10 สูตรขนมยอดนิยม หวานละมุนที่สุดแห่งปี 2015

10 สูตรขนมยอดนิยม

          10 สูตรขนมยอดฮิตที่สุดแห่งปี 2015 ความอร่อยที่ใครพลาดแล้วจะเสียดาย ถ้าอยากรู้ว่ามีเมนูของหวานอะไรที่ตรงตามใจคุณบ้างหรือไม่ เชิญตามมาชิม จะทำตอนนี้ก็ยังไม่สาย

          เวลาผ่านไปเร็วมาก เผลอแป๊บเดียวก็สิ้นปี 2015 แล้ว สำหรับหลายคนที่ชอบเข้าครัวก็คงไม่ได้สนใจอะไรมากนอกจากใจจดใจจ่อกับการทำอาหาร แต่เพื่อน ๆ หลายคนที่ติดตามเรื่องราวการทำอาหารก็น่าจะทราบว่า ในแต่ละปีจะมีเมนูดังในกระแส โดยเฉพาะเมนูของหวานนี่ของโปรดเลย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 10 สูตรขนมยอดนิยมของปี 2015 ที่อยู่ในกระแส ใคร ๆ ก็รู้จัก ถ้าใครยังไม่เคยลองไม่เป็นอะไรลองทำตอนนี้ก็ยังไม่สายทำตามสูตรที่เรานำมาฝากได้เลยจ้า

10 สูตรขนมยอดนิยม

 1. เต้าหู้เย็น

          มาเริ่มกันที่เต้าหู้เย็น เมนูขนมยอดนิยมที่โด่งดังเปรี้ยงปร้างเป็นอย่างมากในปี 2015 ถือเป็นเมนูที่สุดแห่งปีอันดับแรกเลยก็ว่าได้ ซึ่งเหตุที่เต้าหู้เย็นเป็นเมนูดังในกระแสก็เพราะเป็นเมนูที่มีหน้าตาเก๋ไก๋ ยังไม่เคยมีใครทำ และอร่อยด้วย โด่งดังมาจากร้านดังย่านดอนเมืองที่หลายคนดั้นด้นไปกิน แต่สำหรับคนไม่อยากต่อคิวยาวและบ้านไกลก็สามารถทำกินเองที่บ้านด้วยการหาสูตรมาลองทำ อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง แต่ถ้าหากใครไม่เคยชิม ขอบอกว่าไม่สายเกินไปที่จะทำเองนะคะ ขอเชิญพบกับเต้าหู้เย็นสูตรจากคุณโจนส์เปลี่ยนใจ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หน้าตาดี๊ดีเหมือนกับร้านต้นฉบับอย่างกับแกะ ที่สำคัญคือ เต้าหู้เย็นสูตรนี้ยังใช้นมสดแทนน้ำเต้าหู้ สีสันคัลเลอร์ฟูล เนื้อนิ่มเด้ง จัดเสิร์ฟเย็น ๆ พร้อมท็อปปิ้งตามชอบ กินเพลินจริง ๆ นะขอบอก

ส่วนผสม เต้าหู้เย็น

           นมสด 2 ถ้วย (หรือน้ำเต้าหู้)
          นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำหวานกลิ่นสละ (ใส่จนได้สีที่ชอบ)
          ผงวุ้น 2 1/2 ช้อนชา (ราคา 30 บาท)
          กีวี (หั่นเต๋า)
          ส้ม (แกะเป็นกลีบ)
          กล้วยหอม (หั่นแว่น)
          แคนตาลูป (หั่นชิ้นพอดีคำ)
          เยลลี่ (ตามชอบ)

วิธีทำเต้าหู้เย็น

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลางพออุ่น เทนมสด นมข้นหวาน และน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยลงไป พอส่วนผสมเริ่มอุ่น เทผงวุ้นลงไป (เคล็ดลับคือ ให้เทแบบเคาะช้อน ผงวุ้นจะได้กระจาย ละลายง่าย และไม่เป็นก้อน)

          2. คนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นไม่เป็นเม็ดเล็ก ๆ ติดปลายช้อน หากผงวุ้นละลายดีแล้วให้เร่งไฟแรงขึ้นเล็กน้อย รอจนส่วนผสมในกระทะเริ่มมีฟอง (แต่ไม่ต้องถึงกับเดือด) ปิดไฟ พักไว้

          3. นำส่วนผสมมากรองผ่านตะแกรง ประมาณ 2-3 รอบ เทส่วนผสมใส่พิมพ์ทรงกลม หรือถ้วยทรงกลม พักทิ้งไว้จนเย็น (หรือใช้พัดลมช่วยเป่าจนเย็น) จากนั้นจึงนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง

10 สูตรขนมยอดนิยม

          4. พอครบเวลานำเต้าหู้เย็นออกมาจากถ้วยกลม เทออกมาบั้งเป็นแฉก ๆ เสิร์ฟคู่กับกีวี ส้ม กล้วยหอม แคนตาลูป และเยลลี่

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เต้าหู้เย็น วิธีทำเมนูดังกินเองง่ายกว่า หวานเย็นกลิ่นหอม



10 สูตรขนมยอดนิยม

2. ขนมกล้วย

          ขนมกล้วยแบบไทย ๆ ก็ฮอตฮิตไม่แพ้ใครเหมือนกันนะคะ ก็เพราะทำง่ายมาก ๆ นั่นเอง มือใหม่ที่อยากลองหัดทำขนมไทยก็ต้องขนมกล้วยนี่แหละ หลายคนอาจคุ้นเคยกับขนมกล้วยห่อใบตอง แต่ถ้าหาใบตองไม่ได้ก็ใช้ถ้วยตะไลแทนได้นะคะ ใครมีกล้วยน้ำว้าสุกงอมแล้วอย่าเพิ่งทิ้งนะคะ จับมาบดละเอียดทำขนมกล้วยได้เลยค่ะ เนื้อเหนียว รสหวานหอม กัดไปทุกคำเจอกล้วย อ๊าก… หิวจังเลย

ส่วนผสม ขนมกล้วย

          กล้วยน้ำว้าสุก (บดละเอียด) 500 กรัม
          น้ำตาลทราย 100 กรัม
          เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
          แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
          แป้งมัน 5 ช้อนโต๊ะ
          หัวกะทิ 200 มิลลิลิตร
          มะพร้าวทึนทึกขูดฝอย
          ใบตองสำหรับห่อ (ถ้าไม่มีใบตองสามารถใช้ถ้วยตะไลได้)

วิธีทำขนมกล้วย

          1. ผสมกล้วยน้ำว้ากับน้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง หัวกะทิ และมะพร้าวขูดคนผสมให้เข้ากันดี

          2. ตักส่วนผสมขนมกล้วยลงบนใบตอง แผ่บาง ๆ หรือจะทำเป็นทรงกรวยห่อเป็นทรงให้สวยงาม (หรือตักใส่ถ้วยตะไล) วางเรียงบนชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นึ่งประมาณ 20 นาทีจนขนมสุก จากนั้นนำออกจากชุดนึ่ง พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ วิธีทำขนมกล้วย สูตรขนมไทยทำง่าย ๆ สมชื่อ



10 สูตรขนมยอดนิยม

3. ขนมฟักทอง

          ก็ถ้ามีขนมกล้วยก็ต้องมีขนมฟักทองด้วย สูตรขนมยอดนิยมที่ทำง่ายใช้สูตรเดียวกับขนมกล้วยเลยล่ะ เนื้อสีเหลืองเหนียวนุ่ม รสหวาน สูตรนี้ใช้ถ้วยตะไล หรือถ้าใครอยากใช้ใบตองก็ได้เช่นกันค่ะ
 
ส่วนผสม ขนมฟักทอง

          ฟักทอง 500 กรัม (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้น ๆ)
          แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
          แป้งมัน 1/4 ถ้วย
          มะพร้าวขูด 50 กรัม
          น้ำตาลทราย 100 กรัม
          เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
          กะทิ 1 ถ้วย
          ถ้วยตะไล (สำหรับนึ่ง)

วิธีทำขนมฟักทอง

          1. นำฟักทองไปนึ่งจนสุกแล้วนำออกมาพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท

          2. ใส่แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังลงในฟักทองที่นึ่งสุกแล้ว จากนั้นนวดผสมให้เข้ากัน

          3. ใส่มะพร้าวขูด น้ำตาลทราย และเกลือป่นลงไปนวด จากนั้นค่อย ๆ เติมกะทิลงไปคนผสมจนเข้ากันดีและน้ำตาลทรายละลายหมด

          4. ตักส่วนผสมใส่ถ้วยตะไลประมาณ 3/4 ของถ้วย จากนั้นนำไปนึ่ง (ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด) ประมาณ 15-20 นาทีจนแป้งสุกและใส ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น แคะขนมออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมฟักทอง ขนมไทยสีสวยเนื้อเหนียวนุ่ม



10 สูตรขนมยอดนิยม

4. เค้กกล้วยหอม

          หลังจากกินขนมไทยอย่างขนมกล้วยและขนมฟักทองจนหนำใจแล้ว มาต่อกันที่สูตรขนมยอดนิยมอีกหนึ่งอย่างคราวนี้ไม่ใช่ขนมไทยแล้วนะคะ แต่เป็นเมนูเบเกอรี่ ขอแนะนำเค้กกล้วยหอมสูตรจากคุณ MaShi BBJ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม เนื้อนุ่มฉ่ำเนย ถ้าอยากได้รสชาติกล้วยเต็ม ๆ ไม่ต้องบดละเอียดมาก ใส่พิมพ์มัฟฟิน หรือพิมพ์ขนมปังแถวตามชอบ เอาที่สบายใจเลยค่ะ

ส่วนผสม เค้กกล้วยหอม (ประมาณ 34 ชิ้น)

          แป้งสาลีอเนกประสงค์ 2 ถ้วย
          ผงฟู 1 ช้อนชา
          เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
          กล้วยหอมสุกบด 1 1/2 ถ้วย (บางครั้งก็ใส่เกินนะ ชอบเนื้อ ๆ เน้น ๆ เราชอบบดกับส้อมค่ะ ไม่ต้องละเอียดมากเวลากินแล้วมีเนื้อสัมผัสดีค่ะ)
          นมสด 4 ช้อนโต๊ะ
          กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
          เนยเค็ม 250 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จะได้นิ่มเร็ว ๆ)
          น้ำตาลทรายละเอียด 1 1/2 ถ้วย (ถ้ากล้วยงอมมากเราจะลดเหลือแค่ 1 ถ้วยค่ะ)
          ไข่ไก่ 4 ฟอง

วิธีทำเค้กกล้วยหอม

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส เตรียมไว้

          2. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน เตรียมไว้

          3. ใช้ส้อมบดกล้วยหอมแล้วเติมนมสดและกลิ่นวานิลลาลงไปคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

          4. ตีเนยด้วยตะกร้อมือให้ขึ้นฟูจนเป็นสีขาวนวล ทยอยใส่น้ำตาลทรายป่นละเอียดลงไปแล้วตีผสมให้เข้ากัน แบ่งใส่สัก 2-3 ครั้ง

          5. ใส่ไข่ไก่ลงไปตีทีละฟอง พอหมดลิ่มไข่ก็ใส่ใบต่อไปได้เลยจนครบ 4 ฟอง

          6. ใส่ส่วนผสมกล้วยบดลงไปตีผสมให้เข้ากัน

          7. ใส่ส่วนผสมแป้งลงไป ค่อย ๆ ตะล่อมเบาจนเป็นเนื้อเดียวกัน

10 สูตรขนมยอดนิยม

          8. ตักใส่พิมพ์มัฟฟินที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบประมาณ 15-20 นาที (แล้วแต่ขนาดของพิมพ์แล้วก็เตาอบแต่ละบ้าน เช็กว่าสุกหรือยังก็ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไป ไม่มีเศษแป้งติดมาก็ถือว่าเรียบร้อย) นำออกจากเตา วางพักทิ้งไว้ให้เย็นลง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เค้กกล้วยหอมฉ่ำเนย กล้วยเน้น ๆ ทำง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์บ้าน ๆ



10 สูตรขนมยอดนิยม

5. ไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง

          สงสัยว่าปี 2015 นี้อากาศคงจะร้อนมากสินะ เลยทำให้สูตรไอศกรีมไม่ใช้เครื่องติดโผสูตรขนมฮอตฮิตแห่งปีกับเขาด้วย ส่วนสูตรไอศกรีมที่ทำง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เครื่องทำไอศกรีมราคาแพง ๆ ที่เรายกมาฝากวันนี้เป็นไอศกรีชาเขียวสูตรจากคุณเนินน้ำ ไม่ต้องใช้เครื่องแค่มีตู้เย็นเท่านั้น เพื่อน ๆ สามารถดัดแปลงรสชาติอื่นได้ตามชอบเลย สุดท้ายใส่ท็อปปิ้งถั่วแดงกวนลงไปด้วย ทำทานตอนอากาศร้อน หรือตอนเที่ยงก็แจ่มเว่อร์

ส่วนผสม ไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง

          นมข้นจืด 2 1/2 ถ้วย
          วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
          ผงชาเขียวมัทฉะ 3 ช้อนโต๊ะ
          ไข่แดง 2 ฟอง
          น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วย
          เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
          ถั่วแดงกวน สำหรับตกแต่ง
          สะระแหน่ สำหรับตกแต่ง
          เชอร์รี สำหรับตกแต่ง

วิธีทำไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง

10 สูตรขนมยอดนิยม

          ผสมนมข้นจืดและวิปปิ้งครีมเข้าด้วยกันด้วยตะกร้อมือในอ่างผสม แล้วร่อนผงชาเขียวมัทฉะใส่ลงไปคนผสมอีกครั้งให้เข้ากันดี พักไว้

10 สูตรขนมยอดนิยม

          ตีผสมไข่แดงจนข้นเป็นสีครีมนวล จึงค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป พร้อมกับตีจนน้ำตาลทรายละลาย

10 สูตรขนมยอดนิยม

          เทส่วนผสมลงในถาดก้นตื้นแล้วนำเข้าแช่แข็ง (เราใช้ตู้แช่แข็ง เพราะมีความเย็นมากพอที่จะทำให้เซตตัวได้เร็ว) เมื่อไอศกรีมเริ่มจับตัวแข็งพอสมควรก็เอามาขูดด้วยส้อม จากนั้นก็เข้าแช่แข็งอีก ทำแบบนี้สัก 3 ครั้งหรือมากกว่านั้น (ใส่กล่องที่มีฝาปิด) พอไอศกรีมแข็งแล้วก็ตักเป็นลูกกลม ๆ ใส่ถ้วย โปะด้วยถั่วแดง พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 10 สูตรทำไอศกรีมไม่ใช้เครื่อง เย็นฉ่ำรับซัมเมอร์แบบฟิน ๆ



10 สูตรขนมยอดนิยม

6. เมนูขนมปัง

          เมนูขนมปัง อีกหนึ่งไอเดียในการทำขนมแบบง่าย ๆ แค่จับขนมปังแผ่น ๆ มาสร้างสรรค์เป็นเมนูอร่อยได้มากมายก็ฮอตฮิตไม่แพ้ใคร ได้ทั้งฮันนี่โทสต์ พิซซ่าขนมปังโฮลวีท ราสป์เบอร์รีเฟรนช์โทสต์ ขนมปังแซนด์วิช และอีกมากมาย ใครที่สนใจก็ลองเข้าไปดูเมนูขนมปังเพิ่มเติมได้ที่ 15 เมนูขนมปัง เปลี่ยนขนมปังธรรมดาให้น่าหม่ำ ในราคาประหยัด



10 สูตรขนมยอดนิยม

7. ขนมชั้น

          ขนมชั้น ขนมไทยฮอตฮิตที่คนสนใจอยากลองทำ เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติหวานมัน กลิ่นหอม ใครที่มองผ่านไปก็อยากให้ลองทำขนมชั้นสูตรจากคุณ Rin\'s Cookbook (#rinscookbook) พร้อมกันได้เลยค่ะ ขนมชั้นทำไม่ยาก แค่ต้องใช้เวลาในการเทขนมสลับชั้นแล้วนำไปนึ่งเท่านั้นเองค่ะ แต่พอทำเสร็จก็ได้ปริมาณเยอะ เผลอ ๆ อาจแจกเพื่อนบ้าน หรือแบ่งไปขายได้ด้วยนะคะ

ส่วนผสม ขนมชั้น

          น้ำตาลทราย 2+1/2  ถ้วย
          น้ำกะทิ 4  ถ้วย
          แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
          แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
          แป้งท้าวยายม่อม 1+1/2  ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
          น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
          น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
          ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)

วิธีทำขนมชั้น

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. ใส่น้ำตาลทรายและกะทิลงในหม้อคนผสมให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลางประมาณ 5 นาที จนน้ำตาลทรายละลาย (ไม่ต้องรอให้เดือด) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น

          2. นึ่งถาดหรือพิมพ์ในชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด ประมาณ 15 นาที เตรียมไว้

          3. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อมเข้าด้วยกัน ค่อย ๆ เทส่วนผสมน้ำกะทิลงไป ใช้มือนวดแป้งให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นวดประมาณ 15 นาที จนแป้งไม่จับตัวเป็นก้อน จากนั้นนำไปกรองด้วยตะแกรง

          4. แบ่งแป้งเป็น 2 ถ้วย โดยถ้วยที่ 1 ผสมกับน้ำใบเตย และถ้วยที่ 2 ผสมกับน้ำมะลิคนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้

10 สูตรขนมยอดนิยม

          5. ทำชั้นที่ 1 โดยเทส่วนผสมสีขาว (เทส่วนผสมทุกชั้นประมาณ 1/3 ถ้วย) ลงในพิมพ์ ปิดฝาแล้วนึ่งประมาณ 5 นาที 

          6. เปิดฝา เทส่วนผสมสีเขียวลงไป ปิดฝาแล้วนึ่งประมาณ 5 นาที ทำซ้ำเช่นเดิม สลับชั้นกันจนหมดแป้ง จะได้ประมาณ 9-10 ชั้น โดยชั้นสุดท้ายให้นึ่งประมาณ 7 นาที 

          7. ยกออกจากชุดนึ่ง วางพักทิ้งไว้จนเย็นสนิท (ประมาณ 3 ชั่วโมง)

10 สูตรขนมยอดนิยม

           8. นำขนมออกจากถาด จุ่มมีดลงในน้ำร้อน กดลงบนขนมเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ขนมชั้นใบเตย ขนมไทยสีสันสดใส เนื้อเหนียวนุ่ม







10 สูตรขนมยอดนิยม

8. ขนมโตเกียว

          มาย้อนความทรงจำในวัยเด็กด้วยการทำขนมโตเกียวกันดีกว่าค่ะ จัดอยู่ใน 10 สูตรขนมยอดนิยม เมนูที่สุดแห่งปี 2015 ทำกินเพลิน ๆ ที่บ้านได้ด้วยกระทะเทฟลอน แป้งโตเกียวกรอบนอกนุ่มในกับไส้กรอกและไส้หมูสับ หรือใครอยากจะเพิ่มไข่นกกระทาลงไปด้วยก็ได้นะคะ จิ้มกับซอสมะเขือเทศ หรือซอสพริกเพิ่มก็ได้ค่ะ 

ส่วนผสม แป้งโตเกียว

          แป้งสาลีอเนกประสงค์
          เบกกิ้งโซดา
          ผงฟู
          น้ำตาลทราย
          ไข่ไก่ 1 ฟอง
          น้ำเปล่า (หรือน้ำปูนใส)
          น้ำผึ้ง

ส่วนผสม ไส้โตเกียว

          เนื้อหมูสับ
          รากผักชี
          กระเทียม
          ซอสหอยนางรม
          ไส้กรอก (ตามชอบ)

วิธีทำแป้งโตเกียว

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับเบกกิ้งโซดา ผงฟู และน้ำตาลทรายคนให้เข้ากันเล็กน้อย

          2. เติมน้ำผึ้ง น้ำเปล่า และตอกไข่ไก่ใส่ลงไป

          3. คนให้เข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียว (แบ่งส่วนผสมแป้งใส่ขวดเล็กน้อยเตรียมไว้สำหรับบีบเป็นเส้น ๆ ด้วย) พักส่วนผสมแป้งไว้สักครู่

วิธีทำไส้โตเกียว

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. โขลกรากผักชีกับกระเทียมเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน

          2. ผัดไส้กรอก นำไส้กรอกลงไปผัดในกระทะให้พอร้อนแล้วตักขึ้นพักไว้

          3. ผัดส่วนผสมไส้หมูสับ นำเครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดในกระทะ ตามด้วยหมูสับ ผัดจนหมูสุกและหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ผัดให้เครื่องปรุงกับหมูสับเข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้

วิธีทำโตเกียว

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. นำกระทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ตักส่วนผสมแป้งหยอดลงในกระทะ ละเลงแป้งให้เป็นแผ่นวงรี

          2. บีบแป้งเป็นเส้น ๆ ลงไปด้านบนให้สวยงามตามชอบ

          3. ใส่ไส้โตเกียว พอแป้งเริ่มสุกและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแล้ว วางไส้กรอกและหมูสับที่ผัดไว้ลงไปบนแป้ง

          4. แล้วม้วนแป้งให้สวยงาม พร้อมรับประทาน

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สูตรขนมโตเกียว ขนมนี้ไทยแลนด์โอนลี่เท่านั้น



10 สูตรขนมยอดนิยม

9. ฮันนี่โทสต์

          แน่นอนว่าในปีที่ผ่านมาคงไม่มีใครไม่รู้จักขนมฮันนี่โทสต์ (Honey Toast) แน่ ๆ หลายคนเลือกจะทำกินเองเพราะประหยัดกว่า และเหมาะมากที่จะทำกินเล่น ๆ ยามร่างกายต้องการของหวาน ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้ลองทำเราขอเชิญมาพบพบกับฮันนี่โทสต์สูตรจากคุณ dearyjung สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใช้วัตถุดิบราคาไม่แพง แต่ได้ขนมหน้าตาหรูหรา หวานนุ่มฉ่ำเนย มีไอศกรีม และโรยน้ำตาลไอซิ่งด้วยนะ 

ส่วนผสม ฮันนี่โทสต์

          ขนมปังก้อน
          เนยสด
          น้ำผึ้ง
          ไอศกรีมรสชาติตามชอบ
          น้ำตาลไอซิ่ง สำหรับโรยหน้า

วิธีทำฮันนี่โทสต์

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. แล่ขนมปังให้เป็นก้อนสี่เหลี่ยมหนาประมาณ 1/3 นิ้ว จากนั้นหั่นให้เป็นตารางหมากรุก (3x3 แถว)

          2. นำเนยสดใส่ลงไปตามช่องของขนมปัง

          3. นำขนมปังไปอบในหม้ออบลมร้อน ประมาณ 10 นาที จนขนมปังกรอบ (บ้านเราไม่มีเตาอบ เลยต้องอาศัยเครื่องอบลมร้อนในการทำฮันนี่โทสต์ ประมาณ 10 นาทีก็กรุบ ๆ กรอบ ๆ ได้ที่แล้ว 

           ป.ล. เคยลองทำในไมโครเวฟแล้วขนมปังแข็ง ไม่อร่อย แนะนำว่า ถ้าไม่มีเตาอบใด ๆ ก็ให้ใช้เป็นวิธีการตั้งกระทะแล้วใส่เนยลงไป ใส่ขนมปังลงไปทอดให้กรอบ ๆ เกรียม ๆ จะดีกว่านะ)

10 สูตรขนมยอดนิยม

          4. นำออกจากหม้ออบลมร้อน แล้วราดน้ำผึ้งลงไป ปริมาณตามชอบ ตักไอศกรีมวางลงไปด้านบนขนมปัง โรยน้ำตาลไอซิ่งให้สวยงาม

          ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ฮันนี่โทสต์ สูตรง่าย ในราคาแค่ 34 บาท



10 สูตรขนมยอดนิยม

10. เมลอนบิงซู

          เมลอนบิงซู หรือน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลีที่เสิร์ฟในลูกเมลอน หรือแตงโมไซส์ยักษ์ ซึ่งในปี 2015  กระแสแรงมากเลยทีเดียว และยิ่งเมืองไทยมีอากาศร้อนแบบนี้ก็เหมาะมากที่จะกินน้ำแข็งไสแบบนี้ใครยังไม่ได้ลองก็มาทางนี้ มาดูสูตรจากคุณ Rin\'s Cookbook (#Rinscookbook) นอกจากใส่น้ำแข็งไสพูน ๆ แล้วยังเสิร์ฟพร้อมเมลอนหลากสี โปะไอศกรีม ถั่วอัลมอนด์ ราดนมข้นหวาน เพิ่มความเก๋ด้วยการเสิร์ฟในเปลือกเมลอนอีกด้วย

ส่วนผสม เมลอนบิงซู

          ครีมสด แบบ Half & Half 1 ถ้วย (หรือนมสด)
          น้ำเย็น 1 ถ้วย
          น้ำเชื่อม 1/4 ถ้วย (หรือน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ)
          ผงวานิลลา 30 กรัม (จะช่วยทำให้เกล็ดน้ำแข็งมีความเข้มข้นมากขึ้น แต่ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
          ผลไม้ตระกูลเมลอน ได้แก่ แคนตาลูป เมลอน แตงโมสีแดง และแตงโมสีเหลือง
          นมข้นหวาน (สำหรับราดก่อนเสิร์ฟ)
          ถั่วอัลมอนด์ คอร์นเฟล็ก หรือท็อปปิ้งอื่น ๆ ตามชอบ
          ไอศกรีมวานิลลา หรือไอศกรีมอื่น ๆ ตามชอบ
          เครื่องทำน้ำแข็งไส

 วิธีทำเมลอนบิงซู

10 สูตรขนมยอดนิยม

          1. ตีผสมครีมสดกับน้ำเย็น น้ำเชื่อม และผงวานิลลาด้วยเครื่องตีโฟมนม ตีผสมเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียว

          2. เทส่วนผสมนมใส่พิมพ์น้ำแข็ง แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง หรือข้ามคืน

          3. ตักเมลอนทั้งหมดเป็นลูกกลม ๆ วางเรียงใส่ถาด ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหารแล้วนำไปแช่เย็น ประมาณ 3-4 ชั่วโมง

          4. นำเปลือกเมลอนมาขูดเอาเนื้อออกเตรียมไว้สำหรับทำเป็นถ้วย จากนั้นนำไปแช่แข็ง เพื่อให้ถ้วยเมลอนแข็งแรงและสามารถเก็บความเย็นได้นานขึ้น

10 สูตรขนมยอดนิยม

          5. แกะน้ำแข็งออกจากพิมพ์ใส่ลงในเครื่องไสน้ำแข็ง เปิดเครื่องแล้วไสออกมาใส่ในถ้วยเมลอนแช่แข็ง

          6. เรียงเมลอนรอบ ๆ ให้สวยงาม ตักไอศกรีมโปะลงไป ราดนมข้นหวาน โรยถั่วอัลมอนด์ พร้อมเสิร์ฟ

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ เมลอนบิงซู วิธีทำน้ำแข็งไสเกาหลี กระแสแรงแบบนี้พลาดได้ไง

          จบไปแล้วสำหรับ 10 สูตรขนมยอดนิยม ไล่เรียงมาตั้งแต่อันดับแรกถึงอันดับสุดท้ายมีเมนูไหนที่เพื่อน ๆ ยังไม่ได้ลองชิมบ้างคะ ตอนนี้ยังไม่เอาท์ค่ะ จัดเลยให้ครบ ปีหน้าเจอกันใหม่ค่ะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 สูตรขนมยอดนิยม หวานละมุนที่สุดแห่งปี 2015 อัปเดตล่าสุด 29 ธันวาคม 2558 เวลา 17:26:59 31,788 อ่าน
TOP
x close