังเกตเห็นน้ำเดือด

ใช้แปรงจุ่มน้ำทาขอบหม้อรอบ ๆ 2 ครั้ง โดยทาครั้งที่ 1 พักประมาณ 1 นาที แล้วใช้แปรงจุ่มน้ำทาขอบหม้อรอบที่ 2 รอจนกระทั่งน้ำตาลค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ถ้าน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแค่ 1 จุด ให้หมุนหม้อ เอาจุดที่น้ำตาลยังเป็นสีขาวอยู่หมุนไปวางตรงจุดที่มีไฟร้อน ทำซ้ำ ๆ จนได้สีน้ำตาลทั่วหม้อ ถ้ามีสีน้ำตาลเข้มมาก ๆ เพียงจุดเดียว ใช้วิธีการยกหม้อขึ้นจากเตาไฟแล้วเอียงหม้อเล็กน้อย เพื่อผสมให้สีของน้ำตาลเท่ากันทั้งหม้อ ห้ามคนนะคะ เพราะถ้าเราคนน้ำตาล น้ำตาลก็จะเกาะตัวกันเป็นก้อน ๆ ใช้ไม่ได้

เมื่อน้ำตาลเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองตามที่ต้องการแล้วก็เทวิปปิ้งครีมที่ต้มไว้ร้อน ๆ ลงไป วิปปิ้งครีมจะต้องร้อน ๆ เพื่อจะได้ผสมกับคาราเมลง่าย ๆ คาราเมลจะไม่จับเป็นก้อน ๆ ใช้ตะกร้อคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วยกออกจากเตาทันที

เติมครีมออฟทาร์ทาร์กับกลิ่นวานิลลา ใช้ตะกร้อคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน เติมเนยจืดลงไป คนให้เนยละลายและให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

เทซอสคาราเมลใส่กระปุก ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร และวางให้ซอสเย็นตัวลง จะใช้ซอสทำเมนูอื่น ๆ ใช้ได้ทั้งตอนที่ซอสยังอุ่นอยู่หรือรอให้เย็นก่อนก็ได้ ซอสคาราเมลที่ใส่กระปุก ปิดฝาให้สนิท สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้มากกว่า 2 อาทิตย์ อีกทั้งยังแช่ช่องแข็งได้นานถึง 2 เดือน สำหรับคาราเมลที่แช่แข็ง ก่อนนำมาใช้ให้เอาออกจากช่องแข็ง ใส่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน ถ้าซอสเย็นอยู่ เนื้อครีมแข็ง อุ่นด้วยไมโครเวฟหรือตั้งบนไอน้ำร้อนจนกระทั่งซอสเหลวขึ้น
 

ผ่าครึ่งเลมอน และบีบเอาแต่น้ำรอไว้

​เทไข่ใส่ชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทรายและน้ำเลมอน คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี ใส่แป้งข้าวโพด คนให้เข้ากันดี และเทส่วนผสมลงหม้ออะลูมิเนียม ใช้ไฟแรงในตอนเริ่ม พอเริ่มเดือดให้ปรับมาที่ไฟกลางและคนตลอดเวลาจนกระทั่งเดือดปุด ๆ และข้นได้ที่ตามต้องการ

เทเนยใส่ลงไป คนให้เนยละลายดี ก่อนจะกรองให้เนื้อเนียน จากนั้นเทใส่ชามผสม คลุมพลาสติกไม่ให้หน้าแห้ง รอกระทั่งเริ่มเย็นตัวลง เก็บใส่กระปุกหรือภาชนะมิดชิดไว้ต่อยอดทำขนมหวานต่าง ๆ ได้ตามชอบ สามารถเก็บได้ 2 อาทิตย์ ในตู้เย็นช่องธรรมดา และสามารถเก็บได้นาน 3 เดือน ในตู้เย็นช่องแช่แข็ง
 

ใช้แบล็กเบอร์รีสดหรือแช่แข็งได้เช่นกัน เติมน้ำตาล เปิดไฟกลางค่อนข้างอ่อน คนให้ส่วนผสมเข้ากันจนน้ำตาลและผลไม้เริ่มคายน้ำออกมา ต้มต่อสักพักให้น้ำเดือดและแบล็กเบอร์รีนิ่ม ปิดไฟ

ใส่แป้งข้าวโพดผสมกับน้ำ คนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่ในแบล็กเบอร์รี คนให้เข้ากันดี เปิดไฟ ใช้ไฟกลางเคี่ยวให้น้ำซอสเดือดจนข้นได้ที่ตามต้องการ จากนั้นปิดไฟ และบีบน้ำมะนาวใส่ครึ่งซีก

ถ้าชอบแบบมีเนื้อผลไม้สามารถนำไปใช้งานได้เลย ถ้าชอบแบบไม่มีกากให้นำไปกรองเอาเมล็ดและเนื้อออก 
 

เริ่มต้นด้วยการใส่น้ำเปล่า (1) และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันดีก่อนที่จะเปิดไฟ เคี่ยวให้น้ำตาลละลายหมดและน้ำเชื่อมเดือด

เทน้ำเชื่อมใส่บลูเบอร์รีที่เตรียมไว้ และแช่ไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นค่อยนำมากรองเอาแต่น้ำ

เตรียมแป้งข้าวโพดผสมน้ำ (2) รอ จากนั้นนำน้ำเชื่อมไปตั้งไฟ เคี่ยวให้เดือดค่อยเติมแป้งข้าวโพด

หลังจากใส่แป้งข้าวโพดต้องคนตลอดเวลา จนกระทั่งเหนียวได้ที่ให้ปิดไฟ แล้วค่อยเติมบลูเบอร์รีตามลงไป เสร็จแล้วยกลงจากเตาและเติมน้ำมะนาวตามชอบ เก็บได้ประมาณ 2 วัน แนะนำว่าทำแค่พอใช้
 

ล้างแอปเปิลให้สะอาด ปอกเปลือกออกให้หมด ผ่าแอปเปิลออกเป็น 4 ส่วน เอาเมล็ดกับแกนกลางออก เสร็จแล้วก็หั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดี 

ใส่แอปเปิลงในหม้อ เติมน้ำเปล่า น้ำเลมอน และซินนามอน เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำเดือด ลดไฟลง ตั้งหม้อต่อไปจนแอปเปิลเริ่มนิ่มเปื่อย (ในขั้นตอนนี้ใครชอบหวานเติมน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำผึ้งลงไปได้) ถ้าใครชอบซอสที่มีเนื้อสัมผัสที่ยังเป็นชิ้น ๆ อยู่ ทำเสร็จขั้นตอนนี้ก็สามารถนำไปทำขนมได้ ถ้าชอบแบบเป็นเนื้อเดียวกันให้นำไปปั่นละเอียด