สำหรับคนรักสุขภาพจะให้ทำเมนูแกงกะทิแคลอรีสูงปรี๊ดคงไม่เหมาะ เช่น แกงกะทิไก่ใส่ฟัก แกงกะทิมะเขือ แกงกะทิกุ้ง เป็นต้น คงจะดีถ้าหากมีเมนูอาหารเป็นแกงสุขภาพมาให้ได้ลองทำเนอะ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอวิธีทำเมนูแกงเพื่อสุขภาพ เช่น แกงเลียง แกงส้ม แกงป่า แกงสมุนไพร เป็นต้น นอกจากสุขภาพดีแล้วยังไม่อ้วนด้วยนะคะ
1. แกงเลียง
ส่วนผสม แกงเลียง
- พริกไทยดำ 1+1/2 ช้อนชา
- กระชาย 1-2 แง่ง
- หอมแดง 3-4 หัว
- กะปิ 1 ช้อนชา
- กุ้งแห้งป่นละเอียด 1/3 ถ้วย
- น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
- บวบ หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
- ฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอคำ 200 กรัม
- ซูกินี หั่นเป็นชิ้นพอคำ 150 กรัม
- ข้าวโพดอ่อน หั่นสไลซ์ 150 กรัม
- เห็ดกระดุม 150 กรัม
- กุ้งสด 200 กรัม
- ใบแมงลัก 80 กรัม
- น้ำปลา (ปรุงรส)
วิธีทำแกงเลียง
1. เตรียมเครื่องแกงก่อน โดยโขลกพริกไทยกับกระชายแล้วใส่หอมแดงลงไปโขลกให้ละเอียด ตามด้วยกะปิ โขลกรวมกัน จากนั้นจึงใส่กุ้งแห้งป่นลงไปโขลกรวมกันอีกครั้งให้ละเอียดเป็นอันเรียบร้อย
2. ใส่น้ำซุปไก่ลงในหม้อ ต้มให้เดือดแล้วใส่เครื่องแกงลงไป
3. พอน้ำแกงเดือดก็ใส่ผักที่สุกยากลงไปก่อน ต้มพอเดือดอีกครั้งจึงใส่ผักที่เหลืออื่น ๆ ลงไป (จริง ๆ ขึ้นอยู่กับการหั่นด้วย อย่างฟักทองหั่นชิ้นเล็กก็จะสุกไว) พอน้ำเดือดปุ๊บก็ใส่บวบ ฟักทองอ่อน ซูกินี และเห็ดลงไป
4. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งสดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ ชิมรส
5. พอส่วนผสมเดือดอีกครั้งก็ใส่เสน่ห์ของแกงเลียงลงไป คือ ใบแมงลักนั่นเอง ตักเสิร์ฟร้อน ๆ ซดน้ำให้ชุ่มคอชื่นใจ หวัดหายสบายดี
2. แกงเขียวหวานอกไก่
ส่วนผสม แกงเขียวหวานอกไก่
- อกไก่หั่นชิ้นบาง ๆ
- พริกแกงเขียวหวาน
- นมจืดไขมัน 0%
- มะเขือเปราะ (หั่นชิ้นแล้วแช่น้ำเกลือเพื่อไม่ให้เนื้อดำ)
- น้ำปลา
- น้ำตาลทราย
- ใบโหระพา
- ใบมะกรูด
- พริกชี้ฟ้าซอย
วิธีทำแกงเขียวหวานอกไก่
1. ตั้งหม้อแล้วใส่น้ำมันพืชนิดหน่อย พอน้ำมันเริ่มร้อนใส่พริกแกงลงไปผัดพอขลุกขลิก
2. ใส่นมจืดตามความเหมาะสม ตามด้วยอกไก่กับมะเขือเปราะ รอน้ำแกงเดือดและมะเขือใกล้สุก ปรุงรสน้ำปลากับน้ำตาลทรายให้เข้ากัน
3. โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าซอย ใบมะกรูด และใบโหระพา เสร็จเรียบร้อย
3. แกงคั่วอกไก่
ส่วนผสม แกงคั่วอกไก่
- นมสด ชนิดไม่มีไขมัน
- น้ำพริกแกงเผ็ด
- อกไก่หั่นชิ้น
- น้ำปลา (สูตรโซเดียมต่ำ)
- มะเขือเปราะ ผ่า 4 ส่วน
- มะเขือพวง
- ใบโหระพา หรือใบกะเพรา
วิธีทำแกงคั่วอกไก่
1. ตั้งกระทะใส่นมสดลงไปต้มจนเดือด ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดลงไปผัดให้หอม
2. ใส่อกไก่ลงไปรอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา ใส่มะเขือเปราะ และมะเขือพวงลงไป (กดให้มะเขือจมน้ำแกงมะเขือจะได้ไม่ดำ) รอเดือดอีกครั้ง ใส่ใบโหระพา ตักใส่ชามเสิร์ฟ
4. แกงส้มดอกแค
ส่วนผสม แกงส้มดอกแค
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- น้ำพริกแกงส้ม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
- กุ้งสด ปอกเปลือกผ่าหลัง 100 กรัม
- ถั่วฝักยาว และผักกาดขาว หรือผักตามชอบ
- ดอกแค 100 กรัม
วิธีทำแกงส้มดอกแค
1. ใส่น้ำเปล่าลงในถ้วย นำเข้าเตาไมโครเวฟ ใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
2. ใส่น้ำพริกแกงส้มลงในถ้วยคนผสมจนละลาย ตามด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก และน้ำมะนาวคนให้ส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
3. ใส่กุ้งลงในถ้วยคนผสมให้กุ้งถูกความร้อนจนเริ่มสุก นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟแรงอุ่นจนน้ำเดือด หรือประมาณ 2 นาที ยกออกจากเตา
4. ใส่ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว และดอกแคลงไปคนผสมให้ผักถูกความร้อนจนเริ่มสุก นำเข้าเตาไมโครเวฟใช้ไฟปานกลางนานประมาณ 2 นาที จนผักสุกนุ่ม ยกออกจากเตา ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ
5. แกงเหลืองสับปะรด
ส่วนผสม แกงเหลืองสับปะรด
- สับปะรด 500 กรัม
- น้ำพริกแกงส้ม (ใต้) 50-100 กรัม
- กะปิ 2 ช้อนชา
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ + 1 ช้อนชา
- เกลือ 1+1/2 ช้อนชา
- ส้มแขก ตามชอบ
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- ปลา 350 กรัม
หมายเหตุ :
- น้ำพริกแกงส้ม สามารถเพิ่ม-ลดได้ตามชอบ แต่ในสูตรใส่ไป 100 กรัม
- กะปิแต่ละยี่ห้อจะมีรสเค็มและกลิ่นที่ต่างกัน ในสูตรใช้กะปิโฮมเมดที่เพื่อนส่งมาให้ แต่ถ้าใช้กะปิยี่ห้ออื่น อาจต้องลองใส่น้อย ๆ ก่อน หลังจากเข้าไมโครเวฟเสร็จมาชิมรส แล้วก็ค่อยปรุงเพิ่มได้
- ส้มแขก ใครชอบเปรี้ยวมาก หรือเปรี้ยวน้อยก็ตามสะดวก แต่ในสูตรแนะนำให้นำส้มแขกแช่น้ำเปล่าก่อนสัก 20 นาที จากนั้นค่อยใส่สับปะรดและเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามลงไป เพราะว่าถ้าใส่ลงไปในน้ำช่วงแรก ๆ รสเปรี้ยวจะยังไม่ค่อยออก อาจทำให้เผลอใส่มากจนเปรี้ยวเกินไป
- ตามปกติแกงส้มใต้ มักจะนิยมใส่มะนาว หรือส้มแขก เพื่อเพิ่มความเปรี้ยว แต่ถ้าใครไม่ชอบเปรี้ยวแบบแหลม ๆ ให้ใส่มะขามเปียกแทนก็ได้
- สับปะรด ในสูตรใช้สับปะรดฉ่ำ ๆ เพราะว่าจะได้ไม่ต้องต้มนาน
- น้ำพริกแกงในสูตรไม่ใส่กะปิ แต่ที่เขาขายกัน ส่วนมากจะใส่กะปิไว้แล้ว ถ้าซื้อแบบนั้นมาก็ไม่ต้องใส่เพิ่ม
- ผักและปลาจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นก็ได้ อยากใส่อะไรก็ใส่ไปตามชอบเลย
วิธีทำแกงเหลืองสับปะรด
1. นำสับปะรด น้ำพริกแกงส้ม กะปิ น้ำตาลมะพร้าว เกลือ ส้มแขก และน้ำเปล่าใส่ลงไปในภาชนะทนความร้อน ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ เป็นเวลา 15 นาที
2. ใส่เนื้อปลาลงไป คนให้กระจายเล็กน้อย ปิดฝา นำเข้าไมโครเวฟไฟแรง 600 วัตต์ อีก 5-10 นาที
6. ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด
ส่วนผสม ต้มยำอกไก่ใส่เห็ด
- เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
- หอมแดง (แกะเปลือก) 4-5 หัว
- พริกขี้หนู (ทุบพอบุบ)
- เห็ดฟาง
- มะเขือเทศสีดา
- มะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- มะนาว
- อกไก่หั่นชิ้นบาง ๆ
- ผักชีฝรั่ง
วิธีทำต้มยำอกไก่ใส่เห็ด
1. ตั้งน้ำให้เดือด ปริมาณน้ำก็ดูตามความเหมาะสมนะ ถ้ากินคนเดียว ใส่พอให้ได้ชามเล็ก ๆ ก็พอ
2. ใส่เครื่องต้มยำ ข่าก็ทุบ ๆ ใส่ลงไปสักสองชิ้น อย่าใส่เยอะนะเดี๋ยวจะมีรสฝาด ตะไคร้ก็ทุบ ๆ เหมือนกัน แล้วก็หั่นสักหน่อยเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไปให้พอหอม ตามด้วยหอมแดงจะช่วยให้น้ำต้มยำหวานอร่อย และมะเขือเทศสีดา ใส่ให้ช่วยเพิ่มรสเปรี้ยว
3. พอทุกอย่างเดือดเข้าที่ ให้ใส่อกไก่หั่นชิ้นลงไป รอจนสุก ใส่เห็ด
4. ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา ยกหม้อต้มยำลงจากเตาได้
5. จากนั้นก็ฉีกใบมะกรูดโรยหน้า ใส่พริกขี้หนูทุบเพิ่มความเผ็ด และโรยผักชีฝรั่ง ถ้ายังเปรี้ยวไม่สะใจบีบมะนาวเพิ่มนะคะ หรืออ่อนรสใดไปก็ค่อย ๆ เติมจนได้รสที่ถูกปากนะ แต่อย่ารสชาติสุดโต่งเกินไป ไม่เค็มมาก ไม่เปรี้ยวมาก สงสารกระเพาะนะ
7. ต้มยำรวมมิตร
ส่วนผสม ต้มยำรวมมิตร
- กุ้ง (แกะเปลือกออก ล้างสะอาดแล้วกรีดเอาเส้นดำ ๆ ที่หลังกุ้งออก)
- ปลาหมึก (หั่นเป็นแว่น ๆ ชิ้นพอดีคำ)
- อกไก่หั่นชิ้นเล็ก ๆ
- เห็ดชนิดต่าง ๆ เลือกที่ชื่นชอบ
- เครื่องต้มยำ ได้แก่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด
- ผักชีฝรั่ง
- พริกขี้หนู
- น้ำพริกเผา
- มะนาว
- น้ำมะขามเปียก
- นมข้นจืด
วิธีทำต้มยำรวมมิตร
1. ตั้งน้ำในปริมาณที่เหมาะสมกับสัดส่วนวัตถุดิบ รอให้เดือด ใส่ตะไคร้ และข่า ตามด้วยอกไก่กับปลาหมึก รอให้เนื้อสัตว์สุกใส่เห็ดลงไป
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลากับน้ำมะขามเปียก หากไม่เปรี้ยวเติมมะนาวทีหลังได้
3. ใส่กุ้งหลังสุดเพื่อไม่ให้กุ้งหดตัวและมีเนื้อแข็งกระด้าง ใส่พริกขี้หนูทุบ น้ำพริกเผา เติมนมข้นจืดลงไปเล็กน้อย พอให้น้ำข้นใส่ใบมะกรูด และผักชีฝรั่ง จัดเสิร์ฟ
8. แกงรัญจวน
ส่วนผสม แกงรัญจวน (สำหรับ 2-3 ที่)
- น้ำพริกกะปิปรุงรสชาติตามชอบ 3-4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปกระดูกหมู 2-3 ถ้วย
- หอมแดงแขกทุบ 3 หัว
- ตะไคร้ทุบและหั่น 4 ชิ้น
- กระเทียมทุบ 3 กลีบ
- ใบโหระพา 1 กำมือ
- น้ำมะนาว 1 ลูก
- เนื้อหมูสันคอหั่นชิ้นบาง เนื้ออกไก่ หั่นเส้นยาว และกุ้งสด น้ำหนักรวมกัน 250 กรัม
วิธีทำแกงรัญจวน
1. เทน้ำซุปลงหม้อตั้งไฟปานกลาง พอน้ำเริ่มเดือดใส่น้ำพริกกะปิลงไปละลายให้เข้ากัน จากนั้นใส่หอมแดง ตะไคร้ กระเทียม และพริกขี้หนูสวน ตามลงไปต้มประมาณ 3-5 นาที
2. พอส่วนผสมเริ่มส่งกลิ่นหอม ให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว หากชิมน้ำแกงแล้วยังเค็มไม่ได้ใจ (สามารถใส่เกลือทะเลลงไปได้ตามชอบ) จากนั้นนำเนื้อหมู เนื้อไก่ ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปต้ม กุ้งสดให้ใส่ท้ายสุด เพราะสุกเร็ว
3. สุดท้ายบีบมะนาวลงไปเล็กน้อย หากอยากได้รสเปรี้ยว แล้วจึงใส่ใบโหระพาตามลงไป เป็นอันเสร็จ ตักใส่ชาม ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยตะไคร้ เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมข้าวหุงสุก
9. แกงเลียงผักรวมกุ้งสด
ส่วนผสม แกงเลียงผักรวมกุ้งสด
- น้ำซุปไก่ 600 มิลลิลิตร
- น้ำพริกแกงเลียง 50 กรัม
- แตงโมอ่อนหั่นเต๋า 50 กรัม
- ข้าวโพดอ่อนหั่นแฉลบ 50 กรัม
- แครอตหั่นเต๋า 50 กรัม
- เมล็ดข้าวโพดหวาน 30 กรัม
- บวบหั่นแฉลบ 50 กรัม
- ฟักทองหั่นเต๋า 50 กรัม
- กุ้งสด 150 กรัม
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา
- ใบแมงลัก 30 กรัม
- ยอดตำลึง 30 กรัม
วิธีทำแกงเลียงผักรวมกุ้งสด
1. ต้มน้ำซุปไก่จนเดือด ใส่น้ำพริกแกงลงคนผสม จากนั้นใส่แตงโมอ่อน ข้าวโพดอ่อน แครอต เมล็ดข้าวโพดหวาน บวบ และฟักทองลงต้มจนสุก จากนั้นใส่กุ้งลงต้ม
2. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลปี๊บชิมรสตามชอบ ต้มจนส่วนผสมสุกทั่ว สุดท้ายใส่ใบแมงลัก และใบตำลึง ยกลงจากเตาตักใส่ถ้วย แต่งด้วยใบแมงลักเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
จบไปแล้วสำหรับเมนูแกงเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเมนูแกงเลียงกุ้งสดของโปรด ถ้ารู้ว่าทำง่ายขนาดนี้ ทำกินเองตั้งนานแล้ว ขอตัวไปหุงข้าวรอก่อนนะคะ