9 เมนูแกงเพื่อสุขภาพ คุณประโยชน์คับหม้ออิ่มสบาย

            อวดเมนูกับข้าวมีประโยชน์ กับเมนูแกงเพื่อสุขภาพ สูตรอาหารเพื่อสุขภาพ ใส่พืชผักสมุนไพรเน้น ๆ เพิ่มโปรตีนจากสัตว์ เหมาะกินกับข้าวสวย ขนมจีน หรือข้าวเหนียว

          สำหรับคนรักสุขภาพจะให้ทำเมนูแกงกะทิแคลอรีสูงปรี๊ดคงไม่เหมาะ เช่น แกงกะทิไก่ใส่ฟัก แกงกะทิมะเขือ แกงกะทิกุ้ง เป็นต้น คงจะดีถ้าหากมีเมนูอาหารเป็นแกงสุขภาพมาให้ได้ลองทำเนอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูแกงเพื่อสุขภาพ เช่น แกงเลียง แกงส้ม แกงป่า แกงสมุนไพร เป็นต้น นอกจากสุขภาพดีแล้วยังไม่อ้วนด้วยนะคะ   

1. แกงเลียง

          เมนูแกงเพื่อสุขภาพอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่คงนึกถึงเมนูแกงเลียง เพราะใส่ผักสดและสมุนไพร สูตรนี้ใส่กะปิและกุ้งแห้งป่น รสชาติเผ็ดร้อนด้วยพริกไทยดำ เติมความเค็มจากน้ำปลาหรือเกลือ

ส่วนผสม แกงเลียง

  • พริกไทยดำ 1+1/2 ช้อนชา
  • กระชาย 1-2 แง่ง
  • หอมแดง 3-4 หัว
  • กะปิ 1 ช้อนชา
  • กุ้งแห้งป่นละเอียด 1/3 ถ้วย
  • น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
  • บวบ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
  • ฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอคำ 200 กรัม
  • ซูกินี หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
  • ข้าวโพดอ่อน หั่นสไลซ์ 150 กรัม
  • เห็ดกระดุม 150 กรัม
  • กุ้งสด 200 กรัม
  • ใบแมงลัก 80 กรัม
  • น้ำปลา (ปรุงรส)

วิธีทำแกงเลียง

     1. เตรียมเครื่องแกงก่อน โดยโขลกพริกไทยกับกระชายแล้วใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอียด ตามด้วยกะปิ โขลกรวมกัน จากนั้นจึงใส่กุ้งแห้งป่นลงไปโขลกรวมกันอีกครั้งให้ละเอียดเป็นอันเรียบร้อย
     2. ใส่น้ำซุปไก่ลงในหม้อ ต้มให้เดือดแล้วใส่เครื่องแกงลงไป
     3. พอน้ำแกงเดือดก็ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน ต้มพอเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักที่เหลืออื่น ๆ ลงไป (จริง ๆ ขึ้นอยู่กับการหั่นด้วย อย่างฟักทองหั่นชิ้นเล็กก็จะสุกไว) พอน้ำเดือดปุ๊บก็ใส่บวบ ฟักทองอ่อน ซูกินี และเห็ดลงไป
     4. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ ชิมรส
     5. พอส่วนผสมเดือดอีกครั้งก็ใส่เสน่ห์ของแกงเลียงลงไป คือ ใบแมงลักนั่นเอง ตักเสิร์ฟร้อน ๆ ซดน้ำให้ชุ่มคอชื่นใจ หวัดหายสบายดี

ดูวิธีทำ แกงเลียง เพิ่มเติมคลิก

2. แกงเขียวหวานอกไก่

           เมนูแกงเขียวหวานทั่วไปใส่กะทิ แต่สำหรับเมนูแกงเขียวหวานอกไก่สูตรนี้ใส่นมสดแทนกะทิจ้า เพิ่มโปรตีนจากอกไก่ แต่งด้วยใบโหระพา ใบมะกรูด และพริกชี้ฟ้าซอย

ส่วนผสม แกงเขียวหวานอกไก่

  • อกไก่หั่นชิ้นบาง ๆ
  • พริกแกงเขียวหวาน
  • นมจืดไขมัน 0%
  • มะเขือเปราะ (หั่นชิ้นแล้วแช่น้ำเกลือเพื่อไม่ให้เนื้อดำ)
  • น้ำปลา
  • น้ำตาลทราย
  • ใบโหระพา
  • ใบมะกรูด
  • พริกชี้ฟ้าซอย

วิธีทำแกงเขียวหวานอกไก่

     1. ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำมันพืชนิดหน่อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงลงไปผัดพอขลุกขลิก
     2. ใส่นมจืดตามความเหมาะสม ตามด้วยอกไก่กับมะเขือเปราะ รอน้ำแกงเดือดและมะเขือใกล้สุก ปรุงรสน้ำปลากับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน  
     3. โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ใบมะกรูด และใบโหระพา เสร็จเรียบร้อย

ดูวิธีทำ แกงเขียวหวานอกไก่ เพิ่มเติมคลิก

3. แกงคั่วอกไก่

          มาต่อกันที่เมนูแกงไทยไม่ใส่กะทิอีกหม้อ พบกับเมนูแกงคั่วอกไก่ ใส่นมสดแทนกะทิ ปรุงรสเผ็ดปานกลาง โรยใบโหระพาแต่งหน้า

ส่วนผสม แกงคั่วอกไก่

  • นมสด ชนิดไม่มีไขมัน
  • น้ำพริกแกงเผ็ด
  • อกไก่หั่นชิ้น
  • น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
  • มะเขือเปราะ ผ่า 4 ส่วน
  • มะเขือพวง
  • ใบโหระพา หรือใบกะเพรา

วิธีทำแกงคั่วอกไก่

     1. ตั้งกระทะใส่นมสดลงไปต้มจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้หอม
     2. ใส่อกไก่ลงไปรอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป (กดให้มะเขือจมน้ำแกงมะเขือจะได้ไม่ดำ) รอเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพา ตักใส่ชามเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ แกงคั่วอกไก่ เพิ่มเติมคลิก

4. แกงส้มดอกแค

แกงส้มดอกแค

          ตำน้ำพริกแกงส้มรอเลย มื้อเที่ยงนี้จะได้ทำเมนูแกงส้มดอกแค สูตรนี้ใส่ถั่วฝักยาวกับกุ้งสด ใครจะเพิ่มผักกาดขาว หัวไช้เท้า หรือกวางตุ้งก็ตามชอบ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยล้ำ

ส่วนผสม แกงส้มดอกแค

  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  • กุ้งสด ปอกเปลือกผ่าหลัง 100 กรัม
  • ถั่วฝักยาว และผักกาดขาว หรือผักตามชอบ
  • ดอกแค 100 กรัม

วิธีทำแกงส้มดอกแค

     1. ใส่น้ำเปล่าลงในถ้วย นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
     2. ใส่น้ำพริกแกงส้มลงในถ้วยคนผสมจนละลาย ตามด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาวคนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
     3. ใส่กุ้งลงในถ้วยคนผสมให้กุ้งถูกความร้อนจนเริ่มสุก นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
     4. ใส่ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว และดอกแคลงไปคนผสมให้ผักถูกความร้อนจนเริ่มสุก นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 2 นาที จนผักสุกนุ่ม ยกออกจากเตา ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ แกงส้มดอกแค เพิ่มเติมคลิก

5. แกงเหลืองสับปะรด

          เอาใจเด็กหอกับเมนูแกงเหลืองสับปะรด สูตรปักษ์ใต้ สูตรทำด้วยไมโครเวฟ ใส่สับปะรดเพิ่มรสหวาน บวกน้ำตาลมะพร้าวนิดหน่อย ใส่ปลาลงไปเยอะ ๆ ต้มจนผักนุ่มและปลาสุก

ส่วนผสม แกงเหลืองสับปะรด

  • สับปะรด 500 กรัม
  • น้ำพริกแกงส้ม (ใต้) 50-100 กรัม
  • กะปิ 2 ช้อนชา
  • น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
  • ส้มแขก ตามชอบ
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
  • ปลา 350 กรัม

หมายเหตุ :

  • น้ำพริกแกงส้ม สามารถเพิ่ม-ลดได้ตามชอบ แต่ในสูตรใส่ไป 100 กรัม
  • กะปิแต่ละยี่ห้อจะมีรสเค็มและกลิ่นที่ต่างกัน ในสูตรใช้กะปิโฮมเมดที่เพื่อนส่งมาให้ แต่ถ้าใช้กะปิยี่ห้ออื่น อาจต้องลองใส่น้อย ๆ ก่อน หลังจากเข้าไมโครเวฟเสร็จมาชิมรส แล้วก็ค่อยปรุงเพิ่มได้
  • ส้มแขก ใครชอบเปรี้ยวมาก หรือเปรี้ยวน้อยก็ตามสะดวก แต่ในสูตรแนะนำให้นำส้มแขกแช่น้ำเปล่าก่อนสัก 20 นาที จากนั้นค่อยใส่สับปะรดและเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามลงไป เพราะว่าถ้าใส่ลงไปในน้ำช่วงแรก ๆ รสเปรี้ยวจะยังไม่ค่อยออก อาจทำให้เผลอใส่มากจนเปรี้ยวเกินไป
  • ตามปกติแกงส้มใต้ มักจะนิยมใส่มะนาว หรือส้มแขก เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว แต่ถ้าใครไม่ชอบเปรี้ยวแบบแหลม ๆ ให้ใส่มะขามเปียกแทนก็ได้
  • สับปะรด ในสูตรใช้สับปะรดฉ่ำ ๆ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องต้มนาน
  • น้ำพริกแกงในสูตรไม่ใส่กะปิ แต่ที่เขาขายกัน ส่วนมากจะใส่กะปิไว้แล้ว ถ้าซื้อแบบนั้นมาก็ไม่ต้องใส่เพิ่ม
  • ผักและปลาจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้ อยากใส่อะไรก็ใส่ไปตามชอบเลย

วิธีทำแกงเหลืองสับปะรด

     1. นำสับปะรด น้ำพริกแกงส้ม กะปิ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ ส้มแขก และน้ำเปล่าใส่ลงไปในภาชนะทนความร้อน ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ เป็นเวลา 15 นาที
     2. ใส่เนื้อปลาลงไป คนให้กระจายเล็กน้อย ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ อีก 5-10 นาที

ดูวิธีทำ แกงเหลืองสับปะรด เพิ่มเติมคลิก

6. ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

          แค่เห็นภาพก็น้ำลายสอแล้ว พบกับเมนูต้มยำอกไก่ใส่เห็ด ในหม้อเต็มไปด้วยเครื่องสมุนไพร ปรุงรสด้วยมะขามเปียก มะนาว และพริก โรยผักชีฝรั่งปิดท้าย

ส่วนผสม ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

  • เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
  • หอมแดง (แกะเปลือก) 4-5 หัว
  • พริกขี้หนู (ทุบพอบุบ)
  • เห็ดฟาง
  • มะเขือเทศสีดา
  • มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • มะนาว
  • อกไก่หั่นชิ้นบาง ๆ
  • ผักชีฝรั่ง

วิธีทำต้มยำอกไก่ใส่เห็ด

     1. ตั้งน้ำให้เดือด ปริมาณน้ำก็ดูตามความเหมาะสมนะ ถ้ากินคนเดียว ใส่พอให้ได้ชามเล็ก ๆ ก็พอ
     2. ใส่เครื่องต้มยำ ข่าก็ทุบ ๆ ใส่ลงไปสักสองชิ้น อย่าใส่เยอะนะเดี๋ยวจะมีรสฝาด ตะไคร้ก็ทุบ ๆ เหมือนกัน แล้วก็หั่นสักหน่อยเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไปให้พอหอม ตามด้วยหอมแดงจะช่วยให้น้ำต้มยำหวานอร่อย และมะเขือเทศสีดา ใส่ให้ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยว
     3. พอทุกอย่างเดือดเข้าที่ ให้ใส่อกไก่หั่นชิ้นลงไป รอจนสุก ใส่เห็ด
     4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ยกหม้อต้มยำลงจากเตาได้
     5. จากนั้นก็ฉีกใบมะกรูดโรยหน้า ใส่พริกขี้หนูทุบเพิ่มความเผ็ด และโรยผักชีฝรั่ง ถ้ายังเปรี้ยวไม่สะใจบีบมะนาวเพิ่มนะคะ หรืออ่อนรสใดไปก็ค่อย ๆ เติมจนได้รสที่ถูกปากนะ แต่อย่ารสชาติสุดโต่งเกินไป ไม่เค็มมาก ไม่เปรี้ยวมาก สงสารกระเพาะนะ

ดูวิธีทำ ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด เพิ่มเติมคลิก

7. ต้มยำรวมมิตร

           เมนูต้มยำใส่อกไก่อย่างเดียวไม่อิ่มจุใจ ขอลองทำเมนูต้มยำรวมมิตร ใส่น้ำพริกเผาเพิ่มสีสัน ใส่สารพัดเนื้อสัตว์ เพิ่มเห็ดตามชอบ เติมนมข้นจืดเพิ่มความกลมกล่อม

ส่วนผสม ต้มยำรวมมิตร

  • กุ้ง (แกะเปลือกออก ล้างสะอาดแล้วกรีดเอาเส้นดำ ๆ ที่หลังกุ้งออก)
  • ปลาหมึก (หั่นเป็นแว่น ๆ ชิ้นพอดีคำ)
  • อกไก่หั่นชิ้นเล็ก ๆ
  • เห็ดชนิดต่าง ๆ เลือกที่ชื่นชอบ
  • เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
  • ผักชีฝรั่ง
  • พริกขี้หนู
  • น้ำพริกเผา
  • มะนาว
  • น้ำมะขามเปียก
  • นมข้นจืด

วิธีทำต้มยำรวมมิตร

     1. ตั้งน้ำในปริมาณที่เหมาะสมกับสัดส่วนวัตถุดิบ รอให้เดือด ใส่ตะไคร้ และข่า ตามด้วยอกไก่กับปลาหมึก รอให้เนื้อสัตว์สุกใส่เห็ดลงไป
     2. ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำมะขามเปียก หากไม่เปรี้ยวเติมมะนาวทีหลังได้
     3. ใส่กุ้งหลังสุดเพื่อไม่ให้กุ้งหดตัวและมีเนื้อแข็งกระด้าง ใส่พริกขี้หนูทุบ น้ำพริกเผา เติมนมข้นจืดลงไปเล็กน้อย พอให้น้ำข้นใส่ใบมะกรูด และผักชีฝรั่ง จัดเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ ต้มยำรวมมิตร เพิ่มเติมคลิก

8. แกงรัญจวน

          มาต่อกันที่เมนูแกงรัญจวน สูตรชาววังที่จับน้ำพริกกะปิเหลือ ๆ มาปรุงกับเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ รับรองกลิ่นหอมรัญจวนสมชื่อแน่นอนจ้า

ส่วนผสม แกงรัญจวน (สำหรับ 2-3 ที่)

  • น้ำพริกกะปิปรุงรสชาติตามชอบ 3-4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุปกระดูกหมู 2-3 ถ้วย
  • หอมแดงแขกทุบ 3 หัว
  • ตะไคร้ทุบและหั่น 4 ชิ้น
  • กระเทียมทุบ 3 กลีบ
  • ใบโหระพา 1 กำมือ
  • น้ำมะนาว  1 ลูก
  • เนื้อหมูสันคอหั่นชิ้นบาง เนื้ออกไก่ หั่นเส้นยาว และกุ้งสด น้ำหนักรวมกัน 250 กรัม

วิธีทำแกงรัญจวน

     1. เทน้ำซุปลงหม้อตั้งไฟปานกลาง พอน้ำเริ่มเดือดใส่น้ำพริกกะปิลงไปละลายให้เข้ากัน จากนั้นใส่หอมแดง ตะไคร้ กระเทียม และพริกขี้หนูสวน ตามลงไปต้มประมาณ 3-5 นาที
     2. พอส่วนผสมเริ่มส่งกลิ่นหอม ให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว หากชิมน้ำแกงแล้วยังเค็มไม่ได้ใจ (สามารถใส่เกลือทะเลลงไปได้ตามชอบ) จากนั้นนำเนื้อหมู เนื้อไก่ ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปต้ม กุ้งสดให้ใส่ท้ายสุด เพราะสุกเร็ว
     3. สุดท้ายบีบมะนาวลงไปเล็กน้อย หากอยากได้รสเปรี้ยว แล้วจึงใส่ใบโหระพาตามลงไป เป็นอันเสร็จ ตักใส่ชาม ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยตะไคร้ เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวหุงสุก

ดูวิธีทำ แกงรัญจวน เพิ่มเติมคลิก

9. แกงเลียงผักรวมกุ้งสด

แกงเลียงผักรวมกุ้งสด

          ชวนสาว ๆ ที่รักสุขภาพมาทำเมนูแกงเลียงผักรวมกุ้งสด สูตรนี้ใส่ตำลึงและเมล็ดข้าวโพด เพิ่มสีสันด้วยแครอต ที่ขาดไม่ได้เลยคือ กุ้งสด

ส่วนผสม แกงเลียงผักรวมกุ้งสด

  • น้ำซุปไก่ 600 มิลลิลิตร
  • น้ำพริกแกงเลียง 50 กรัม
  • แตงโมอ่อนหั่นเต๋า 50 กรัม
  • ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 50 กรัม
  • แครอตหั่นเต๋า 50 กรัม
  • เมล็ดข้าวโพดหวาน 30 กรัม
  • บวบหั่นแฉลบ 50 กรัม
  • ฟักทองหั่นเต๋า 50 กรัม
  • กุ้งสด 150 กรัม
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
  • ใบแมงลัก 30 กรัม
  • ยอดตำลึง 30 กรัม

วิธีทำแกงเลียงผักรวมกุ้งสด

     1. ต้มน้ำซุปไก่จนเดือด ใส่น้ำพริกแกงลงคนผสม จากนั้นใส่แตงโมอ่อน ข้าวโพดอ่อน แครอต เมล็ดข้าวโพดหวาน บวบ และฟักทองลงต้มจนสุก จากนั้นใส่กุ้งลงต้ม
     2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บชิมรสตามชอบ ต้มจนส่วนผสมสุกทั่ว สุดท้ายใส่ใบแมงลัก และใบตำลึง ยกลงจากเตาตักใส่ถ้วย แต่งด้วยใบแมงลักเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ

ดูวิธีทำ แกงเลียงผักรวมกุ้งสด เพิ่มเติมคลิก

          จบไปแล้วสำหรับเมนูแกงเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมนูแกงเลียงกุ้งสดของโปรด ถ้ารู้ว่าทำง่ายขนาดนี้ ทำกินเองตั้งนานแล้ว ขอตัวไปหุงข้าวรอก่อนนะคะ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
9 เมนูแกงเพื่อสุขภาพ คุณประโยชน์คับหม้ออิ่มสบาย อัปเดตล่าสุด 23 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15:39:00 83,799 อ่าน
TOP
x close